ปิดรับบริจาค มหากฐินสามัคคีวัดท่าซุง เจ้าภาพในนามเว็บพลังจิต

กราบโมทนาในกุศลจิตทุกท่านที่ร่วมกันทำบุญกฐินวัดท่าซุงด้วยครับ ผม ณรงค์ เพ็งลาภ ขอร่วมบุญกฐินวัดท่าซุงด้วยครับ ด้วยเงินปัจจัย 1,000 บาท ได้รับการช่วยเหลือในเรื่องการโอนเงินจากน้องโย ขอผลบุญนี้จงบังเกิดกับน้องโยและทุกคนในครอบครัวด้วยเทอญ

โอนเมื่อวันที่ 1/9/49 เวลา 13:14:53 น

กราบโมทนากับทุกท่านด้วยครับ

 

ขออนุโมทนาค่ะ

 

โมทนากับทุกท่านนะครับ ยอดเยี่ยม fermented garlic (กระเทียมดอง) จริงๆ เลย

วัดกว้างใหญ่มากครับ
ถ้าจะชมวัดจริงๆ ขอเวลาเต็มวัน แล้วก็ยังต้องใช้รถด้วยนะครับ จะบอกให้

..เวลาเปิดปิดของแต่ละที่ก็สำคัญนะครับ.. ถ้าได้ปิดแล้วต้องรอวันต่อไป..

 

(555) (555) (555) (555) (555)

พี่ตั้มขา ถ้าอยากจะไปที่อื่น ไม่ลองไปกราบเสด็จปู่บนเขาล่ะคะ ข้างบนมีวัดด้วย แต่แอนจำชื่อวัดไม่ได้แล้ว

 

เอ..ผมได้แจ้งความจำนงไปหรือยังครับ ว่าผมจะขอร่วมทำบุญกฐินนี้ด้วยหนะครับ

เอาเป็นว่าบอกแล้วก็บอกอีกก็แล้วกันนะครับ ผมขอร่วมบุญด้วยในนามของ "คุณชยุต ดีเจริญ และกองกฐิน 108 วัด" นะครับ จำนวนเงิน 2000 บาทครับ

และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

เนื่องจากมีสมาชิกบางท่านสนใจอยากจะร่วมทำบุญทอดกฐินตกค้าง ๖๐ วัด และผ้าป่า ๑ กอง วัด ณ พระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน ในวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๙ เวลา ๘.๐๐ น.ผมขอแจ้งรายละเอียดดังนี้ครับ

๑. ทอดกฐินร่วมสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) จ.สระบุรี ในวันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ยอดปัจจัยถวายวัดเขาวง ๙๐ % อีก ๑๐ % ร่วมกฐินตกค้าง ๖๐ วัด ณ วัดพระธาตุดอยกองมู และ...

๒. ทอดกฐินตกค้าง ๖๐ วัด และผ้าป่า ๑ กอง ณ วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ณ วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๙ เวลา ๘.๐๐ น.

๓.ทางคณะได้บอกบุญทั้ง ๒ วัด ในใบฏีกาเดียวกันเพื่อความสะดวกครับ

๔.รายได้ทั้งหมดเราจะไม่หักแม้แต่ค่าน้ำแข็งเปล่า (ค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ทุกกรณีเราจ่ายกันเองทั้งหมด เพราะเราเตรียมเก็บเงินแบ่งแยกรายการส่วนตัวตั้งแต่ต้นปีทุกปี เพื่อความพร้อมเต็มที่ในการทำบุญ...ตลอด ๒๐ ปีเศษที่เราได้บอกบุญมาเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดี แม้ว่าคณะเราจะเป็นคณะของฆราวาสก็ตาม)

๕.ท่านสามารถทำบุญได้ที่ วัดเขาวง ในนาม "คณะนวรัตน์" ศ.ธรรมทัสสี (นายบวรภัทร์ ศรีวงศ์) กรุณาแจ้งชื่อ ที่อยู่ จำนวนเงินล่วงหน้ามาก่อน (ผมจะไม่รับเงินโดยตรง แต่จะให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านนี้โดยตรง ติดต่อท่านอีกครั้งเพื่อรับบริจาค พร้อมออกใบอนุโมนาบัตรของวัดให้ทุกท่าน) แจ้งจองมาที่ sriwong.t@thaimail.com ศ.ธรรมทัสสี หรือ ๐๙-๗๗๔๐๔๕๔


.......................................................


