ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

พายุโซนร้อนหลิ่นฟ้าคร่าชีวิตผู้คนในจีน 1 ราย​

​

จีน 23 มิ.ย. - พายุฝนและกระแสลมแรงจัดจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนหลิ่นฟ้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตในจีนแล้ว 1 คน สูญหายอีก 6 คน

ความรุนแรงของพายุโซนร้อนหลิ่นฟ้า คร่าชีวิตผู้คนในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีนไปแล้ว 1 คน ผู้เสียชีวิตเป็นสตรีวัย 52 ปี ที่เสียชีวิตเนื่องจากบ้านพังถล่มลงมาหลังเกิดดินถล่ม นอกจากนี้ ยังมีผู้สูญหายอีก 6 คน

เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา ระบุว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อนหลิ่นฟ้าจะยังคงทำให้มีฝนตกหนักในมณฑลกวางตุ้งอีก 24 ชั่วโมง ขณะที่ทางการจีนประกาศเตือนให้เรือประมงร่วม 30,000 ลำ และชาวประมงหลายพันคนในมณฑลกวางตุ้ง รีบกลับเข้าฝั่ง ส่วนที่มณฑลฝูเจี้ยน สภาพอากาศเลวร้ายทำให้โรงเรียนหลายโรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน. - สำนักข่าวไทย

2009-06-23 16:08:25

พายุโซนร้อนกระหน่ำเม็กซิโกและอาจทวีขึ้นเป็นเฮอริเคน​

​

เม็กซิโกซิตี้ 23 มิ.ย.- พายุโซนร้อนกำลังแรงพัดกระหน่ำชายฝั่งเม็กซิโกด้านมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เสี่ยงกระทบบางส่วนของซิวาตาเนโซ เมืองตากอากาศชื่อดัง และอาจทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเฮอริเคน

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐแถลงว่า พายุแอนเดรส ซึ่งเป็นพายุลูกแรกในปีนี้ของฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกพัดด้วยความเร็วลม 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะนี้ทวีกำลังแรงขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าจะเป็นเฮอริเคนในวันนี้ และมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวเฉียดฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโก พายุทำให้เกิดลมกระโชกแรงกินพื้นที่กว้างถึง 110 กิโลเมตร จากศูนย์กลางพายุ ด้านเจ้าหน้าที่เม็กซิโกได้สั่งปิดท่าเรือของเมืองซิวาตาเนโซและขอให้ชาวประมงเพิ่มความระมัดระวัง
ส่วนที่เมืองชีวาวา ทางตอนเหนือของเม็กซิโก ใกล้รัฐเท็กซัสของสหรัฐ เกิดพายุและฝนตกหนักเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-23 12:53:33

โอบามา แสดงความเสียใจกับเหตุรถไฟใต้ดินชนกัน​

​

วอชิงตัน 23 มิ.ย. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และภริยา แสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุรถไฟใต้ดินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ชนกันในช่วงเวลาเร่งด่วนเมื่อเย็นวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และบาดเจ็บ 76 คน

ประธานาธิบดีโอบามา แถลงว่า เขาและนางมิเชล โอบามา ภริยา เสียใจกับอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมแสดงความเสียใจไปยังครอบครัว และเพื่อนที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ขณะเดียวกันผู้นำสหรัฐกล่าวขอบคุณผู้ที่รุดไปยังจุดเกิดเหตุทันทีเพื่อช่วยชีวิตผู้ประสบภัย และว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้ติดต่อประสานงานกับสำนักงานนายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และจะเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไป

ด้านนายเอเดรียน เฟนตี้ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ยืนยันยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 6 คน แต่คาดว่าตัวเลขอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุบัติเหตุครั้งนี้นับเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ระบบเดินรถไฟใต้ดินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ยาวนาน 33 ปี

นายจอห์น เคโต ผู้จัดการองค์การขนส่งมวลชนกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.02 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 04.02 น. วันนี้ในไทย เมื่อรถไฟขบวนหนึ่งพุ่งชนท้ายรถไฟอีกขบวนที่จอดอยู่บนรางเดียวกัน ใกล้กับสถานีฟอร์ต ทอตแทน เมโทร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อช่วยผู้รอดชีวิต และค้นหาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือเจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟหญิงของรถไฟคันที่ 2 ที่พุ่งชนรถไฟคันแรก ซึ่งจอดอยู่บนรางเพื่อรอคำสั่งให้ออกเดินรถ แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเหตุใดรถไฟคันที่ 2 จึงแล่นมาข้างหลังและชนกันดังกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นทีเอสบี) เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว เพื่อสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นเพียง 9 เดือนหลังเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกันครั้งใหญ่ในนครลอสแองเจลิส เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 25 คน. - สำนักข่าวไทย

2009-06-23 12:50:19

สหรัฐยืนยันยอดผู้เสียชีวิต 7 คน จากเหตุรถไฟใต้ดินชนกัน​

​

วอชิงตัน 23 มิ.ย. - นายเอเดรียน เฟนตี้ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน แถลงล่าสุดว่า เหตุรถไฟใต้ดินชนกันในกรุงวอชิงตันครั้งร้ายแรงที่สุด มีผู้เสียชีวิตรวม 7 คน

นายเฟนตี้ กล่าวในการแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 6 คน และล่าสุดได้ปรับเพิ่มตัวเลขเป็น 7 คน และบาดเจ็บ 75 คน ซึ่งนับเป็นอุบัติเหตุรถไฟใต้ดินชนกันครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของระบบรถไฟใต้ดินในกรุงวอชิงตันเมืองหลวงของสหรัฐ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 9 คน แต่นายเฟนตี้ กล่าวว่า ผู้ที่บาดเจ็บสาหัส 2 คน มีอาการดีขึ้นบ้างแล้ว.- สำนักข่าวไทย

2009-06-23 19:45:12

ฟิลิปปินส์ปิดสภาหลังพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ​

​

มะนิลา 23 มิ.ย. - สภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ ปิดการดำเนินงานเป็นเวลา 5 วัน หลังจากมีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตรายแรกจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในฟิลิปปินส์ ทำงานอยู่ในรัฐสภา

นายพรอสเพโร โนกราเลส ประธานสภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ สั่งปิดสภาชั่วคราว หลังจากมีคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่า สตรีวัย 49 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่แล้วจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำงานอยู่กับคณะกรรมาธิการรัฐสภา ซึ่งแม้ว่าสตรีคนนี้เสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว แต่พบว่าเธอติดเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ด้วย

อาคารรัฐสภา จะถูกปิดเพื่อฆ่าเชื้อทำความสะอาด ในขณะที่ญาติและผู้ร่วมงานบางคนของสตรีคนนี้ได้ถูกสั่งกักบริเวณเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และล่าสุด ฟิลิปปินส์ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มขึ้นอีก 28 คน ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 473 คน ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่ได้รับคำยืนยันจากองค์การอนามัยโลกมีจำนวนกว่า 52,000 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิต 231 คน ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ และเม็กซิโก.-สำนักข่าวไทย

2009-06-23 17:51:16

เรือเกาหลีเหนือที่สหรัฐตามอยู่อาจมุ่งหน้าไปพม่า​

​

วอชิงตัน 23 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐเผยว่า เรือของเกาหลีเหนือที่เรือพิฆาตของกองทัพเรือสหรัฐกำลังติดตามอยู่อาจมุ่งหน้าไปยังพม่า

เรือกังนัม1 เป็นเรือลำแรกของเกาหลีเหนือที่ถูกติดตามภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่สหประชาชาติประกาศใช้หลังจากเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินเมื่อเดือนก่อน เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า เรือพิฆาตยูเอสเอสจอห์น เอส แมคเคนยังคงแล่นติดตามเรือขนส่งสินค้าระวางขับน้ำ 2,000 ตันของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนว่าจะพยายามมุ่งหน้าไปยังพม่า เจ้าหน้าที่ไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในรื่องนี้ แต่นักวิเคราะห์คาดว่า เรือเกาหลีเหนือจะไปพม่าเนื่องจากสองประเทศมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธกันมาก่อน

สถานีโทรทัศน์ยอนฮัพหรือวายทีเอ็นของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันอาทิตย์อ้างข่าวกรองว่า เรือเกาหลีเหนือบรรทุกขีปนาวุธหรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อมุ่งหน้าไปยังพม่าหลังออกจากท่าเรือในเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.และจะผ่านสิงคโปร์ ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะขอตรวจค้นเรือเกาหลีเหนือโดยอาศัยมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

2009-06-23 09:40:32

ที่มา http://news.mcot.net

 

ยอดติดเชื้อไข้หวัด 2009 พุ่งกว่า 5 หมื่นคน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 23 มิถุนายน 2552 08:11



WHO รายงานยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เพิ่มอย่างรวดเร็วเป็นกว่า 52,160 คนใน 100 ประเทศแล้ว และยังระบาดเพิ่มขึ้นอีก

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานเมื่อวันจันทร์ (22 มิ.ย.) ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ๆทั่งโลกเพิ่มอีก 7,873 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 51 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงมากจากการรายงานครั้งล่าสุด ก่อนหน้านี้ผู้ติดเชื้อใหม่ๆเพิ่มขึ้นมากในทวีปอเมริกา รวมทั้งในสหรัฐส่งผลให้ มียอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วโลกใน 100 ประเทศอยู่ที่ 52,160 คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 231 คน และผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ มีประปรายในอเมริกาใต้ ส่วนที่ออสเตรเลียกับอังกฤษมีแห่งละ 1 คน WHO ระบุด้วยว่า ไม่อาจยึดถือตัวเลขของทางตนได้ เพราะมีหลายประเทศที่ไม่ยอมนับยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมแล้ว และบางประเทศยากจนไม่มีวิธีการตรวจที่เชื่อถือได้

ตัวเลขอย่างเป็นทางการล่าสุดนี้ของ WHO ยังไม่รวมถึงรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เป็นรายแรกของเอเชียที่ฟิลิปปินส์ เป็นสตรีวัย 49 ปีผู้มีปัญหาจากโรคหัวใจและตับมาก่อนแล้ว รายงานของ WHO ยังไม่รวมการพบผู้ติดเชื้อคนแรกที่อิหร่าน ป็นเด็กหนุ่มวัย 16 ปี ผู้เดินทางกลับจากสหรัฐฯ กับผู้ติดเชื้อคนแรกที่มอนเตรเนโกร กับผู้เสียชีวิตรายแรกที่ฮอนดูรัส และกรณีที่สิงคโปร์กักกันโรคทีมนักเตะเยาวชนฮ่องกงซึ่งประกอบด้วยนักเตะ โคช และเจ้าหน้าที่รวม 18 คน เมื่อวันจันทร์ (22 มิ.ย.) หลังตรวจพบว่านักเตะ 3 คนติดเชื้อโรคนี้ ก่อนลงฟาดแข้งใน"เอเชี่ยน ยูท เกมส์" และมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ สิงคโปร์ได้กักกันโรคทีมฟิลิปปินส์รวม 19 คนไปแล้วทีมหนึ่งเพราะพบนักเตะติดเชื้อโรคนี้ 1 คน

ตัวเลล่าสุดของ WHO นี้ สหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากสุด คือเพิ่มขึ้น 3,594 คน เป็นรวม 21,449 คน และเสียชีวิต 87 คน ขณะที่ตัวเลขของเม็กซิโกซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดคงที่ อยู่ที่พบผู้ติดเชื้อ 7,600 คนและเสียชีวิต 113 คน ขณะที่ชิลีซึ่งอยู่ในซีกโลกใต้ที่เข้าสู่ฤดูหนาวมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมากเช่นกันคือเพิ่มขึ้น 1,190 คนเป็นรวม 4,315 และเสียชีวิตเท่าเดิมคือ 4 คน

อังกฤษคือประเทศที่พบการระบาดมากสุดในทวีปยุโรปคือเพิ่มขึ้น 754 คน เป็นรวม 2,506 คน เสียชีวิต 1 คน ,ทวีปออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 237 คนเป็นรวม 2,436 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน สำหรับทวีปเอเชีย ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 160 คน เป็นรวม 850 คนขณะที่จีนมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 220 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในจีนของ WHO เพิ่มเป็น 739 คน แต่ตัวเลขเมื่อวันอาทิตย์ของกระทรวงสาธารณสุขจีนระบุว่าผู้ล้มป่วยรวม 414 คน

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com

 

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับพระอุปคุตเถระครับ​

รูปปั้นพระอุปคุตเถระที่จังหวัดภูเก็ต​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Falcon_Se<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_989322", true); </SCRIPT> สมาชิก

ตามที่ได้ทราบมาว่าท่านปรารถนาที่จะดำรงขันธ์อยู่เพื่อช่วยให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่จนถึง 5,000 ปี โดยปัจจุบันท่านทรงฌานสมาบัติอยู่ที่ปราสาทในท้องมหาสมุทร กลางสะดือทะเล และผมได้พบกระทู้ที่บอกวิธีอาราธนาท่านให้มารับบิณฑบาตรที่บ้าน (ยังไม่เคยลองนะครับ) ..อันนี้คือสิ่งที่ผมรู้มาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้ผมสงสัยก็คือ ผมเข้าเว็บที่มีรูปพระธาตุ เช่น http://www.relicsofbuddha.com/page2.htm

