"อภัย" คือสิ่งที่ดีที่สุด สูตรสำเร็จความรักของ "นุ่น" วรนุช

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย guawn, 17 มีนาคม 2007.

  1. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"อภัย" คือสิ่งที่ดีที่สุด สูตรสำเร็จความรักของ "นุ่น" วรนุช</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] จากสาวน้อยนัยน์ตาบ้องแบ๊วกับผลงานละครเรื่องแรกในชีวิต ปอบผีฟ้า ก็พลิกผันให้เธอคนนี้ก้าวขึ้นแท่นนางเอก 7 สี อย่างเต็มตัว


    เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก 10 ปีเต็มเลยทีเดียว ที่นางเอกดังอย่าง "นุ่น" วรนุช วงษ์สวรรค์ โลดแล่นโชว์ฝีไม้ลายมือให้แฟนละครได้เห็นผลงานของเธออย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งปัจจุบันเธอก็มีผลงานละครเรื่อง รหัสริษยา ออกอากาศให้ได้ชมกัน อากาศร้อนในตอนเที่ยงเมื่อต้นสัปดาห์ ที่ผ่านมา "คม ชัด ลึก" ได้แวะเวียนไปพูดคุยกับเธอคนนี้ ระหว่างถ่ายทำฉากอวสานของ รหัสริษยา นุ่นตุนแรงด้วยการหม่ำข้าวแบบเต็มอิ่ม ก่อนจะยิ้มหวานๆ เดินมาพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเราในทันที

    10 ปีของ "นุ่น" กับ "วงการบันเทิง"
    เสียงตอบรับจาก รหัสริษยา หายเหนื่อยเลยไหม ดีมากเลยค่ะ ตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศเลย คนดูเยอะ ไปไหนคนถามตลอดว่า เอ๊ะ รหัส อะไร บอกหน่อยดิ แล้วส่วนมากนางเอกจะยอม แต่เรื่องนี้จะเห็นนุ่นในอีกแบบหนึ่ง เปิดฉากวันแรกก็บังคับให้พระเอกแต่งงานด้วย ถือว่ากระแสดีมากๆ

    คิวงานยังรัดตัวเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า ตอนนี้นุ่นปิดกล้อง รหัสริษยา แล้ว ก็ยังเหลือเรื่อง กาษานาคา กับ สตรีที่โลกลืม สองเรื่องนี้เป็นของค่ายเป่า จิน จง เขาจะแบ่งคิวกันเองว่าวันไหนจะให้นุ่นถ่ายอะไร ส่วนอีกเรื่อง เพลงดินกลิ่นดาว ของกันตนา คิวเต็ม 7 วัน แต่ก็อยู่ที่ว่าบางครั้งเขาจะยกเลิกคิวไป ก็จะได้หยุด คิวทำงานของนุ่นจะเป็นอาทิตย์ต่ออาทิตย์

    งานที่มากมายขนาดนี้นุ่นมีโอกาสเลือกเองมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นละครช่อง 7 สี เป็นคนเลือกให้นุ่นทั้งหมด เพราะนุ่นเป็นเด็กช่องอยู่แล้ว ส่วนตัวนุ่นเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราอยากจะเล่นเรื่องไหนเป็นพิเศษถึงขั้นจะขอเลือกเอง เพราะนุ่นถือว่าละครที่ผู้ใหญ่เลือกให้ เลือกให้เรารับผิดชอบดีทุกเรื่องอยู่แล้ว และนุ่นก็เห็นว่าเหมาะสมด้วย และบทที่ได้รับ เราก็ชอบอยู่แล้ว ไม่เห็นมีเรื่องไหนที่เรารู้สึกไม่ดี พอใจหมด และนุ่นไม่ได้มองว่าตัวเองถูกช่องตีกรอบด้วย

    โดยมากแฟนละครจะเห็นนุ่นเล่นดราม่าเสียเป็นส่วนใหญ่
    คนอื่นก็ได้นะ แต่ส่วนใหญ่นางเอกจะถูกกระทำ ก็ดูน่าสงสาร อย่าง กาษานาคา บทแรงนะ แรงทีเดียว มันก็ไม่ได้เล่นเรียบร้อยหมด เป็นอีกแบบหนึ่ง จะเล่นเป็นสองบุคลิกในตัวเอง พอเจอพระเอกปุ๊บอะไรก็แล้วแต่ที่มาทำให้ความสัมพันธ์เขากับพระเอกแย่ เขาจะวี้ดขึ้นทันที แม้แต่กับพ่อตัวเองก็ตาม ในส่วนของบทที่นุ่นได้รับ นุ่นไม่สับสนนะ เพราะแต่ละวันที่เราทำงาน ด้วยบท ด้วยการแต่งตัว หรือด้วยบรรยากาศมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เรื่องปริมาณงานนุ่นมองว่าไม่มากเกินไปนะ เพราะนุ่นจะรับงานอีกเรื่องก็เพราะอีกเรื่องที่ถ่ายอยู่ใกล้ปิดกล้องแล้ว

    ถือว่าทำงานหนักตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ใช่ค่ะ ตั้งแต่ตอนแรกต้องเรียนหนังสือไปด้วย และจะโดนละครที่ถ่ายไปออกอากาศไปอันนั้นหนักกว่าเยอะเลย

