User Interface Design & Human Computer Interaction สำหรับพระไตรปิฏก ภาคทฤษฏี

เดือนหน้าเราจะเริ่มลงมือ ภาคปฏิบัติ ใส่เนื้อหาพระไตรปิฎก.
ก่อนเราเริ่มงานกัน พี่ขอปูพื้นอธิบายภาคทฤษฏีก่อนแล้วค่อยลงภาคปฏิบัติ
ในหัวข้อ User Interface Design & Human Computer Interaction สำหรับ เนื้อหา ของ พระไตรปิฎก

----------------------------------------------------------------

ใส่เนื้อหาพระไตรปิฏกภาษาไทย
(Tripitaka Database & User Interface design for Database)

-----------------------------------------------------------------


- เกริ่น เรื่อง ทั่วไปเกี่ยวกับ Internet
- เกริ่นพระไตรปิฎก

- ผมจะมาอธิบายหลักการทั่วไปและความรู้ที่ต้องรู้ไว้ คือ ขาดไม่ได้...จะไม่รู้ไม่ได้เลย ......

<TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=247>1) หลักการที่ควรรู้</TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD width=247></TD><TD>1) User Interface Design (UID)</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=247></TD><TD>1.1)Graphical User Interface (GUI)</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=247></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD width=247 height=38></TD><TD height=38>2) Human Computer Interaction (HCI)</TD><TD height=38></TD></TR><TR><TD width=247></TD><TD>HCI คือ อะไร สำคัญอย่างไร







</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=247></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD width=247></TD><TD>- 2.1) ฝั่งของ Computer คือ สิ่งที่เราออกแบบไว้ (UID)
หลักการออกแบบสิ่งต่างๆให้ผู้ใช้
และ การใช้สี การเน้นคำ
- 2.2) ฝั่งของมนุษย์
จิตใจอารมฌ์
การเห็นสีและอารมฌ์
ธรรมชาติความเข้าใจของคน
สมอง ความนึกคิด
ระบบสมอง
เรื่องของสายตาในการมองและอ่าน
พฤติกรรมของคน
สิ่งสำคัญ
ความผิดพลาด







</TD><TD rowSpan=2></TD></TR><TR><TD width=247 height=39></TD><TD height=39>ตัวอย่าง การออกแบบในโลกของจริงที่ประสบความสำเร็จ</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=247>2 ) ภาคปฎิบัติ ตอนทำพระไตรปิฏก







</TD><TD>- อธิบายเรื่องการร่วมงานและการพัฒนาพระไตร
- อะไรควร, อะไรไม่ควร
- อะไรคือจุดเด่นของเรา
- อนาคต.......






</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
แล้วผมจะมาต่อนะครับ
เขียนร่างสื่งที่อยากเขียนไว้ก่อน จะมาอธิบายขยายยาวๆ ในแต่ละหัวข้อ

 

ในอดีต Computer ออกแบบมาให้งาน สำหรับ นักวิทยาศาสตร์, programmerและ วิศวกร ใช้กันวงแคบๆ
และใช้งานได้ยาก ต้องเรียนรู้นาน

ยุคต่อมาเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วได้ริเริ่มออกแบบ Computer ให้สำหรับคนทั่วไปใช้
ให้ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

กลุ่มคนทั่วไป คือกลุ่มคนมีปริมาณมาก ไม่มีความรู้ทาง Computer มาก จึงต้องแบบให้ใช้งานง่ายๆ

สมัยก่อนๆ การควบคุมทาง software ให้ Computer จะใช้ Command-line interface (CLI)
เช่น Dos พอคนเปิด Computer มาจะเป็นจอเขียวๆ
ผู้ใช้ต้องพิมพ์และรู้คำสั่ง มันจึงจะทำงาน ก็ยังใช้งานไม่ง่าย

สมัยต่อมาจึงพัฒนามาเป็น Graphical user interface (GUI) ทำการควบคุมสั่งงาน โดยรูปภาพ เช่น Mac , MS Windows
ทำให้ Computer ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม
และไ้ด้รับความนิยมมากขึ้นกว่าในอดีต


