พระกรุวังหน้ามีการสร้างในยุคพ.ศ. 2411 จริงหรือไม่จริง

กระทู้นี้น่าสนใจดีครับ

 

ความคิดเห็นนี้ ผมเห็นด้วยครับ
กระทู้นี้เป็นกระทู้สาธารณะ ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ครับ ขอให้เป็นความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ ไม่ท้าตี ท้าต่อย ท้าหักพระทิ้งแม่น้ำ หรือสาบานสาลี่อะไรกัน นำเหตุผลและหลักฐานที่เป็นรูปธรรมชัดเจนมาแสดงกัน ถ้าพระกรุวัดพระแก้วเป็นเรื่องจริง ก็เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องกุขึ้นมาเพื่อขายของ ก็เป็นเรื่องน่าเสียใจสำหรับผู้ที่ยังหลงเชื่ออยู่ครับ
ขออย่านำเอกสาร หรือวิดีโอที่ทำโดยนักนิยมพระเครื่อง เซียนพระ หรือบุคคลที่ไม่ใช่เอกสารราชการมาอ้างเป็นหลักฐาน เพราะของแบบนั้นขาดการค้นคว้าและศึกษาอย่างถูกต้อง

 

ท่านที่เข้ามาให้ความคิดเห็นอย่างสุภาพและมีเหตุมีผล ผมขอคารวะครับ
.
ส่วนโพสต่อไปนั้น..ผมต้องขอความกรุณาทุกท่านที่เข้ามาให้ความเห็นหรือคำแนะนำนั้น เป็นไปแบบสุภาพและยึดความเป็นเหตุเป็นผลนะครับ เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้วทั้งระดับมันสมองและวัยวุฒิ

ขอบคุณนะครับ

 

ผมขออนุญาติตั้งข้อสังเกตุนิดนึงนะครับ

คือมีหลายๆท่านที่บอกว่ากรุวังหน้าเป็นพระที่บรรดาเซียนต่างๆในสนามพระหมกเม็ดไว้เพื่อให้พระที่เรียกว่าสากลนิยมที่ตนครอบครองอยู่ราคาไม่ตก ถ้าถามผมผมก็ว่าเป็นไปได้

แต่ในมุมอีกมุมตอนที่พระกรุนี้สู่สนามไม่ว่าเหตุใดก็ตามเซียนพระพวกนี้จะไม่มีใครรับซื้อไว้บ้างเลยเหรอทั้งที่สนามท่าพระจันทร์ก็อยู่ใกล้ๆแล้วยุคนั้นถ้าจะออกพระก็ต้องท่าพระจันทร์แล้วเซียนตาไม่ถึงที่จะเก็บพระกรุนี้เลยเหรอ. ถ้าเก็บช่วงเวลาที่ผ่านมายังไม่ถึงเวลาที่จะเอาพระกรุนี้มาทำราคากันเลยเหรอ. แล้วพระกรุนี้ที่มีในตลาดทุกวันนี้ไม่ได้ยินข่าวว่าออกมาจากเซียนใหญ่เลย อันนี้งงครับใครช่วยบอกที่ครับ

 

ผมคิดเห็นว่าเป็นเรื่องของปริมาณพระที่มีออกมากมายครับ จึงไม่สามารถเล่นราคาได้

ดูอย่างพระสากลนิยมของหลวงพ่อคูณก็ได้ครับ ไม่ได้แพงไปเสียทุกรุ่นครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ ประการซึ่งในวงการนี้เขารู้ดีว่าควรจะทำอย่างไรครับ

 

ผมว่ามีจิงครับผมเคยอ่านหนังสือที่ทำการบันทึกการรื้อกรุ เขาทำอย่างดีเป็นขั้นเป็นตอน ตรงใหนมีพระก้อทำการตัดทั้งไม้กระดาน มีการนับจำนวน มีการบันทึกเรียงพิมพ์ทรง เด่วพรุ่งนี้หากไม่ลืมผมจะเอาภาพมาให้ชมกระทู้นี้เป็นบางส่วนที่พอจะหาได้ เป็นพระสมเด็จปรกติทั่วไป จะแตกต่างกับวัดระฆังเล็กน้อย ไม่มีพิมพ์ฝังเพชรฝังพลอย ฝังลูกปัดของอนาจักรศรีวิชัยมี งดงามบนฐานที่ไม่เวอร์ ไม่มีตราครุฑ ถ้าเป็นพระของวังหลวงจะเขียนลวดลายด้วยยางรักเหมือนการลงยาในปัจจุบัน โดยช่างรัก

