ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี สืบสานประเพณีฟังเทศน์มหาชาติเดือนยี่เป็ง http://palungjit.org/threads/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%90%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%B5-%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%87.511464/
เชิญทำบุญสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ๙ ศอกปิดทองเพื่อยับยั้งภัยพิบัติ http://palungjit.org/threads/เ�...280143.18/
มาบวชกับเราก็ได้ ถ้าอยากบวช แต่อย่ามาถือเรานะ เพราะเราธรรมดา ไม่เคร่งอะไรมาก มาดูก่อนก็ได้ อ.เมธก็เรานี่แหละ มารพรหมไปนานแล้วหละ สาธุ
สาธุ จะบวชหรือ หรือจะมีใครบวช มารพรหมไปพรหมโลกแล้ว สาธุ ท่านโพสท์เอาไว้ http://board.palungjit.com/member.php?u=213039
( อ่านข้างล่างสุดก่อนนะ ) หากเป็นสายที่สติแก่กล้า ดูจิตไปตามตรง จะเห็นอาการเจตนาอ่อนๆ นั้น ว่า เกิดจากตัณหาที่กายมันรักกาย จิตมันรักจิต เช่น การการะตุก การสะอึก นี่ กายมันรักกาย มันรักษาตัวเอง ส่วนจิตรักจิตก็เช่น การด่าสิ่งสูงกว่า(อติมานะ มันมาขี่จิตเพื่อจะหลอกปลอบตัวเองว่าทำดีแล้ว ทำถูกแล้ว ซึ่งสักเกตุนะครับ เรื่องของการทำ(Do somthing) ก็คือรูปของสมถะ ดังนั้นหากใครเป็นสายสมถะ ยานิกก็อย่าแปลกใจที่ตัวเองจะต้องข่ม ถ้าไม่โดนยักษ์มาข่ม ก็ต้องไปข่มเขา มัน เป็นรูปของมานะสังโยชน์ ซึ่งมีสองข้าง ทั้งหมดเพราะยึดมันรักษาจิตคิดว่า ต้องทำจิต เลยมีอาการจิตรักจิตเกิดขึ้นเสมอ(อัตตา)
เจตนาอ่อนๆ ที่ออกมาจากจิต หรือ กาย ที่มันทำเอง ถ้าเป็นด้านดี ก็เรียกว่า วาสนาที่ทำไว้ดี เช่น ฟังธรรมมาเยอะ ( ขึ้นกับธรรมะว่าถูกหรือผิด ถ้าผิดก็ แย่เหมือนกัน จะเป็นพวกคิดว่ามีองค์ เป็นต้น ) ถ้าเป็นด้านร้ายก็จะทำให้สับ สนและยิ่งจมความไม่รู้ ถ้าเป็นสายสมถะจิตจะวิ่งเข้าอาการสมถะอัตโนมัติ นี่ ก็มีเจตนาเจืออยู่ โดยจิตเป็นผู้แต่สายสมถะมักมองไม่ออกเพราะคิดว่ามันเป็นการ ดีแล้ว ซึ่งก็เป็ยเรื่องของสมถะยานิกนะครับ เขาจะทำไปอบบนั้นแหละจนพบ ว่าท้ายสุดทำไม่ได้ ต้องนิ่ง เช่น วินาทีบรรลุธรรมของหลวงปู่มั่นที่ต้องนิ่งแม้จะ มียักษ์เอาภูเขามาทุบ
ตอบในนี้ดีกว่า เพราะ จขกท ค่อนข้างจะ แรง เกินกว่าจะฟังธรรมะ เนื่องจาก จิต และ กาย ไม่ใช่เรา บางครั้ง เขาก็ก่อกรรมได้เอง โดยที่เรารู้สึก ว่าไม่ได้จงใจทำ เช่น การกระตุกของคิ้ว การที่จิตมันด่าว่าสิ่งที่สูงกว่าตน หรือ แม้แต่จิตมันร้องเพลง หรือ แม้แต่เรื่องดีๆอย่าง จิตถ่ายทอดธรรมะ คือ อยู่ดีๆ มันก็สรุปธรรมะให้ฟัง เหล่านี้ล้วนมีเจตนาเจืออยู่ ทำให้จิตเคลื่อนออกจากการ รู้อยู่ที่จิต เข้าไปดึงขันธ์5ขึ้นมาทำงาน แล้วตกในภพจึงทำให้อาการ หรือเรื่อง ที่เป็นมันสมบูรณ์เต็มตัวจนหมายแบบสมมติบัญญัติได้
1. ระลึกไปได้เลยครับ เพียงแต่ถ้าไม่มีการบริกรรมนั้น โอกาสที่จิตจะไปแนบกับลม จะมีสูง ทำให้ซึม สบายๆ เยิ้มๆ เคลิ้มๆ แล้วมีหลับไป อันนี้เห็นบ่อย แต่ถ้ามีลักษณะ ของผู้ดู ดูกายเราหายใจอยู่ห่างๆ แบบนี้จะไปได้เรื่อยๆ ก็จะไปเข้าสู่การเห็นข้อ 2. 2. การเห็นการปรุงแต่ง ผลิกได้ทั้งสองด้านครับ เห็นฝ่ายอกุศลก็ได้ เห็นฝ่ายกุศลก็ ได้ แต่เห็นฝ่ายกุศลนี้ของผมมักไปเห็นพวกนิมิตกสิณแล้วไปติด พอรู้ทันค่อยหลุด ออกมา ส่วนนิมิตอกุศลถ้ามันแรงๆ มันก็ทำให้เราหลงโมหะครอบงำมีอาการท่าทาง ตอบสนองได้ ทั้งนี้เพราะไปจับหรือไปจ้องสิ่งที่เห็นแรงไป แต่ถ้าเห็นแบบว่ามีผู้รู้ เป็นผู้สังเกตการณ์ก็จะไม่มีการกระเพื่อมไหวตาม มันย้อมจิตเราไม่ติด ก็จะเห็นมันผ่าน ไปจำนวนมาก พอคลายการเห็นภาพก็จะเห็นเป็นแสงวับๆ พอคลายจากการเห็นแสง วับๆ ไม่จับจ้องก็จะเห็นแต่อาการไหวๆเหมือนคลื่นมากระทบ ถ้าไม่จับการเห็นอีกก็จะ มาโปร่งๆ สบายๆ เป็นกลางที่พอดีได้