​

พบว่ามีพระธาตุของพระอุปคุตด้วย ..(ดัีงรูปด้านบน) ดังนั้นผมจึงเข้าใจว่าท่านได้นิพพานแล้ว (อนุปาทิเสสนิพพาน) ..และนอกจากนี้ผมยังได้รับพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุได้แก่พระสิวลี พระโมคคัลลานะ และพระอุปคุตเถระจากคุณแฮ้กซ์ด้วย (จากกระทู้ แจกพระบรมสารีรืกธาตุและพระธาตุบางองค์) ..ยิ่งทำให้ผมสับสนว่าพระอุปคุตเถระ ปัจจุบันท่านดำรงขันธ์อยู่อย่างไรครับ ท่านละสังขารแล้วแต่ท่านยังอยู่เหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรใช่หรือไม่? ขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่ช่วยให้ความพระจ่างนะครับ (พอดีมีคนถามผมด้วยผมก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกันจึงต้องรบกวนขอความรู้จากท่านผู้รู้ครับ) _/l\_

19-02-2008, 11:29 AM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->visa2505<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1013870", true); </SCRIPT> สมาชิก

ตามที่ทราบมา หลวงปู่อุปคุตและหลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านรับหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จนกว่าจะครบ 5,000 ปี โดยหลวงปู่อุปคุตท่านดูแลด้านเภทภัยต่างๆ(อิทธิฤทธิ์) หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านดูแลในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้คงอยู่และแพร่หลาย ปัจจุบันก็ยังอยู่ ผมก็เคยเฝ้าท่านหลายครั้งที่จังหวัดมุกดาหาร หลวงปู่อุปคุต คนมุกดาหารทราบดีว่าท่านยังอยู่<!-- google_ad_section_end -->

03-03-2008, 12:54 PM

เกษม สมาชิก

ผมคิดว่าพระธาตุของพระอุปคุตที่เห็นในรูปนี้ น่าจะเป็นพระธาตุที่เกิดจากการอธิษฐานจิตมากกว่าครับ เช่นเดียวกันกับพระธาตุข้าวบิณฑ์ของพระพุทธเจ้า หรือพระธาตุชานหมากของหลวงพ่อฤาษีฯ ครับ

หลวงปู่อุปคุต ท่านยังมีชีวิตอยู่แน่นอนครับ ตอนนี้ท่านก็มีอายุ 2,000 กว่าปีแล้ว มีผู้ปฏิบัติธรรมที่ได้มโนมยิทธิ และฌานสมาบัติหลายๆ ท่านได้ใช้ฤทธิ์ถอดกายทิพย์ไปพบปะพูดคุย กับหลวงปู่อุปคุตที่ใต้ท้องทะเลมาแล้วครับ

ส่วนหลวงปู่เทพโลกอุดรนั้น ตามที่ผมได้ทราบมา ท่านเป็นร่างเนรมิตที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้อธิษฐานจิตขึ้นมาครับ เพื่อไว้คอยช่วยเหลือพระที่บำเพ็ญกรรมฐานในป่าเขาต่างๆ ได้เข้าสู่หนทางมรรคผลที่ถูกต้อง เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของผมอีกเช่นเคย ถ้าไม่ตรงกับความเขื่อของใครก็อย่าโกรธกันนะครับ เพราะพุทธวิสัยของพระพุทธเจ้านั้นเป็นเรื่องอจินไตย เกินกว่าที่คนธรรมดาสามัญอย่างเราจะคาดคิดไปได้ครับ

เรื่องของพระอุปคุตนั้น ผมได้พบเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับตัวท่านจึงได้นำมาฝากทุกๆท่านในกระทู้นี้ ดังนี้ครับ

ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ได้พระราชนิพนธ์เรื่องพระอุปคุตไว้ตอนหนึ่งว่า "มีชาวเมืองร่างกุ้งคนหนึ่ง ได้ตักบาตรแก่พระอุปคุตเถระแล้ว ได้เป็นเศรษฐี ชาวเมืองร่างกุ้งทั้งปวง จึงพากันหุงข้าวแต่ยังไม่สว่าง คอยตักบาตรพระอุปคุตเถระ จนทุกวันนี้ก็ยังมีความนับถือพระอุปคุตเช่นนี้แพร่หลายมากขึ้น"

นี้คือเหตุผลที่ทำไมชาวพม่า ชาวไทยภาคเหนือ และภาคอีสาน นับถือพระอุปคุตมาก เพราะเล่าลือว่า ท่านสามารถบันดาลผู้ตักบาตรให้เป็นเศรษฐีทันตาเห็น ได้จริงๆ เชื่อกันอีกนั่นแหละว่า ท่านพระอุปคุตยังไม่นิพพาน (ในที่นี้แปลว่า ดับขันธ์) เพราะท่านเจริญอิทธิบาทจนถึงขั้นมีอิทธิฤทธิ์อธิษฐาน "ต่ออายุ" ให้อยู่เป็นกัปได้

ก็เพราะเชื่อเช่นนี้แหละ คนถึงได้ตื่นขึ้นมาหุงข้าวตั้งแต่ดึก เพื่อเตรียมใส่บาตรท่าน ขืนไม่หุงแต่ดึก ก็จะไม่ทัน ท่านมาแล้ว จะไม่มีข้าวใส่บาตร เพราะเหตุนี้เหมือนกันคนจึงกล่าวว่า ท่านพระอุปคุตมาบิณฑบาตตอนดึก และก็คงฉันดึกๆ ด้วย ว่าไปโน่น

ผมเองสมัยยังเด็ก เห็นพ่อผมตั้งซุ้มหน้าบ้าน เอาผ้าไตรไปวางใส่พานไว้ แล้วก็สั่งให้แม่นึ่งข้าว ตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืนแล้วก็ร้องถามว่า ข้าวสุกหรือยัง ครั้นแม่ร้องบอกว่า จวนแล้ว รอเดี๋ยว เสียงพ่อก็บ่นตามมาว่า ชักช้า เดี๋ยวท่านมา จะไม่ทัน ตอนนั้นยังเด็กมาก ไม่รู้เรื่อง และเมื่อโตมาก็ไม่เห็นพ่อทำอย่างนั้นอีก ประเพณีนี้ดูเหมือนจะจางหายไปแล้ว ลืมถามพ่อว่า พ่อเคยได้ใส่บาตรพระอุปคุตจริงหรือเปล่า หรือ "จินตนาการ" เอาเรื่องของความเชื่อครับ เราไม่เชื่อก็อย่าดูหมิ่น

พระอุปคุตได้นามอีกอย่างหนึ่งว่า "พระบัวเข็ม" บัวและเข็ม มาเกี่ยวอะไรกับท่าน ผมก็เลือนๆ จำได้ว่ามีตำนานพม่าเล่าว่า พระเจ้ากรุงหงสาวดีพระองค์หนึ่ง มียานวิเศษพาเหาะไปไหนๆ ได้ (สมัยนี้เรื่องเล็ก เขามีเครื่องบินส่วนตัวแล้ว ไปไหนก็ได้ แต่ก็เครื่องตกตายไปหลายคนเหมือนกัน)

วันหนึ่งเหาะผ่านชายป่าแห่งหนึ่ง เห็นพระรูปหนึ่งเดินลุยโคลน บนศีรษะมีใบบัวคลุมอยู่ อีกใบเอาเป็นภาชนะเก็บกุ้งหอยปูปลา เพื่อนำไปปล่อยลงแม่น้ำใหญ่ เพราะหนองน้ำนั้นกำลังจะแห้งขอด

พระเจ้ากรุงหงสาวดี นึกตำหนิในใจว่า พระอะไรมาลุยโคลนจับกุ้งหอยปูปลา ไม่น่าดูเลย เอาไปกินหรือเปล่าไม่รู้ ทันทีที่คิดจบ ยานวิเศษหยุดแล่นและตกลง (ดีที่ไม่คอหักตาย) ทรงสำนึกผิด ว่าได้ล่วงเกินพระผู้ทรงคุณวิเศษเสียแล้ว จึงรีบไปจะกราบขอขมา ปรากฏว่าท่านหายวับไปแล้วไร้ร่องรอย

พระเจ้ากรุงหงสาวดี เมื่อกลับเมืองจึงสละยานนั้นแกะสลักเป็นรูปท่านถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องจากไม่ทันสังเกตลักษณะหน้าตาของท่าน จึงทำให้มีเพียงใบหน้า ไม่มีนัยน์ตา จมูกและปาก รูปแกะสลักนี้ประดับแก้วศักดิ์สิทธิ์ ๙ เม็ด มีใบบัวปกเศียร และมีหมุดปักอยู่ตามหัวไหล่ ตามเข่าหลายแห่ง จึงเรียกว่า "พระบัวเข็ม" (คือพระที่มีบัวและเข็มตามองค์นั่นแล) และที่ขาดไม่ได้ จะต้องมีรูปบัวและกุ้งหอยปูปลาที่ฐานพระด้วยจึงจะครบเครื่อง

พระอุปคุตมีอยู่ ๒ แบบใหญ่ๆ คือ แบบพระมารวิชัย ก้มหน้า มีหมุด หรือเข็มปักตามส่วนต่างๆ กับแบบนั่งแหงนหน้ามือหนึ่งทำท่า "จกบาตร" (ล้วงบาตร) แบบนี้เรียกว่า "พระอุปคุตจกบาตรพิชิตมาร" องค์นี้แหละครับที่พระวัดสวนดอกเมตตาให้ผมมา ทุกวันผมก็ได้แต่ภาวนาว่า เมื่อไหร่ท่านจะ "จก" เอามารพระพุทธศาสนาในคราบผู้นุ่งเหลืองมา "จิก" หัวให้สมองฝ่อทั้งแก๊งหนอ อมิตตพุทธ มัวแต่ตื่นเต้นกับอิทธิปาฏิหาริย์ของท่านอุปคุต ลืมเล่าประวัติว่าท่านเป็นใครมาจากไหน ก็ขอเล่าย่อๆ พอได้ความก็แล้วกันนะครับ

พระอุปคุตเถระเป็นบุตรพ่อค้าผู้มั่งคั่งแห่งเมืองมถุรา มีพี่น้องสามคนเป็นชายล้วน ท่านเป็นบุตรคนสุดท้อง บิดาท่านให้สัญญากับพระเถระรูปหนึ่งนามสาณวาสี ว่าถ้าได้บุตรชายจะให้บวชเป็นศิษย์พระเถระ พอได้บุตรชายคนแรกมาก็ไม่ให้บวช ได้คนที่สองมาก็ไม่ให้บวช พอถึงคนที่สาม บิดาท่านไม่รู้จะบ่ายเบี่ยงอย่างไรต่อไป จำต้องให้บุตรชายคนเล็กนามอุปคุตบวชตามสัญญา บวชแล้วไม่นานท่านก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอรหันต์ขีณาสพ (ผู้สิ้นอาสวกิเลส) ด้วยประการฉะนี้แล

ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEU0TURZMU1nPT0=<!-- google_ad_section_end -->

 

<O</O
26 เม.ย.47
<O</O
<O</O
จานบินประจัญบาน
<O</O
<O</O
เมื่อปี 47 ผมเคยฝัน เห็นตัวผมเองนอนหงายหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ผมได้เห็นวัตถุบินได้รูปร่างประหลาดๆมากมายเต็มท้องฟ้า เรียกว่ามากันเป็นกองทัพเลยทีเดียว แต่ในเวลานั้น ผมยังไม่เข้าใจว่าจะสื่อถึงอะไร? ผมเลยตั้งชื่อเรื่องไว้ว่า "จานบินประจัญบาน" ในขณะนั้น<O</O
<O</O

 

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.7 ริกเตอร์ที่ปาปัวนิวกินี​

​

พอร์ตมอร์สบี 24 มิย. - เจ้าหน้าที่ปาปัวนิวกินี กล่าวว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ที่ปาปัวนิวกินีเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ผู้คนตื่นจากการนอนหลับ แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือคลื่นยักษ์สึนามิ

โฆษกศูนย์สังเกตการณ์ด้านธรณีฟิสิกส์พอร์ตมอร์สบี แถลงว่า เหตุแผ่นดินไหวนอกชายฝั่ง ซึ่งมีประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิในพื้นที่ ก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในเขตตะวันออก ก่อนหน้านี้ ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ระบุว่า แผ่นดินไหวขนาดดังกล่าวอาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิที่สร้างความเสียหายตามแนวพื้นที่ชายฝั่งได้ในระยะหลายร้อยกิโลเมตรจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว .สำนักข่าวไทย

2009-06-24 10:51:23

พายุโซนร้อนนังกาคร่าชีวิตผู้คนในฟิลิปปินส์ 5 ราย​

​

ฟิลิปปินส์ 24 มิ.ย. - ที่ฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และสูญหายอีก 7 คน หลังพายุโซนร้อน “นังกา” พัดเข้าสู่ตอนกลางของประเทศ