Internet เกิดมานานแล้วเมื่อก่อนใช้วงแคบๆ เช่นวงการทหาร แต่เพิ่งมาใช้กันอย่างกว้างขวางทั่วโลกมาเมื่อไม่กี่ปีเอง
นับว่ายังใหม่อยู่ สิ่งอะไรต่างๆจะเกิดขึ้นอีกมากมาย
โอกาสเกิดต่างๆก็มีมาก โครงการเราก็อาศัยข้อดีของInternetและเริ่มต้นสร้างผลงานพระไตรปิฎก web version เผยแผ่พุทธศาสนาในยุคต้นๆของ Internet


พระไตรปิฎก
ที่เรากำลังสร้างกลุ่มเป้าหมายหลัก เป็นกลุ่มคนทั่วไป คือกลุ่มคนมีปริมาณมาก
จึงต้องแบบให้ใช้งานง่ายๆ และมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าของในอดีตและให้ได้รับความนิยม

วิชาการจะออกแบบ User Interface พระไตรปิฏก web version ให้ได้บรรลุเป้าหมายข้างต้น
คือ User Interface Design & Human Computer Interaction
ผมจะเขียนบรรยายเป็นหัวข้อย่อยๆในแต่ละโพส ค่อยๆเขียนเติมวันละนิดหน่อย
จะบรรยายเฉพาะ ความรู้ที่จะนำมาใช้งาน

 

อธิบายคำศัพย์ภาษาอังกฤษ

- User คือ ผู้ใช้

- Interface [ N ] พื้นที่ร่วมของสองสิ่ง</B>
[ Related ]อินเตอร์เฟส, จุดที่สองสิ่งสัมผัสกัน
เช่น มีกล่องสี่เหลี่ยมสองใบ เราเอามาวางแนบติดกัน
ส่วนที่แนบติดกันของ ทั้งสองกล่อง เราเรียกตรงนั้นว่า Interface

- Human [ N ] มนุษย์</B>
[ Related ]คน, คนเรา

- Human [ ADJ ] เกี่ยวกับคน</B>
[ Related ]เกี่ยวกับมนุษย์

- Interaction [ N ] ปฏิกิริยา</B>
[ Related ]การมีปฏิสัมพันธ์, การสื่อสารระหว่างกัน, การทำงานร่วมกัน [ Syn ]collaboration; interplay; synergy

 

User interface =


----------------------------------
User interfaces in computing =


ชนิด

-Command-line interface =

-Graphical user interface =

-Web-based user interface =


xxxxxxxxxxxxx

 

ดีใจที่มาอ่าน ตอนแรกนึกว่าไม่มาอ่านซะแล้ว
เพราะว่าเป็นงานเขียนสำคัญ

 

ขอติดไว้อีกสักพักสั้นๆ ช่วงนี้ยังติดธุระอยู่

 

กลับมาต่อแล้วครับ

เอาเป็นว่า กระทู้นี้สำหรับทุกคน

แต่คนที่อ่านแล้วนำมาใช้งานโดยตรงคือ ทีมพระไตรปิฏก

 

เดิมทีผมกะว่าจะเขียนกระทู้นี้ให้ละเอียดๆ ออกเชิงวิชาการและผสมเรื่องเล่าและยกตัวอย่างของจริง

ตอนนี้เวลาไม่ค่อยมีเวลา ขอเขียนแบบย่อๆ แบบที่จะนำมาใช้งานของเรา
และอื่นๆจะเอาไปอธิบายในตอนใช้งานจริงๆ..........