หมายเหตุ ผมมีบุญมาแบ่งให้ ๙๐% ดังรายการต่อไปนี้ (สรุปทำบุญที่วัดท่าซุง ณ ปีนี้ครับ)

๑. สร้างสมเด็จพ่อองค์ปฐม ๘,๑๗๐ บาท

๒. ซ่อมแซมพระพุทธรูป ๕๒๘ บาท

๓. ธรรมทาน ๗๘๐ บาท

๔. กวาดลาน มณฑปสมเด็จพ่อองค์ปฐม ๒๓ ครั้ง

๕. วิหารทาน ๑๒,๖๗๐ บาท
๕.๑. สร้างมณฑปองค์ปฐม ๔,๙๐๐ บาท
๕.๒. สร้างมหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร ๔,๖๗๐ บาท
๕.๓. สร้างปราสาททองคำ ๓,๑๐๐ บาท

๖. สังฆทานชุดพิเศษ (๒,๐๐๐) ๕๘ ชุด ๑๑๖,๐๐๐ บาท

๗. สังทานชุดใหญ่ (๑,๐๐๐) ๑๔ ชุด ๑๔,๐๐๐ บาท

๘.อื่น ๆ
๘.๑. ปิดทองหลวงพ่อโตวัดพนัญเชิง ๑,๗๕๐ บาท
๘.๒. บวชพระ วัดท่าซุง และวัดอื่น ๕,๕๖๐ องค์ (คูณด้วย ๘ กัป)
๘.๓. บวชเณร วัดท่าซุง และวัดอื่น ๑,๔๖๑ องค์ (คูณด้วย ๔ กัป)

 

ผมได้โอนเงินเข้าร่วมทำบุญทอดกฐิน วัดท่าซุง เป็นจำนวนเงิน 301 บาท โดยได้โอนไปเมื่อเช้าวันที่ 12- 9-49 และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

ผมได้โอนเงินทำบุญทอดกฐินวัดท่าซุงจำนวน หนื่งพันบาท (1,000)เงินในจำนวนนี้รวมค่าโอนด้วยครับขอโมทนาบุญกับทุกท่านที่รวมทำบุญ ขอถึงซึ่งพนิพานในชาติปัจุบันด้วยเทด ผมได้โอนเงินไปตอนบ่ายโมงของวันที่ 12 กันยายน 2549

 

สถานที่สำคัญวัดท่าซุง (สำหรับท่านที่ยากทราบ) ในวันหยุดจะมีการขยายเวลาเปิด-ปิดบางแห่ง แต่วันมีงานจะเปิดตลอด (ไม่มีพักเที่ยง)

-สำหรับเวลาเปิด-ปิดในวันปกติ (จันทร์-ศุกร์)

๑. มหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร เปิดเวลา ๙.๐๐ ถึง ๑๑.๔๕ น. และ ๑๔.๐๐ ถึง ๑๖.๐๐ น.

๒. มณฑปสมเด็จองค์ปฐม เปิดเวลา ๙.๐๐.ถึง ๑๐.๓๐ และ ๑๒.๐๐ ถึง ๑๖.๐๐ น.
และมณฑปพระศรีอารย์ เปิดเวลา ๙.๐๐ ถึง ๑๐.๓๐ น. และ ๑๓.๐๐ ถึง ๑๖.๐๐ น.

๓.ปราสาททองคำ, พระยืน ๓๐ ศอก (หลวงพ่อเงินใหลมา) เจดีย์พุตตาล เปิดตามเวลาปกติเวลาปกติ ๘.๐๐ น.ถึง ๑๗.๐๐ น.และ ปราสาททองคำ ไม่กำหนดเลาเปิดปิด

-จากประสบการณ์ที่ผมได้ไปวัดทุกเดือน เพื่อให้การบริหารเวลามีประสิทธิภาพ ในช่วงเช้าขอแนะนำให้เริ่มต้นที่มณฑปองค์ปฐม และมณฑปพระศรีอารย์ก่อน แล้วจึงค่อยย้อนกลับไปที่ มหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร (เพื่อถวายสังฆทาน กราบศพหลวงพ่อ กราบพระพุทธชินราช และพระปัจเจกพุทธเจ้า)

-ช่วงเที่ยง บ่าย

๔. มณฑปแก้วสมเด็จองค์ปัจจุบัน (องค์ที่ ๑๐,๑๑) วิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ (วิหารหลวงปู่ใหญ่)เปิด ๙.๐๐ ถึง ๑๐.๓๐ น. และ ๑๒.๓๐ ถึง ๑๖.๐๐น. วิหารองค์ปฐมที่โคลนโพธิ์ (ลืมครับ)

