คาถา บูชาเสด็จเตี่ย (กรมหลวงชุมพร) - เอื้ออังกูร

อร้ายยยย.. มากัน 4 คน มาให้กำลังใจเราเหรอ วันนี้นะเลขผู้อ่านเป็นเลขประจำตำแหน่งพนักงานเราเลย เต็ง โต๊ด 194 ช่วงนี้เรามีอะไรคิดทุกวัน พวกเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจเรานะ เราเลยขอมอบเพลงนี้ให้และขอเป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่ยังคิดไม่ออกเหมือนเรานะ

 

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ทองเนื้อกษัตริย์ น. ทองคำเนื้อแท้ไม่มีอื่นปน.
ทองเนื้อเก้า น. ทองคำบริสุทธิ์ โบราณกำหนดคุณภาพของเนื้อตั้งแต่เนื้อสี่ถึงเนื้อเก้า โดยตั้งพิกัดราคาตามเนื้อทอง คือ ทองหนัก ๑ บาท ราคา ๙ บาท, ทองธรรมชาติ ทองเนื้อแท้ ทองนพคุณ หรือ ทองชมพูนุท ก็เรียก.
ทองเนื้อแท้ น. ทองคำเนื้อเก้า เป็นทองบริสุทธิ์, ทองเนื้อเก้า ทองธรรมชาติ ทองนพคุณ หรือ ทองชมพูนุท ก็เรียก.
ขา ๒ สลึง, ใช้เฉพาะราคาทองคำที่คิดเป็นราคาเงินบาท เศษที่เป็นสลึง เรียกว่า ขา เช่น ทองคำหนัก ๑ บาท เป็นราคาเงิน ๘ บาท ๒ สลึง เรียกว่า ทองเนื้อแปดสองขา ถ้าเป็นราคาเงิน ๘ บาท ๓ สลึง เรียกว่า ทองเนื้อแปดสามขา.
ทอง ๑ น. ธาตุแท้ชนิดหนึ่งเนื้อแน่นมาก สีเหลืองสุกปลั่ง เป็นโลหะมีค่า, เรียกเต็มว่า ทองคำ, โบราณกำหนดคุณภาพของเนื้อ ตั้งแต่เนื้อสี่ถึงเนื้อเก้า โดยตั้งพิกัดราคาตามเนื้อทอง เช่น ทองเนื้อหก คือ ทองหนัก ๑ บาท ราคา ๖ บาท ทองเนื้อเก้า คือ ทองหนัก ๑ บาท ราคา ๙ บาท. (ประกาศ ร. ๔), ทองเนื้อเก้านี้เป็นทองแท้เป็นทองบริสุทธิ์ เรียกว่า ทองธรรมชาติ ทองเนื้อแท้ ทองนพคุณ หรือบางทีเรียกว่า ทองชมพูนุท เช่น ดังทองชมพูนุทเนื้อเก้า (สังข์ทอง ตอนตีคลี)
ทองชมพูนุท น. ทองคำเนื้อเก้า เป็นทองบริสุทธิ์ มีสีเหลืองเข้มออกแดง, ทองเนื้อเก้า ทองธรรมชาติ ทองเนื้อแท้ หรือ ทองนพคุณ ก็เรียก.
ทองดอกบวบ น. ทองเนื้อหก มีสีเหลืองอ่อนคล้ายดอกบวบ.
ทองธรรมชาติ ๑ น. ทองคำเนื้อเก้า เป็นทองบริสุทธิ์, ทองเนื้อเก้า ทองเนื้อแท้ ทองนพคุณ หรือ ทองชมพูนุท ก็เรียก.
ทองนพคุณ น. ทองคำเนื้อเก้า เป็นทองบริสุทธิ์ โบราณกำหนดราคาตามคุณภาพของเนื้อทอง หนัก ๑ บาท เป็นเงิน ๙ บาท เรียกว่า ทองเนื้อเก้า หรือ ทองนพคุณเก้าน้ำ, เรียกสั้น ๆ ว่า ทองนพคุณ, ทองธรรมชาติ ทองเนื้อแท้ หรือ ทองชมพูนุท ก็เรียก.
นพคุณ (นบพะ-) น. ทองคำเนื้อเก้า เป็นทองบริสุทธิ์ โบราณกำหนดราคาตามคุณภาพของเนื้อ หนัก ๑ บาท เป็นราคาเงิน ๙ บาท เรียกว่า ทองเนื้อเก้า หรือ ทองนพคุณเก้านํ้า, เรียกสั้น ๆ ว่า ทองนพคุณ.
เนื้อ ๑ คุณสมบัติของเนื้อทองคำและเงินเป็นต้น เช่น ทองเนื้อเก้า เงินเนื้อบริสุทธิ์
เนื้อ ๑ ราคาทองคำเป็นเงินบาทตามคุณภาพของเนื้อทอง เช่น ทองคำหนัก ๑ บาท เป็นราคาเงิน ๘ บาท เรียกว่า ทองเนื้อแปด, ถ้าเป็นราคาเงิน ๙ บาท เรียกว่า ทองเนื้อเก้า หรือ ทองนพคุณเก้าน้ำ
สุก ๑ ปลั่งเป็นมันแวววาว เช่น ทองเนื้อสุกดี.