พายุโซนร้อน “นังกา” ซึ่งมีความเร็วลม 83 กม./ชม. ได้ก่อให้เกิดน้ำท่วม ดินถล่ม และไฟฟ้าขัดข้อง ตามเกาะต่าง ๆ ในบริเวณตอนกลางของฟิลิปปินส์ ชาวประมง 4 คน ต้องเสียชีวิตเพราะจมน้ำ นอกชายฝั่งของเกาะอะลาบัต เมื่อวานนี้ ขณะพวกเขาพยายามบังคับเรือไปหาที่กำบังจากพายุที่กำลังจะมาถึง ส่วนลูกเรือคนอื่น ๆ ที่เหลืออีก 11 คน ได้รับความช่วยเหลือรอดมาได้

ขณะนี้ทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งห้ามเรือข้ามฟากออกให้บริการแล้ว นอกจากนี้ มีรายงานว่า ไฟฟ้าในบางพื้นที่ของกรุงมะนิลา ก็ประสบปัญหาขัดข้องด้วย. - สำนักข่าวไทย

2009-06-24 15:06:36

บังกลาเทศทดลองแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่านมือถือ​

​

ธากา 24 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่บังกลาเทศเผยว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเสี่ยงประสบอุทกภัยและไซโคลนจะได้รับแจ้งเตือนภัยพิบัติล่วงหน้าผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เริ่มทดลองตั้งแต่วันนี้

บังกลาเทศเป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและเสี่ยงเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายประเภทได้แก่ ไซโคลน คลื่นพายุซัดฝั่ง ภาวะแห้งแล้ง อุทกภัย แผ่นดินไหว สำนักงานจัดการภัยพิบัติของบังกลาเทศหาทางลดความสูญเสียด้านชีวิตและทรัพย์สินด้วยการทำข้อตกลงกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 แห่ง ให้แจ้งเตือนภัยพิบัติล่วงหน้าแก่ผู้ใช้บริการ เพื่อให้ประชาชนหนีออกจากบ้านไปหลบในพื้นที่ปลอดภัยได้ทันเวลา ข้อความเตือนดังกล่าวจะไม่ส่งเข้าสู่กล่องข้อความของเครื่องรับโทรศัพท์เหมือนข้อความสั้นทั่วไป แต่จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ ผู้รับไม่ต้องเสียเวลากดปุ่มเพื่ออ่านข้อความ

บริษัทกรามีนโฟน และบริษัทเทเลทอล์ค จะส่งข้อความสั้นทันทีแก่ลูกค้าในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุด 2 แห่ง คือ เขตชีรัจกันจ์ ทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย และเขตค็อกซ์บาซาร์ ที่เสี่ยงถูกไซโคลนถล่ม โครงการนำร่องนี้จะดำเนินไปนาน 6 เดือน ก่อนขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป
บังกลาเทศมีประชากร 162 ล้านคน ในจำนวนนี้มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้ไม่ต่ำกว่า 46 ล้านคน ปัจจุบันมีระบบการเตือนภัยล่วงหน้าอยู่แล้ว ดำเนินการโดยสภาเสี้ยวเดือนแดงที่ให้อาสาสมัคร 42,000 คน ขี่จักรยานตระเวนแจ้งเตือนภัยผ่านโทรโข่ง แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่กันดาร การแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงจะช่วยเสริมในจุดนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-06-24 15:00:53

สตรีเบลเยียมที่ถูกสักดาวเต็มหน้า รับสารภาพว่าพูดโกหก ​

​

เบลเยียม 24 มิ.ย.-สตรีวัยรุ่นชาวเบลเยียมซึ่งขู่ฟ้องร้องดำเนินคดีช่างสักหลังจากที่เธอถูกสักรูปดาว 56 ดวงเต็มใบหน้า กล่าวยอมรับแล้วว่าพูดโกหก

คิมเบอร์ลีย์ วลามินค์ สาววัย 18 ปี อ้างว่า เธอต้องการให้นายรุสลาน ทูแมนนิแอนซ์ สักรูปดาวขนาดเล็กเพียง 3 ดวง แต่เผลอหลับไปและตื่นมาอีกทีพบว่า ตัวเองมีดาวถึง 56 ดวงอยู่เต็มใบหน้าด้านซ้าย จึงต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย

หนังสือพิมพ์เดอะ เทเลกราฟ ในกรุงลอนดอน รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของคิมเบอร์ลีย์กับสถานีโทรทัศน์ของเนเธอร์แลนด์ ว่า เธอเป็นคนขอร้องให้สักดาว 56 ดวง แต่เมื่อบิดามาเห็นรู้สึกโกรธมาก ดังนั้น เธอจึงต้องอ้างกับบิดาว่าเธอหลับขณะสักและเป็นความผิดของช่างที่ไม่เข้าใจคำสั่งของเธอ อย่างไรก็ตาม นายรุสลาน ยืนยันว่าคิมเบอร์ลีย์เป็นผู้สั่งให้สักดาว 56 ดวง และขณะลงมือสักเธอก็ไม่ได้หลับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอบอกว่าต้องการเงินค่าเสียหาย 9,000 ดอลลาร์ จากที่ต้องใช้เงิน 18,000 ดอลลาร์ เพื่อใช้ทำเลเซอร์ลบรอยสัก นายรุสลาน ตอบตกลงโดยบอกว่าเป็นความรับผิดชอบของเขาที่จะต้องทำให้ลูกค้าพอใจในบริการ แต่เมื่อทราบความจริงก็ดูเหมือนว่านายรุสลาน เตรียมยกเลิกข้อเสนอออกเงินจำนวนนี้ และบอกว่าต่อแต่นี้ไปลูกค้าที่มาใช้บริการจะต้องเขียนรายละเอียดการสักและคำอนุญาตให้ชัดเจนทุกครั้งก่อนลงมือสัก.-สำนักข่าวไทย

2009-06-24 16:15:58

แคนาดามีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเป็น 20 ราย​

​

วอชิงตัน 24 มิ.ย. - ทางการแคนาดารายงานผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 ราย ทำให้จำนวนรวมเป็น 20 รายแล้ว

สำนักงานสาธารณสุขในเมืองออตตาวา มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในรัฐควิเบกรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 รายเช่นกัน โดยยอดรวมผู้เสียชีวิตจากไวรัสเอช1 เอ็น1 ในรัฐนี้มีจำนวน 11 ราย จากทั้งหมด 20 รายในแคนาดา กระทรวงสาธารณสุขแคนาดารายงานว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 6,457 ราย ในจำนวนนี้ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 404 ราย

ทั้งนี้ แคนาดาเป็นประเทศที่มีรายงานการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากเป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐ ที่มีผู้เสียชีวิต 87 ราย และติดเชื้อเกือบ 21,500 ราย ส่วนเม็กซิโกเสียชีวิต 116 ราย และติดเชื้อ 8,600 ราย.-สำนักข่าวไทย

2009-06-24 10:48:01

กัมพูชาพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรก​

​

พนมเปญ 24 มิ.ย.-กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาและองค์การอนามัยโลกรายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่รายแรกของประเทศ เป็นนักเรียนหญิงชาวอเมริกันอายุ 16 ปี เดินทางมาถึงกรุงพนมเปญเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า นักเรียนหญิงชาวอเมริกันดังกล่าวเริ่มปรากฏอาการของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หลังจากเดินทางมาถึงกรุงพนมเปญ และถูกแยกตัวไว้ขณะเข้าตรวจที่คลินิกแห่งหนึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายมอม บุญเฮง รัฐมนตรีสาธารณสุขกัมพูชา กล่าวว่า ขณะที่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ก็เป็นที่คาดว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวจะต้องเดินทางมาถึงกัมพูชาอย่างแน่นอน และว่า ทางการกัมพูชาพอใจกับระบบที่ได้วางไว้

รายงานระบุว่า นักเรียนหญิงดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและมีอาการดีขึ้นแล้ว ไม่ได้มีอาการแทรกซ้อนใด ๆ ส่วนกลุ่มเพื่อนนักเรียนที่เหลือถูกเฝ้าสังเกตอาการ.-สำนักข่าวไทย

2009-06-24 17:05:53

ยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในบังกลาเทศเพิ่มเป็น 7 คน​

​

ธากา 24 มิ.ย.-ทางการสาธารณสุขบังกลาเทศรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในบังกลาเทศเพิ่มขึ้นเป็น 7 คนแล้ว หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นวัยรุ่นที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐเมื่อเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

นายมาห์มูดูร์ ราห์มาน ผู้อำนวยการสถาบันควบคุมและวิจัยโรคระบาดบังกลาเทศ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดเพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐและเป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับเด็กวัยรุ่นที่ได้รับการตรวจพบว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา รายงานระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีอายุระหว่าง 2 ปีครึ่ง ถึง 20 ปี และส่วนใหญ่ไม่ได้มีอาการรุนแรงและกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-24 15:11:42

เกาหลีเหนือเตรียมยิงจรวดพิสัยใกล้ในทะเลญี่ปุ่น​

​

โซล 24 มิ.ย.-สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีเหนือจะยิงจรวดพิสัยใกล้ที่บริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันออก ซึ่งเกาหลีเหนือสั่งห้ามการเดินเรือตั้งแต่วันพรุ่งนี้

เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะยิงจรวดสกั๊ด หรือจรวดแบบพื้นสู่เรือในบริเวณทะเลญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือได้ประกาศเตือนเรือของญี่ปุ่นให้ออกจากบริเวณดังกล่าวเป็นเวลา 16 วัน เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ ถึงวันที่ 10 กรกฎาคม เพราะจะมีการซ้อมรบ ทั้งนี้ จรวดสกั๊ดมีพิสัยยิงไกล 500 กิโลเมตร ส่วนจรวดแบบพื้นสู่เรือ มีพิสัยยิงไกล 160 กิโลเมตร

สำนักข่าวยอนฮัพรายงานก่อนหน้านี้ด้วยว่า เกาหลีเหนือเตรียมยิงจรวดพิสัยกลาง ซึ่งมีรัศมีไกลกว่า 3,000 กิโลเมตร จากฐานยิงใกล้เมืองวอนซาน ทางตะวันออกของประเทศ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณการเตรียมการ.-สำนักข่าวไทย

2009-06-24 14:50:14

นักวิเคราะห์มองราคาน้ำมันอาจพุ่งถ้าสถานการณ์อิหร่านยืดเยื้อ​

​

ลอนดอน 24 มิ.ย.- แม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับเพิ่มไม่มาก หลังเกิดการประท้วงในอิหร่าน ซึ่งถือเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันแห่งสำคัญของโลก แต่นักวิเคราะห์เตือนให้ระวังว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งทะยานยิ่งขึ้น ถ้าสถานการณ์ในอิหร่านบานปลายถึงขั้นก่อเหตุประท้วงไปทั่วประเทศ

ปัจจุบันอิหร่านผลิตน้ำมันดิบได้วันละ 3.8 ล้านบาร์เรล และเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากรัสเซียและซาอุดีอาระเบีย ขณะที่นักวิเคราะห์วิตกว่า เหตุประท้วงครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปีของอิหร่าน อาจบีบให้รัฐบาลอิหร่านต้องแก้เกมด้วยการระงับการส่งออกน้ำมัน หรือปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันแห่งสำคัญ โดยร้อยละ 40 ของเรือขนน้ำมันทั่วโลกจะต้องแล่นผ่านช่องแคบนี้

อิหร่านถือเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันใหญ่เป็นอันดับสองรองจากซาอุดีอาระเบียในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก ซึ่งหลายฝ่ายยังวิตกว่า ภาคการผลิตน้ำมันของอิหร่านอาจได้รับผลกระทบ หากการประท้วงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดียิ่งยืดเยื้อ แต่ผู้อำนวยการวารสารอาหรับ ออยล์ แอนด์ ก๊าซ ระบุว่า สิ่งที่นักลงทุนในตลาดน้ำมันคาดการณ์ในขณะนี้ ก็คือ ถ้ากระบวนการผลิตน้ำมันในอิหร่านหยุดชะงัก สมาชิกโอเปกที่เหลือก็จะต้องช่วยกันผลิตน้ำมันชดเชยส่วนที่ขาดหายไปของอิหร่าน

แม้ธุรกิจน้ำมันในอิหร่านจะยังเป็นปกติในเวลานี้ แต่ในแวดวงตลาดน้ำมันเริ่มพูดกันแล้วว่า กลุ่มผู้ประท้วงในอิหร่านอาจใช้วิธีผละงานทั่วประเทศ ถ้าประธานาธิบดี มาห์มุด อาห์มาดิเนจัด ได้กลับเข้าเป็นผู้นำอิหร่านอีกสมัย ซึ่งอาจส่งผลให้อุตสาหกรรมน้ำมันพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ถ้าปล่อยให้อิหร่านแก้วิกฤติการเมืองในครั้งนี้เอง ภาคการผลิตน้ำมันก็มีแนวโน้มเป็นปกติ แต่ถ้าเมื่อใดที่คนนอกยื่นมือเข้าแทรก ก็มีแนวโน้มว่า อาจส่งผลให้ภาคการผลิตน้ำมันในอิหร่านได้รับผลกระทบ. - สำนักข่าวไทย