 

วันนี้ขอปลอมตัวมาเป็น ศ.ดร. WebSnow จากจักรวาลคู่ขนาน มาอธิบายอะไรต่างๆ

เรื่องที่จะเขียน

1. ความสำคัญของ User Interface Design & HCI
2. User Interface Design (UID)
3. Human Computer Interaction (HCI)
4. UID & HCI สำหรับพระไตรปิฎก Web Version

 

1. ความสำคัญของ User Interface Design & HCI

ขอแนะนำก่อนว่า 2 สิ่งนี้คืออะไร

1) User Interface Design

User Interface คือ สิ่งที่ผู้ใช้สัมผัสหรือกระทำการควบคุมในการทำงาน

ตัวอย่าง User Interface ที่เกี่ยวกับ computer
User = ผู้ใช้
Interface = mouse , keyboard, จอภาพ, ปุ่มต่าง, Icons, graphic ต่างๆที่ผู้ใช้ ใช้ควบคุมให้ software ทำงาน

User Interface + Design คือ การออกแบบ Interface ให้กับผู้ใช้
เช่นการออกแบบ รูปปุ่ม Icons ต่างๆให้ผู้ใช้กดเพื่อให้ software ทำงาน

2) Human Computer Interaction (HCI)
คือ ปฏิกิริยาระหว่างมนุษย์ กับ Computer

ตัวอย่าง เช่น คนเดินมานั่ง เปิดเครื่อง computer แล้วใช้ computer เพื่อ print งาน

- ก่อนคนมานั่งโต๊ะเพื่อใช้งาน เขาคิดอะไรก่อน ตอนเดินมา เขามองเห็นอะไรก่อน
- กดปุ่มด้วยมือไหน ใช้นิ้วอะไรกด นั่งก่อนกดหรือกดแล้วค่อยนั่ง
- เมื่อนั่งแล้วเปิดเครื่องแล้ว นั่งโต๊ะท่าไหน นั่งอย่างไร
- พอใช้ งาน computer แล้ว เขาทำงานprintงานได้ไหม
เขาหงุดหงิดไหม ใช้เวลานานเท่าไหร่
- ขั้นตอนต่างๆของเขา ในการควบคุมที่เขากำลังใช้ software
- software ที่คนกำลังใช้ ใช้งานง่ายไหม สีสรรค์ทำให้แสบตาหรือทำให้มองเห็นไหม สื่อสารออกมาคนเข้าใจไหม...

วิชานี้ได้กำเนิดมาในวงการ computer 10 กว่าปีหรือ20ปีต้นๆ
สมัยก่อนจะมีสอนในสาขา วิทยาศาสตร์ computer ระดับสูงๆ ตั้งแต่ระดับปริญญาโทขึ้นไปจนถึงปริญญาเอก....
ผ่านมาไม่กี่ปีนี้ มีให้เรียนในตรี มีเป็นสาขาเอกให้เลือก แบบจบมาทาง HCI.

งานในปัจจุบัน บุคคลากรตำแหน่ง HCI เฉพาะด้าน จะมีอยู่เฉพาะในองค์กรใหญ่ๆหรือบริษัทใหญ่ๆ เช่น microsoft, google, yahoo เป็นต้น

ยอดบุคคลากรที่ทำงานทางด้าน HCI เขาจะทำงานการทดลองคิดค้น การควบคุม computer หรือ software อะไรแบบใหม่ๆไม่ยังไม่เกิดขึ้นในโลก...


*************************************

ความสำคัญ

การออกอะไรให้ผู้ใช้งาน จะประสบความสำเร็จดีหรือไม่
สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ User Interface Design & HCI
เป็นเรื่องที่สำคัญมาก

ยกตัวอย่าง
บริษัทหนึ่ง ผลิตและออกแบบ Computer (Hardware) ขาย

ความสำคัญอันดับ 1 คือ ประสิทธ์ภาพการทำงานของ computer
ความสำคัญอัน 2 คือ User Interface Design & HCI

ถ้าผลิต computer มาแล้ว ใช้งานยากมาก ทำให้คนใช้ไม่เป็น และเป็นผลเสียต่อสุขภาพ คนก็ไม่เลือกใช้ คนไม่ซื้อ

สรุปง่ายๆ ออกแบบมาเพื่อให้คนใช้งาน แต่คนไม่ค่อยใช้หรือใช้ไม่เป็น ทำให้ขายไม่ได้ พอขายไม่ออกบริษัทก็เจ๊ง