    10 ปีในวงการบันเทิงเป็นอย่างไรบ้าง นุ่นทำงานจนมองว่างานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว อาชีพนี้ทำให้เรามีทุกอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เงินทอง จากก้าวแรกที่เราเข้ามาเล่นละคร ตอนนั้นยังรู้สึกเฉยๆ เพราะเรายังเด็กมาก จากนั้นก็ซึมๆจนทุกวันนี้เล่นเพราะใจรักจริงๆ ในเมื่อตัดสินใจจะทำงานตรงนี้ แล้วเราต้องก้าวไปเรื่อยๆ

    จากวันแรกจนถึงวันนี้มีเรื่องที่ประทับใจที่สุดบ้างไหมกับการทำงาน ก็คงจะประทับใจในความเป็นวงการบันเทิง ซึ่งอาจจะมีดีหรือไม่ดีตามที่หลายคนบอก แต่นุ่นรู้สึกว่าเราสามารถเลือกอยู่ในจุดที่ดีได้ คือนุ่นเป็นคนทำงานก็ตั้งใจทำงานในส่วนของเรา เพราะเราอยากให้งานออกมาดีที่สุด

    เรื่องแย่ที่สุดเคยเจอบ้างหรือเปล่า
    มันไม่ได้มีเยอะ อาจจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ที่เข้ากระทบ แต่นุ่นไม่ได้เอามาใส่ใจ คือมันทำให้เราได้เรียนรู้ว่าคนทุกคนก็ไม่ได้มีนิสัยตรงกับเรา เป็นเรื่องปกติมากกว่า ด้วยตัวนุ่นเป็นคนไม่ค่อยคิดมาก ไม่ค่อยคบใครด้วย ส่วนเรื่องของข่าว นุ่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะการเข้ามาอยู่วงการนี้มีข่าวถือเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ถ้าเรามัวแต่ไปเครียด เราก็จะทำงานอย่างไม่มีความสุข เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ระบบความคิดของแต่ละคนด้วย และอีกอย่างนุ่นก็มีเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจเยอะไปหมด โดยปกตินุ่นไม่ค่อยมีเรื่องเครียด จะมีความสุข สนุกกับการทำงาน ชีวิตนุ่นไม่ค่อยมีอะไรนะ เสียใจที่สุด มันไม่ค่อยมีอะไร อาจเพราะวันๆ ทำแต่งาน ทำให้ไม่ต้องคิดอย่างอื่น

    เวลาว่างอันน้อยนิดของนุ่นนอกเหนือจากเวลางานแล้วมักจะทำอะไร ช็อปปิ้งจะเป็นช่วงๆ นะ อาจจะไปเดินห้าง ส่วนที่ถูกแซวว่าเป็นเจ้าแม่ขาช็อป จริงๆ นุ่นตามพี่สาวมากกว่า ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เวลาเห็นพี่ช็อปอะไรเราก็จะตาม

    เป็นคนติดใช้ของแบรนด์เนมไหม
    นุ่นมองว่าสินค้าแบรนด์เนมเป็นสินค้ามีคุณภาพ ถ้าเราเลือกซื้อหนึ่งใบเราจะใช้ได้นาน ทุกวันนี้กระเป๋าใบที่นุ่นซื้อเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มันก็ยังใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเกิดเราใช้สินค้าแฟชั่น เดี๋ยวนี้ใบหนึ่งก็แพงนะ หลายๆ ใบเข้ามันก็เยอะ ซื้อแบรนด์เนมได้เลย นุ่นมองที่คุณภาพมากกว่า และเราก็ไม่ได้ซื้ออะไรบ่อย ก็ต้องเลือกเหมือนกัน เพราะเรามีครอบครัวที่ต้องดูแล มีน้องที่ต้องดูแ จริงๆ เป็นเรื่องปกติมากกว่า ว่าคนที่หาเงินได้เขาก็ต้องอยากซื้อของที่ดีๆ เหมือนเราซื้อนาฬิกา ซื้อรถ ใครมีรายได้เท่าไร ควรซื้อรถอะไร เรารู้ตัวเอง ไม่ใช่เราใช้เงินแบบฟุ่มเฟือยแล้วต้องไปเป็นหนี้เขาแบบนั้นก็ไม่ใช่

    ที่บอกว่าต้องดูแลครอบครัวเริ่มทำตั้งแต่เมื่อไร พอนุ่นหาเงินเองได้แล้ว นุ่นก็บอกที่บ้านเลย ว่าเดี๋ยวนุ่นส่งน้องสองคนเรียนเอง ตอนนี้น้องคนที่ต่อจากนุ่นจบแล้ว และน้องคนเล็กก็อยู่ปี 3 ใกล้จบแล้ว ถามว่าปลื้มไหม นุ่นก็ไม่นะ มันก็ทำแทนพ่อแม่ กับที่บ้านช่วงที่หาเงินได้นุ่นก็ให้เป็นเดือน ให้เก็บเอาไว้

    จะเรียกว่าเสาหลักครอบครัวได้หรือเปล่า ไม่ใช่ขนาดนั้น พี่สาวนุ่นก็ทำงาน พ่อกับแม่ก็มีอาชีพมีส่วนของเขาอยู่แล้ว ที่นุ่นให้เป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกพึงกระทำได้ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดว่ารวยมหาศาล