2009-06-24 11:14:05

ที่มา http://news.mcot.net

 

สงสัยว่าทำไมช่วงนี้พี่เกษมจึงกล่าวถึงพระอุปคุตบ่อยจัง
หรือมีอะไรสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในโลกขณะนี้หรือไม่ค่ะ

 

​

สวัสดีครับอาจารย์ไก่ คือว่าช่วงนี้เริ่มมีคนกล่าวถึงพระอุปคุตกันมากครับ เพราะเริ่มมีคนได้พบตัวจริงของพระอุปคุตกันบ้างแล้ว โดยท่านจะแปลงกายเป็นสามเณรบ้าง เป็นพระภิกษุบ้าง ออกมาบิณฑบาตรในตอนเที่ยงคืน มีผู้พบเห็นกันหลายราย

ในรายการ"กฤษณ์และมดดำออนทีวี" ซึ่งเป็นรายการทีวี ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนวัยรุ่นอย่างมากในขณะนี้ ก็ได้มีการนำเสนอเรื่องราวที่มีผู้พบเห็น พระอุปคุตเถระ แปลงกายมาเป็นสามเณร ออกมารับบาตรในตอนเที่ยงคืน โดยมีคนสงสัยว่าท่านอยู่ที่วัดไหนกันแน่ พยายามเดินตามไป แต่ก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เพราะท่านได้เดินหายวับไปต่อหน้าต่อตา ไม่สามารถติดตามท่านต่อไปได้ครับ ถ้าอาจารย์ไก่ ได้เคยอ่านพุทธทำนายในศิลาจารึกมาบ้างแล้ว คงจะจำคำทำนายต่อไปนี้ได้นะครับ

พุทธทำนาย ถอดความจากศิลาจารึก เขตมหาวิหาร ประเทศอินเดีย

สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและในอนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้น เมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ

ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวาย ในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น

เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก

ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาดโลก ดิน ฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรม นิยมคนประจบสอพลอที่ได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของ พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของ ตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา

ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อม ยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์โลก ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีล ๕ ประการ เจริญเมตตาภาวนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษรู้จักพอ ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"

*****************************************​

พระมหาเถระพระทรงธรรมฤทธิ์ในพุทธทำนายนี้ ตามความคิดของผมก็หมายถึง พระอุปคุตเถระผู้ทรงอภิญญา ที่มีฤทธิ์สามารถปราบพญามารในครั้งอดีตได้สำเร็จนั่นเองครับ และผมยังได้ฟังท่านผู้รู้บางท่านได้เล่าให้ฟังว่า พระอุปคุตเถระท่านนี้แหละ จะมามีบทบาทสำคัญยิ่งในยุคพระศรีอาริย์กึ่งพุทธกาล เพราะท่านจะมาเป็นประธานในการทำสังคายนาพระไตรปิฎก และมาช่วยชำระสะสางความมัวหมองในพระพุทธศาสนานี้ ให้กลับบริสุทธิ์ผ่องใส เหมือนเมื่อครั้งที่พระสมณโคดมพระพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ครับ

 

หน่วยปืนโหดยิงมั่วหญิงอิหร่าน

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หน่วยปืนโหดยิงมั่วหญิงอิหร่าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อ 23 มิ.ย. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ความแตกแยกในสังคมอิหร่านจากผลเลือกตั้งประธานาธิบดี ว่า เหยื่อหญิงชาวอิหร่านที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุม และมีคลิปเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูบที่มีผู้เข้าชมจากทั่วโลกนั้น แท้จริงเป็นเพียงผู้สัญจรบนท้องถนนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย แต่กลับถูกกองกำลังติดอาวุธยิงดับ

ผู้เปิดเผยเรื่องของเหยื่อสาว คือนายแคสเปียน มาคาน คู่หมั้นของเหยื่อ ให้สัมภาษณ์บีบีซี ว่า หญิงสาวมีชื่อว่า เนดา อักฮา-โซลตัน ถูกยิงที่หน้าอกและล้มลงกลางถนนกรุงเตหะราน ขณะที่หญิงสาวกำลังวิ่งหนีจากแนวปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายค้านกับกองกำลังความมั่นคงอิหร่าน

"เธออยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่ไกลจากจุดปะทะใหญ่ ที่อยู่ใกล้อามีร์-อาบัด ตอนนั้นเธออยู่กับครูสอนดนตรี นั่งอยู่ในรถยนต์ที่ติดแหง็กอยู่บนถนน เธอรู้สึกเพลียมากและก็ร้อนมาก จึงออกมาจากรถเพื่อสูดอากาศ แต่นาทีนั้นเธอกลับถูกยิงตาย ในภาพวิดีโอที่บันทึกได้ แสดงชัดเจนว่า หน่วยเสริมการทหารที่ใส่ชุดพลเรือนเล็งกระสุนไปที่เธอ แล้วเธอก็ถูกยิงที่หน้าอก กระสุนทะลุปอด เธอสิ้นลมจากนั้นไม่กี่นาที แม้ว่า ผู้คนจะช่วยกันพาไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่ก็ไม่ทันการณ์แล้ว" นายมาคาน กล่าวและว่า เจ้าหน้าที่ทางการสั่งห้ามครอบครัวของเนดา จัดพิธีรำลึกที่มัสยิด เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นงานที่ปลุกการประท้วงของกลุ่มฝ่ายค้านขึ้นมาอีก

วันเดียวกัน สภาผู้พิทักษ์อิหร่านผู้ตรวจสอบและรับรองผลเลือกตั้ง ประกาศว่า ไม่พบกรณีทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างร้ายแรงในช่วงหย่อนบัตรและหลังหย่อนบัตรเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. จึงไม่จำเป็นต้องประกาศให้ผลเลือกตั้งเป็นโมฆะตามความต้องการของฝ่ายนายเมียร์ ฮอสเซน มูซาวี ซึ่งแพ้ประธานาธิบดีมาห์มู้ด อาห์มาดิเนจัด


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
he llo _car
<TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกฝ่ายการตลาด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำนายดักลาส เอช โรบินสัน หัวหน้าส่วนรักษาความปลอดภัย ทหารเรือ หน่วยป้องกันกองกำลังทหารสหรัฐอเมริกา-ประเทศไทย

พร้อมด้วยคณะ เข้าพบนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องทำงาน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อเยี่ยมคารวะในโอกาสที่หมู่เรือยกพลขึ้นบกและบรรทุกเครื่องบินขนาดเบา 5 ลำ เข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 25-30 มิถุนายนนี้

นายวิชัย กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ทางทหารเรือสหรัฐฯ เลือกที่จะมาแวะมาพักผ่อนที่ภูเก็ต และได้ฝากความห่วงถึงกำลังกรณีที่ขึ้นมาพักผ่อนบนฝั่ง โดยเฉพาะจากกลุ่มมิจฉาชีพที่จะอาศัยโอกาสเผลอซึ่งมีเป็นกลุ่มแก๊ง ก็ขอให้ระมัดระวังด้วย เกรงจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ทั้งนี้การเข้ามาของกำลังพลดังกล่าวจะเกิดรายได้สะพัดในช่วง 4-5 วันนี้ประมาณ 24 ล้านบาท

ขณะที่นายดักลาส เอช โรบินสัน กล่าวภายหลังเข้าพบผู้ว่าฯ ว่า เพื่อเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสที่หมู่เรือยกพลขึ้นบกและบรรทุกเครื่องบินขนาดเบา จำนวน 5 ลำเข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต โดยมีกำลังพลจำนวนรวมประมาณ 6,000 นาย และจะได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในภูเก็ตด้วยความสบายใจและปลอดภัย

นายดักลาส เอช โรบินสัน ยังกล่าวถึงสิ่งที่เป็นห่วงกรณีที่กำลังพลขึ้นมาพักผ่อนบนฝั่งว่า เนื่องจากวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน เกรงจะเกิดปัญหาความเข้าใจผิด โดยเฉพาะกรณีของการดื่มสุรา หรือการล่อเล่นกันในลักษณะของพฤติกรรมที่ล่อแหลม ซึ่งก็จะได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง รวมถึงข้อห่วงใยของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตด้วย

ซึ่งจากการที่ทางทหารเรือมายกพลขึ้นบกที่ภูเก็ตเพื่อพักผ่อนในช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และทุกครั้งที่มีการเดินทางเข้ามาที่ภูเก็ตก็จะนำกำลังไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสถานศึกษาต่างๆ มาตลอด เช่น การทาสีโรงเรียน จัดหน่วยแพทย์อาสาสมัครให้บริการประชาชน เป็นต้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ฝันอีกแล้ว

ระยะหลังหมอให้พักผ่อนมากกว่า 4 ชม. เพราะสมองเริ่มฝ่อ จึงนอนมากขึ้นเพราะร่างกายพักผ่อนไม่พอจิตพักพอแล้ว ก็เที่ยวไป

ฝันเรื่องอื่นเพลินๆ มาฝันเห็นคนวิ่งกันเต็มถนน เสียงร้องกลัวกันโหยหวล เราคิดว่าเค้าประท้วงกันหรือเปล่า แต่พอสังเกตรอบตัวก็รู่ว่าไม่ใช่ พื้นดินมันสั่น และรู้สึกถึงความร้อนจากใต้ดิน ในฝันเราวิ่งย้อนคนเข้าไป จิตนิ่งไม่ได้กลัวในใจท่องพุทธังสรณัง ขัฌฉามิ ...... คิดว่าถึงเวลาแล้วหรือ ที่วิ่งย้อนเข้าไปเพราะลูกอยู่ที่บ้านต้องกลับไป

ความจริงเคยฝันเกือบ 20ปี มาแล้ว ว่าต้องหนี ในฝันบอกคนขับว่าใหขับไปทางอีสานหาทางถนนที่ไม่มีสะพานข้ามแยก เพราะเดี๋ยวสะพานจะถล่มใส่รถ สมัยนั้นหาถนนสองชั้นยาก สมัยนี้มีเต็มคงรอดยากหน่อย

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หลวงปู่เพียร วิริโย มรณภาพแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

คณะศิษย์จัดงานรดน้ำศพหลวงปู่เพียร วิริโย แห่งวัดป่าหนองกอง หลังมรณภาพช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมเตรียมจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ

หลวงปู่เพียร วิริโย แห่งวัดป่าหนองกอง ต.บ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้มรณภาพแล้ว เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (23 มิ.ย.) ด้วยโรคหัวใจ และมะเร็งปอด สิริรวมอายุได้ 83 ปี 61 พรรษา คณะศิษย์ และนายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี จึงได้จัดพิธีรดน้ำศพ ที่ศาลาวัดป่าหนองกอง โดยนายอำนาจ กล่าวว่า ในวันที่ 4 ก.ค. ได้กำหนดให้เป็นวันพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะมีตนเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ส่วนประธานฝ่ายสงฆ์ คือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี

สำหรับหลวงปู่เพียร วิริโย เกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2469 ที่บ้านสีฐาน ต.กระจาย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี

ปัจจุบันคือ จ.ยโสธร ได้บรรพชาเป็นสามเณร ตั้งแต่ยังเยาว์วัย เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2490 ที่วัดป่าสีฐาน กระทั่งอายุได้ 22 ปี จึงอุปสมบทที่วัดป่าสีฐาน และได้นามฉายาอันเป็นมงคลว่า "วิริโยภิกขุ"

ต่อมาหลวงปู่เพียร วิริโย ได้ออกเดินธุดงค์ไปตามภูเขา จนได้พบกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งอยู่ปฏิบัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จนกระทั่งหลวงปู่มั่นมรณภาพ หลวงปู่เพียร วิริโย จึงติดตามหลวงตามหาบัว มาสร้างวัด ที่วัดป่าบ้านตาด ต่อมาได้ออกธุดงค์ไปพบสถานที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงได้สร้างวัดป่าหนองกอง และอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้

กระทั่งอาพาธเมื่อปี 2549 ด้วยโรคหัวใจ และมะเร็งปอด ก่อนที่มรณภาพช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