 

พระวังหน้าที่ถูกเขียนสีเ้วยยางรักท่านลองจินตนาการดูครับว่าช่างเขียนเป็นรุปอะไร ผมเข้ามาร่วมพูดคุยตามหัวกระทู้น่ะน่ะครับส่วนเรื่องราวความรุ้ต่างๆในกระทู้จะไปถึงไหนต้องขอไว้เป็นโอกาศหน้าอาจจะได้แลกเปลี่ยนความรุ้ประสบการต่างๆร่วมกัน

 

สิ่งต่างนี้เป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัติรย์กรมศิลป์เป็นผู้ดูแลตกหลุนน้อยครับนับองค์ได้ที่ลงขายกันเป็นสิ่งเที่ยมพระปฏิมากรบาปกรรมชั่วลูกหลาน

 

ขอบพระคุณสำหรับการแบ่งปันข้อมูลมาเพื่อพิจาณาครับ
-----------------------
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากเห็นหนังสือที่ทำการบันทึกครับ ถ้าเป็นการบันทึกโดยทางราชการและยิ่งเป็นการบันทึกของนักโบราณดียิ่งจะมีน้ำหนักเชื่อถือได้มากเลยครับ

แต่ถ้าเป็นการบันทึกโดยนักนิยมพระเครื่องทั่วๆ ไป หรือจัดพิมพ์ในหนังสือพระเครื่อง ผมไม่อยากจะนับเป็นเอกสารที่เชื่อถือได้ครับ ด้วยเหตุผลที่ทุกๆ ท่านก็ทราบดีอยู่แล้ว

 

หลักฐานเอกสารการค้นพบและการบันทึกโดยเจ้าหน้าที่ของทางราชการไว้ในระหว่างปี 2523-2525 เป็นสิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดครับ เนื่องจาก 3 ปีนั้นมีการบูรณะวัดพระแก้วและวังหน้า มีคนเขียนกันว่ามีพระหลุดออกมาอย่างมากมายและมีการ "ขโมย" ออกมาขายกันจนเจ้าหน้าที่ทางราชการต้องตามเก็บกลับคืน

ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบนั้นจริง... จะต้องมีบันทึกการตามเก็บกลับมา และควรจะมีนักโบราณคดีได้ศึกษาหาความเป็นมาและจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ในวังหน้าบ้าง... เพราะนักโบราณคดีก็คงจะต้องทำงานวิจัยหรือเอกสารทางวิชาการเพื่อปรับตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน คงไม่ปล่อยให้เรื่องการค้นพบพระวังหน้า หรือวังหลวงผ่านไปเฉยๆ

ดูตัวอย่างพระกรุนาดูนที่พบในจ.มหาสารคาม ยังมีการศึกษาและนำตัวอย่างไปแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจ.ขอนแก่น แล้วโดนขโมยโดยนักศึกษาที่รับจ้างเสี้ยนพระแอบซ่อนในพิพิธภัณฑ์เพื่อขโมยออกมาขาย

ส่วนการจะไปตามหาเอกสารการสร้างพระในสมัยร.5 นั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะผมไม่มีเส้นสายที่จะสามารถเสาะหาได้แบบนั้น แต่ถ้าเป็นเอกสารการค้นพบหรือการยึดกลับจากการถูกขโมยออกไปในปี 2523-25 ก็น่าจะมีการบันทึกไว้ในห้องสมุดของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติตรงวังหน้าตรงนั้นแหละ ... ซึ่งผมหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปถามบรรณารักษ์ห้องสมุดเพื่อค้นหาเอกสารตรงนี้ครับ

 

ศิลปวัฒนธรรม
บันทึกไว้เมื่อ
กันยายน 2524

 

ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลครับ ... จากที่ผมไล่อ่านทุกหน้าที่ท่านส่งมาให้นั้น ไม่มีกล่าวถึงเรื่องมีการค้นพบพระพิมพ์หรือพระเครื่องประดับเพชรพลอยเลย