เหมือนสมัยก่อนๆ เมื่อ 20 กว่าปีหรือ30ปีที่แล้ว ในตอนที่ computer ยังไม่บูม
computer ใช้งานยากมากๆ คนที่จะใช้เป็น ต้องศึกษาการใช้งานนาน ต้องเป็น นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรจึงจะใช้เป็น คนเลยใช้น้อย

พอเขาใช้ ความรู้ทางด้าน User Interface & HCI เข้ามาช่วย
ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
เลยเป็นเหตุผลหนึ่ง ทำให้ computer ขยายและเป็นที่นิยมมากขึ้นไปทั่วโลก


*************************************************

ตัวอย่างเรื่องจริงของการแข่งขัน ระหว่าง Windows NT & UNIX & Netware
เรื่องของความสำคัญ ทาง ด้าน HCI & User Interface Design
ที่มาก่อนประสิทธิภาพการทำงาน

สมัยก่อนเมื่อ 6-7 ปี เราคงเคยได้ยิน ระบบ Unix, Netware เป็น Software หรือ Operrating system
สมัยก่อนนั้น คนใช้ Windows กันมาก แต่ Windows NT ยังไม่ค่อยบูม
Windows เหมาะสำหรับคนทั่วไป

ส่วน UNIX & Netware
จะดีสำหรับ Networking คุณสมบัติและประสิทธิภาพการทำงานทางด้าน Networking เหนือกว่า Windows NT มาก

ตาม office บริษัทต่างๆ และองค์กรณ์จะใช้ Unix และ Netware
สำหรับ network

ถ้าใครเคยใช้งาน UNIX จะรู้ว่าเกี่ยวกับ network ไปไกลมาก
เพราะว่าคุณสมบัติมีมากกว่า ทำงานได้มากกว่า ลึกกว่า Window NT

คำพังเพย เขาว่าไว้ Unix สำหรับผู้ใหญ่ Windows NT สำหรับเด็กๆ

แต่ Unix นี่ใช้งานยาก ต้องเรียนรู้นาน คนใช้เป็นไม่มาก

ถ้าใช้งานบางอย่าง ถ้าเทียบการเรียนรู้
เรียนใช้งาน Unix 1 ปี
เท่ากับ เรียนใช่งาน Windows 3 เดือน



พอมาช่วงหลังๆ คนหันมาใช้ Windows NT หลังๆและต่อ Windows 2000 สำหรับ Neetwork ใน Office
มากกว่า Unix และ Netware
ส่วน Netware ตายเลย

แม้ตอนนั้น Windows จะมีประสิทธิภาพและคุณสมบัติ เรื่อง Networking น้อยกว่า Unix มากเลย

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Windows ประสบความสำเร็จและคนหันมาใช้ Windows สำหรับ networking ใน office
คือใช้งานได้ง่ายกว่าและผูใช้เรียนรู้ได้เร็วกว่า

ตัวอย่างนี้ คือ คนให้ความสำคัญ User Interface Design & HCI มากกว่า ประสิทธิภาพหรือคุณสมบัติในการทำงาน

---------------------------

เรื่อง User Interface Design & HCI มีความสำคัญขนาดที่ว่า
เมื่อปีก่อนๆ ตอนผมยังไม่ได้สร้างพระไตรปิฎก คนอื่นๆก็ยังไม่ได้เห็นผลงงาน

...ผมมีความมั่นใจแล้ว ประกาศไปว่า "จะสร้างพระไตรปิฎกให้ดีที่สุดในโลก"...

หวาดเสียวนะประกาศแบบนั้น ต้องมั่นใจมากๆจึงประกาศได้

ที่มั่นใจประกาศแบบนั้นได้ เหตุผลหนึ่ง ก็เพราะว่าเรามีวิชา User Interface Design & HCIนี้ ติดตัวและจะนำมาใช้กับงานนี้.............
----------------------------------------------------------------------


ขอเสียง greeeeeeeeeeeeeeeeeed and weeeeeeeed แบบ สามโลกธาตุหวั่นไหว หน่อยจ้า........