    วาดฝันชีวิตการงานจากนี้ไว้อย่างไรบ้าง ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่ถ้าวันหนึ่งก็อยากหาธุรกิจทำเป็นของตัวเอง เพราะงานวงการบันเทิงมันก็ไม่จีรัง ไม่แน่นอน

    นางเอกอย่างนุ่นมีอายุงานไหม จริงๆ มันต้องมีอยู่แล้ว เพราะมันเป็นวัฏจักร มันก็มีมานานแล้ว ไม่ใช่แค่เฉพาะรุ่นเรา แต่สำหรับนุ่นมองแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเป็นนางเอกก็ได้ แต่ขอให้มีความสำคัญกับเรื่อง เป็นตัวเดินเรื่อง นุ่นก็พอแล้ว เพราะถ้าเกิดคิดว่าต้องเป็นนางเอกอย่างเดียว นุ่นว่าเป็นความคิดที่โบราณ หรือคิดว่ากลัวเสียภาพลักษณ์ ไม่ยอมเล่นร้ายก็ไม่ใช่ ไม่อย่างนั้นนุ่นคงไม่ไปเล่นร้ายบ้างหรอก นุ่นกลับมองว่ามันก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่ให้คนดูได้เห็นความสามารถ และเราก็จะได้ทดสอบความสามารถของตัวเองว่าเราก็ทำได้

    แสดงว่านุ่นไม่ยึดติดกับคำว่านางเอกเลย ไม่เลย เพราะถ้าไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่มีคำว่าก้าวหน้า และตัวนุ่นเองก็ไม่ได้ขีดเส้นกับอายุงานการแสดง เพราะตอนนี้ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าจะหยุดทำเมื่อไร อายุเท่านี้ก็ยังทำไปเรื่อยๆ วันหนึ่งยังไม่รู้ ยังไม่ได้หาคำตอบ แต่ ณ วันนี้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ เพราะเราไม่สามารถรู้อนาคตได้ อาจจะวางแผนแค่นิดหน่อย แต่จะให้ไกล 5-10 ปี มันคงไม่ใช่ เพราะแค่ทุกวันนี้เวลายังเต็มอยู่เลย และเราจะมีเวลาไปทำอะไร หรือถ้าจะทำอะไรก็คงทำไม่เต็มที่ มันก็มีตัวอย่างให้เห็นในสังคมเยอะแยะ ว่าถ้าเราจะทำอะไรสักอย่างแล้วเราไม่ได้ลงมือทำด้วยตัวเอง ให้คนอื่นมาทำแทนโอกาสเจ๊งมีเยอะมาก

    หลายคนมองว่า "นางเอก" มักจะต้องมีกรอบหรือสร้างภาพลักษณ์ ทุกคนที่ได้มารู้จักกับนุ่น รู้ตัวตนของนุ่นก็ไม่เห็นบอกว่าเรียบร้อยเหมือนในละครเลย นุ่นจะเป็นคนร่าเริง ขี้เล่น ชอบอำ ชอบแกล้งคนอื่น ชีวิตจริงไม่ใช่นางเอ๊ก...นางเอก คือพอเราเป็นตัวของตัวเองไม่มานั่งสร้างภาพมันก็จะเข้ากับคนอื่น เข้ากับสังคมได้ง่าย เพราะทุกวันนี้เราคงอยู่ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว เรามีสังคม มีสิ่งแวดล้อม

    จากงานก้าวสู่เส้นทางรัก
    วางแผนกับเรื่องความรักไว้อย่างไรบ้าง ไม่ได้วางแผนอะไรเอาไว้เลย

    แบ่งสัดส่วนความสำคัญระหว่างรักกับงานไว้แบบไหน งานมานำเลย ไม่มีสัดส่วนว่าต้องเท่าไรด้วย แต่ถ้ามาให้คิดว่าถ้านุ่นไม่มีงานทำ นุ่นคงเครียดมากกว่าการที่ไม่มีแฟน ไม่มีงานเนี่ยเครียดนะ (ยิ้ม) เพราะมันจะทำให้ปัญหาอื่นๆ ตามมาแน่นอน และนุ่นไม่ได้มองว่าความรักจะต้องเป็นแค่แฟน นุ่นรวมถึงเพื่อน หรือว่าครอบครัวก็มีความรักทำให้เราอิ่มได้ หากเราไม่มีแฟนจริงๆ

    สถานภาพตอนนี้โสดสนิทหรือเปล่าเนี่ย โสดค่ะ (เน้นชัด)

    กับคนที่เป็นข่าวด้วย ("ต๊อด" ปิติ ภิรมย์ภักดี) ก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ปิดบังอะไร ถ้าว่างก็ไปกินข้าวกัน เป็นกลุ่มๆ ก็ไปนะ ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ไป

    ทำไมไม่กล้าเรียกต๊อดว่าแฟน ทุกอย่างมันอยู่ที่การเรียนรู้ เหมือนกับว่าเจอคนคนหนึ่ง แล้วเราสนิทกับเขา แต่จะให้เขาไปอยู่บ้าน ให้ไว้วางใจเขา ฝากเงินกับเขา ให้เขาดูแลมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทุกอย่างต้องใช้เวลา

