ทะเลทุกข์ในชีวิตมหาลัย

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย peaceful69, 11 มีนาคม 2013.

  1. peaceful69

    peaceful69 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    ผมเป็นนิสิตของคณะบริหาร สาขาการตลาดของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้ามารั้วมหาลัยครั้งแรกตามประแสเด็กปีหนึ่งคือการดีใจที่ได้เพื่อนใหม่ ตอนนั้นผมมีเพื่อนสนิทที่อยู่หอในห้าคน เราสนิกก้ออยู่ในระดับหนึ่ง แต่ปัญหามันเริ่มตรงที่เพื่อนผมติดเกมส์มาก ผมเป็นคนนึงที่ไม่ชอบเล่นเกมส์เลยความสนิทยังไม่มาก จากนั้นปีสองพวกเราก็ย้ายไปหอนอก ผมไปอยู่กะเพื่อนทั้งหมดห้าคนแต่สิ่งที่ผมปลีกตัวจากพวกเขาก็คือ ผมทนรับกับความสกปรกของห้องไม่ได้ครับ รวมทั้งพวกเขาเล่นเกมสมันเลยขัดกับผมมาก แล้วผมก็ปลีกตัวมาอยู่หอในคนเดียว ความห่างเหินก็เริ่มมากขึ้น จนเขาไม่คิดว่าผมเป็นเพื่อนแล้ว พวกเขาแอบไปกินพิซซ่ากับเพื่อนผู้หญิงที่ผมเคยแอบหลงรัก แล้วเพื่อนผู้หญิงคนนั้นเขาก้อไม่ชอบผมเนื่องจากผมไปชอบเขา ตอนนั้นผมเสียใจมาก ไม่คุยกะพวกนั่นเปนอาทิตย์ แต่ผมก็ปรับตัวใหม่ติวอังกิดให้ ทำชีทสรุปให้ เหมือนมันจะดีขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ พอปีสามผมได้มาทำงานกับเพื่อนกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มที่ผมคิดว่าดี แต่เหตุการณ์มันกลับแย่ผมโดนเพื่อนในกลุ่มนั้นด่าผมสืบเนื่องจากผมไม่ได้ไปทำงาน คือมันมีวิชานึงครับที่เพื่อนผมตอนปีหนึ้งมันมาอยู่ด้วย แล้วผมไม่มีมอไซ เลยโทรให้เพื่อนมารับ มานก็บอกว่าโอเค แต่สุดท้ายมันปล่อยให้ผมรอแล้วผมก็โดนเพื่อนคนนั้นด่าเลย ผมโดนมานส่งข้อความมาทางเฟสบุ๊คด่าผมเป็นชุด มันก็เลยเรียกผมมาเปิดอกคุย ผมก็บอกว่าจะปรับตัว ก็ทำงานดีขึ้นในกลุ่มก็พอใจ จากนั้นพอขึ้นปีสี่ผมก็อยู่กลุ่มเดิมทำงานโปรเจค วิจัย ปีสี่ผมดันเจอสองวิชาหนักแล้วดันอยู่คนละกลุ่มด้วย วิชาที่ต้องทำeventจัดงานที่เกษตรแฟร์กลุ่มผมทำโดนัทแล้วตอนนั้นเป็นช่วงที่ให้เอาผลิจภัณฑ์มาโชว์ กลุ่มผมยังไม่ได้ทำเลยทำไงดีล่ะ เลยตัดสินใจไปหาเพื่อนแม่ขอสูตรทำโดนัททันใดนั่นผมก็เปิดเฟสบุ๊คโดนกลุ่มที่ทำวิจัยถล่มด่าคนที่ด่าก็คนเดิมครับ ก็รีบกลับมอแต่ดันไปบอกมันว่ากลับถึงห้าโมงเย็น ปรากฎรถตู้มานพาผมมาส่งเกือบสามทุ่ม ใจผมกละวมาก แล้วก้อโดนมันเชือดจีงๆครับ ผมโดนมันด่า แลเวจากนั้นผมก็ทำงานต่อ วันรุ่งขึ้นเพื่อนอีกคนในกลุ่มก็ด่าผม ผมก็สารภาพผิด สิ่งที่ผมมารู้ทีหลังคือพวกกลุ่มโปรเจคมานโทรถามกลุ่มที่ผมทำโดนัทมานดันไปบอกว่างานไม่เร่งมากทั้งๆที่ตอนประชุมกลุมมันยังดราม่าในกลุ่มอยู่เลยครับ ผมเลยแย่เลย ผมเริ่มสับสน แล้ววันถัดมาเพื่อนผมที้ทำโปรดจคมานจะไปเอาโดนะทที่บางแสน