๕. ตึกรับแขก เปิด ๙.๐๐ ถึง ๑๐.๓๐ น. และ ๑๒.๐๐ น.ถึง ๑๖.๐๐ น.(ตึกรับแขกควรไปก่อนกลับบ้าน เพราะมีวัตถุมงคล และหนังสือ เทป หลวงพ่อ) และมณฑปท้าวมหาราชทั้ง ๔ (เวลาปกติ)

๖. หลวงพ่อ ๕ องค์ ที่ศาลาพระพินิจอักษร เปิดเวลา ๙.๐๐ ถึง ๑๐.๓๐ น.และ ๑๒.๐๐ถึง ๑๕.๓๐น.(เวลาเลิกไม่แน่ใจครับ เพราะจะกราบก่อนกลับบ้านเลยรีบ ๆ และบางเดือนจุดนี้ก็ไม่ได้มาครับ)

๗. สำหรับจุดสุดท้ายก่อนกลับบ้าน ด้านหน้าพระอุโบสถ (ติดศาลาพระพินิจอักษร) รูปหล่อปู่ปาน และรูปหล่อหลวงปู่ใหญ่ (มีรูปหล่อที่หลวงพ่อบอกว่าเหมือนองค์จริงมากอีกแห่ง ณ หลังวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์) ส่วนด้านหลังพระอุโบสถ หลวงพ่อพระสิวลี และหลวงพ่อขนมจีน

๘. จุดสุดท้ายจริง ๆ (หากเวลาเหลือ) พระจุฬามณี และพระเจ้าพรหมมหาราช


หมายเหตุ เวลา และสถานที่ ดังกล่าว หมายความว่าต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ ๕.๓๐ ไปถึง ๘.๓๐ น. (๑๐๐ กม./ชม.) และไม่มีกิจกรรมอื่น ถ้ามีกิจกรรมอื่นควรค้างคืนไม่งั้นไปไม่ครบทุกจุด และจะออกอาการรน ๆ และขออภัยหากท่านทราบแล้วครับ

 

ขึ้นไปบนเขาสะแกกังนะคะพี่ตั้ม ข้างบนจะมีพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ(เสด็จปู่ใหญ่ทองดี) แล้วก็มีรอยพระพุทธบาทจำลองกับระฆังอยู่อีกด้านนึง.. แล้วข้างล่างจะมีวัดสังกัสรัตนคีรีอยู่ เดี๋ยวแอนหาข้อมูลเพิ่มเติมให้นะคะ แป๊บบบบบบบบบบบบบนึง

 

เขาสะแกกรัง

จากบริเวณลานวัดสังกัสรัตนคีรีมีบันไดขึ้นไปสู่ยอดเขาสะแกกรัง หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 3220 เป็นระยะทาง 4 กม. แล้วเลี้ยวบริเวณสนามกีฬาจังหวัดไปตามทางขึ้นสู่ยอดเขา จากบนยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองอุทัยธานีได้กว้างขวาง เป็นที่ตั้งของมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งย้ายมาจากวัดจันทาราม สร้างเมื่อ พ.ศ. 2448 ด้านหน้ามีระฆังใบใหญ่ที่พระปลัดใจและชาวอุทัยธานีร่วมกันสร้างเมื่อ พ.ศ. 2443 ถือกันว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ ใครที่ไปเที่ยวอุทัยธานีแล้วไม่ได้ขึ้นไปตีระฆังใบนี้ก็เท่ากับไม่ได้ไปเที่ยวอุทัยธานี
ใกล้กับมณฑปบนยอดเขาสะแกกรังมีพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก แห่งรัชกาลที่ 1 ซึ่งมีพระนามเดิมว่านายทองดี รับราชการตำแหน่งพระอักษรสุนทรศาสตร์ เสมียนตรากรมมหาดไทย และต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ ครั้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี (พระนามเดิมนายทองด้วง) ได้สถาปนาพระอัฐิพระบิดาเป็นสมเด็จพระชนกาธิบดี เมื่อปี พ.ศ. 2338
พระบรมรูปของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ เป็นรูปหล่อขนาดสองเท่าขององค์จริงประทับนั่งบนแท่นพระหัตถ์ซ้ายถือดาบประจำตำแหน่งเจ้าพระยาจักรีทั้งฝักวางบนพระเพลาซ้าย ส่วนพระหัตถ์ขวาทรงวางบนพระเพลาขวา ด้านขวามือมีพานวางพระมาลาเส้าสูง ไม่มียี่ก่า (ขนนก) สวมพระบาทด้วยรองเท้าแตะไม่หุ้มส้นพระบาท มีพิธีถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์แห่งนี้ ในวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ซึ่งตรงกับช่วงที่ดอกสุพรรณิการ์ หรือฝ้ายคำ ดอกไม้ประจำจังหวัดอุทัยธานีบานสะพรั่งอยู่ทั่วไปบนเขาสะแกกรัง