    เป็นเพราะกลัวคำว่าผิดหวังด้วยหรือเปล่า ไม่เกี่ยวค่ะ มันเป็นของคู่กัน อยู่แล้วสุข สมหวัง หรือผิดหวัง แต่นุ่นว่าทุกอย่างเราสามารถเลือกได้ ออกแบบได้ ถ้าเกิดเราอยากให้เป็นแบบนี้เราก็ต้องทำให้ดี หรือเราอยากให้ทุกอย่างแฮปปี้ แล้วเราทำแย่ๆ มันจะดีได้อย่างไร ทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่นุ่นไม่ได้ปิดว่านุ่นเรียนรู้กัน หรือว่าได้รู้จักกัน

    ข่าวมีส่วนทำให้ไม่กล้าพูดหรือฟันธงกับเรืองนี้ด้วยไหม ไม่ค่ะ นุ่นว่าตอนนี้เป็นสังคมสมัยใหม่แล้ว และเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงกับผู้ชาย ไม่ว่าสังคมนี้หรือทุกๆ สังคม แต่สังคมที่เราอยู่มันเป็นสังคมที่แฟนๆ ให้ความสนใจ ตรงนี้นุ่นก็ขอขอบคุณที่เขาคอยเป็นห่วง แต่อะไรที่พูดได้นุ่นก็พูด ไม่ได้ปิดหรอก เพราะว่าทุกวันนี้เราก็อยู่ในที่แจ้ง

    รู้สึกอย่างไรที่มักมีประโยคเปรียบเปรย "ดาราเป็นของเล่นไฮโซ" ทุกคนก็มีสิทธิคิดอะไรกันต่างๆ นานาได้ แต่นุ่นไม่อยากให้มาวัดค่าของคนแค่ฐานะ หรือแค่คนนั้นมีเงินมากกว่าคนนี้ มองในเรื่องของจิตใจมากกว่า ต่อให้คนไฮโซ โลโซหรืออะไรมาคบกัน แต่หากนิสัยเข้ากันไม่ได้ก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดี หรือแม้แต่นักแสดงด้วยกันเองเข้ากันไม่ได้ เราก็ไปกันไม่ได้อยู่ดี กับเรื่องนี้นุ่นว่าบางทีมันเป็นกระแสที่ห้ามไม่ได้ เราก็ทำตัวเองให้ดีที่สุด

    คู่ชีวิตที่นุ่นวางเอาไว้เป็นแบบไหน ก็ขอให้เป็นคนที่รักเรา ไม่เจ้าชู้ จริงใจ นุ่นว่าคงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้ และคงอยากให้คนที่เราจะอยู่ด้วยเห็นค่าของเรา

    ครอบครัวมีส่วนช่วยในการตัดสินใจกับเรื่องความรักบ้างหรือเปล่า ไม่มีเลยค่ะ ตั้งแต่เข้าวงการพ่อกับแม่ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวเลย เขามองว่าลูกโตแล้ว เรียนจบแล้วตัดสินใจเองได้

    มุมมองความรักของนุ่นในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
    ความรักมันก็เป็นสิ่งสวยงามนะ เหมือนน้ำคอยรดให้ชุ่มชื่น ให้มีกำลังใจ ให้สดชื่น เป็นเรื่องที่ดีนะ ส่วนในเรื่องอดีตเก่าๆ มันก็เป็นบทเรียนที่เราจะเก็บมาใช้ในอนาคต จริงๆ แล้วต้องขอบคุณที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น คือคนคนหนึ่งเวลาอยู่กับใครบางทีมันจะมองแค่รอบด้านข้างใน แต่พอวันหนึ่งที่เราโตขึ้น เราจะเปลี่ยนมองจากข้างบนลงมามองด้านล่างเราก็จะเห็นทั้งหมด ทำให้เรามีสติมากขึ้น

    ทิ้งท้ายบอกอะไรกับคนที่ยึดติดกับความรักที่ไม่สมหวังว่าควรจะทำอย่างไรดี นุ่นว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา อย่างนุ่นก็ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกัน ค่อนข้างนาน แต่สุดท้ายแล้วก็ทำให้คิดว่าในเมื่อเรารักคนอื่นแล้ว เราก็อย่าลืมที่จะรักตัวเอง รักครอบครัวของเรา เพราะถ้าเกิดเราเศร้าคนรอบข้างที่รักเราเขาจะไม่สบายใจไปด้วย และการให้อภัยเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

    รักครั้งเก่าสร้างนุ่นให้แข็งแกร่งขึ้น
    มากด้วยค่ะ คือความทรงจำดีๆ ก็มีเยอะ ก็เก็บเอาไว้ เพราะเขาก็ไม่ได้มาทำร้ายอะไรเรา แต่ว่าสิ่งที่ไม่ดี ที่มันมีปัญหา หรือความทรงจำที่ไม่ดีก็เก็บเอาไว้มาแก้ไข "อภัย" คือสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ที่ดีของชีวิต นี่เป็นอีกหนึ่งข้อคิดที่ดีในมุมความรักของ "นุ่น" วรนุช ที่มีให้ใครอีกหลายคน
    พรสวรรค์ เหลืองอ่อน / เรื่องวริศรา วุฒิกุล / ภาพ

