จิตเศร้าหมองเป็นตัวปิดบุญเก่า:พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย bluebaby2, 30 มิถุนายน 2011.

  1. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    การไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของความอยากได้จนมากเกินไปจนกลายเป็นความ
    เครียด จิตเศร้าหมองกังวลเป็นตัวปิดบุญเก่าไม่ให้มาหนุนกรรมปัจจุบันได้ เมื่อมี
    สิ่งกระทบ อายตนะทั้งหลายที่มากระทบปรุงเป็นความไม่พอใจขึ้นมากระทบเมื่อ
    ใด มันจะกลายเป็นความพอใจและไม่พอใจ ให้มีสติรู้เท่าทันธรรม 2 อย่างนี้
    ยกระดับจิตไม่ให้เกลือกกลั้วกับความพอใจหรือไม่พอใจในขณะนั้นโดยมี
    กุศโลบายรู้เท่าทันของจิต

    เมื่อความไม่พอใจเกิดขึ้นก็ให้แผ่เมตตาให้บุคคลนั้น ขอให้มีความเจริญๆๆๆ
    ความพอใจก็เช่นกัน ก็แผ่เมตตาให้เขาไม่ว่าเขาจะเป็นมิตรหรือศตรูก็ดี ขอให้
    เขามีความสุขความเจริญๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นเป็นมาด้วยเหตุ ทั้งที่มา
    จากอดีตชาติ เป็นเหตุมาจาก บาป-บุญ ความรักความไม่ชอบใจ ไม่พอใจ
    จากอดีตชาติ ความพยาบาทจากอดีตชาติสิ่งเหล่านี้เป็นการหนุนเนื่องมาจาก
    กรรมเก่าทั้งสิ้น ส่วนเหตุในปัจจุบันก็คือสิ่งที่มากระทบทาง หู ตา จมูก ลิ้น กาย
    ใจ ให้รู้เท่าทันแล้วปล่อยวางยกระดับจิตให้อยู่เหนือสิ่งเหล่านี้ โชคลาภก็จะเข้า
    มาได้ง่าย แสดงว่าประตูแห่งความสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว ญาณทัศนะก็เกิดความรู้
    เห็นในสิ่งที่ถูกต้อง จะสามารถวินิจฉัยปัญหาได้อย่างถูกต้อง...

    จิตปิดก็เพราะท้อแท้ หดหู่ เศร้า ลังเลสงสัยในบุญกุศล ในคุณงามความดี ต้อง
    เฝ้าระวังจิตเหล่านี้ เพราะจิตเหล่านี้มีแต่จะชักนำวิบากเปิดโอกาสให้วิบากกรรม
    เข้ามาจองล้าง จองผลาญ เรื่องร้ายๆ ก็จะสามารถแทรกเข้ามาได้ในชีวิต...

    ถ้าใจมีความปิติ มีความภาคภูมิใจในความเป็นมนุษย์ของตนเองแล้ว คุณธรรม
    ตัวอื่นจะตามมา ภูมิใจในสติ ปัญญา เห็นตัวบุญ-บาป รู้จักแยกแยะสิ่งใดเป็น
    คุณ เป็นโทษ เป็นประโยชน์ มีสติ ปัญญาในทางนี้แล้วอย่ายึดติดอยู่ที่ความ
    ภูมิใจ อย่ามัวหลงกับความภูมิใจ ให้ทำจิตใจโปร่งๆ 3 วาระ คือ จิตเปิด
    1.อย่าอยากมากเกินไป
    2.อย่าโทสะ ความหลงเข้าครอบงำ
    3.อย่าให้ความหดหู่ มีเข้ามาในจิต
    ให้ทำจิตให้เบา โปร่งสบาย ทุกอย่างสำเร็จด้วยบุญหนุนเนือง จิตนี่แหละคือแก้ว
    สารพัดนึก
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ยกจิตทวนกระแสโลก