วัดสังกัสรัตนคีรี

ตั้งอยู่เชิงเขาสะแกกรัง สุดถนนท่าช้าง ในเขตเทศบาลเมือง ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุทัยธานี มีประวัติว่าในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกโปรดเกล้าฯ ให้นำพระพุทธรูปขนาดย่อมที่ชำรุดไปไว้ตามหัวเมืองต่างๆ เมื่อ พ.ศ. 2335-2342 สำหรับเมืองอุทัยธานีได้รับ 3 องค์ โดยอัญเชิญลงแพมาขึ้นฝั่งที่ท่าพระ (ตรงข้ามศาลาประชาคมจังหวัดอุทัยธานี) แล้วนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดขวิด พระพุทธรูปองค์หนึ่งมีขนาดใหญ่เป็นพระเนื้อสำริดปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 ศอก สร้างในสมัยพระเจ้าลิไท ฝีมือช่างสุโขทัยยุค 2 มีส่วนเศียรกับส่วนองค์พระเป็นคนละองค์ เข้าใจว่าคงซ่อมเป็นองค์เดียวกันก่อนนำมาไว้ที่เมืองอุทัยธานี ต่อมาเมื่อยุบวัดขวิดไปรวมกับวัดทุ่งแก้ว จึงได้ย้ายพระพุทธรูปองค์นี้ไปไว้ที่วัดสังกัสรัตนคีรี ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไป 1 กม. และได้ทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในพระเศียร พร้อมกับถวายนามว่า “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” ในวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 ของทุกปีจะมีประเพณีตักบาตรเทโว โดยพระสงฆ์ประมาณ 500 รูปจะเดินลงบันไดจากยอดเขาสะแกกรังมารับบิณฑบาตที่ลานวัดเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัด
​

 