    -->[​IMG]
    จากสาวน้อยนัยน์ตาบ้องแบ๊วกับผลงานละครเรื่องแรกในชีวิต ปอบผีฟ้า ก็พลิกผันให้เธอคนนี้ก้าวขึ้นแท่นนางเอก 7 สี อย่างเต็มตัว
    เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก 10 ปีเต็มเลยทีเดียว ที่นางเอกดังอย่าง "นุ่น" วรนุช วงษ์สวรรค์ โลดแล่นโชว์ฝีไม้ลายมือให้แฟนละครได้เห็นผลงานของเธออย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งปัจจุบันเธอก็มีผลงานละครเรื่อง รหัสริษยา ออกอากาศให้ได้ชมกัน
    อากาศร้อนในตอนเที่ยงเมื่อต้นสัปดาห์ ที่ผ่านมา "คม ชัด ลึก" ได้แวะเวียนไปพูดคุยกับเธอคนนี้ ระหว่างถ่ายทำฉากอวสานของ รหัสริษยา นุ่นตุนแรงด้วยการหม่ำข้าวแบบเต็มอิ่ม ก่อนจะยิ้มหวานๆ เดินมาพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเราในทันที
    10 ปีของ "นุ่น" กับ "วงการบันเทิง"
    เสียงตอบรับจาก รหัสริษยา หายเหนื่อยเลยไหม
    ดีมากเลยค่ะ ตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศเลย คนดูเยอะ ไปไหนคนถามตลอดว่า เอ๊ะ รหัส อะไร บอกหน่อยดิ แล้วส่วนมากนางเอกจะยอม แต่เรื่องนี้จะเห็นนุ่นในอีกแบบหนึ่ง เปิดฉากวันแรกก็บังคับให้พระเอกแต่งงานด้วย ถือว่ากระแสดีมากๆ
    คิวงานยังรัดตัวเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า
    ตอนนี้นุ่นปิดกล้อง รหัสริษยา แล้ว ก็ยังเหลือเรื่อง กาษานาคา กับ สตรีที่โลกลืม สองเรื่องนี้เป็นของค่ายเป่า จิน จง เขาจะแบ่งคิวกันเองว่าวันไหนจะให้นุ่นถ่ายอะไร ส่วนอีกเรื่อง เพลงดินกลิ่นดาว ของกันตนา คิวเต็ม 7 วัน แต่ก็อยู่ที่ว่าบางครั้งเขาจะยกเลิกคิวไป ก็จะได้หยุด คิวทำงานของนุ่นจะเป็นอาทิตย์ต่ออาทิตย์
    งานที่มากมายขนาดนี้นุ่นมีโอกาสเลือกเองมากน้อยแค่ไหน
    ถ้าเป็นละครช่อง 7 สี เป็นคนเลือกให้นุ่นทั้งหมด เพราะนุ่นเป็นเด็กช่องอยู่แล้ว ส่วนตัวนุ่นเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราอยากจะเล่นเรื่องไหนเป็นพิเศษถึงขั้นจะขอเลือกเอง เพราะนุ่นถือว่าละครที่ผู้ใหญ่เลือกให้ เลือกให้เรารับผิดชอบดีทุกเรื่องอยู่แล้ว และนุ่นก็เห็นว่าเหมาะสมด้วย และบทที่ได้รับ เราก็ชอบอยู่แล้ว ไม่เห็นมีเรื่องไหนที่เรารู้สึกไม่ดี พอใจหมด และนุ่นไม่ได้มองว่าตัวเองถูกช่องตีกรอบด้วย
    โดยมากแฟนละครจะเห็นนุ่นเล่นดราม่าเสียเป็นส่วนใหญ่
    คนอื่นก็ได้นะ แต่ส่วนใหญ่นางเอกจะถูกกระทำ ก็ดูน่าสงสาร อย่าง กาษานาคา บทแรงนะ แรงทีเดียว มันก็ไม่ได้เล่นเรียบร้อยหมด เป็นอีกแบบหนึ่ง จะเล่นเป็นสองบุคลิกในตัวเอง พอเจอพระเอกปุ๊บอะไรก็แล้วแต่ที่มาทำให้ความสัมพันธ์เขากับพระเอกแย่ เขาจะวี้ดขึ้นทันที แม้แต่กับพ่อตัวเองก็ตาม
    ในส่วนของบทที่นุ่นได้รับ นุ่นไม่สับสนนะ เพราะแต่ละวันที่เราทำงาน ด้วยบท ด้วยการแต่งตัว หรือด้วยบรรยากาศมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เรื่องปริมาณงานนุ่นมองว่าไม่มากเกินไปนะ เพราะนุ่นจะรับงานอีกเรื่องก็เพราะอีกเรื่องที่ถ่ายอยู่ใกล้ปิดกล้องแล้ว
    ถือว่าทำงานหนักตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ
    ใช่ค่ะ ตั้งแต่ตอนแรกต้องเรียนหนังสือไปด้วย และจะโดนละครที่ถ่ายไปออกอากาศไปอันนั้นหนักกว่าเยอะเลย
    10 ปีในวงการบันเทิงเป็นอย่างไรบ้าง
    นุ่นทำงานจนมองว่างานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว อาชีพนี้ทำให้เรามีทุกอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เงินทอง จากก้าวแรกที่เราเข้ามาเล่นละคร ตอนนั้นยังรู้สึกเฉยๆ เพราะเรายังเด็กมาก จากนั้นก็ซึมๆจนทุกวันนี้เล่นเพราะใจรักจริงๆ ในเมื่อตัดสินใจจะทำงานตรงนี้ แล้วเราต้องก้าวไปเรื่อยๆ