โปรดรอติดตาม อ่านรายละเอียดต่อไป อีก 3 ข้อ

 

อยู่ในระดับกลางๆ

UID & HCI =เป็นศิลปะการออกแบบ ที่อยู่อาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์

 

2. User Interface Design (UID) ละเอียดลงอีกนิดนึง

User Interface คือ สิ่งที่ผู้ใช้สัมผัสหรือกระทำการควบคุมในการทำงาน
และไม่ใช้เฉพาะเกี่ยวกับ computer ใช้กับวงการอื่นด้วย..แต่ที่ได้ยินบ่อยๆจะเกี่ยวกับ computer

ตัวอย่างที่1
คนนั่งขบรถเพื่อไปทำงาน
1. User = คือ คนขับรถ
2. Interface = คือสิ่งที่คนขับรถสัมผัสและควบคุมให้รถไปถึงจุดหมาย
Interface ก็มี เบาะรถ พวงมาลัย หน้าปัดบอกความเร็ว ที่เสียบกุญแจ ที่เหยียบคันเร่ง เกียร์

ตัวอย่างที่2
คนเดินเข้าบ้านเปิดประตูบ้าน
Interface คือ ประตูบ้าน ลูกบิด ที่เสียบกุญแจ

ตัวอย่างที่ 3
มีด ด้าม-ตัวมีดและสีคือ interface


User Interface Design คือ การออกแบบ Interface ให้กับผู้ใช้

--------------
ชนิดของ User interface ทาง Software

ผมจะยกมาเฉพาะที่จำเป็น

-Command-line interface =สั่งงานคอมด้วย คำสั่งแบบพิมพ์ ได้แก่ พวก Dos, เวลาเราสั่งงานให้คอมทำงาน เราอาศัยการพิมพ์เป็นคำสั่ง... สมัยก่อนใช้แบบนี้มาก...
-คอมจะทำงานได้ คนต้องรู้คำสั่ง

-Graphical user interface =สั่งงานคอมด้วย รูปภาพ ได้แก่ Windows ที่เรากำลังใช้งานอยู่ มีปุ่มเป้นรูป incons ต่างๆ (ที่เราใช้อยู่)
แบบนี้ทำให้คอมใช้งานง่าย
-คอมจะทำงานได้ คนไม่จำเป้นต้องรูคำสั่ง(command) เพียงกดปุ่มต่างๆ

-Web-based user interface = สั่งงานคอมด้วย website..เป็นการกล่าวถึงภาพรวมๆ..ในนี้อาจจะมี set ของ icons รูปภาพและตัวอักษร
เช่น ถ้าเราต้องการ restart web server เราก็เข้าเว็ปแล้วกดปุ่มบนเว็ปให้คอมดับ...เว็ปพลังจิต เป็น Web-based user interface...



- Text-base user interface (สำหรับพระไตรปิฎก) = ได้แก่ พวกตัวหนังสือต่างๆ สีขนาดของตัวอักษร, ลิงค์ต่างๆ เช่น Home
ส่วนลิงค์ที่เป็นตัว Incons เรียกนั้นเป็น Graphical user interface ถ้าอยู่บนเว็ป มองรวมๆว่าเป็น Web-base interface
และรวมถึงที่ผมเน้นคำต่างๆและใส่สี ต่างๆในกระทู้ก็เป็นชนิดนี้

Text-base user interface design สำหรับ พระไตรปิฏก เป็น การออกแบบ ตัวอักษร เช่นการใส่สีเน้นคำ เว้นวรรค์ ใส่ขนาดตัวอักษร

-----------------------

User interface design หลักๆแล้ว คำนึงถึง การออกแบบ interface เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานหรือสัมผัส เพื่อติดต่อสื่อสาร ระหว่างคนกับ interface

โดยจะเน้นเกี่ยวกับทางเทคนิคการออกแบบ
ตัวอย่างเช่น ออกแบบให้ Icons ให้ดูสวยงาม ให้ตรงกับความหมาย
และขอบของรูปไม่ดูหยัก ให้ดูมนๆ .....
การลงสีต้องให้ดูเข้ากัน
การจัดตำแหน่งของรูปควรไม่หนักซ้ายและขวา
และรูปควรขนาดไม่ใหญ่มากเว็ปโหลดได้เร็ว

การออกแบบเป็นศิลปะ
--------------------

จริงๆแล้วการออกแบบ interface ต้องอาศัยการมากกว่านี้
หลักการเหล่านั้น อยู่ในหมวด วิชา HCI.........

