ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ฟังซะนะ...อาจพอทำให้ปัญญาเจริญขึ้นบ้าง

 

เรื่องพระสูตร เกล้ากระผมยังคงศึกษาอยู่ครับ...
ไม่มีเจตนาจะไปทักอะไรแบบนั้นหรอกครับ...แต่มันแปลกครับ...แปลกที่ว่าท่านที่พูดถึงนั้น ทำตัวไม่เหมือนท่านๆนั้นเลย...อีกอย่าง ทั้งสำนวน ทั้งพฤติกรรม หากสักเกตแล้ว...ยังไงๆก็ไม่ใช่ท่านนั้นแน่ๆ จนเกล้ากระผม อดคิดไม่ได้ว่า กำลังมีลักษณะที่ว่า เป็นพวกสองบุคลิก คือกระผมอยากจะแนะนำท่านนั้นไปพบจิตแพทย์บ้าง...น่าจะทำให้อะไรๆดีขึ้น...นะครับ
...อนึ่ง..เกล้ากระผมก็เลยอยากจะลองมาถามกัลยาณมิตรว่า...ท่านๆทั้งหลาย ว่ามีความเห็นว่าอย่างไรครับ...คือเป็นความสงสัยของเกล้ากระผม ครับ...

 

รู้สึก “เมา” ของลับ ... ดูซับซ้อนนะขอรับท่าน

 

คำถามพื้นๆ ง่ายๆ ทั้งกุถามและคนอื่นถามตอบไม่ได้ เสือก ดรจ เอาคลิปนิพพานมาแปะ ครวย

 

Server palungjit มีไว้เพื่อการนี้ หรือ ...

R.I.P. ด้วยครับ........

 

คิดถึง โรงเตี้ยม... และอยากดื่มน้ำจัณฑ์

ไปถ้ำกินรีดีกว่า...อิอิ

 

เอ มวยกระผม ก้ ยังเหนเหมือนเดิม ทุกอย่าง
อะฮับ ยังเปนมาแบบ ปี 49 โน้น ไม่เหนเปลี่ยน

พยายาม หาศัพท์ใหม่ เอาไปยำ
เปน ศาสนาคริสอี๊ดวูด สถานเดียว

ไม่เรียกว่าป่วย

ทางโน้น ควรให้ โบนัสขยัน ทำงาน
ในการทำลาย... ....แบบ คุ๊กขรี้รัน....

 

อย่า ตาม จิกยิ้ม เลยฮับ

ตาม น้าจร ดีกั่ว....พึ่งกลับมาโพส ห้อง ภิญญา

โพสคราวนี้ ท่าจะ หล่อพ้นกองขันธ์ ทีเดียวเชียว

 

ฟังไปด้วยปฏิบัติไปด้วยพร้อมกันเลย...ถ้าปัญญาพออาจจะทำให้เข้าถึงความสงบของจิตได้ไม่ยากนัก...คนฉลาดมักแก้ไขจิตตน...คนโง่มักเพ่งโทษผู้อื่น ก๊าก กั๊กๆๆๆๆๆ


"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

ไม่หรอกค่ะ เรายังไม่หมดกิเลส
เราต้องการหาความจริง

 

เฮ้ย ยืมโพสนังยิ้มมาตอบคำถามโหน่ยย (บีโล รีพาย)
อย่าถามความจิงนะ กุตอบม่ายล่ายย หาคลิปแปะไม่เจอ
ก๊าก กรั่กๆๆๆ (หัวเราะอย่างเบิกบานรอบที่ 9) ฮิ้ววว

 

ท่านจิตยิ้มนี่สงสัยอยากมีครอบครัว...พูดง่ายๆคืออยากมีสามีนั่นเอง....เอาตามชอบใจตนเองเลยนะ...แก้กรรมในจิตตนให้ได้ล่ะ...อย่าอยากมาเกิดบ่อยนักมันทุกข์แสนสาหัส

 

คนบางคนด่าว่าคนอื่นเพื่อให้ตนเองดี
ใครก็เฉยก็ช่างเถิด เราทำด้วยความเมตตา
สงสารในกิเลสตัณหาของเขา
ถ้าไม่เอากันออกมาเสียบ้างก็คิดเข้าใจว่าตนเองถูก
ว่าคนอื่นมันต้องมีเหตุผลด้วย
ที่เขาคิดอย่างนั้นคืออะไร
ก็ไม่เห็นเสียหายอะไร ถ้าไม่ใส่ความคนอื่น

 

ท่านเอ๋ย สติเรื่อง การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
เราถูกฝึกจนมีอำนาจเหนือมันแล้ว
เราไม่ได้ตกเป็นทาสมันเลย
แต่มันคือเครื่องมือและอุปกรณ์
ถ้าหากเราต้องใช้มันก็แค่เป็นเรือให้เราก้าวไปถึงเป้าหมายเท่านั้น

 

จะยกเรื่องนั้นเรื่องนี้มาทำไม...เรื่องเมื่อวานก็เป็นอดีตไปแล้ว...ในปัจจุบันก็รักษาใจตนเอง...อย่าไปยึดเอาอารมณ์ต่างๆมาเป็นของตนสิ...เมื่อยึดอารมณ์มาเป็นของตนแล้วก็เกิดเป็นภพใหม่..สังขารใหม่ไม่รู้จบ...ธรรมารมณ์เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็เฝ้าดูไปอย่างนั้น หมายถึง รู้ธรรมเฉพาะหน้านั้นแหละ...เมื่อมันเกิดขึ้นไม่นานมันก็ดับไปเอง...ปล่อยอารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นดับไปโดยธรรมชาติ...รักษาใจตนเองให้อยู่เหนืออารมณ์ทั้งปวง...ฝึกทุกวันก็พัฒนาทุกวัน

 

ก็ท่านถามว่าเราอยากมีสามี มิใช่หรือ!
เราตอบไม่ได้ค่ะ มันเป็นเรื่องอนาคตแล้ว
ถ้าเราไม่ตกเป็นทาสของมันแล้ว
อนาคตเราจะมีสามีได้ไหม?

 

อารมณ์โกรธและอารมณ์ต่างๆมีแต่ไม่เอามาเป็นของตน...มันเกิดขึ้นแล้วดับไปเองโดยธรรมชาติอยู่แล้ว...ทุกอย่างนั้นล้วนเป็นสังขาร...สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง...แล้วจะยึดเอาเป็นชอบใจ..ไม่ชอบใจทำไม

 

เขาบอกว่า คนที่ปราถนาพระโพธิสัตว์ต้องฝึกและทำใจเหนือเรื่องกามอารมณ์ พระโพธิสัตว์แท้จะไม่ตกเป็นทาสบ่วงตัณหาเรื่องนี้ เพราะท่านใดที่ตกเป็นทาสเรื่องนี้ทำงานใหญ่ไม่ได้ จิตยิ้มทราบเรื่องนี้ดีเพราะว่าอะไร?

 

ธรรมะจัดสรรวันนี้เอาพอประมาณ...คนมีปัญญาก็คิดพิจารณาตามได้ไม่ยาก...ส่วนคนขาดปัญญาก็จะหาช่องเพ่งโทษผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา...หาความสงบในจิตในใจตนเพียงชั่วครู่ไม่มีเลย...เอวัง