    จากวันแรกจนถึงวันนี้มีเรื่องที่ประทับใจที่สุดบ้างไหมกับการทำงาน
    ก็คงจะประทับใจในความเป็นวงการบันเทิง ซึ่งอาจจะมีดีหรือไม่ดีตามที่หลายคนบอก แต่นุ่นรู้สึกว่าเราสามารถเลือกอยู่ในจุดที่ดีได้ คือนุ่นเป็นคนทำงานก็ตั้งใจทำงานในส่วนของเรา เพราะเราอยากให้งานออกมาดีที่สุด
    เรื่องแย่ที่สุดเคยเจอบ้างหรือเปล่า
    มันไม่ได้มีเยอะ อาจจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ที่เข้ากระทบ แต่นุ่นไม่ได้เอามาใส่ใจ คือมันทำให้เราได้เรียนรู้ว่าคนทุกคนก็ไม่ได้มีนิสัยตรงกับเรา เป็นเรื่องปกติมากกว่า ด้วยตัวนุ่นเป็นคนไม่ค่อยคิดมาก ไม่ค่อยคบใครด้วย
    ส่วนเรื่องของข่าว นุ่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะการเข้ามาอยู่วงการนี้มีข่าวถือเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ถ้าเรามัวแต่ไปเครียด เราก็จะทำงานอย่างไม่มีความสุข เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ระบบความคิดของแต่ละคนด้วย และอีกอย่างนุ่นก็มีเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจเยอะไปหมด โดยปกตินุ่นไม่ค่อยมีเรื่องเครียด จะมีความสุข สนุกกับการทำงาน ชีวิตนุ่นไม่ค่อยมีอะไรนะ เสียใจที่สุด มันไม่ค่อยมีอะไร อาจเพราะวันๆ ทำแต่งาน ทำให้ไม่ต้องคิดอย่างอื่น
    เวลาว่างอันน้อยนิดของนุ่นนอกเหนือจากเวลางานแล้วมักจะทำอะไร
    ช็อปปิ้งจะเป็นช่วงๆ นะ อาจจะไปเดินห้าง ส่วนที่ถูกแซวว่าเป็นเจ้าแม่ขาช็อป จริงๆ นุ่นตามพี่สาวมากกว่า ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เวลาเห็นพี่ช็อปอะไรเราก็จะตาม
    เป็นคนติดใช้ของแบรนด์เนมไหม
    นุ่นมองว่าสินค้าแบรนด์เนมเป็นสินค้ามีคุณภาพ ถ้าเราเลือกซื้อหนึ่งใบเราจะใช้ได้นาน ทุกวันนี้กระเป๋าใบที่นุ่นซื้อเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มันก็ยังใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเกิดเราใช้สินค้าแฟชั่น เดี๋ยวนี้ใบหนึ่งก็แพงนะ หลายๆ ใบเข้ามันก็เยอะ ซื้อแบรนด์เนมได้เลย นุ่นมองที่คุณภาพมากกว่า และเราก็ไม่ได้ซื้ออะไรบ่อย ก็ต้องเลือกเหมือนกัน เพราะเรามีครอบครัวที่ต้องดูแล มีน้องที่ต้องดูแ
    จริงๆ เป็นเรื่องปกติมากกว่า ว่าคนที่หาเงินได้เขาก็ต้องอยากซื้อของที่ดีๆ เหมือนเราซื้อนาฬิกา ซื้อรถ ใครมีรายได้เท่าไร ควรซื้อรถอะไร เรารู้ตัวเอง ไม่ใช่เราใช้เงินแบบฟุ่มเฟือยแล้วต้องไปเป็นหนี้เขาแบบนั้นก็ไม่ใช่
    ที่บอกว่าต้องดูแลครอบครัวเริ่มทำตั้งแต่เมื่อไร
    พอนุ่นหาเงินเองได้แล้ว นุ่นก็บอกที่บ้านเลย ว่าเดี๋ยวนุ่นส่งน้องสองคนเรียนเอง ตอนนี้น้องคนที่ต่อจากนุ่นจบแล้ว และน้องคนเล็กก็อยู่ปี 3 ใกล้จบแล้ว ถามว่าปลื้มไหม นุ่นก็ไม่นะ มันก็ทำแทนพ่อแม่ กับที่บ้านช่วงที่หาเงินได้นุ่นก็ให้เป็นเดือน ให้เก็บเอาไว้
    จะเรียกว่าเสาหลักครอบครัวได้หรือเปล่า
    ไม่ใช่ขนาดนั้น พี่สาวนุ่นก็ทำงาน พ่อกับแม่ก็มีอาชีพมีส่วนของเขาอยู่แล้ว ที่นุ่นให้เป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกพึงกระทำได้ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดว่ารวยมหาศาล
    วาดฝันชีวิตการงานจากนี้ไว้อย่างไรบ้าง
    ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่ถ้าวันหนึ่งก็อยากหาธุรกิจทำเป็นของตัวเอง เพราะงานวงการบันเทิงมันก็ไม่จีรัง ไม่แน่นอน