มองได้ 2 แง่ครับเรื่องนี้คือ
1. ช่างที่ทำอาจจะพบแล้วเก็บเงียบไว้ เพราะเปิดเผยไปว่าพบแล้วนำออกมาก็จะเป็นความผิดอาญาแน่นอน

2. ไม่เคยมีการพบพระเลย

--------------------------
เอกสารที่ท่านช่วยส่งมาให้ผมอ่านตรงนี้ มีบุคคลทางราชการในยุคนั้นที่เป็นคณะกรรมการบูรณะฯ ถ้าหากผมมีวาสนาก็คงจะได้พบท่านเหล่านั้น ได้ไถ่ถามเรื่องพระวังฯ นี้ต่อไปว่ามีหรือไม่มี

 

พบข้อมูลท่านจุลทัศน์ พยาฆรานนท์ ซึ่งที่อยู่ของท่านนั้นอยู่ใกล้ๆ บ้านบิดามารดาของผมเลย ผมจะลองเขียนจดหมายไปหาท่านก่อน เพื่อขอนัดวันเข้าพบเพื่อไถ่ถามเรื่องการค้นพบพระวังหรือไม่ ท่านนี้จะเป็นพยานบุคคลที่ดีที่สุดเลยครับ

ถ้าท่านจุลทัศน์บอกว่า "มีการลักลอบนำออกไป" ก็สรุปได้เลยว่า "พระวังหลวงมีจริง" (ซึ่งผมจะถามถึงพระวังหน้าด้วย) แต่ถ้าท่านบอกว่าไม่มี...ก็เอวังด้วยประการฉะนี้

 

ส่วนตัวผมว่าต้องมีพระหรือวัตถุล้ำค่าที่คนอาจจะนำออกไป แต่สมเด็จวังหน้า หรือพระเครื่องที่ฝังเพชรพลอย ก้างปลา อะไรต่างๆไม่น่ามี ถ้าจะมีก็น่าจะเป็นพวกพระโคนสมอ หรือไม่ก็พระบูชาสมัยอยุธยาต ส่วนพระสมเด็จฝังเพชรพลอย หรือพิมพ์แปลกประหลาดที่หลอกขายกันมีมานานตามแผงที่พระจันทร์ และมีคนนำไปหลอกขายตามต่างจังหวัดหลายๆสิบปีมาแล้ว คนที่ชอบพระ สะสมพระ หรือมีเงินเช่าพระเป็นล้านๆบาท ไม่ได้หมายความว่าจะ"ดูพระเป็น เล่นพระถูก" มันมีปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่จะ"ดูพระเป็น เล่นพระใช่" ไม่ใช่ใครว่าใช่ว่าดี ก็ว่าด้วย ไม่ดูสิ่งแวดล้อม สากล ว่าเขาไปในทิศทางใด คนยุคเก่าแก่ที่มีพระสะสมไว้ ไม่ใช่ว่าจะเป็นพระแท้ทั้งหมด บางครั้งที่เคยเห็นทั้งบ้านมีแต่พระเก๊ บางคนสะสมมาห้าสิบปี พอจะเอาออกมาให้ลูกหลานขายทำทุน พระทั้งหมดเก๊ยกบ้านก็มีมานานแล้วครับ แม้แต่เรื่องปั้นเหน่งของแม่นาคที่สมเด็จโตท่านทำไว้และตกทอดไปไหนต่อไหน ผมก็ไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง น่าจะเป็นเรื่องหลอกลวงเหมือนสมเด็จวังหน้า โดยอ้างสมเด็จโตเพื่อทำการหลอกลวงคนมีเงินที่อยากได้ครับ เอาสมเด็จโต โยงกับแม่นาค เพื่อ "ขายได้"เท่านั้น สุนทรภู่เป็นกวีสมัยร.2-ร.3ทำไมท่านไม่เคยเอ่ยถึงผีแม่นาคเลย ทั้งที่ท่านเป็นนักเลงสุรา นักเลงนารี อย่างน้อยต้องพูดถึงบ้าง และเรื่องแม่นาคเขาว่าเกิดประมาณ ร.2-ร.4 ช่วงนั้นสมเด็จโตท่านไม่น่าจะไปจับแม่นาคนะครับ