 

ชายเห็น..ก็ทนไม่ได้ ฮิฮิ


อะไรนะ ทนไม่ได้..รำคาญ

 

วิธีจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน 2566 รวมของไหว้คาว หวาน ผลไม้มงคล และวิธีไหว้ครบ!

วันตรุษจีน 2566 วันตรุษจีนถือเป็นวันสำคัญมากวันหนึ่ง ของชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ที่พำนักในประเทศไทย เพราะวันตรุษจีนเปรียบเหมือนเป็นวันขึ้นศักราชใหม่ หรือปีใหม่ของชาวจีนนั่นเอง โดยในปี 2566 วันตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20-22 มกราคม 2566 เป็นวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว ตามธรรมเนียม และเพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่ครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน หรือคนเชื้อสายจีนแท้ๆ ที่อยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนี้จะมีความสนุกและตื่นเต้น และจะมีการจัดเตรียมโต๊ะไหว้ตรุษจีนทั้งอาหารคาว หวาน ผลไม้มงคลต่างๆ ชุดเครื่องไหว้ ซาแซ โหงวแซ
นอกจากพิธีกรรมดังกล่าวนี้ ยังถือเป็นการรวมตัวพี่น้องเครือญาติและคนในครอบครัวได้พบปะสังสรรค์ ไหว้ตรุษจีนอย่างพร้อมหน้ากันอีกด้วย




ตรุษจีน 2566

วันจ่าย ตรงกับ วันที่ 20 มกราคม 2566
วันไหว้ ตรงกับ วันที่ 21 มกราคม 2566
วันเที่ยว ตรงกับ วันที่ 22 มกราคม 2566 (วันตรุษจีน)

การจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน

วิธีการจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน แต่ละบ้านอาจจะไม่เหมือนกัน ตรงนี้แล้วแต่ความสะดวก ไม่มีถูกและผิด

1. จัดโต๊ะที่หน้าเทวรูป หรือแท่นบูชา
2. วางกระถางธูปไว้ด้านในสุด ควรจัดให้อยู่หน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา
3. วางเชิงเทียนขนาบซ้าย-ขวาของกระถางธูป
4. วางโถกำยานไว้ด้านหน้ากระถางธูป
5. วางแจกันดอกไม้ขนาบซ้ายขวาโถกำยาน แต่อย่าให้บังเชิงเทียน ถ้าที่บ้านไม่มีโถกำยานสามารถวางแจกันดอกไม้ขนาบเชิงเทียน
6. วางถ้วยน้ำดื่มไว้ด้านหน้าโถกำยาน
7. วางถ้วยน้ำชา ถ้วยเหล้า ด้านหน้าถ้วยน้ำดื่ม และจำนวนของเหล้าและน้ำชาต้องเท่ากับน้ำดื่มส่วนใหญ่จะเท่ากับจำนวนบรรพบุรุษ แต่ไม่เกิน 5 ถ้วย
8. วางอาหารคาว กับข้าวหน้าถ้วยน้ำชาหรือถ้วยเหล้า เลือกอาหารที่เป็นมงคลมาวาง รวมถึงข้าวสวยพูนๆ 2 ถ้วย
9. วางเนื้อสัตว์ 3 อย่าง ซาแซ หรือเนื้อสัตว์ 5 อย่าง โหงวแซ ไว้ด้านหน้าของเครื่องคาว หันหน้าในทิศทางเดียวกัน
10. วางผลไม้ ของหวานหน้าเนื้อสัตว์ เลือกเป็นมงคลมาแล้ว 3 หรือ 5 อย่าง ทั้งนี้ ของคาว ของหวานและผลไม้ต้องมีจำนวนเท่ากันเสมอ แต่ไม่จำเป็นต้องเท่ากับน้ำดื่ม เหล้า หรือน้ำชา
11. วางกระดาษเงินกระดาษทองสุดท้าย

