มีท่านใดที่นับถือพุทธเน้นไปทางมหายาน เซน สุขาวดีเเล้วมุ่งบำเพ็ญบารมีโดยไม่ได้บวชไหมครับ

ผมเป็นคนไทยเชื้อสายจีนนับถือพุทธโดยหลักธรรมคำสอนในทางเถรวาทผมก็ยอมรับเเละนับถืออาทิ มรรคมีองค์8 อริยสัจ4 และปฏิจจสมุปบาท ผมคิดว่าการจะละกิเลสตัณหาให้สิ้นการเข้าใจในหลักอริยสัจ4ว่าสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์คือตัณหาจะดับได้ก็อาศัยหลักอิทัปจัยตา คือผัสสะเเละหยุดวกไปในทางสติปัญญาไม่ไปเวทนา ตัณหาอุปทาน ก็จะไม่เกิดภพชาติหลักอันนี้ในทางเถรวาทผมก็พยายามปฏิบัติครับ ส่วนการละสังโยชน์ผมพยายามละให้ได้3ข้อเเรกก่อนครับ เเละนิวรณ์ผมก็ตั้งใจที่จะเมตตาคนไม่โกรธ จิตไม่ฟุ้งซ้าน ส่วนในทางมหายานผมเชื่อเเละศรัทธาในหลักนี้เพราะหลักนี้เชื่อว่าทุกคนสามารถบำเพ็ญหิตานุประโยชน์ บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระโพธิสัตว์ได้ เเละสามารถบรรลุถึงพระนิพพานได้ ผมจึงเคารพพระศรีศากยมุนี พระอมิทพุทธ ไพศัทชยคุรุ เเละพระมัชชุศรีโพธิสัตว์ ผมก็มีปณิธานในการละกิเลสให้สิ้นบำเพ็ญบารมีในทางมหายานโดยเน้นปัญญาบารมี คือศึกษาเรียนรู้ทั้งปัญญาทางโลกเเละทางธรรมให้มากเเละรู้ลึกรู้จริงๆตั้งเเต่เด็กผมเป็นคนที่เรียนเก่งมากน่าจะเพราะมีสมาธิที่ดีอันนำมาซึ่งปัญญาเเละตั้งใจจะเป็นเเพทย์เพื่อใช้ปัญญาในการรักษาเลือดเนื้อเเละชีวิตคนจนได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยสีชมพู
ผมรู้สึกว่าทางมหายานจะมีหลักธรรมที่พื้นฐานไกล้เคียงกับเถรวาทเเต่เเนวทางเป้าหมายที่ปรารถนาที่จะช่วยสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากความทุกข์เป็นการเมตตาต่อผู้อื่น เเละมีเเดนสุขาวดี ของพระอมิทะพุทธ ซึ่งผมก็มีความเชื่อด้านนี้ครับ เเละผมก็ไม่เคยมีเเฟนคืออยากตัดสังโยชน์ข้อกามราคะให้สิ้น บุ่งบำเพ็ญบารมี ส่วนการทำทานวิหารทาน สังฆทานก็ทำบ่อยครับ ส่วนที่ผมตั้งกระทู้คือปกติที่ผมเคยไปฏิบัติธรรมนั้นผมเคยไปนอนในวัดไปปฏิบัติธรรมในวัดเเต่ไม่เคยบวช เพราะการบำเพ็ญบารมีทางมหานยาน ทาน ศีล ญาณ เพียร อดทน ญาน พล อุบาย ไม่มีการบวชเเละผมมองว่าเราสามารถปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวันขอเเค่เรามีหัวใจที่เคารพในพระรัตนตรัยเเละพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เลยอยากเเลกเปลี่ยนว่ามีใครนับถือพุทธเน้นไปทางมหายานเเละไม่บวชเเต่ดำเนินชีวิตเฉกเช่นมหาบุรุษเเบบทางมหายานไหมครับ

 