กระหึ่มกรุงเก่า ด้านปัดเป่าโรค
พระพุทธรูป ปางพยาบาลภิกษุอาพาธ


ชาวกรุงเก่าฮือฮา พระพุทธรูป ปางประหลาด 2 องค์ องค์หนึ่งเป็น ปางพยาบาลภิกษุอาพาธ อีกองค์เป็น ปางรับโชค ประดิษฐานอยู่ที่บางปะอินทั้งสององค์ เป็นที่นับถือศรัทธาจากชาวบ้าน ในด้านช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ
ช่างผู้ปั้นพระเผยอดีตเจ้าอาวาสเป็นคนดำริจัดทำขึ้นตามภาพถ่ายที่ได้มา พอปั้นเสร็จก็ได้รับศรัทธาอย่างเนืองแน่นจากชาวบ้าน ทางด้านผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมชี้เป็นปางที่มีอยู่ในพุทธประวัติอยู่ แล้ว เพียงแต่คนไม่ค่อยรู้จักเท่าไร
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่า ที่วัดขนอนเหนือ ริมถนนสายเอเซีย ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มี พระพุทธรูป ลักษณะพิสดาร ไม่เหมือนกับ พระพุทธรูป ตามวัดต่างๆ สร้างความประหลาดใจต่อผู้พบเห็น จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า พระพุทธรูป ดังกล่าว ตั้งอยู่ด้านข้างอุโบสถของวัด ประดิษฐานอยู่บนซุ้มปูนปั้นทรงไทย
ยกฐานสูงจากพื้นดินประมาณ 180 ซ.ม. ลักษณะของพระพุทธรูปสูงประมาณ 2 เมตร อยู่ในท่านั่งเข่าขวาตั้งชัน ไว้ผมมวย มีใบหน้าอ่อนหวานคล้ายเจ้าแม่กวนอิม ในวงแขนมีรูปปั้นพระสงฆ์นอนคล้ายกับอาพาธอยู่ ที่ฐานพระพุทธรูปเขียนเป็นปูนปั้นว่า “พระพุทธรูปจริยาปางพยาบาลภิกษุอาพาธ”
พระปลัดเนตร โกสโล อายุ 40 ปี เจ้าอาวาสวัดขนอนเหนือ เปิดเผยว่า ตั้งแต่มาเป็นเจ้าอาวาสก็เห็น พระพุทธรูป ดังกล่าวแล้ว ไม่ทราบวัตถุประสงค์ของผู้สร้างเหมือนกันว่าสร้างแบบดังกล่าวทำไม ทราบแต่เพียงว่าอดีตเจ้าอาวาสรูปเดิม ได้สั่งให้ช่างสิริ บ้านอยู่ที่หมู่ 4 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน ปั้น พระพุทธรูป ปางดังกล่าว ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมวัด
ต่างสงสัยเข้ามาสอบถามกันบ่อยครั้ง ทางวัดจึงกำลังรวบรวมประวัติพระพุทธรูปดังกล่าว รวมกับประวัติของวัดด้วย เนื่องจากวัดขนอนมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในอุโบสถยังมีจิตรกรรมฝาผนัง เล่าเรื่องราวสมัยกรุงศรีอยุธยาที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาไว้เป็นหลักฐาน ด้วย
จากการสอบถามนายสิริ ภาคาหาญ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม.4. ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน ช่างปั้น พระพุทธรูป ดังกล่าว เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาว่า เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มีอาชีพเป็นช่างไม้ประจำหมู่บ้าน ชอบงานด้านช่าง แล้วพัฒนาฝีมือจนมาเป็นช่างปูน รับสร้างพระอุโบสถตามวัดต่างๆ และสร้างศาลาทรงไทย
ก่อนจะมาเป็น พระพุทธรูป ดังกล่าว พระครูพิศาลวิมลกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดขนอนเหนือที่มรณภาพไปแล้ว ได้นำภาพถ่าย พระพุทธรูป ปางพยาบาลภิกษุอาพาธ อุ้มพระอยู่ ซึ่งเห็นว่าแปลกดี แล้วให้ตนเป็นคนปั้น เพื่อให้ชาวบ้านสักการบูชา และขอพรให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ
ช่างสิริกล่าวว่า ในการปั้นครั้งนั้น ตนไม่เคยปั้น พระพุทธรูป มาก่อน รับทำแต่ลวดลายปูนปั้นประดับศาลาและโบสถ์เท่านั้น การปั้นจึงเป็นไปอย่างทุลักทุเล ใช้เวลาปั้นนานประมาณ 1 เดือนจึงเสร็จ พระพุทธรูป ออกมาสวยงามดี
ชาวบ้านเห็นแล้วเกิดศรัทธาเข้ามากราบไหว้บูชาขอบารมีรักษาโรคภัยไข้เจ็บ จนเป็นที่เลื่องลือ เชื่อว่าพระพุทธเจ้าผู้มีเมตตามารักษาโรคให้ ระหว่างปั้นยังมีชาวบ้านนำพระเครื่องหลายองค์มาบรรจุไว้ที่เศียรและหน้าอก ด้วย แต่ไม่ทราบจำนวน
ช่างปั้นพระกล่าวต่อว่า หลังจากปั้น พระพุทธรูปปางพยาบาลเสร็จ ได้มีพระช่วง อาจินตโน อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านหว้า มาให้ตนปั้น พระพุทธรูปอีก 1 องค์ โดยเศียร พระพุทธรูป เป็นเนื้อหินทะเลที่ชาวประมงลากติดอวนได้มา ให้ปั้นต่อเป็นองค์พระท่ายืน นำไปตั้งประดิษฐานไว้ที่ปากทางเข้าวัดบ้านหว้า ริมถนนสายเอเซีย ก.ม.11-12 หมู่ 3 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน
โดยปั้น พระพุทธรูป ให้มือขวาอยู่ในลักษณะกวักเขาหาตัว มือซ้ายปั้นในลักษณะแบมือรับโชค หรืออุ้มโชคไว้ ตอนนั้นแปลกใจในรูปแบบ คิดอยู่นานว่าจะปั้นออกมาอย่างไร พยายามอยู่หลายครั้งจนปั้นเสร็จสมบูรณ์ พบว่าชาวบ้านให้ความสนใจเข้ามากราบไหว้เป็นจำนวนมากเพื่อขอบารมีโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น จนมีชาว จ.กำแพงเพชร มากราบไหว้แล้วถูกหวยรางวัลที่ 1
จึงมาติดต่อว่าจ้างให้ตนไปปั้น พระพุทธรูป ลักษณะเดียวกันที่ จ.กำแพงเพชร ด้วย แต่ตนไม่ได้ไปสร้างให้ หลังจากสร้าง พระพุทธรูปปางรับโชค เสร็จได้ไม่นาน ทางวัดได้ก่อสร้างอุโบสถหลังใหญ่มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แต่ประชาชนบริจาคเงินช่วยสร้าง แล้วเสร็จภายในเวลา 1 ปีเท่านั้น
นางยุพา ชองขันปอน อายุ 40 ปี ชาวบ้าน อ.บางปะอิน ที่อยู่ห่างจากวัดประมาณ 2 ก.ม. เปิดเผยว่า เคยเดินทางไปกราบไหว้ พระพุทธรูป ทั้งสององค์อยู่บ่อยครั้ง เมื่อยามรู้สึกว่าไม่ค่อยสบาย จะนึกถึง พระพุทธรูป องค์นี้ประจำ เมื่อไปสักการะขอพรพระพุทธจริยา ปางพยาบาลภิกษุอาพาธ อาการที่เคยไม่ค่อยสบายจะรู้สึกหายไป เชื่อว่า พระพุทธรูป องค์นี้ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง แล้วเกิดความสบายใจขึ้น
ทางด้านนายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณี พระพุทธรูปปางพิสดาร ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้ง 2 องค์ว่า จากการที่วัดขนอนเหนือ อ.บางปะอิน ปั้น พระพุทธรูปปางพยาบาลภิกษุอาพาธ จนเป็นที่ฮือฮาของนักท่องเที่ยวนั้น พุทธศาสนิกชนชาวไทย นิยมที่จะสร้างพระพุทธรูปปางต่างๆ ตามพุทธประวัติ
ซึ่งพระพุทธจริยาปางพยาบาลภิกษุอาพาธ น่าจะสร้างมาจากพุทธประวัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล ที่พระองค์เสด็จเยี่ยมพระภิกษุที่อาพาธ ทั้งนี้ ปางพระพุทธรูปดังกล่าวอาจจะไม่ค่อยมีใครสร้างขึ้น จึงทำให้รู้สึกแปลกตา ทั้งที่จริงแล้ว สร้างมาจากพุทธประวัติทั้งสิ้น
ส่วนรูปแบบการสร้างปางพระพุทธรูปนั้น จะแตกต่างกันออกไปตามจินตนาการของผู้สร้างและกำลังศรัทธาของประชาชน เช่น พระพุทธรูปยืนบางองค์ก็สูงชะลูดไม่ได้สัดส่วน เป็นต้น ซึ่งก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ด้วยสร้างจากศรัทธาของพุทธศาสนิกชน
“หากมองแล้วว่า พระพุทธรูปปางพยาบาลภิกษุอาพาธ ไม่มีลักษณะที่น่าเกลียด และเป็นที่ศรัทธาของประชาชนก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้ามีพุทธลักษณะที่ไม่เหมาะสมออกไปในแนวอุบาทว์ ก็จะต้องให้ทางเจ้าคณะจังหวัดเข้าไปดูแล
อย่างไรก็ตาม มหาเถรสมาคมได้ออกระเบียบเกี่ยวกับการจัดสร้างพระพุทธรูปไว้ว่า การจะสร้างพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะแปลกๆ ต้องขออนุญาตจากมหาเถรสมาคม หรือเจ้าคณะจังหวัดผู้ปกครองถึงความเหมาะสมก่อน หากวัดไหนสร้างพระพุทธรูปปางพิสดาร โดยไม่ขออนุญาต ก็จะต้องให้ทางเจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการตักเตือน” ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรฯ กล่าว
ส่วนนายแก้ว ชิดตะขบ นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา กองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี พระพุทธรูปปางพิสดาร ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า พระพุทธรูปแต่ละปางเปรียบเป็นรูปสมมติของพระพุทธเจ้าในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งมีการสร้างขึ้นตามความเชื่อในพุทธประวัติ ตามตำนานพุทธประวัติกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระเจ้าปเสนทิโกศล แห่งแคว้นโกศล
ให้ช่างจำหลักพระรูปเหมือนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นจากไม้แก่นจันทน์ เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธองค์ที่เสด็จไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพุทธมารดา นับเป็นการสร้าง พระพุทธรูป ครั้งแรก แต่เดิมพระพุทธศาสนาไม่มีรูปเคารพ เพราะในสมัยอินเดีย มีข้อห้ามในการสร้างรูปเคารพ แต่เนื่องจากชาวอารยันที่มีเชื้อสายกรีก
ซึ่งมาตั้งรกรากอยู่ทางอินเดียตอนเหนือ เคยนับถือศาสนเทวนิยมและจำหลักรูปเคารพของเทพเจ้ากลุ่มโอลิมปัส เมื่อเปลี่ยนมานับถือพระพุทธศาสนา จึงได้จำหลักศิลารูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นเคารพแทน ต่อมาวัฒนธรรมและศิลปะดังกล่าวได้แพร่หลายมาถึงอินเดียใต้และลังกา ก่อนแพร่หลายเข้าสู่เมืองไทย ทั้งนี้ ตามคติพระพุทธศาสนา ฝ่ายเถรวาท
นายแก้วกล่าวว่า การสร้าง พระพุทธรูป ปางต่างๆ จะต้องเป็นปางที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพุทธประวัติโดยตรง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตามพุทธประวัติ เช่น ปางไสยาสน์ ปางมารวิชัย ปางลีลา เป็นต้น ซึ่งในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ให้การยอมรับปางพระพุทธรูปทั้งหมด 70 กว่าปางเท่านั้น แต่สำหรับในฝ่ายมหายาน อาจจะมีการสร้างปางพระพุทธรูปที่แตกต่างออกไปบ้าง ตามคติความเชื่อของแต่ละนิกาย
นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา กล่าวต่อว่า เท่าที่ทราบ ก่อนหน้านี้ในประเทศไทยเคยมีการสร้าง พระพุทธรูปปางพิสดาร ออกมามากมาย บ้างก็ทำได้สวยงาม บ้างก็สร้างออกมาอย่างไม่เหมาะสม ทำให้พุทธศาสนิกชนที่ได้แลเห็นเกิดความไม่สบายใจ
หากมีการสร้างออกมาแล้ว ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นเกิดความไม่สบายใจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือฝ่ายปกครอง ต้องสั่งให้ทางวัดหรือเจ้าของสถานที่ที่ประดิษฐาน พระพุทธรูป ดังกล่าว ต้องนำผ้ามาคลุมและเก็บไว้อย่างมิดชิด
มิให้นำออกมาสู่ภายนอกอีกต่อไป แต่มีบางกรณีที่มีศิลปินบางท่าน อาจสร้างพระพุทธรูปปางที่แตกต่างออกไปจากแบบที่เป็นทางการ เพื่อความสวยงามทางศิลปะ ตรงนี้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องให้มีความเหมาะสมต่อสมณสารูปแห่งพระพุทธรูป คือ มีความสำรวมและงดงามตามหลักทางพระพุทธศาสนา
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสด
พระวิหารยังอึมครึม ไทย เขมรทหารเต็มอัตราศึก<SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-0032874521947222"; /* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/13/09 */ google_ad_slot = "7657140061"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 15; //--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 height=15 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0032874521947222&dt=1245908510483&lmt=1245908510&output=html&slotname=7657140061&correlator=1245908510483&url=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fheadline-news%2F49191.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.mthai.com%2F&frm=0&ga_vid=180069832400602850.1242101222&ga_sid=1245908511&ga_hid=742032265&ga_fc=true&flash=10.0.22.87&w=468&h=15&u_h=1024&u_w=1280&u_ah=979&u_aw=1280&u_cd=32&u_tz=420&u_java=true&dtd=78&xpc=IIsgWzhzPs&p=http%3A//news.mthai.com" frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>


บทความนี้เขียนโดย supernova, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-06-25T11:29:18+0700>25/06/2009 at </ABBR>, ในหมวด ข่าวการเมือง, ข่าวพาดหัว และ ทหาร, พระวิหาร, เขมร, ไทย. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.


<OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=407 height=342>
























<embed type="application/x-shockwave-flash" width="407" height="342" src="http://video.mthai.com/Flash_player/player.swf?idMovie=6M1245906777M0"></embed></OBJECT>
ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา</P>มทภ.2 ระบุกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายเต็มพื้นที่เขาพระวิหารแล้ว พบมีการส่งกำลังทหารเขมรมาสับเปลี่ยนตลอด พร้อมทั้งปืนใหญ่ รถถัง อาวุธหนัก ยันทหารไทยพร้อมปกป้องอธิปไตยเต็มที่..
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้( 25 มิ.ย.) ที่สโมสรร่วมเริงไชย ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ว่าเวลานี้ ทหารไทยและกัมพูชากำลังเผชิญหน้ากัน รวมทั้งในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกำลังทหารทั้งสองฝ่ายๆละประมาณ 7,000 นาย มีการเตรียมอาวุธหนัก อาทิ อาร์พีจี ปืนใหญ่ รัศมีการยิงกว่า 20 กิโลเมตร และรถถัง เต็มอัตราศึก พร้อมเปิดฉากยิงตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้ยังปกติอยู่
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ ยังกล่าวถึงการที่ฝ่ายกัมพูชาเสริมกำลังและอาวุธหนักเข้ามาตลอด ว่า หากทางฝ่ายกัมพูชาเพิ่มเข้ามา ฝ่ายเราก็ปรับเพิ่มให้เหมาะสม ยอมรับว่าเท่าที่ได้ไปดูในพื้นที่จริง ก็พบว่าทหารกัมพูชามีการเพิ่มเติมกำลังค่อนข้างมาก แต่บริเวณปราสาทพระวิหารจะเพิ่มกำลังทหารอีกไม่ได้แล้ว เพราะสถานที่คับแคบ ทำได้เพียงอาวุธที่จะสนับสนุนหรือมีความเหมาะสมที่จะใช้ป้องกันอธิปไตย ฝ่ายไทยมีพร้อมและเพียงพอที่จะรักษาอธิปไตยของเรา
“สถานการณ์ ปัจจุบันเราได้การพูดคุยกันระดับผู้บังคับบัญชาของเรา กับผู้บังคับบัญชาฝ่ายพูชาเรายังพูดคุยกันได้ดี และมีความเข้าใจกัน ซึ่งคงไม่น่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมา” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว และว่าส่วนที่ฝ่ายกัมพูชารายงานข่าวลักษณะท้าทายยั่วยุนั้น อยากให้สื่อติดตามก็แล้วกันว่า เขาท้าท้ายอย่างไร ตนในฐานะแม่ทัพภาคที่ 2 และกำลังพลเราทุกทำหน้าที่ของเราไปตามปกติ หากมีลูกกระสุนยิงเข้ามาฝั่งไทย โดยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เราพร้อมอยู่แล้ว
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ

 

ทำไมอยากมี รอยสักกันนัก?​

​

Tattoo หรือรอยสักมาแรง วัยรุ่นฮิตแห่ไปสักลายตามบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตามกระแสและ Tattoo ยังเป็นการสร้าง ศิลปะบนเรือนร่าง ให้มีลวดลายสวยงาม แต่บางลายของรูปรอยสัก ดูเท่าไหร่ก็ไม่เห็นสวย เพราะบางคนก็ช่างสร้างสรรค์​

สมัยนี้ "รอยสัก" กำลังมาแรง บางคนงี้เห็นสักกันยุ่บยั่บ เป็นลายนู้นที ลายนี้หน่อย ตามบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งของพรรค์นี้ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคนล่ะนะ เพราะบางคนก็ "อิน" กับการสักเหลือเกิน ในขณะที่อีกหลายคนก็ไม่เอาเลย กับเรื่องการสักหรือการเขียนลวดลายบนร่างกายอะไรเนี่ย ขอมีเนื้อตัวสะอาดสะอ้านไร้ร่องรอยไว้ก่อนปลอดภัยกว่า ​

ว่ากันว่ารอยสักหรือภาษาปะกิตเรียก "แทตทู" เนี่ย เป็นการสร้างศิลปะบนเรือนร่างให้มีลวดลายสวยสดงดงาม แต่บางลายของรอยสักน่ะต่อให้ดูเท่าไหร่ก็ไม่เห็นสวยเลย ออกไปในทางแปลกประหลาดจากที่เคยเห็นโดยทั่วๆ ไปมากกว่า เพราะบางคนก็ช่างครีเอท (สร้างสรรค์) เหลือเกิน ​

เคยถามเหตุผลของคนที่ชอบสักเหมือนกันว่าสักกันไปทำไม? อื้อหือ ได้คำตอบหลากหลาย มีตั้งแต่ อยากเท่, อยากให้เป็นที่สะดุดตาชาวบ้าน หรือพออยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงที่มีรอยสักกัน ไอ้ครั้นเราจะไม่สักมั่งเดี๋ยวจะหาว่านอกคอกไปนู่น จะว่ารอยสักเป็นแฟชั่นอย่างนึงก็ยังได้ ​

ตรงข้ามกะบางรายที่เชื่อว่า สักแล้วเป็นสิริมงคลและเหมือนมีที่พึ่งทางใจก็เยอะ ส่วนที่คิดไปอีกอย่างว่า รอยสักเป็นเสน่ห์เย้ายวนเพศตรงข้ามให้หลงใหลได้ปลื้มกันก็มี มิน่าถึงฮิตไงล่ะ ​

พูดถึง รอยสักแล้วก็นึกได้ว่า มีผลกระทบต่อชีวิตของพวกเรา เหมือนกันนะ เช่น...

1. พอ “รอยสัก” กลายเป็นของฮิตหรือแฟชั่นขึ้นมา จึงเป็นช่องทาง ให้ผู้ที่มีความสามารถในทางศิลปะ หรือใจรักในด้านนี้ ยึดเป็นอาชีพเปิดร้านรับสักลวดลาย ตามใจลูกค้าซะเลย ซึ่งดีเหมือนกัน จะได้ช่วยให้คนเรามีงานทำ ถือเป็นอีกช่องทางทำมาหากินไงล่ะ

2. ส่วนผู้ที่เป็นลูกค้า หากสนใจอยากสักก็ควรคิดให้รอบคอบ เพราะนอกจากต้องเสียเงินแล้ว อย่าลืมด้วยล่ะว่าการมีรอยสักน่ะ ลบออกยากนะ

ดังนั้น ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนขี้เบื่อก็อย่าสักแบบถาวร เพราะขืนสักไป แล้วเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา คุณก็ต้องเสียตังค์ค่าลบอีก ซึ่งน้ำยาที่ใช้ในการลบน่ะมีราคาถูกที่ไหนล่ะ ถ้าไม่มั่นใจงั้นหันไปหาการเพนต์แบบเฮนน่าแทนไหม ราคาค่าทำย่อมถูกกว่ากันแน่

3. แล้วก่อนลงมือสักน่ะ แน่ใจแล้วหรือว่าสมาชิกในครอบครัวของคุณจะไม่ว่าอะไร เพราะบางครอบครัวก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกหลานมีรอยสัก อย่าลืมข้อนี้ ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าไปสักเข้า โดยที่พ่อแม่ไม่เห็นด้วย หรือแฟนไม่ชอบก็ซวยกันพอดี หากสักแล้วต้องมาทะเลาะกับคนรอบข้าง แล้วคุ้มกันไหมเนี่ย อยู่ดีไม่ว่าดีแฮะ

4. คนมีรอยสักเวลาไปหางานหาการทำ อาจเป็นอุปสรรคฉุดให้ไม่ได้งานก็ได้ แถมสาวใดมีรอยสักฟู่ฟ่า ก็ถูกมองว่าเป็นสาวซ่าเย้ยฟ้าท้าสวาทไปซะอีก

ข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

​

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/16353​

 

เคยออกไปรอ แต่ไำม่ได้พบท่านมาโปรดค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

:z10

 

มีของสำคัญมาให้อ่านกันจ้า

 

ศีล(สิกขาบท)เป็นสิ่งสำคัญที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติเอาไว้​

ในสมัยหนึ่ง ขณะที่พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในเวฬุวันวิหาร พระกิมพิละเข้าไปกราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัยทำให้พระสัทธรรม ดำรงอยู่ไม่นาน หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงปรินิพพานแล้ว พระพุทธองค์ตรัสว่า

ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้วหากพวกภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ที่

๑. ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในพระศาสดา
๒. ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในพระธรรม
๓. ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในพระสงฆ์
๔. ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงในสิกขาบท
๕. ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรงซึ่งกันและกัน

"ดูก่อนกิมพิละ ปฏิปทานี้ เป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้พระสัทธรรม ไม่ดำรงอยู่ไม่นาน"

พระกิมพิละก็ทูลถามว่า "และอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ทำให้พระสัทธรรม ดำรงอยู่ได้นาน" ซึ่งพระพุทธองค์ก็ตอบว่า

ถ้าหากว่าเมื่อพระพุทธองค์ปรินิพพานไปแล้ว หากพวกภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ที่มีความเคารพยำเกรงในพระศาสดา (พระพุทธ) มีความเคารพมีความยำเกรงในพระธรรม (คำสั่งสอน) มีความเคารพมีความยำเกรงในพระสงฆ์ (เคารพนบนอบในพระสงฆ์) มีความเคารพมีความยำเกรงในสิกขาบท (ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ไม่หลอกลวงกัน) และมีความเคารพ มีความยำเกรงซึ่งกันและกัน ปฏิปทานี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระสัทธรรม ดำรงอยู่ได้นาน

ที่มา http://www.payakorn.com/webboard_ans.php?q_id=1010

 

สวัสดีครับ ^^ พี่เกษมและพี่ๆทุกคน

คือว่าช่วงนี้ มีข่าวเกี่ยวกับการมรณะภาพของพระองค์บ่อยครั้งเอามากๆ ทำให้ผมนึกถึงซึ่งเรื่องจากที่ผมอ่านเว๊ปนี้มีคำทำนายเกี่ยวกับเรื่องนี้อ้าครับ ไม่ว่าเป็นของใครเหรอครับ


ปล.ถ้าผมทำให้ใครเดือดร้อนหมองใจต้องขอโทษด้วย

 

เกิดแผ่นดินไหวปานกลาง 5.3 ริกเตอร์ ที่ไต้หวัน​

​

ไทเป 25 มิ.ย.- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวัน รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.3 ตามมาตราริกเตอร์ นอกชายฝั่งทางตะวันออกของไต้หวัน แต่ยังไม่มีรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตตลอดจนความเสียหายที่เกิดขึ้น

แผ่นดินไหวเกิดเมื่อเวลา 05.09 น. ของเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 04.09 น.ตามเวลาในไทย ห่างจากเมืองฮัวเหลียนไปทางตะวันออกราว 82 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 18 กิโลเมตร

หลังเกิดแผ่นดินไหวได้ 1 ชั่วโมง ก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกหรือแรงสั่นสะเทือนที่ตามมาจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ขนาด 5 ริกเตอร์ โดยอาฟเตอร์ช็อกเกิดห่างจากเมืองฮัวเหลียนไปทางตะวันออกราว 70 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 31 กิโลเมตร. -สำนักข่าวไทย

2009-06-25 10:12:25

พายุโซนร้อนถล่มฟิลิปปินส์ ตาย 8 คน สูญหาย 11 คน​

​

มะนิลา 25 มิ.ย. - เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ เผยว่า พายุโซนร้อนที่พัดถล่มพื้นที่ตอนเหนือของประเทศทำให้เกิดพายุหมุน ดินถล่ม เรือพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และสูญหาย 11 คน ท่ามกลางน้ำท่วมที่กำลังขยายตัวเป็นวงกว้าง

เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา ระบุวันนี้ว่า พายุโซนร้อนนังกา ความเร็วลม 55 ก.ม./ช.ม. และความแรงลม 90 ก.ม./ช.ม. เคลื่อนตัวไปทางทะเลจีนใต้ ทางตะวันตกของกรุงมะนิลาเมื่อคืนนี้ และคาดว่าจะเคลื่อนตัวต่อไปทางช่องแคบไต้หวันในสุดสัปดาห์นี้

อิทธิพลของพายุ ส่งผลให้ประชาชนเกือบ 10,000 คน ตกค้างเนื่องจากเรือข้ามฟาก และเรือยนต์หลายร้อยลำได้รับคำสั่งให้จอดเทียบท่าเพื่อความปลอดภัย ด้านสำนักภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คนในเหตุดินถล่มใส่บ้านเรือนในเมืองคากายัน เดอ โอโร ทางตอนใต้ของประเทศหลังเกิดฝนตกหนักมาเป็นเวลาหลายวัน