 

2. Human Computer Interaction (HCI)
คือเกี่ยวกับการออกแบบ ระบบ computer ให้ผู้ใช้(user) ให้สามารถใช้งานได้และปลอดภัย

• HCI เป็นการศึกษาระหว่าง คน, พฤติกรรมของคน กับ ระบบ computer เพื่อ นำความรู้มาพัฒนาการออกแบบ user interface.
• HCI สามารถเอาใช้ ในการ ออกแบบและพัฒนา ระบบทุกชนิด อะไรต่างๆที่ออกแบบให้คนใช้
• HCI สามารถนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ในหลายสิบวงการและสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
• HCI เป็นวิชา วิทยาศาสตร์ + ศิลปะ +จิตวิทยา

เป้าหมายของ HCI คือ ออกแบบเพื่อให้ใช้งานได้และปลอดภัย
กุญแจสำคัญของ HCI คือ การคำนึง ออกแบบระบบ ให้ง่ายต่อการใช้ ง่ายต่อการเรียนรู้และปลอดภัย

HCI เพิ่งมีมาได้ไม่นานคือ 20 กว่าปีต้นๆ หรือ10 กว่าปีปลายๆ

แต่สมัยจีนก็มี เรื่อง ฮวงจุ๊ย ถ้าเทียบกันแล้วก็คือ HCI
แต่เรื่องฮวงจุ๊ยจะเป็นสูตรเร็จ เช่น ว่า มีแม่น้ำไหลผ่านหน้าบ้านและมีภูเขา สิ่งนั้นอยู่ตำแหน่ง แล้วดี แต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงดี...และเหตุผลอะไรที่ต้องเป็นอย่างนั้น

แต่ของ HCI จะอธิบายเหตุผลได้ว่าทำไมดีและเหตุผลทำไมต้องทำอย่างนั้น....


การศึกษาทาง HCI เพื่อเอามาพัฒนาระบบ แบ่งออกได้เป็น2ฝั่งคือ
1. ศึกษาฝั่งมนุษย์
2. ศึกษาฝั่ง computer เกี่ยวกับ user interface เช่น พวก input out put ต่างๆ

 

ระบบของ HCI เป็นระบบที่รวมผู้ใช้ จะต่างกับระบบอื่นๆบางระบบเช่น

ระบบ computer จะประกอบไปด้วย hardware & software
ระบบ HCI ประกอบไปด้วย hardware, software สภาพแวดล้อมและผู้ใช้งาน

------------------------

HCI ถ้าไปอยู่ในการเครื่องจักรกล เขาเรียกว่า
HMI = HUMAN MACHINE INTERACTION...
สมัยก่อน เขาเรียนกว่า MMI = MAN MACHINE INTERFACE

------------------------

เพิ่มเติมใหม่ HCI
สมัยก่อน บางที่ ใช้ว่า
CHI = Computer Human Interaction

แต่เขาเปลี่ยนมาเป็น HCI แทน CHI
เนื่องจากว่า ให้ความสำคัญกับ มนุษย์ มาก่อน computer...จึงกลายมาเป็น HCI

 

การศึกษาทาง HCI มี 2 ฝั่ง คือ ฝั่งมนุษย์และฝั่งคอมพิวเตอร์
แต่ผมจะกล่าวเน้นที่ฝั่งมนุษย์

 

เรื่องต่างๆใน HCI ที่เราจะใช้งาน
บางเรื่องผมเขียนเพิ่มเองนอกตำราเพราะว่าเห็นว่าจะนำมาใช้งานกับเรา..
โดยปกติความรู้ต่างๆยังมีอีกมากที่ยังไม่ได้บรรจุเข้าตำรา...