<TABLE cellSpacing=10 cellPadding=0 width=680 border=0><TBODY><TR><TD>

พระปฐมบรมมหาชนก ​

</TD></TR><TR><TD><DD>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดพระวิสูตรพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก พระชนกาธิบดี ในรัชกาลที่ 1 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลูกต้นโพธิ์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นไทนไว้ ณ บริเวณพลับพลานี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2522 เวลา 15.00 น. </DD></TD></TR><TR><TD><DD>สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์พระร่วง กล่าวคือ เจ้าพระยาโกษาธิบดี(ปาน) บุตรชายคนใหญ่ได้เป็น พระยาวงศาธิราช(ขุนทอง) ต่อมามีบุตรชายคนใหญ่ชื่อ ทองดี เกิดที่บ้านสะแกกรัง อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นพระบรมมหาชนกของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปฐมราชวงศ์จักรี </DD></TD></TR><TR><TD><DD>ชาวจังหวัดอุทัยธานีได้เห็นพ้องต้องกันว่า ควรได้สร้างพระบรมรูป ณ ตำบลที่เกิดของพระองค์ ตั้งแต่เมื่อ พ.ศ.2514 คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการก่อสร้างได้เมื่อ พ.ศ.2516 </DD></TD></TR><TR><TD><DD>การดำเนินการในเรื่องนี้ ได้เริ่มงานอย่างจริงจัง เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2519 โดยใช้เครื่องจักรกลของ อบจ. สร้างทางลำลองจากสนามกีฬาจังหวัดขึ้นยอดเขาสะแกกรัง ปรับปรุงบริเวณสร้างพลับพลาและลานจอดรถบนเขาสะแกกรัง โดยมี นายอำนาจ ผการัตน์ วิศวกรโยธา โครงการทางหลวงท้องถิ่นจังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้รับผิดชอบ และได้ความอนุเคราะห์จาก นายองอาจ สุตะเขตร์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ช่วยเหลือค่าน้ำมันเชื้อเพลิง สิ้นค่าใช้จ่ายประมาณ 60,000 บาท จังหวัดได้ขอให้กรมศิลปากร และสำนักผังเมือง ออกแบบวางแผนสร้างพลับพลาต่อไป </DD></TD></TR><TR><TD><DD>เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2520 นายชลอ วนะภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการสร้างพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ได้ประชุมดำเนินการก่อสร้างอนุเสาวรีย์ โดยให้นายดำรง ชลวิจารณ์ อธิบดีกรมโยธาธิการ ดำเนินการสร้างถนนลูกรังขึ้นยอดเขาสะแกกรัง และจังหวัดได้มอบให้กรมศิลปากร จำนวน 130,000 บาท เป็นค่าหล่อพระบรมรูป </DD></TD></TR><TR><TD><DD>23 กรกฎาคม 2545 นายอัมพระ จันทรวิจิตร รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานวางศิลาฤกษ์ ณ พลับพลาประดิษฐานพระบรมรูปฯพร้อมด้วย นายดำรง สุนทรศารทูล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สนับสนุนทำถนนลาดยางขึ้นเขาสะแกกรังต่อไป </DD></TD></TR><TR><TD><DD>เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จทรงเททององค์พระรูปฯที่กรมศิลปากร โดยมีนายวิญญู อังคณารัก ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นประธานอำนวยการสร้างพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกคนต่อมา เป็นผู้กล่าวรายงาน จากนั้นทางจังหวัดได้ดำเนินการก่อสร้างถนนลาดยาง และวางเครื่องหมายบังคับการจราจรขึ้นยอดเขาสะแกกรัง โดยโครงการทางหลวงท้องถิ่น มีนายพจน์ กันธมาลา ผู้อำนวยการเดินสายไฟฟ้าขึ้นยอดเขาสะแกกรัง โดยเทศบาลเมืองอุทัยธานีเป็นเงิน 287,000 บาท สร้างศาลาโถง โดยคุณเลื่อน - อำไพ พรพิบูลย์ เป็นเงิน 250,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเป็นเงิน 4,839,380 บาท </DD></TD></TR><TR><TD><DD>วันที่ 27 มกราคม 2522 ได้อัญเชิญพระบรมรูปฯจากกรมศิลปากรมาประดิษฐาน ณ พลับพลาแห่งนี้ ในวันที่ 28 มกราคม 2522 ได้มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เสด็จมาทรงเป็นประธานในพิธีทั้ง 2 วันที่ได้มีมหรสพสมโภชน์ </DD></TD></TR><TR><TD><DD>ในการดำเนินงานประกอบพิธีเททอง และเปิดพระวิสูตร ได้รับความอนุเคราะห์จากนายปิยะ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้แทนสำนักพระราชวัง เป็นผู้ช่วยเหลือ ส่วนผู้ดำเนินงานควบคุมการก่อสร้างต่างๆบนยอดเขาสะแกกรัง คือ นายวัชระ หวังสิทธิเดช หัวหน้าโครงการทางหลวงท้องถิ่นจังหวัดอุทัยธานี </DD></TD></TR><TR><TD><DD>การดำเนินงานก่อสร้างพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกฯ และสั่งการต่างๆ ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2519 จนถึงวันพระราชพิธีเปิดพระวิสูตร วันที่ 5 เมษายน 2522 ได้สร้างและเสร็จในสมัยนายปราโมทย์ หงสกุล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี</DD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อุทัยธานี เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว ส้มโอบ้านน้ำตก มรดกโลกห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ

ภาพเสด็จปู่ข้างล่างนี้น้องชายแอนเป็นคนถ่ายค่ะ ถ่ายตอนปีใหม่ขี้นไปกราบเสด็จปู่กันทั้งครอบครัว แล้วค่อยไปต่อที่วัดท่าซุง

 

ผมและครอบครัวขอร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินวัดท่าซุงในสนามเว็บพลังจิตโดยได้โอนเงิน
เข้าบัญชี คุณณัฐพัชร ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 0454503846

 

ขอโทษครับ ยังโพสต์ไม่เสร็จครับ
ผมและครอบครัวขอร่สมเป็นเจ้าภาพกฐินวัดท่าซุงในนามเว็บพลังจิต โดยได้โอนเงินเข้าบัญชี คุณณัฐพัชร ธนาคารไทยพาณิชย์เลขที่ 0454503846
เมื่อ 09/09/06 เวลา 16:30 จำนวน 300 บาท หมายเลข A215B071 RECORD NO.1312 และเมื่อ 12/09/06 เวลา 12:42 จำนวน 100 บาท
หมายเลข A400B071 RECORD NO.5510 รวม 400 บาทครับ