แนวทางคำสอนของพุทธองค์ มิได้จำกัด เพศ ชนชั้นวรรณะ หน้าที่ สถานะใดๆ ในสังคม

ขอแค่มีจิตตั้งมั่นที่จะประพฤติปฏิบัติเจริญรอยตามแนวทางคำสอน เท่านั้นก็เพียงพอ

สาธุ.. และร่วมขออนุโมทนาบุญในวิถีหนทางที่ท่านได้เลือกแล้วในครั้งนี้ด้วย

ขอเจริญในธรรมครับ

 

ถ้าชาตินี้ท่านจะบำเพ็ญทานบารมีก็กระซิบบอกผมหน่อยละกันนะครับ

 

ลพ.ที่สอนดิฉันปฎิบัติธรรม ท่านบอกว่า ทุกอย่างสำเร็จที่ใจใช่รูปแบบ ทุกคน(ทุกเพศ) สามารถเป็นสมณะได้ ใช่เครื่องแบบที่ใส่ ถ้าฝึกจริงทำจริง มีศรัทธา ทำถูกต้อง ทำเสมอต้นเสมอปลาย ก็หลุดพ้นเหมือนกันหมด

ลพ.ยกตัวอย่าง ผญ ที่บวชไม่ได้เหมือน ผช. ..ลพ.บอกว่านั่นเป็นพระที่บวชในพระปาฎืโมกข์ (และอะไรอีกนิดหน่อยจำไม่ได้ลืม) คือสิ่งที่โยมผญ.ทำไม่ได้เท่านั้น ..

ปล.จขกท เคาะ เว้นวรรคประโยคมั่งก้อดีค่ะ อ่านแล้วตาลาย

 

พระโพธิสัตว์ มีปณิธาน ในการบำเพ็ญเพียร เพียง 4 ข้อ เท่านั้นแหละ..

ลองไปหาศึกษาดูเองนะ..

การโปรดสัตว์ ก็ โปรดสัตว์ ภายใน ก่อน ค่อย โปรดสัตว์ภายนอก..

โปรดสัตว์ภายใน คือ ลด ละ กิเลส ขัด เกลา จิตใจตน นั้นแล..

 

ว่าไงล่ะ แม่ฉวี คำตอบจากพระอาจารย์ท่าน ตอบมาว่ายังไง..

เรารอคำตอบอยู่นะ..

 

"สมณะ" หมายถึง ผู้สงบ ใช่หรือเปล่าล่ะ..

อย่ายก แต่ คำ มาสิ แปลมาด้วย

 

ท่านจะเป็นภิกษุ แล้วเหรอ?

ภิกษุ แปลว่า ผู้ขอ..

แต่ "ภิกษุ" ในพระพุทธศาสนา เป็น ผู้ ขอ โดยไม่เอ่ยปาก ไม่เบียดเบียนใคร..

ถ้าท่าน ขอ โดยการบอกล่วงหน้า หรือเอ่ยปาก

ขอให้เขาบริจาคทานให้ นั้นน่ะ ไม่ใช่ บุคคลผู้เดินตามทาง พระพุทธศาสนา หรือ เป็นการไม่เดินตามทางพระพุทธองค์..

 

เรียน
ท่านนักปรุงในตำนาน
ถ้าเจอผู้บําเพ็ญ ทานบารมี ในชาตินี้
ผมก็อาจจะให้การช่วยเหลือให้สำเร็จด้วยการขอ...บุตร ธิดาเอามา....ไม่บอกเชิญท่านปรุง...ต่ิอให้สนุก

 

รู้จัก บู๊ตึ้ง กับ ง้อใบ๊ ใหม
ลองไปศึกษาดูนะ
น่าจะเข้าทางนะ

 

วันใหนที่ท่านเจอ
ฝ่ามือพระอรหันต์แล้ว
ก็อย่าลืมมาเล่าให้ฟังนะ

 

นับว่าดี ถ้าไม่สะดวกจะบวช อย่าลืมส่งเสริมผู้อื่นบวชแทน

แต่สุขาวดีไม่มีจริงนะ สวรรค์ที่ขึ้นไปแล้วไม่กลับมาเกิดอีก เลื่อนชั้นขึ้นไปเรื่อยๆเนี้ย

 