1. ความจำมนุษย์ มี 3 ระดับ

1. ความจำระยะสั้น เรียนกว่า working memory.....คือความจำในขณะทำงาน เช่น คนกำลังกดปุ่มแล้วไปหน้าโน้นหน้านี้ ว่าไปหน้าไหน คนก็จะจำได้..ความจำชนิดนี้ ถ้าในระหว่างทำงานแล้วโดนคนมากวน อาจจะทำให้ลืมได้
2. ความจำระยะกลาง เช่น เมื่อ 2 ปีที่แล้วเคยเรียนที่ไหน
3. ความจำยะระยาว เช่น เราเป็นลูกใคร เกิดที่ไหน

2. ธรรมชาติการเรียนรู้ของมนุษย์

1. มนุษย์จะเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองและผู้อื่น
2. เวลามนุษย์เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
   • เรียนรู้โดยการลองผิดลองถูก แล้วเก็บเป็นฐานข้อมูลเอาไปใช้ครั้งต่อไป.........เช่น ปล่อยให้คนเดินไปที่ต่างๆแบบที่เขาไม่เคยไป ให้ไปถึงจุดหมายหนึ่ง โดยมีทางเลี้ยวหลายทาง....เขาก็จะเดินเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ลองผิดถูกจนไปถึงจุดหมาย....ครั้งต่อไปเขาก็จะใช้ความรู้ของคราวที่แล้ว ตรงไหนเลี้ยวผิดก็ไม่ไป....
   • จะเรียนรู้โดยการเอาความรู้ที่มีอยู่เดิมแล้ว(ฐานข้อมูล) มาเรียนรู้สิ่งใหม่.....เช่น คนเมื่อนึกถึงเรื่องเก่าๆที่ตนเคยเข้าใจมาแล้ว เอามาเทียบ จะทำให้ เรียนรู้และเข้าใจได้เร็วขึ้น......
   (พระพุทธเจ้า) ได้ใช้วิธีนี้ คือวิธี เปรียบเทียบ เวลาบรรยายธรรมอะไรใหม่ๆหรือแปลกที่ยากแก่ความเข้าใจของคน ท่านจะใช้วิธีเปรียบ จากสิ่งที่คนเคยเข้าใจอยู่แล้ว แล้วเอามาเทียบกับสิ่งใหม่ๆ จะทำให้คนเข้าใจได้เร็ว ขึ้น...
   

5. มนุษย์ชอบให้สนองความต้องการ ...

สังเกตได้จากเรื่องพื้นฐาน
- เวลาคนเราปวดท้องเข้าห้องน้ำ ตอนนี้เป็นทุกข์ สิ่งที่คนเราต้องการคือ ห้องน้ำ คนเราจะมองหาห้องน้ำ เพื่อสนองความต้องการ พอเจอห้องน้ำปั๊บก็จะเข้าทันที....
แต่ถ้าเจอห้องน้ำปั๊บ แต่ห้ามเข้า ห้องน้ำเสีย แบบนี้จะสนองความต้องการเขาไม่ได้..แบบนี้คนไม่ชอบ...

- เด็กๆร้องไห้อยากได้ของเล่น....พอผู้ใหญ่ สนองความต้องการเด็กโดยการซื้อของเล่นให้ เขาจะดีใจและหยุดร้องไห้

4. ความฉลาดในการทำงาน ในเชิงวิทยาศาสตร์

อะไรที่ออกแรงน้อย ใช้เวลาน้อย แล้วผลมากๆ นั่นเรียกว่า ทำงานได้ฉลาด

- มีพลังงานขนาดกระป๋อง coke สามารถแปลงให้เป็นพลังงานแสงได้ขนาดเท่าดวงดาว แบบนี้เรียกว่าฉลาด
- 2คนเดินทาง 500 กิโลเมตร
คนแรกใช้เวลาเดินทาง 5 วัน
คนที่2ใช้เวลาเดินทาง 1 วันเดินไปทางลัด ...แบบนี้ฉลาด
-จะเทียบกับเรื่องธุรกิจก็ได้ เช่น มีเงิน 100 บาท เอาไปลงทุนใช้เวลา 10 วันแล้วได้กำไรกลับมา 1 ล้านบาทแล้วไม่ผิดศิลธรรม....แบบนี้เรียกว่าฉลาด

