'ตู้พระธรรมไตรปิฎก'แชมป์ฝีมือช่างไม้ไทย

'ตู้พระธรรมไตรปิฎก' แชมป์ฝีมือช่างไม้ไทย




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ช่างสีงานไม้ ถือเป็นงานศิลปะที่เป็นเอก ลักษณ์และทรงคุณค่าของไทย อยู่คู่กับสังคมมาช้านานและนับวันจะเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา

การที่บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระ ทรวงแรงงาน เพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาอันเก่าแก่ของช่างไทย ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมไม่ให้สูญหายนั้น

นอกจากจะช่วยพัฒนาฝีมือช่างไม้ไทยแล้ว ยังช่วยยกระดับมาตรฐานงานไม้ของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกอีกด้วย

โครงการ TOA : The King of Wood "ชิงล้าน ชิงแชมป์ ช่างสีงานไม้" เปิดพื้นที่ให้ช่างฝีมือทุกสาขาและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมโดยไม่จำกัดเพศ อายุ และวุฒิการศึกษา โดยใช้กฎ-กติกาการแข่งขันของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่เป็นสากล ซึ่งบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ร่วมสนับสนุน

หลังจากเปิดตัวโครงการไม่นาน ก็ได้รับการตอบรับเกินความคาดหมายจากช่างมืออาชีพและมือสมัครเล่น จนสามารถเฟ้นหาตัวแทนผู้ชนะจาก 5 ภูมิภาคได้เสร็จสิ้น

ศึก "ชิงล้าน ชิงแชมป์ ช่างสีงานไม้" รอบชิงชนะเลิศที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพฯ ผู้เข้ารอบทั้งหมดได้แสดงพลังแห่งทักษะความเชี่ยวชาญและความสามารถ อวดฝีมือด้านงานไม้งานสีอย่างไร้ขีดจำกัด ร่วมแข่งขันประกอบตู้พระธรรมไตรปิฎกออกมาอย่างสวย เฉียบ เนี้ยบทุกคน
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


แต่ที่สามารถชนะใจเหล่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จนคว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง เป็นผลงานของ "นายขวัญชัย ดาใบสี" อายุ 28 ปี ผู้ชนะเลิศจากตัวแทนภาคกลาง ที่ประกอบ "ตู้พระธรรมไตรปิฎก" ได้อย่างสุดประณีต โดดเด่นเตะตาคณะกรรมการ และกลายเป็นช่างสีงานไม้ "The King of Wood" คนแรกของเมืองไทย คว้าเงินสดกลับบ้านไปครองหนึ่งล้านบาท พร้อมผลิตภัณฑ์ของทีโอเอครบชุด

"จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพราะที่เล็งเห็นความสำคัญงานฝีมือช่างสีงานไม้ที่มีคุณค่ากำลังจะสูญหายไปอย่างน่าใจหาย จึงร่วมกันจัดโครงการ TOA : The King of Wood "ชิงล้าน ชิงแชมป์ ช่างสีงานไม้" ขึ้นเป็นครั้งแรก

วัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม พัฒนา และยกระดับมาตรฐานแรงงานของไทยให้เทียบเท่านานาประเทศ และอนุรักษ์และสืบสานงานช่างแบบไทยให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป

หวังว่าการเปิดเวทีเฟ้นหาสุดยอดช่างสีงานไม้ระดับประเทศในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ช่างมืออาชีพและสมัครเล่นทุกคนได้มีโอกาสแสดงความสามารถด้านงานสีและงานไม้อย่างเต็มที่ อีกทั้งได้ตื่นตัวในการพัฒนาฝีมือของตนต่อไป ไม่ว่าจะได้รางวัลหรือไม่ก็ตาม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ในเรื่องการเพิ่มมูลค่าของสินค้า และยกระดับมาตรฐานแรงงานของไทยให้เทียบเท่านานาประเทศ
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
1.นายขวัญชัย ดาใบสี -ผู้ชนะเลิศ