ขอตอบตาม คหสต. ครับ (อย่าเชื่อนะครับ)
การจะบวช หรือไม่บวชนั้น ผมไม่ห้าม และขออนุโมทนาในการบวชร่วมด้วย แต่ก่อนบวช ท่าน จขกท. ตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า บวชเพราะอะไร ..? บวชเพราะทำตาม ๆ กันมา / เพราะเป็นประเพณี หรือวัฒนธรรมมาแต่ดั้งเดิม / เพราะเชื่อในสิ่งนี้ บาป บุญ หรือเพื่อหนีความวุ่นวายในชีวิต / ท่านลองกลับไปหาคำตอบในใจตัวท่านเองก่อนว่า / ตั้งใจจะบวชเพราะอะไร..? / ผมไม่ได้ห้าม แต่ให้ท่านคิดเองก่อน / เพราะหลักคำสอนพุทธองค์ท่านให้ยึดแนวทาง มิใช่ตัวบุคคล /
ถ้าหากบวชกายแล้วมันทุกข์เพราะมันกระทบกับคนที่อยู่ข้างหลัง(ครอบครัว) ก็อย่าทำ / เพราะจะถือว่าเป็นการเห็นแก่ตัว / ทิ้งความลำบากให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง / เค้าเหล่านั้นคงจะร่วมสรรเสริญท่านที่ทิ้งภาระความลำบากไว้ให้กับเค้าล่ะครับ / ดังนั้น ใช้วิธีบวชใจแทนก็ได้นี่ครับ.. แต่ถ้าท่านมีสมบัติมากมายพอให้ที่คนข้างหลังโดยไม่เดือดร้อนก็ว่ากันไป...ครับ

การฝึก ให้ฝึกที่กายควบคู่กับจิต แต่เน้นฝึกที่จิตเพื่อหลุดพ้น ส่วนกายสังขารต้องทิ้งไว้บนโลกใบนี้ครับ

(อย่าเชื่อในสิ่งที่ผมได้กล่าวไว้แล้วนะครับ แต่ถ้าท่านตกลงใจแล้วว่าจะบวช ผมก็ขอร่วมอนุโมทนาร่วมด้วยครับ สาธุ)

 

ไม่เชื่อหรอกครับ555555

 

อันนี้ ภาษากายกับภาษาใจ แสดงออกไม่สอดคล้องกันนะท่าน 555

 

กายเป็นสมมุติ

ใจเป็นวิมุติ

ไม่ตรงกันอยู่แล้ว..

คืนนั้นที่บอกว่าเทศน์ทางภายใน ก็ เรื่อง กายกับจิต นี้แหละ..

 

อยากรู้ว่ามีจริงหรือไม่ก็ปฏิบัติให้รู้แจ้งเองเลยสิ..

พระพุทธเจ้ายังบอกพระอานนท์เลย ในพระไตรปิฏกก็มีบันทึก..

เรื่องดินแดนทางทิศตะวันตก นั่นไงล่ะ..

 

อันนี้ ก็ กาลามสูตร 10 เลยนะท่าน

 

การจะละกิเลส ก็ ปฏิบัติสมถะ วิปัสสนา นี้แหละ มีเท่านี้

ถ้าชอบทางปัญญาก็พิจารณาธรรมให้มาก พิจารณาไตรลักษณ์ ให้มาก

พอปฏิบัติ มรรคจิต ถึงแล้ว จะรู้กำลังใจตน ว่าปรารถนา อะไรไว้..

ถ้าเป็นพุทธภูมิ ก็จะมีกำลังใจพระพุทธเจ้า มาตัด ทำให้ไม่ยอมละปรารถนาเดิม..

จะรู้ได้ด้วยตนเอง เอง ไม่ใช่มาตั้งปรารถนาแล้วคิดเอง..

มันต้องปฏิบัติไปให้ถึงก่อน ไม่ต้องกลัวนิพพาน..

 

ใช่แล้ว เกิดมาทั้งที มันต้องพิสูจน์ให้รู้ด้วยตนเอง..

เอาให้เต็มที่เต็มความสามารถที่ตนมีอยู่ พิสูจน์รู้ด้วยตนเองเลย..

ได้ไม่ต้องไปถามใครอีก..