 

ถ้าท่านจุลทัศน์ให้ผมเข้าพบ หรือท่านตอบจดหมายผมสั้นๆ ว่า "มี" พระเครื่องพระพิมพ์ถูกนำออกไปก็ฟันธงว่าพระชุดวังนี้ "มีจริงๆ" ส่วนที่จะมีการมาสร้างเสริมเติมแต่งกันมากมายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่ถ้าท่านจุลทัศน์บอกว่า "ไม่มี" ก็จบได้เลยสำหรับพระชุดวังนี้ครับ

 

ตอบไปแล้วนะครับ ว่าไม่มี จากกรรมการและเลขนุการ

ให้ข้อสังเกตุ ตอนนั้นรัฐบาลมีเงินให้กรมศิลปากรเพื่อบูรณะพระบรมมหาราชวังไม่ถึง 100 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการบูรณะ ทางกรมศิลปากร จึงต้องหาทางหาเงิน ถ้ามีพระจริงทำไมไม่นำออกให้บูชากัน คนอยากได้อยู่แล้ว เพราะไม่มีทางกรมศิลปากร จึงจัดสร้างพระแก้วมรกตโลหะขึ้น (ทองคำ เงิน ทองแดง) ชุดแรกหมดอย่างรวดเร็ว จึงต้องมีรุ่น 2 ที่เรียกว่าพระราชศรัทธาขึ้นอีกและก็หมดอย่างรวเร็วอีกครั้งครับ

 

ท่านนี้ ก็ยังมีชีวิตอยู่นะครับ

ผมอยู่ต่างจังหวัด ไม่สามารถเข้าไปสอบถาม
ต้องรบกวนท่านแล้ว



จาก...
h ttp://www.monnut.com/board/index.php?topic=1342.0


เปิดกรุวังหน้า เราอายุประมาณ ๘ หรือ ๙ ขวบมีการสร้างโรงละครแห่งชาติ และบูรณะอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส โดย พณ.ฯ มล. ปิ่น มาลากุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้อนุมัติงบประมาณ เพราะต้องบูรณะใหญ่ต้องรื้อฐานชุกชีกลางพระอุโบสถออก จึงมีการทุบเปิดกรุกลางชุกชีพบพระพุทธรูปมากมายทั้งโลหะใหญ่เล็ก และเนื้อดินเผา ตัวเรา พ่อ แม่ อยู่ในเหตุการณ์วันเปิดกรุ ขณะเจ้าหน้าที่ค่อยๆ ทะยอยหยิบพระขึ้นจากกรุ ด้วยความคุ้นเคยและเห็นหน้าค่าตากันทั้งหมดของในกรุจึงเป็นของหลวงบ้าง ของมึงบ้าง ของกูบ้าง ชิ้นไหนใหญ่มีจุดสังเกต ผู้ใหญ่จ้องมองสอดส่องมากก็เป็นของหลวงไป ส่วนพระเครื่อง พระเนื้อชิน เนื้อเงิน พระดินเผาลงรักปิดทอง เป็นพระพิมพ์ปางต่างๆ ทั้งประประจำวัน เศียรโล้น เศียรเกศ องค์เล็ก องค์น้อย ใครหยิบได้ฉวยได้ก็เอาไป แม่เรากอบทั้งองค์พระและผงก้นกรุใส่ปี๊บกลับบ้านกันเลย สองสามวันหลังเปิดกรุเสร็จท่านอาจารย์ ธนิต อยู่โพธิ์ ปล่อยข่าวว่าพระในกรุเป็นของต้องสาปของกรมพระราชวังบวรฯ ใครเอาไปให้นำกลับมาคืน ทั้งครู ทั้งนักเรียน ทั้งแม่เราหลงเชื่อ นำกลับมาคืนไว้ที่ฐานชุกชีพระประธาน เราไม่คืนเก็บไว้ ๓ องค์ จนทุกวันนี้ พร้อมผงก้นกรุที่แม่เก็บไว้ ๑ ปี๊บ

สวัสดีมีโชคชนะชัย

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

 

ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลครับ ตอนนี้ (2561) ผมพบว่าท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว อยู่ที่วัดในกทม. ครับ