แล้วจะแวะมอบูรพาเพื่อค้นหาหนังสือวิจัย ผมก็อยากไปด้วยพวกมันบอกว่างั้นนายก้อหาหนังสือที่มอไปก่อนแล้วหาคนเดียวน่ะ ความรุ้สึกผมมานแย่กับครั่งที่แล้ว ผมต้องเจอให้อยู่คนเดียวหางานคนเดียวอีกหรอเพียงเพราะกลัวผมไปรู้ความลับ ผมเริ่มเครียดเลยปรึกษาอาจารย์ขอย้ายกลุ่ม ไปอยู่กับเพื่อนที่ทำโดนัท อาจารย์ก้อแนะนำให้ผมไปอยู่ พอผมกลับมาที่ห้องผมเลยโทรถามเพื่อนรูมเมทเก่าที่เขาเคยเปนเพื่อนกับคนที่ด่าผมว่าตอนที่อยู่สาขาโรงแรมมันเปนไงบ้าง ร้ายมั้ยไม่ทันข้ามคืนมันก้อมาคุยกึผมด่าผม ผมไม่ไหวเลยระเบิดด่ามันไปเลยครับท่ามกลางหมู่เพื่อนที่ทำงานด้วย แต่ก้อมีคนเคลียรผมกับมานได้ ผมก้อภด้ย้ายกลุ่มจริงๆ แต่เหตุการณ์หละงจากนั้นคนที่ด่าผมมานก้อไปเที่ยวเล่าให้คนอื่นฟัง เกี่ยวกับเหตุการณวันนั่น แต่คำพูดมันบอกว่าเลิกแล้วต่อกัน มันตอแหลผม แต่ปมก็เฉยเมยครับ จนมีวันนึเฟรชชี่สาขาผมมาช่วยรันโปรแกรทให้ก็พูดเรืองแฟนมะนสึกพักมานก้อมาด่าผมทั้งๆที่ผมทำงานอยู่ มันบอกว่าห้ามเอาเองที่มานเล่าเรื่องนี้ไปพูดให้คนอื่นฟังไม่งั้นโดนแน่ เล่นเอาผมค้างและงงเลยครับ หลังจากจบเทอมเหตุกาณนั้นมายก้อยังค้างมาเพราะปากของคนที่มันด่าผมมานไปเที่ยวบอกชาวบ้านหมดแล้วคนทั้งสาขามานเลยมองผมในแง่ลบ จนได้มาทำงานวิชาสัมมนาอยู่เพื่อนอีกกลุ่มแรกๆไม่มีปัญหามันเกิดตอนหลังสอบมิดเทอมคือผมไปสอบสัมภ่ษณ์ไปทำงานและเที่ยวที่อเมริกาครับ ผมลามันสามวันเพราะที่แรกผมสอบตกเลนไปสอบอีกสองที่ ทันใดมันก้อเริ่มสเตตัสเนบผมจนได้ ผมว่าผมพูดเคลียร์แล้ว แต่ทีเพื่อนอื่นไปกินเหล้า โดดงานกลับไม่ขึ้น ผมโดนตลอด ผมโดนทั้งแฟยมันจิกคือบรรยากาศตอยทำงานอหนมันจิกคำพูดที่ทิ่มแทงมาก ผมอดกลั้นมาก คือผมทำงานให้มันไม่ดี อันนั้นผมยอมรับ แต่ผมก้อเก่งแต่เรื่องวิเคราะหให้จัดหน้ากระดาษผมทำไม่ระเอียด จนมาถึงงานjob fairของมหลัย มานตรงกับวันสุดท้ายที่จะปั่นงานส่ง ผมไปสมัครงานกับเพื่อนสนิท มานก้อไม่วายเนบผมในเฟสอีก ข้อหาที่ผมมาเลทเอากันเข้าไปงานไฟรนก้นแล้วทำไมมาเร่งทำคืนสุดท้ายก่อนหน้าเแนอาทิดมานก้อไม่นัดทำครับผมยังคิดว่าผมโดนกลั่นแกล้งชัดๆ ออกสื่อแบบนี้มันแย่น่ะ ไม่พอมันก้อด่าผมอีก ผมวันนั่นหัวให้ทำบทสี่ดะเพื่อนอีกคนก้อทำแบบรีบๆ วะนรุ่งก้อไปส่ง หลังจากนั้นกลังสอบไฟนอลหนึ้งวิชาผมกลับบ้าน อาจารยมาโพสให้ไปแก้ตอนสองทุ่ม เหตุการณนี้มันฉับพลันมาก แลเวมันก้อไม่โทรนัดไปทำ ผมกลับมาที่บ้านต่างจังหวัดวันรุ่งปมะปิดเฟสมันประจานด่า เพื่อนนอกกลุ่มก้อมาลุมด่าผมโดยเฉพาะเฟรชชี่ออกนอดหน้ามาก มีคนนึง ผมเคยช่วยมันไปพรีเซนตสัมมนามานกลับมาผมด้วย ผมทรมานมาก สภาพจิตใจผมแย่มากครับ ผมไม่เคยเล่นงานใคร แต่ต้องมาเจอแบบนี้ด้วย ผมไม่รู้จะทำไงดีแล้ว ผมอยากบวชเบื่อสังคมหน้ากากการตลาดแบบนี้
     