    นางเอกอย่างนุ่นมีอายุงานไหม
    จริงๆ มันต้องมีอยู่แล้ว เพราะมันเป็นวัฏจักร มันก็มีมานานแล้ว ไม่ใช่แค่เฉพาะรุ่นเรา แต่สำหรับนุ่นมองแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเป็นนางเอกก็ได้ แต่ขอให้มีความสำคัญกับเรื่อง เป็นตัวเดินเรื่อง นุ่นก็พอแล้ว เพราะถ้าเกิดคิดว่าต้องเป็นนางเอกอย่างเดียว นุ่นว่าเป็นความคิดที่โบราณ หรือคิดว่ากลัวเสียภาพลักษณ์ ไม่ยอมเล่นร้ายก็ไม่ใช่ ไม่อย่างนั้นนุ่นคงไม่ไปเล่นร้ายบ้างหรอก นุ่นกลับมองว่ามันก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่ให้คนดูได้เห็นความสามารถ และเราก็จะได้ทดสอบความสามารถของตัวเองว่าเราก็ทำได้
    แสดงว่านุ่นไม่ยึดติดกับคำว่านางเอกเลย
    ไม่เลย เพราะถ้าไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่มีคำว่าก้าวหน้า และตัวนุ่นเองก็ไม่ได้ขีดเส้นกับอายุงานการแสดง เพราะตอนนี้ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าจะหยุดทำเมื่อไร อายุเท่านี้ก็ยังทำไปเรื่อยๆ วันหนึ่งยังไม่รู้ ยังไม่ได้หาคำตอบ แต่ ณ วันนี้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ เพราะเราไม่สามารถรู้อนาคตได้ อาจจะวางแผนแค่นิดหน่อย แต่จะให้ไกล 5-10 ปี มันคงไม่ใช่ เพราะแค่ทุกวันนี้เวลายังเต็มอยู่เลย และเราจะมีเวลาไปทำอะไร หรือถ้าจะทำอะไรก็คงทำไม่เต็มที่ มันก็มีตัวอย่างให้เห็นในสังคมเยอะแยะ ว่าถ้าเราจะทำอะไรสักอย่างแล้วเราไม่ได้ลงมือทำด้วยตัวเอง ให้คนอื่นมาทำแทนโอกาสเจ๊งมีเยอะมาก
    หลายคนมองว่า "นางเอก" มักจะต้องมีกรอบหรือสร้างภาพลักษณ์
    ทุกคนที่ได้มารู้จักกับนุ่น รู้ตัวตนของนุ่นก็ไม่เห็นบอกว่าเรียบร้อยเหมือนในละครเลย นุ่นจะเป็นคนร่าเริง ขี้เล่น ชอบอำ ชอบแกล้งคนอื่น ชีวิตจริงไม่ใช่นางเอ๊ก...นางเอก คือพอเราเป็นตัวของตัวเองไม่มานั่งสร้างภาพมันก็จะเข้ากับคนอื่น เข้ากับสังคมได้ง่าย เพราะทุกวันนี้เราคงอยู่ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว เรามีสังคม มีสิ่งแวดล้อม
    จากงานก้าวสู่เส้นทางรัก
    วางแผนกับเรื่องความรักไว้อย่างไรบ้าง
    ไม่ได้วางแผนอะไรเอาไว้เลย
    แบ่งสัดส่วนความสำคัญระหว่างรักกับงานไว้แบบไหน
    งานมานำเลย ไม่มีสัดส่วนว่าต้องเท่าไรด้วย แต่ถ้ามาให้คิดว่าถ้านุ่นไม่มีงานทำ นุ่นคงเครียดมากกว่าการที่ไม่มีแฟน ไม่มีงานเนี่ยเครียดนะ (ยิ้ม) เพราะมันจะทำให้ปัญหาอื่นๆ ตามมาแน่นอน และนุ่นไม่ได้มองว่าความรักจะต้องเป็นแค่แฟน นุ่นรวมถึงเพื่อน หรือว่าครอบครัวก็มีความรักทำให้เราอิ่มได้ หากเราไม่มีแฟนจริงๆ
    สถานภาพตอนนี้โสดสนิทหรือเปล่าเนี่ย
    โสดค่ะ (เน้นชัด)
    กับคนที่เป็นข่าวด้วย ("ต๊อด" ปิติ ภิรมย์ภักดี)
    ก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ปิดบังอะไร ถ้าว่างก็ไปกินข้าวกัน เป็นกลุ่มๆ ก็ไปนะ ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ไป
    ทำไมไม่กล้าเรียกต๊อดว่าแฟน
    ทุกอย่างมันอยู่ที่การเรียนรู้ เหมือนกับว่าเจอคนคนหนึ่ง แล้วเราสนิทกับเขา แต่จะให้เขาไปอยู่บ้าน ให้ไว้วางใจเขา ฝากเงินกับเขา ให้เขาดูแลมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทุกอย่างต้องใช้เวลา
    เป็นเพราะกลัวคำว่าผิดหวังด้วยหรือเปล่า
    ไม่เกี่ยวค่ะ มันเป็นของคู่กัน อยู่แล้วสุข สมหวัง หรือผิดหวัง แต่นุ่นว่าทุกอย่างเราสามารถเลือกได้ ออกแบบได้ ถ้าเกิดเราอยากให้เป็นแบบนี้เราก็ต้องทำให้ดี หรือเราอยากให้ทุกอย่างแฮปปี้ แล้วเราทำแย่ๆ มันจะดีได้อย่างไร ทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่นุ่นไม่ได้ปิดว่านุ่นเรียนรู้กัน หรือว่าได้รู้จักกัน