    เคยแสดงความเห็นเรื่องการยกจิตไว้เหมือนกันครับลองอ่านดู

    จิตก็เหมือนน้ำมีธรรมชาติไหลลงต่ำ เพราะมีกฎของโลกคือกฎแรงดึง
    ดูดอยู่ อย่างนักบินอวกาศที่ขึ้นไปอยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงก็ยัง
    บอกว่ามีความรู้สึกทางเพศน้อยลงมาก แต่ก็ยังมีกฎทวนกระแสโลก
    หรือกฎไหลขึ้นสูงอยู่ คือ จิตที่มีสติ สัมปชัญญะ เป็นจิตที่ลอยขึ้นสูง
    แล้วจิตยังมีธรรมชาติที่ไม่นิ่งวิ่งไปมาเหมือนลูกตุ้มแขวนวิ่งไป
    มาระหว่างด้านสูงกับด้านต่ำ จิตที่มันแกว่งไปมาน้อยก็หวั่นไหวกับ
    โลกธรรมของเป็นคู่ๆ น้อย จิตที่มันแกว่งไปมามากก็หวั่นไหวกับ
    โลกธรรมมาก การที่จะทำให้มันแกว่งน้อยลงต้องใช้ตัว ปีติ ที่เกิดได้
    จากสติ สัมปชัญญะ ในอานาปานสติข้อทำจิตให้ปราโมทย์ยิ่งอยู่คือ
    การทำจิตให้ขึ้นสูง แต่การที่จิตจะหยุดมันก็ต้องหยุดของมันเอง ไม่ว่า
    จะแกว่งน้อยหรือแกว่งมาก ก็ต้องให้มันหยุดของมันเอง สิ่งที่ทำได้คือ
    พยายามให้มันแกว่งน้อยและไม่ไปผลักมันออกไปเรื่อยๆ การพยายาม
    ให้แกว่งน้อยนี่ก็คือการมี สติ สัมปชัญญะ แต่การผลักมันออกไป
    เรื่อยๆ นี่อาจจะแปลกใจ มันคือการพยายามควบคุมดึงจิตจากฝ่ายต่ำ
    ไปฝ่ายสูง มันทำไม่ได้ เหมือนเรารู้ว่าจิตเรามีโลภะ เราพยายามควบ
    คุมจิตไปฝ่ายสูง แล้วจิตที่มาควบคุมมันมีทั้งโลภะ มันมีทั้งโทสะ จะไป
    ทำให้จิตมันสูงขึ้นได้อย่างไร ยิ่งไปผลักจิตให้ต่ำลง แต่การมีสติ
    สัมปชัญญะจนเกิดเป็นปีตินี่ดึงจิตให้สูงอย่างรวดเร็ว มันเป็นกฎของ
    ธรรมชาติการที่จะไปผลักมันมากมันก็ต่อต้านเรามาก ถ้าเราหยุดไม่ไป
    พลักมันไกลขึ้นซักวันมันก็หยุด แค่รู้ไว้ด้วย สติ สัมปชัญญะ เราต้อง
    หยุดก่อน จิตมันถึงจะหยุดตาม ก็เหมือนกับเราไปตีเขา เขาตีเรากลับ
    เราไปตีเขามากขึ้นอีกนี่เท่ากับเราไม่หยุด เขาไม่หยุด มันก็ไม่เป็น
    อโหสิกรรม ธรรมชาติของจิตมองไปถึงเรื่องกรรม การให้ผลของกรรม
    ก็ได้ หยุดคือรู้ไม่ปรุงแต่งเห็นตามความเป็นจริง
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  3. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    โมทนานะคะ กำลังฝึกปฏิบัติอยู่ และ เห็นความกวัดแกว่งของจิตทุกวินาทีที่เรามีสติ มันเป็นเช่นนั้นเอง หมุนเวียนไปตามเหตุปัจจัยที่กระทบและสิ่งที่สั่งสมมาต่างๆ แต่ถ้าเราไม่มีสติ ก็ปรุงไปเรื่อย เพราะกิเลสต่างๆเข้าครอบงำ ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เราจะวิ่งตามกิเลส พอสติมา ปัญญาเกิด ความคิด การปรุงแต่งจึงดับไป ตามธรรมชาติ

    มันอยากจะชอบก็ให้ชอบ อยากจะไม่ชอบก็ไม่ชอบไป ปล่อยไป เราเป็นแค่ดู รู้ สุดท้ายก็ละ เพราะไม่มีอะไรให้ยึดเลย ทุกสิ่งเกิดดับ ตามธรรมชาติ ของมัน ^^

    แต่แปลกนะ ยิ่งเราเพียรปฏิบัติ เรายิ่งเห็น ยิ่งมีอะไรมาทดสอบเรามากมาย แต่บททดสอบนี่ถึงจะเจ็บปวดบ้าง แต่ก็ดีนะ ทำให้เราเห็นอะไรหลากหลายดี เพราะจริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเลย มีแต่จิตเรานั่นแหละไปยึดไว้ พอวางได้ ก็สบายดีนะ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2011
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ปล่อยมันก็ดีครับ หรือจะแผ่เมตตาให้มันยิ่งดีว่าจิตดวงนี้เป็นทุกข์หนอขอจิตดวง
    นี้จงหลุดพ้น กุศลจิตนี้มันจะดึงจิตขึ้นสูงทันที หรือเราระลึกพุทธคุณ ธรรมคุณ
    สังฆคุณ อย่างนี้จิตมีปีติมันก็ยกเอง จิตมันเริ่มแกว่งน้อย อย่างจริตหก ราคะจริต
    โทสะจริต โมหะจริต ศรัทธาจริต พุทธิจริต วิตกจริต มันเกิดขึ้นได้เสมอ เอา
    กรรมฐานคู่ปรับลดความแกว่งมันก็ได้ หรือรู้อย่างเดียวเอาสติเป็นฐานก็ได้
    เหมือนบทสวดมนต์ก็มีหมด ไม่ว่าพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ บทแผ่เมตตา นี่
    เป็นอุบายทำให้จิตมันหยุดโดยให้เกิดปีติ พระอาจารย์ผมเวลาท่านสอนผมท่าน
    ไม่คุยเรื่องอื่นเลยให้ผมทำปีติให้เป็นวสีก่อนค่อยไปคุยกับท่านแต่มันก็ทำยากอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2011
  5. toon0901

    toon0901 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +17
    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ตอนนี้กำลังฝึกปฏิบัติอยู่ เห็นด้วยค่ะ ยิ่งเพียรปฏิบัติ ยิ่งเห็น ในใจกำลังคิดอยู่ว่า น่าจะเป็นบทสดสอบ ถ้าเรายอมแพ้ ก็แปลว่ากิเลสชนะ เรื่องของจิต เป็นเรื่องที่ยากนะคะ โดยเฉพาะฝึกปฏิบัติโดยไม่มี พ่อแม่ครูบาอาจารย์ อยู่ใกล้ คนที่อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เป็นบุญของท่านมากแล้ว อย่าทิ้งโอกาสนะคะ
     
  6. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    โมทนาสาธุ อ่านแล้วทำให้มีสติ ลดละเลิกลิเลส
    ที่คอยจะปรุงแต่งและให้เราหลงมัวเมาไปกับมัน
    จะได้หัดปล่อยวางสักบ้าง จะได้ไม่พาให้จิตเราทุกข์....
     
  7. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,614
    อนุโมทนาค่ะ ฝึกจิตทุกวัน แต่บางครั้งพอมีเรื่องมากระทบน้ำตามันก็ไหลออกมาทุกที
     

แชร์หน้านี้

Loading...