2.รองชนะเลิศอันดับ 1

3.รองชนะเลิศอันดับ 2

4..รองชนะเลิศอันดับ 3


</TD></TR></TBODY></TABLE>


"การประลองเทคนิคฝีมือช่างรอบชิงชนะเลิศนี้ โจทย์คือการประกอบและทำสีตู้พระธรรมไตรปิฎก ที่ถือว่าเป็นงานศิลปะที่เป็นสุดยอดของความสวยงามอันทรงคุณค่าของผู้เข้ารอบทั้ง 5 คนสุดท้าย เพราะเป็นการโชว์ฝีมือด้านช่างที่มีอยู่อย่างเต็มที่ สามารถสะท้อนภูมิปัญญาของฝีมือช่างไม้แบบไทยได้ดีที่สุด เนื่องจากมีขั้นตอนและวิธีการทำที่ซับซ้อนและต้องผ่านกระบวนการที่ลึกซึ้ง นับวันงานฝีมือลักษณะนี้เริ่มหาชมได้ยากขึ้น จึงหวังว่าการได้ร่วมอนุรักษ์งานฝีมือด้านช่างสีช่างไม้จะช่วยให้ความงดงามทางศิลปะที่ทรงคุณค่านี้ดำรงอยู่คู่กับประเทศชาติของเราตลอดไป" จตุภัทร์ระบุ

นายขวัญชัย ดาใบสี เจ้าของรางวัล "The King of Wood" กล่าวว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้รางวัลชนะเลิศ ปัจจุบันทำงานเป็นช่างสีช่างไม้ประมาณ 9 ปี เนื่องจากคุณพ่อประกอบอาชีพด้านนี้อยู่แล้วและมีใจรักด้วยจึงยึดอาชีพนี้มายาวนาน ก่อนลงแข่งรอบชิงชนะเลิศ ได้หาแนวคิดจากการตระเวนไปดูตัวอย่างตู้พระธรรมไตรปิฎกของวัดต่างๆ แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับความรู้และประสบการณ์ที่มี โดยเลือกใช้สีสามสี คือแดง ดำ และสีย้อมไม้คัลเลอร์ซูเปอร์ อิงก์ของ TOA ในการทำสีตู้ เพราะดูเหมาะสมกับชิ้นงานมากที่สุด ทำให้สีสวยเรียบเนียนและประณีตจนได้รับรางวัลชนะเลิศ

สำหรับขั้นตอนที่ยากคือการทำเดือยตู้ เพราะเป็นงานไม้ที่ต้องประกอบให้ลงตัวเพียงครั้งเดียว และต้องอาศัยความใจเย็น อดทน และสมาธิในการทำชิ้นงานนี้อย่างมาก สำหรับตนแล้วรู้สึกดีใจที่มีโครงการนี้ขึ้นมา ทำให้ช่างได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาฝีมือตัวเอง และร่วมกันอนุรักษ์ศิลปะไทยให้คงอยู่ ได้ความรู้และประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีกด้วย จึงอยากให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจอาชีพนี้ หากมีใจรักก็ลองฝึกฝนและพัฒนาฝีมือตัวเองมากๆ เพราะงานช่างเป็นวิชาชีพที่เป็นความรู้พื้นฐาน ขอเพียงมีความมุ่งมั่นตั้งใจและความพยายาม รับรองความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม

ท่ามกลางเทคโนโลยีใหม่ๆ ผลงานศิลปะจากเครื่องจักร กำลังหลั่งไหลเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่แปลกที่คนรุ่นใหม่จะตื่นตาตื่นใจและเปิดรับอย่างเต็มใจ จนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าวันหนึ่งภูมิปัญญาพื้นบ้าน และงานศิลป์ของไทยจะถึงกาลเสื่อมสูญไป

โครงการนี้เป็นอีกเวทีหนึ่งที่จะทำให้สังคมได้ตระหนักถึงศักยภาพและฝีมือของช่างไทย อย่างน้อยก็ยังมีคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะสืบสานและต่อลมหายใจงานฝีมือพื้นบ้านเหล่านี้ให้คงอยู่

เพื่อหวังให้งานฝีมือล้วนๆ เหล่านี้ได้เจริญงอกงามในแผ่นดินไทยต่อไป



---------------
ข่าวสดออนไลน์
&#039�����и�����ûԮ�&#039 ���������ͪ�ҧ������ : ����ʴ�͹�Ź�==