    ข่าวมีส่วนทำให้ไม่กล้าพูดหรือฟันธงกับเรืองนี้ด้วยไหม
    ไม่ค่ะ นุ่นว่าตอนนี้เป็นสังคมสมัยใหม่แล้ว และเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงกับผู้ชาย ไม่ว่าสังคมนี้หรือทุกๆ สังคม แต่สังคมที่เราอยู่มันเป็นสังคมที่แฟนๆ ให้ความสนใจ ตรงนี้นุ่นก็ขอขอบคุณที่เขาคอยเป็นห่วง แต่อะไรที่พูดได้นุ่นก็พูด ไม่ได้ปิดหรอก เพราะว่าทุกวันนี้เราก็อยู่ในที่แจ้ง
    รู้สึกอย่างไรที่มักมีประโยคเปรียบเปรย "ดาราเป็นของเล่นไฮโซ"
    ทุกคนก็มีสิทธิคิดอะไรกันต่างๆ นานาได้ แต่นุ่นไม่อยากให้มาวัดค่าของคนแค่ฐานะ หรือแค่คนนั้นมีเงินมากกว่าคนนี้ มองในเรื่องของจิตใจมากกว่า ต่อให้คนไฮโซ โลโซหรืออะไรมาคบกัน แต่หากนิสัยเข้ากันไม่ได้ก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดี หรือแม้แต่นักแสดงด้วยกันเองเข้ากันไม่ได้ เราก็ไปกันไม่ได้อยู่ดี กับเรื่องนี้นุ่นว่าบางทีมันเป็นกระแสที่ห้ามไม่ได้ เราก็ทำตัวเองให้ดีที่สุด
    คู่ชีวิตที่นุ่นวางเอาไว้เป็นแบบไหน
    ก็ขอให้เป็นคนที่รักเรา ไม่เจ้าชู้ จริงใจ นุ่นว่าคงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนอยากได้ และคงอยากให้คนที่เราจะอยู่ด้วยเห็นค่าของเรา
    ครอบครัวมีส่วนช่วยในการตัดสินใจกับเรื่องความรักบ้างหรือเปล่า
    ไม่มีเลยค่ะ ตั้งแต่เข้าวงการพ่อกับแม่ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวเลย เขามองว่าลูกโตแล้ว เรียนจบแล้วตัดสินใจเองได้
    มุมมองความรักของนุ่นในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
    ความรักมันก็เป็นสิ่งสวยงามนะ เหมือนน้ำคอยรดให้ชุ่มชื่น ให้มีกำลังใจ ให้สดชื่น เป็นเรื่องที่ดีนะ ส่วนในเรื่องอดีตเก่าๆ มันก็เป็นบทเรียนที่เราจะเก็บมาใช้ในอนาคต จริงๆ แล้วต้องขอบคุณที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น
    คือคนคนหนึ่งเวลาอยู่กับใครบางทีมันจะมองแค่รอบด้านข้างใน แต่พอวันหนึ่งที่เราโตขึ้น เราจะเปลี่ยนมองจากข้างบนลงมามองด้านล่างเราก็จะเห็นทั้งหมด ทำให้เรามีสติมากขึ้น
    ทิ้งท้ายบอกอะไรกับคนที่ยึดติดกับความรักที่ไม่สมหวังว่าควรจะทำอย่างไรดี
    นุ่นว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา อย่างนุ่นก็ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกัน ค่อนข้างนาน แต่สุดท้ายแล้วก็ทำให้คิดว่าในเมื่อเรารักคนอื่นแล้ว เราก็อย่าลืมที่จะรักตัวเอง รักครอบครัวของเรา เพราะถ้าเกิดเราเศร้าคนรอบข้างที่รักเราเขาจะไม่สบายใจไปด้วย และการให้อภัยเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
    รักครั้งเก่าสร้างนุ่นให้แข็งแกร่งขึ้น
    มากด้วยค่ะ คือความทรงจำดีๆ ก็มีเยอะ ก็เก็บเอาไว้ เพราะเขาก็ไม่ได้มาทำร้ายอะไรเรา แต่ว่าสิ่งที่ไม่ดี ที่มันมีปัญหา หรือความทรงจำที่ไม่ดีก็เก็บเอาไว้มาแก้ไข
    "อภัย" คือสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ที่ดีของชีวิต นี่เป็นอีกหนึ่งข้อคิดที่ดีในมุมความรักของ "นุ่น" วรนุช ที่มีให้ใครอีกหลายคน พรสวรรค์ เหลืองอ่อน / เรื่อง วริศรา วุฒิกุล / ภาพ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    อนุโมทนาครับ
    ดาราน้อยคนนักจะคิดแบบนั้น โลกมายาทำให้เราไม่รู้จักคำว่า ให้อภัย
     

แชร์หน้านี้

Loading...