5. การออกแบบ ควรสังเกตุและทำความเข้าใจทั้งระบบ
ทั้งฝั่งมนุษย์ สังเกตว่าเขามีพฤติกรรมอย่างไรในขณะทำงานหรือบังงคับระบบอย่างไร
และ ฝั่งcomputer เรียนรู้คุณสมบัติต่างๆ
พอเราแล้วนำความรู้มาพัฒนา ออกแบบให้คนสามารถใช้ระบบได้ดีกว่าเดิม

6. คำนึงถึงความปลอดภัย
การออกแบบระบบควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้...เช่นการใช้สีอย่าให้สีแสบตาเกินไปหรือเป็นสีที่มองเห็นได้ยากจะทำให้คนปวดตา

7. การออกแบบให้คำนึงถึง วัฒนธรรม
นอกจากออกแบบระบบให้ สามารถใช้งานได้ง่าย เรียนรู้ได้ง่ายและปลอดภัยแล้ว
ก็ยังมีอีกข้อที่ต้องคำนึงคือ วัฒนธรรม
- ยกตัวอย่างที่มองเห็นได้ง่ายที่สุด เช่น ข่าวมีว่า ฝรั่งออกแบบรองเท้า แต่เอารูปผู้นำทางศาสนาไปแปะไว้ตรงรองเท้า....การออกแบบรองเท้าถูกต้องทุกประการ แต่มาผิดตรงที่ขัดกับวัฒนธรรม

7.ความถูกต้องและถูกใจ

ความถูกต้อง คือ ออกแบบตามหลักการต่างๆทางเทคนิค HCI
ความถูกใจ คือ ออกแบบให้ถูกใจผู้ใช้

ถ้า2อย่างนี้ไปด้วยกันได้จะเป้นผลดี แต่ให้คำนึงถึงความถูกต้องมาก่อน
บางที2สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้ แต่ก็พยายามให้ผสมกันให้ได้

เราคงเคยได้ยิน ว่าให้
-ปลูกบ้านตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน
-ปลูกบ้านผิดคิดจนตัวตาย

ตัวอย่าง

1. เวลาเราออกแบบสร้างบ้านให้คน....เราต้องออกแบบบ้าน ให้ถูกกับหลักการออกแบบ ถ้าออกแบบบ้านผิดหลักแล้วบ้านจะถล่มพังเสียหาย อีกส่วนหนึ่ง คือต้องออกแบบให้ตรงความต้องการ ของเจ้าของบ้าน
2. ออกแบบ เว็ปให้บริษัทต่างๆ.....เราต้องออกแบบเว็ปให้ถูกต้องตามหลักการออกแบบทางเทคนิคต่างๆ...อีกส่วนคือ ออกแบบให้ถูกใจเจ้าของบริษัท...เขาต้องการให้ใช้สีอะไร ชอบสีอะไรเรา ตามใจเขา เอาอะไรวางไว้ตรงไหน เราก็ตามใจเขา ถ้าตรงไหนตามเขาใจแล้วผิดหลักเราก็อธิบายให้เขาทราบ...
3. ออกแบบเว็ป แบบเว็ปสาธารณะ เช่นงานของเรา..เราควรออกแบบถูกต้องตามหลักการ และให้ถูกใจผู้ใช้......มีผู้ใช้มีจำนวณมากอาจจะไม่ถูกใจบางคนหรือทุกคน แต่เราอาศัยอัตตราการเฉลี่ยเอา...

--จบ--

ต่อไปจะเป็นการยกตัวอย่างใช้งานจริง พร้อมคำอธิบาย