วิธีการไหว้ตรุษจีน
โดยพิธีการไหว้ตรุษจีนนั้นจะมีการไหว้ 3-4 ชุด เริ่มจากไหว้เจ้าที่ เทวดาที่ดูแลคุ้มครอง ในช่วงเช้าด้วย ชุดซาแซ คือ หมู เป็ด ไก่ และขนมเช่น ขนมเทียน ขนมถ้วยฟู หรือขนมอื่นๆ เลือกใช้สองถึงสามชนิด ผลไม้ใช้ส้มสีทอง องุ่น แอปเปิ้ล พร้อมกับกระดาษเงินและกระดาษทอง

เวลาไหว้ตรุษจีนที่พึงกระทำ
ช่วงเช้าไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

• ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช้ธูป 3 ดอก

เป็นการไหว้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพเทวดาผู้คุ้มครองบ้านเรือน ที่มาปกปักดูแลให้เจ้าบ้านอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข


ช่วงสายไหว้บรรพบุรุษ

• ไหว้บรรพบุรุษใช้ธูป 3 ดอก

เป็นการไหว้เพื่อระลึกถึงญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว ทั้งยังเป็นการแสดงความกตัญญูตามความเชื่อของชาวจีน ด้วยซาแซ อาหารคาว-หวาน รวมถึงเผากระดาษเงิน-กระดาษทอง พร้อมเสื้อผ้าให้กับบรรพบุรุษ ไม่ควรเกินเวลาเที่ยง

ช่วงบ่ายไหว้ทำทานแก่สัมภเวสี

• ไหว้สัมภเวสี ใช้ธูป 1 ดอก

สำหรับการไหว้ทำทานแก่ผีไม่มีญาติหรือสัมภเวสีนั้น จะทำพิธีไหว้ตอนบ่ายเป็นต้นไป ไม่ควรเกินบ่ายสี่โมงเย็น
ให้ไหว้ทำทานด้วย ข้าว ของคาวหวาน ขนมต่างๆ พอไหว้เสร็จ ให้จุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปให้หมด และเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับตรุษจีน

ไหว้เทพเจ้าขอโชคลาภ ในยามดึก

• ไหว้เจ้าให้ใช้ธูป 5 ดอก

โดยฤกษ์ไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ให้เริ่มทำในยามแรกของปี ได้เลยนั่นคือ เวลา 23.00-01.00 น. โดยให้ตั้งโต๊ะสักการะหันไปทางทิศตะวันออกเพื่ออัญเชิญเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาประทานพรเพื่อความเป็นสิริมงคล

ของไหว้ตรุษจีน ประกอบไปด้วย
ถ้าหากเราไหว้ 3 อย่างจะเป็น
(ซาแซ) ประกอบด้วย หมูส่วนสะโพกติดหนัง (บะแซหรือบะแซะ) เป็ด (พร้อมเครื่องใน) ไก่ (พร้อมเครื่องใน)


ถ้าหากเราไหว้ 5 อย่างจะเป็น
(โหงวแซ) ประกอบด้วย หมู (บะแซหรือบะแซะ) เป็ด (พร้อมเครื่องใน) ไก่ (พร้อมเครื่องใน) ปลาทั้งตัว หรืออาหารทะเล (เช่น หมึกแห้งทั้งตัวไม่ต้องต้ม กุ้งต้มสุก ปูต้มสุก หรือหอยลวกสุก) หรือตับ

ของคาวไหว้ตรุษจีน ความหมาย
ไก่ ที่หมายถึง ความสง่างาม ยศ และความขยันขันแข็ง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องเป็นไก่เต็มตัว หมายถึง มีหัว ตัว ขา ปีก มีความหมายถึง ความสมบูรณ์

เป็ด หมายถึง สิ่งบริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย
หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้
หมึก หมายถึง เหลือกิน เหลือใช้ (เหมือนปลา)
ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์
บะหมี่ยาว หรือมี่สั้ว หรือฉางโซ่วเมี่ยน ตามชื่อหมายถึง อายุยืนยาว

ผลไม้ไหว้ตรุษจีน ความหมาย
องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน
กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา และขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
แอปเปิ้ล หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ
ส้มสีทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
สาลี่ หมายถึง โชคลาภที่กำลังจะมาถึง (ควรระวังไม่นิยมนำมาไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ)

ของหวานไหว้ตรุษจีน ความหมาย
ขนมเข่ง คือ ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์
ขนมเทียน คือ มีความหมาย หวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลม มีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์
สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่งร่ำรวย
ขนมถ้วยฟู คือ ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง เฟื่องฟู
ขนมไข่ คือ ความเจริญเติบโต
ขนมสาลี่ คือ รุ่งเรือง เฟื่องฟู
จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง ปิ่นโต หมายถึงความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป
ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน

สรุปบทส่งท้าย

ช่วงเช้าเมื่อเราไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อย จากนั้นในช่วงสายไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งเครื่องไหว้จะประกอบด้วย ชุดซาแซ อาหารคาวหวาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกอาหารตามที่บรรพบุรุษชอบ
อย่างมากจะมีประมาณ 10 อย่าง โดยที่นิยมให้มีคือ น้ำแกง เพื่ออวยพรให้ชีวิตราบรื่น ส่วนกับข้าวและขนมหวานต่างๆ ก็จะเลือกที่มีความหมายมงคลต่างๆ ตามแต่สะดวก

ทั้งนี้หลังจากการไหว้บรรพบุรุษเรียบร้อย จะเป็นการไหว้ผีไม่มีญาติทำทานในช่วงบ่าย
และสุดท้ายช่วงกลางดึกในวันเดียวกันจะมีการไหว้ 'เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย' หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เพื่อขอโชคลาภเป็นธรรมเนียมในขั้นตอนต่อไป ก่อนเข้าสู่วันตรุษจีนอย่างเป็นทางการนั่นเอง.

ที่มา : https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2597525
ภาพ : https://pantip.com/topic/39911498

 

งวดที่ผ่านมา มีใครโชคดีบ้าง...ใครได้ก็ต้องมาเลี้ยงน้ำเลี้ยหนมกันบ้างนะพูดถึงน่ะ เราพาแม่กะพี่ไปวัดหลวงพ่อพัฒน์ วัดธารทหาร (วัดห้วยด้วน) มาล่ะ แต่ไม่พบท่านนะ พอดีท่านเข้าโรงพยาบาลมา 15 วันล่ะ ทางไปวัดเป็นทางหลวงหมายเลข 119 ด้วยนะ ทีนี้พอไปถึงวัดเราก็ไปกราบรูปหล่อของท่าน มีจับเสี่ยงทางไข่ด้วย ก็จับเลย 3 ครั้ง ได้เลขอะไรรู้ไหม ไข่ใบแรกเลข 1 (คือตั้งใจจะไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเลยล่ะ พอได้เลข 1 ใจหายเล็กๆ จะออกไหมนะเลขนี้) พอไข่ใบที่ 2 เลขที่ออก เลข 1 อีกแล้ว (ใจหายมากขึ้นอีก) ไข่ใบที่ 3 แท่นแท้นแท้นนนนนนน.... เลข 1
ป๊าดดดด สรุป 111 พระเจ้าจอร์ช มันยอดมากกกกกกก

อันความตั้งใจเดิมจะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หาเลขไม่ได้ จึงจำเป็นต้อง.... ความละโมบต้อง 3 ตัวสิค่ะ 119 ล่ะกัน 2 ตัวไม่ดีกว่า เป็นไงล่ะเลขที่ออก จบข่าวสำหรับวันนี้ หมาหน้าม้า..รายงาน

 

ฮืม..ใครกันนะ ฉลอง 80,000 คนอ่าน วันนี้ให้นินทากันเต็มที่เลย 1 วัน เราจะไม่โกรธ

 

อยากทำแบบนี้ ใครทำอยู่บ้าง....ยกมือขึ้น

 

วันสุข..ฮิฮิ ยิ้มแบบพิจารณาทุกข์ (สุข)

 

เราเปิดรับสมัครแฟน ใครสนใจเป็นแฟนเราเงื่อนไขต้องเต้นเพลงโดนัทมีรูให้เราเพื่อพิจารณา..
อะไรนะ!!!! ปิดรับสมัครไปเลย ไม่มีใครสนใจตั้งแต่ข้อแรกแล้ว
เธอๆ คนที่กำลังอ่านเนี่ย เธอลองดูท่าเต้นก่อนไหม เผื่อจะสนใจง่ะ เธอ เธอ เธอ จะรีบไปไหนอ่ะ กลับมาดูท่าเต้นสิ โถ่

 

55555 ฮิฮิ

 

หายไปกันหมดเลยนะ แค่ให้เต้นแค่นี้ ยังเหลืออยู่ 1 คน ดีล่ะ เราจะเล่าอะไรแปลกๆ ให้ฟังนะ