ส่วนในจังหวัดเกซอน ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 110 ก.ม. เผชิญกับพายุหมุนเมื่อค่ำวันอังคาร ส่งผลให้เรือประมงลำหนึ่งพลิกคว่ำอับปางลง เป็นเหตุให้ชาวประมงเสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน เนื่องจากขณะเกิดเหตุทั้งหมดกำลังนอนหลับอยู่บนเรือ ขณะที่จังหวัดเซบู ทางภาคกลางมีผู้จมน้ำเสียชีวิต 2 คนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่วนอีก 7 คน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นชาวประมง 5 คน ยังคงสูญหายจากเหตุน้ำท่วม และฝนตกลมแรงนอกชายฝั่งเกาะซามาร์ทางภาคตะวันออก และจังหวัดอื่นที่อยู่ใกล้เคียง

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เผยว่า คลื่นขนาดใหญ่ทำให้เรือโดยสารพลิกคว่ำนอกชายฝั่งเกาะแมคตัน ทางภาคกลางของประเทศเมื่อวันอังคาร แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ยามฝั่งสามารถช่วยชีวิตผู้อยู่บนเรือทั้ง 13 คน ที่ต้องลอยคอรอความช่วยเหลือนานหลายชั่วโมง ส่วนในวันนี้สถานศึกษาในกรุงมะนิลา และพื้นที่ใกล้เคียงยังปิดทำการเรียนการสอนต่อเป็นวันที่ 2. -สำนักข่าวไทย

2009-06-25 10:17:04

มีผู้เสียชีวิต 4 คนจากอุทกภัยในเช็ก​

​

ปราก 25 มิ.ย.- โฆษกศูนย์กู้ภัยท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนจากอุทกภัยหลังฝนตกหนักทางภาคตะวันออกของสาธารณรัฐเช็ก

เจ้าหน้าที่เช็ก กล่าวว่า มีผู้จมน้ำเสียชีวิต 3 คนในเมืองเยเซนิก นัด โอดรู เมื่อเช้าวันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาขณะที่ระดับน้ำเริ่มลดลง ส่วนอีกรายเป็นผู้หญิงที่เสียชีวิตจากการจมน้ำใกล้เมืองโนวี ยีซิน ห่างไปทางตะวันออกของกรุงปรากราว 330 กิโลเมตรเมื่อวันพุธ นอกจากนี้ มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจ 2 คน ขณะเจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา ส่วนประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ ถนนและเส้นทางรถไฟต้องปิดบริการเนื่องจากน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นฝั่ง.-สำนักข่าวไทย

2009-06-25 14:50:39

ระเบิดตลาดในกรุงแบกแดด มีผู้เสียชีวิต 69 คน​

​

บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 25 มิ.ย. - เกิดเหตุระเบิดรุนแรงในตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตซาดร์ ซิตี ทางตะวันออกของกรุงแบกแดดในอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 69 คน

กระทรวงกิจการภายในของอิรัก แถลงว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น.วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 01.30 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ระเบิดถูกซุกซ่อนอยู่ใต้รถบรรทุกผัก แรงระเบิดมีความรุนแรงและเสียงดังกึกก้อง สะเก็ดระเบิดปลิวไปไกล 600 เมตร และทำให้มีผู้บาดเจ็บ

เขตที่เกิดระเบิดเป็นถิ่นอยู่อาศัยของมุสลิมชีอะห์ ซึ่งนอกจากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแล้ว ยังมีประชาชนอีกกว่า 130 คนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย นับเป็นเหตุระเบิดรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในปีนี้ นอกจากนี้ยังเป็นเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก่อนที่ทหารอเมริกันส่วนใหญ่จากที่มีประจำการอยู่ในอิรัก 133,000 นาย จะถอนตัวออกจากทุกเมืองในอิรักกลับฐานทัพ

การโจมตีครั้งนี้ถูกเชื่อมโยงว่าน่าจะเป็นความพยายามของมุสลิมสุหนี่ที่ต้องการยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดทางศาสนา และก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ ก็เกิดเหตุโจมตีหลายครั้งที่กรุงแบกแดดและที่อื่นๆ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน . -สำนักข่าวไทย

2009-06-25 07:37:49

การชุมนุมประท้วงยังคงมีขึ้นในกรุงเตหะราน ​

​

บีบีซี ออนไลน์ 25 มิ.ย.-ตำรวจปราบจลาจลของอิหร่านได้ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ซึ่งฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาลที่ห้ามการชุมนุมในกรุงเตหะราน​

มีรายงานว่าเกิดการปะทะกันนอกอาคารรัฐสภาในกรุงเตหะราน และตามท้องถนนหลายสายรอบ ๆ จัตุรัสบาฮาเรสตาน ตำรวจใช้กระบองทุบตีผู้ชุมนุม ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนจริงขึ้นฟ้าข่มขู่ผู้ประท้วงให้สลายการชุมนุม การประท้วงครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านยืนยันผลการเลือกตั้ง ซึ่งประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดิเนจัด เป็นฝ่ายชนะ และย้ำคำเรียกร้องให้ยุติการประท้วง

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลอิหร่านเข้มงวดและควบคุมการรายงานข่าว ทำให้สื่อต่างประเทศจากหลายสำนักไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเหตุประท้วงในกรุงเตหะรานได้ ในขณะที่ นายมีร์ ฮอสเซน มูซาวี อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของการประท้วงครั้งนี้ ไม่ได้มาปรากฏตัวต่อสาธารณชนหลายวันแล้ว แต่ในเว็บไซต์ของเขาอ้างคำแถลงของภรรยาว่าการประท้วงจะดำเนินต่อไป และเรียกร้องรัฐบาลอิหร่านให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม ซึ่งจำนวนนี้มีพนักงานในหนังสือพิมพ์ของสามีรวมอยู่ด้วย 25 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-25 09:20:07

เกาหลีเหนือเตือน "เมฆดำของสงครามนิวเคลียร์" แผ่ปกคลุมคาบสมุทรเกาหลี​

​

โซล 25 มิ.ย. - เกาหลีเหนือ เตือนว่า “เมฆดำของสงครามนิวเคลียร์” กำลังแผ่ปกคลุมเหนือคาบสมุทรเกาหลี พร้อมประกาศจะเสริมความแข็งแกร่งของระเบิดนิวเคลียร์ในวาระครบรอบสงครามเกาหลี ระหว่างปี 2493-2496

หนังสือพิมพ์โรดอง ชินมุน ของพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ กล่าวหาสหรัฐและเกาหลีใต้ว่า พยายามยั่วยุให้เกิดสงครามครั้งใหม่ด้วยการที่สหรัฐรับประกันว่าจะช่วยปกป้องเกาหลีใต้ ซึ่งไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง และว่า สงครามครั้งใหญ่อาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ และเกาหลีเหนือจะเดินหน้าเสริมขีดความสามารถของอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป ตราบใดที่สหรัฐยังคงดำเนินนโยบายที่เป็นศัตรู

สงครามเกาหลีเริ่มขึ้นเมื่อเกาหลีเหนือเข้ารุกรานเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2493 และจบลงด้วยการสงบศึกชั่วคราว แทนที่จะเป็นสนธิสัญญาสันติภาพ ส่งผลให้ตามหลักการทั้ง 2 ฝ่ายยังทำสงครามกันอยู่. -สำนักข่าวไทย

2009-06-25 13:25:17

ฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ถึง 123 รายในช่วง 2 วัน​

​

มะนิลา 25 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ แถลงว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในฟิลิปปินส์ถึง 123 รายในช่วงเวลา 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ยอดรวมมีจำนวน 727 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

นายฟรานซิสโก ดูเก้ รัฐมนตรีสาธารณสุขฟิลิปปินส์ แถลงว่า ขอให้ประชาชนที่มีความเสี่ยงป่วยด้วยโรคดังกล่าว เมื่อมีอาการไข้ ขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 มากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก ด้านโฆษกประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย กล่าวแสดงความวิตกว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อาจกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอีก.-สำนักข่าวไทย

2009-06-25 19:14:51

ลาวพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 3 คนแรกของประเทศ​

​

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย.- ลาวและองค์การอนามัยโลก แถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 จำนวน 3 คนเป็นครั้งแรกของลาว ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ

โฆษกรัฐบาลลาวแถลงว่า เด็กชายชาวอเมริกันวัย 9 ขวบ และชายชาวออสเตรเลียมีอาการดีขึ้นแล้ว ภายหลังติดเชื้อไวรัส ส่วนชาวต่างชาติอีกคนที่ยังไม่ทราบสัญชาติติดเชื้อเช่นกันและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่กรุงเวียงจันทน์ โดยให้ข้อมูลว่า ชาวออสเตรเลียอาศัยอยู่ในลาวและมีอาการดีขึ้นแล้ว ส่วนอีก 2 คนตรวจพบว่าติดเชื้อระหว่างผ่านเครื่องสแกนของจุดตรวจที่ท่าอากาศยาน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกในลาวยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อทั้งหมดอาการดีขึ้นแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-06-25 18:11:25

ออสเตรเลียแนะผู้สงสัยเป็นหวัดใหญ่ 2009 งดเดินทางต่างประเทศ​

​

เมลเบิร์น 25 มิ.ย. - ออสเตรเลียแนะนำให้ประชาชนที่รู้สึกป่วยพิจารณาเลื่อนแผนการเดินทางไปต่างประเทศออกไป หลังจากอินโดนีเซียแสดงความวิตกว่า นักท่องเที่ยวจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าไปยังเกาะบาหลี

ในฐานะประเทศที่พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก คือ 3,000 ราย โฆษกกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย จึงเรียกร้องให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองผู้ป่วยของอินโดนีเซีย และว่า ชาวออสเตรเลียที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศควรพิจารณสุขภาพของตนเอง และอาจเลื่อนการเดินทางออกไปหากรู้สึกไม่ค่อยสบาย

นางสิตี ฟาดิเลาะห์ ซูปารี รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย แสดงความวิกตกอย่างยิ่งว่า นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอาจเป็นพาหะนำเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เข้าไปแพร่บนเกาะบาหลี เนื่องจากผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกของอินโดนีเซียล้วนเกี่ยวข้องกับออสเตรเลีย โดยคนหนึ่งเป็นนักบินที่เดินทางจากเมืองเพิร์ทก่อนถูกวินิจฉัยว่า ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่วนอีกรายเป็นชาวอังกฤษที่อาศัยในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่พบการระบาดหนักที่สุดในออสเตรเลีย ดังนั้นทางการอินโดนีเซียจึงจะเพิ่มการเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย และเสริมว่า จะไม่มีการแยกตัวนักท่องเที่ยวออกจากกลุ่มเพื่อตรวจร่างกาย แต่จะใช้เครื่องสแกนอุณหภูมิร่างกายที่ท่าอากาศยาน และให้ตอบแบบสอบถามด้านสุขภาพ

ข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว 55,867 คน ใน 109 ประเทศและดินแดน ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 238 คน นับแต่ปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา -สำนักข่าวไทย

2009-06-25 16:24:06

ที่มา http://news.mcot.net

 

ช่วงนี้ประเทศไทยเป็นอะไร ถึงสูญเสียพระเกจิฯ พร้อมกัน ไล่ๆกันหลายต่อหลายองค์

<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

มันเป็นสัญญาณบอกเหตุอะไรหรือเปล่า มีใครรู้สึกไหม?

เพราะช่วงเวลาเพียงสองเดือน ประเทศไทยสูญเสียเกจิอาจารย์ชื่อดังไปพร้อมๆกัน ไล่ๆกัน ถึงสามสี่องค์ แต่ละองค์ ล้วนแต่เป็นพระอริยะสงฆ์ที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ประชาชนให้ความเคารพนับถือทั่วประเทศ มันเกิดอะไรขึ้นหนอ?
​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ เอก เมื่อวันที่ 19/6/2548

<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ท่าน ช่วยประเทศ ยืดอายุสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่จะเกิดขึ้น ออกไป 2 ปี
​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ เอก(นาค) เมื่อวันที่ 19/6/2548 2:04:28 ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

การละสังขารแต่ละครั้งของพระอริยเจ้า จะมีการปลดปล่อยกระแสเมตตา ออกมาจำนวนมาก ทำให้เกิดการยืดอายุเหตุการณ์ที่ไม่ดีอันจะเกิดในปลายปีนี้ แต่อาจจะมีอะไรแรงๆ เกิด แต่ไม่ร้ายแรงเท่าที่คาดไว้ก็ได้ครับ
​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ ศิษย์ เมื่อวันที่ 19/6/2548 4:09:58
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

ถัยธรรมชาติ ไม่เท่าไหร่ครับพอเอาตัวรอดกันได้ แต่สงครามนิวเคลียร์ น่ากลัวกว่า ครับ จะเกิดขึ้นอีกประมาณ 2 ปี และการเลื่อนเวลาครั้งนี้ เป็นการเลื่อนครั้งสุดท้าย แต่จริงๆแล้ว สงครามโลกครั้งที่ 3 ต้อง เกิดเมื่อหลายปีที่แล้ว แต่ก็รอดมาได้เพราะครูบาอาจารย์ท่านขอไว้
​