เราเคยเล่ามาครั้งนึงแล้วว่า เมื่อครั้งพ่อของเราเสียหลังจากจัดงานศพเรียบร้อยที่ต่างจังหวัด เมื่อเรากลับมาบ้านที่กทม. เชื่อไหมหูของเราแว่วได้ยินแต่เสียงสวดมนต์ ชัดเจนมาก เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 3 อาทิตย์ถึงหายไป เราแปลกใจแต่เราคิดว่าเป็นเพราะเราฟังเสียงสวดงานศพพ่อหรือเปล่า จึงติดหูมา

แต่เมื่อไม่นานมานี้ไม่เกิน 2 เดือน เราได้รับประสบการณ์นี้อีกแล้ว ที่บ้านในห้องนอน คือเรานั่งสมาธิก่อนนอนบนที่นอนในห้องนอนนี่แหละ (เกือบทุกคืน) วันนั้นหลังจากนั่งสมาธิและแผ่เมตตาเรียบร้อยเป็นปกติ หูเราได้ยินเสียงสวดมนต์ ดังชัดเจนมาก ซึ่งไม่ใช่จากเพื่อนบ้านแน่นอนอยู่มาก็สิบกว่าปีแล้วบ้านนี้ ที่สำคัญไม่ได้ดังจากข้างนอก ได้ยินจากข้างใน เราตั้งใจฟังว่าเป็นบทอะไร เราได้ยินประโยคที่ว่า "อะสังคะหิเต อะสังคะหิตัง" ชัดเจน

หลังจากนั้น เราก็ถามอาจารย์กูเกิล ปรากฏว่าเป็น "พระธาตุกะถา" ที่เราเคยได้ยินกันในงานศพนั่นแหละ ดังนี้นะ


พระธาตุกะถา

สังคะโห อะสังคะโห ฯ สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง อะสัง-
คะหิเตนะ สังคะหิตัง สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง อะสังคะหิเตนะ
อะสังคะหิตัง ฯ สัมปะโยค วิปปะโยโค ฯ สัมปะยุตเตนะ วิปปะ-
ยุตตัง วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง อะสังคะหิตัง ฯ

คำแปล พระธาตุกถา

การสงเคราะห์ คือรวมเข้าเป็นหมวดหมู่เดียวกันได้ การไม่สงเคราะห์ คือไม่รวมเข้าเป็นหมวดหมู่เดียวกัน หมวดธรรมที่สงเคราะห์เข้ากันได้ เพราะเป็นฝ่ายเดียวกัน แต่สงเคราะห์เข้ากันไม่ได้ กับหมวดธรรมฝ่ายอื่น หมวดธรรที่สงเคราะห์เข้ากันไม่ได้เพราะต่างฝ่ายกัน แต่สงเคราะห์เข้ากันได้กับหมวดธรรมฝ่ายเดียวกัน หมวดธรรมที่สงเคราะห์เข้ากันได้ เพราะเป็นฝ่ายเดียวกัน ก็สงเคราะหเข้ากันได้ กับหมวดธรรมฝ่ายเดียวกันทั้งหมด หมวดธรรมที่สงเคราะห์กันไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายกัน ก็สงเคราะห์เข้ากันไม่ได้กับหมวดธรรมต่างฝ่ายกันทั้งหมด

ความสัมปโยคประกอบกัน คือความมีเกิดดับ มีวัตถุที่ตั้งและอารมณ์เป็นอันเดียวกัน ความวิปโยคไม่ประกอบคือพรากกัน เพราะผิดส่วนกัน จึงต่างเกิดต่างดับเป็นต้น หมวดธรรมที่สัมปยุตประกอบกันได้ก็วิปยุต ไม่ประกอบกันหมวดธรรมประเภทอื่น หมวดธรรมที่วิปยุต ไม่ประกอบกันแล้ว ก็สัมปยุตประกอบกันอีก หมวดธรรที่ไม่สงเคราะห์เข้ากัน

*******************************************************************************************
ซึ่งเดี๋ยววันนี้ เราจะพยายามทำความเข้าใจกับบทคาถานี้ให้ลึกซึ้ง (ก่อนหน้านี้ก็พยายามแล้วแต่ยังไม่เข้าใจ) บางทีคิดนะ เราไม่ได้กลัวนะว่าบทคาถาที่เราได้ยินเป็นบทสวดมนต์งานศพ เพราะเราคิดว่าทุกคนก็ต้องตาย มันดีสะอีกที่เราได้พิจารณาถึงความตาย คือเตรียมพร้อมจิตใจดั่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ระลึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออกนั่นเอง

นี่ก็คือเรื่องแปลกของเราอีกเรื่องหนึ่ง ยังมีอีกนะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกถ้าอยากฟังนะ