</TD></TR><TR align=right><TD>

จากคุณ witt เมื่อวันที่ 19/6/2548 9:15:14
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เมื่อวันศุกร์ที่ ๓ มิ.ย. พี่คนที่ให้ไฟล์ผมมา ได้ไปกราบเรียนถามหลวงพี่เล็ก สุธมฺมปญฺโญ "หลวงพี่ยังเล่าว่าก่อนนี้พิจารณาว่า สงครามใหญ่มีเกณฑ์ว่าจะเกิด ไม่ปีนี้ก็ปีหน้า หากปีหน้าเป็นปี..(จำไม่ได้)...ภิเษกของพระเจ้าอยู่หัว เหตุร้ายจะเกิดไม่ได้ ก็ต้องเกิดปีนี้(ท่านว่าไว้ว่าปลายปี)

แต่หลวงพ่อพูลมาละสังขาร ตามด้วยหลวงปู่เหรียญ
ซึ่งถ้ามีอีกจนครบ 3- 4 องค์ ก็จะเป็นเหตุให้เลื่อนออกไปอีก"

เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๓ มิ.ย. ผมได้ไปกราบนมัสการท่านเจ้าคุณพระโสภณธรรมสาร (เจ้าคณะอำเภอแม่ริมขแม่แตง ฝ่ายธรรมยุต และเจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง) ท่านบอกว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้มา ทางสายธรรมยุต ก็มีพระผู้ใหญ่หลายๆท่านได้ละสังขารไปแล้วหลายท่านด้วยกัน

ขออภัยหากจำชื่อไม่ได้แม่นยำนักนะครับ แต่จำได้ว่ามีอาจารย์บุญมี (ที่เท้ามีกงจักร) อาจารย์คง และพระมหาปราโมทย์ ปาโมชโช (แต่เป็นคนละองค์กับที่เขียนหนังสือออกเผยแพร่นะครับ) แล้วหลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม ก็เพิ่งมาละสังขารไปอีก

ผมก็ได้แต่หวังว่าเราจะพ้นช่วงนี้ไปได้อย่างสบายขึ้นนะครับ สุดท้ายนี้ เรื่องรักษาศีล ๕ เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ถ้าทำได้ ก็เป็นสิริ เป็นมงคลแก่ตัวนะครับ สิ่งไหนที่ทำแล้วไม่สบายใจ ทำให้ใจเราเศร้าหมอง ก็ไม่ต้องทำดีกว่านะครับ ง่ายๆดีนะครับ

จากคุณ : Deus [ 18 มิ.ย. 48 23:10 ]

แหล่งที่มา เว็บคนเมืองบัวและเว็บลานธรรมครับ

http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-14​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"บารมี" แปลว่ากำลังใจเต็ม


​

คัดลอกข้อความบางส่วน มาจากหนังสือบารมี ๑๐ โดยพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่าร่างกายไม่ดีแบบนี้เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา ฉะนั้นจึงได้ไปเสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้ ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากจะรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีของเด่นอะไรนัก การไปได้มาได้ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ยังลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์

นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่าพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบกันได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขาบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน เมื่อพบแล้วก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมาพระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า "สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม ...?"

ก็กราบทูลพระองค์ว่า "ใช่พระพุทธเจ้าข้า" พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า "สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร...?"

ตอนนี้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายขอได้โปรดทราบว่า ถ้าอาตมาสอนถูกพระองค์จะไม่ทรงตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี

นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทการสอนนี้ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรมีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้นอาตมาก็ทราบ จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า "ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนักพระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่าบารมีแปลว่าเต็ม"

พระองค์จึงทรงตรัสถามว่า "อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่าเธอจะปฏิบัติในทานบารมี ทำยังไงทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่าจะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน ถ้าเราจะไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม...?"

แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่าท่านที่เป็นนักปราชญ์ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ว่าอาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่งหรือไม่แค่หางอึ่งเพราะความโง่มันมาก

เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคทรงตรัสแบบนั้นก็ทูลถามพระองค์ว่า "ข้าพระพุทธเจ้าไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า"

พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า "สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในด้านบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้เธอสอนบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า คำว่าบารมีนี้มันแปลว่าเต็ม แต่อะไรมันเต็มตถาคตจะบอกให้ว่า บารมีนี่ควรจะแปลว่ากำลังใจเต็ม "

นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า คำว่าบารมีก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม ตอนนี้ซิชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่าเรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก

กำลังใจเต็มตอนไหนบรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านก็ทรงให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐ ทัศ ว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า

๑. ทานบารมี
๒. ศีลบารมี
๓. เนกขัมมบารมี
๔. ปัญญาบารมี
๕. วิริยบารมี
๖. ขันติบารมี
๗. สัจจบารมี
๘. อธิษฐานบารมี
๙. เมตตาบารมี
๑๐. อุเบกขาบารมี

องค์สมเด็จพระชินสีห์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า สัมพเกษี ถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ให้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ไม่มีอะไรบกพร่อง คือ

๑. จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ
๒. จิตพร้อมในการทรงศีล นี่ซิบรรดาพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นไป
๓. จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะก็แปลว่าการถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัว ได้ทั้งนั้น
๔. จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป
๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ
๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์
๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่าเราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับใจเรา ในด้านของการทำความดี
๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ
๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดีไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น
๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นวันนี้ อุเบกขาบารมีตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า ช่างมัน ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกันใช้คำว่าช่างมัน ตรงตัวดี

นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในคำว่า บารมีทั้งหลาย ได้ทราบชัดว่า บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้น ก็คือสร้างกำลังใจปลูกฝังกำลังใจ ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์ ไม่ใช่ว่าเราจะมานั่งคิด เราจะมานอนคิด เราจะมาทรงจิตว่า เอ๊...บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรายังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ยังไงได้

ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่าเราสามารถจะสร้างบารมีได้ด้วยอาศัยกำลังใจ ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัทมี กำลังใจอย่างเดียวเท่านั้นที่เราจะทำให้มันดีหรือไม่ดี อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า

มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฎฐา มโนมยา
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ นี่ความจริงเรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้วบรรดาท่านพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริง ๆ มันทำไมถึงลืมก็ไม่ทราบ

เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย หวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านคงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืม บารมีแปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือกำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีในด้านบารมีไว้ ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย

ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการมากล่าวในตอนนี้ก็เพราะว่า ในตอนต้นพูดเรื่องพระโสดาบันเข้าไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า แหม...มันยากเกินไป ถ้ากำลังใจในการสร้างตนเป็นพระโสดาบันมันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ให้มันครบถ้วนบริบูรณ์

ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ
ศีล เราก็ตัดความโกรธ
เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ
ปัญญา ตัดความโง่
วิริยะ ตัดความขี้เกียจ
ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน
สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก
อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์
เมตตา สร้างความเยือกเย็นของใจ
อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกายเราไม่ปรารภ

เท่านี้แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่า พระโสดาบัน นั้นบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไปสำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท

ทำไมจึงว่าอย่างนั้น ก็เพราะว่าคนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่าพระโสดาบัน แล้วท่านเรียกว่าอะไร ท่านเรียกว่า พระขีณาสพ แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไปแล้ว หรือเรียกว่า พระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุดเข้าถึงซึ่ง พระนิพพาน ได้

เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี

ที่มา http://www.luangporruesi.com/326.html

 

ผู้ป่วยหวัด 2009 ในไทยเพิ่มขึ้นอีก 78 ราย รวมมีผู้ป่วย 1,132 ราย​

​

กระทรวงสาธารณสุข 26 มิ.ย.- นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นว่า ล่าสุด วันนี้ (26 มิ.ย.) พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 เพิ่มขึ้นอีก 78 ราย เป็นนักเรียน 71 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 5 ราย รวมขณะนี้มีผู้ติดเชื้อหวัด 2009 จำนวน 1,132 ราย หายแล้ว 1,110 ราย 22 รายยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนรายที่อาการน่าเป็นห่วงเฝ้าระวังใกล้ชิดยังคงเป็น 1 รายเดิมก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว

สำหรับทหารที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับรายงานว่า หลายรายมีอาการดีขึ้นและหายแล้ว ซึ่งกระทรวงฯ ไม่ค่อยห่วงในส่วนของทหารเพราะมีระเบียบวินัยในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่เชื้อ แต่ที่เป็นห่วงคือตัวเลขผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็นนักเรียนที่เพิ่มขึ้นทุกวัน จะได้เร่งรณรงค์ให้มากขึ้นในส่วนของโรงเรียน ให้คงมาตรการห้ามเด็กเป็นหวัด มีอาการต้องสงสัย หยุดเรียนไปจนกว่าจะหาย เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดสู่เพื่อนนักเรียนอื่น อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความกังวลเรื่องเด็กขาดเรียน กลัวเรียนไม่ทันเพื่อน จึงมักไม่ให้หยุด ดังนั้น โรงเรียนต้องสร้างความมั่นใจ และให้หลักประกันกับนักเรียนที่ป่วย ในการสอนเสริมให้เด็กไม่กังวลที่จะหยุด กระทรวงฯ จะเร่งประชาสัมพันธ์กับโรงเรียน.-สำนักข่าไวทย

2009-06-26 11:11:12

ทั่วโลกตกลงใช้แนวทางใช้ยาต้านไวรัสเฉพาะผู้ป่วยรุนแรง-กลุ่มเสี่ยงสูง​

​

สำนักข่าวไทย 25 มิ.ย.- รศ.นพ.ทวี โชติพิทยสุนันท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการเดินทางไปร่วมประชุมในฐานะตัวแทนของประเทศไทย เรื่องแนวทางการใช้ยาต้านไวรัสรักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด

ซึ่งองค์การอนามัยโลกจัดขึ้น ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีประเทศพัฒนาแล้วได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อังกฤษ ออสเตรเลีย และประเทศกำลังพัฒนาอีก 2 ประเทศ ได้แก่ ไทย และเม็กซิโก เข้าร่วมประชุมและหารือใน 2 ประเด็นหลักคือการรักษาพยาบาลผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ด้วยยาต้านไวรัสที่เหมาะสม และการรับมือปัญหาดื้อยาในอนาคต

ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ขณะนี้แนวทางการใช้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์รักษาผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกันทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย โดยจะใช้ยาต้านไวรัสต่าง ๆ ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงซึ่งมีร้อยละ 1-2 และใช้ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ป่วยเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด ฯลฯ ที่เหลือไม่จำเป็นต้องใช้ยา

ซึ่งการป้องกันโรคนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส เช่น ใช้หน้ากากอนามัย การล้างมือ พักผ่อนให้เพียงพอ พบแพทย์เพื่อตรวจรักษาในกรณีที่มีอาการรุนแรง เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนยาและปัญหาดื้อยาที่อาจเกิดขึ้นตามมาในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

2009-06-25 14:01:52

สธ. เดินสายรณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ​

​

ขนส่งหมอชิต 23 มิ.ย.- รมช.สาธารณสุข เดินสายรณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ที่สถานีขนส่งหมอชิต และสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ พร้อมสั่งเพิ่มกำลังการผลิตเจลล้างมือ และให้ลดราคา เพื่อสร้างการเข้าถึงสุขอนามัยพื้นฐาน

นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่าภายหลังลงพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิตแจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ให้กับผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถขนส่งเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่มีความตื่นตัวในการดูแลความสะอาดร่างกาย และล้างมือซึ่งถือเป็นอนามัยขั้นพื้นฐาน ทำให้เจลล้างมือที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมขาดตลาด ซึ่งตนได้หารือกับ

นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการเภสัชกรรม ให้มีการผลิตเพิ่มเจลล้างมือในปริมาณที่มากกว่าเดิมอีกเท่าตัว และให้เพิ่มขนาดเจลล้างมือให้มากกว่า และลดราคาเจล เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการและง่ายแก่การเข้าถึง สร้างนิสัยในการล้างมือมากขึ้น

นายมานิต กล่าวว่า สำหรับแนวทางการรณรงค์การป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เตรียมออกรณรงค์ในภาคการผลิตโรงงานอุตสาหกรรม วัด และสถานีวิทยุโทรทัศน์ โดยเริ่มรณรงค์แจกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ ที่สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ด้วย

นพ.วิทิต กล่าวว่า องค์เภสัชกรรมขณะนี้ได้มีการปรับสูตรเจลล้างมือที่สกัดจากใบบัวบกให้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น และได้เพิ่มรอบกำลังการผลิตเจลล้างมือขนาด 20 กรัม ที่ใช้แจกจ่ายกับประชาชน และจำหน่ายแล้ว จากเดิมผลิตเดือนละ 20,000 หลอด เป็นเดือนละ 30,000 หลอด และใช้เพิ่มเครื่องจักรในการผลิต รวมถึงปรับแพกเก็จใหม่ เพิ่มขนาด ซึ่งคาดว่าในอนาคตการล้างมือจะเป็นสุขนิสัยของไทย และได้มีการลดราคาเจลล้างมือในขนาด 20 กรัม จากเดิมหลอดละ 25 บาท เหลือหลอดละ 18 บาท ส่วนขนาด 450 กรัม ราคา 190 บาท อาจปรับเพิ่มปริมาณน้ำยาเจลล้างมือแต่ราคาเท่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

2009-06-23 16:34:06

ที่มา http://news.mcot.net