  2. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เรียนจบแล้วจะโดนยิ่งกว่านี้อีก
    นี่แค่วอร์มอัพ
     
  3. peaceful69

    peaceful69 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    มันสอนใหเผมไม่อยากไว้ใจใครอีกต่อไปแล้วครับทุกอย่างล้วนหลอกลวง
     
  4. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,061
    ตอนนี้ เป็นปัญหาในระหว่างเรียนนะคะ ถ้าจบไปแล้วปัญหาจะหนักกว่านี้ เหมือนที่คุณsamindo พูดไว้ค่ะ

    ดูเหมือนว่า จะเกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างน้องกับเพื่อน

    ตัวน้องเองก็รู้ว่า ที่จริงมันเกิดจากอะไร

    ลองมองดูในนั้นว่า ตรงไหน เราควรจะปรับปรุงแก้ไขไหม

    ฟังสิ่งที่เขาต่อว่าเรามา แล้วนำมาคิดดู ขอให้คิดอย่างเป็นกลางจริงๆ

    ถ้าคิดพิจารณาดีแล้ว เราไม่ได้บกพร่องอะไร แต่เพื่อนยังด่าว่าอยู่

    ก็ปล่อยเถอะค่ะ เฉยเสีย การโกรธ หรือโต้ตอบ ถ้าจะทำล่ะก็

    ดูเหมือนมันจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยนะคะ

    เห็นว่าขึ้นปี 4 แล้ว ใกล้จะจบแล้ว เรื่องนี้ขออย่าได้เอามาคิดให้ยุ่งยากใจเราเลยนะ

    ไปคิดถึงเรื่องที่จะมีในอนาคตดีกว่าไหมจ๊ะ

    ปัญหาบางอย่าง ต้องปล่อยมันนะ คือ พูดไปอธิบายไป ก็เปล่าประโยชน์

    มันจะทำให้น้องต้องเหนื่อยๆๆๆ เอางี้ ปล่อยให้มันเป็นไป ทุกคนคงเข้าใจได้ไงคะ

    เพื่อนๆเราวันนี้ อาจโกรธไม่เข้าใจเรา แต่ตัวเราก็คือตัวเรา

    เราไม่ใช่คนเลวร้ายนี่ เดี๋ยวเขาคงเข้าใจเองล่ะค่ะ ทำใจให้เบาๆ ปล่อยวางนะจ๊ะ

    สิ่งที่น้องpeaceful69 เจออยู่ตอนนี้

    ก็คือตัวอย่างหนึ่งของชีวิตการทำงานจริงค่ะ

    หลายอย่างมันกลับตาลปัตร มันไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น

    ยิ่งเรื่องคน ยิ่งแยะ ดีนะที่น้องได้เจอปัญหาทำงานกับคนไปแล้วบ้าง

    ตัวเราต้องนิ่ง ต้องแกร่ง ให้ได้ แล้วจะไม่เป็นทุกข์มากนักกับเรื่องเหล่านี้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2013
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ปัญหาทุกอย่างมันมีทางออกทั้งนั้นแหละ แต่เราต้องรู้จักปรับทัศนคติของตัวเองก่อน อย่างแรกอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ อย่างที่สองอย่าเอาปัญหาของคนอื่นมาเป็นปัญหาของตัวเอง อย่างการคิดแทนคนอื่นไปหมด ว่าเขาจะคิดไม่ดีกับเรา ว่าเขาจะพูดไม่ดีลับหลังหรือต่อหน้าเรา ว่าเขาจะทำไม่ดีกับเรา ว่าเขาจะมองเราในแง่ลบ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาของเรา มันเป็นความคิด คำพูด การกระทำของคนอื่น ไม่เกี่ยวกับเราเลย ถ้าเรามัวแต่ไปยึดความคิดคนอื่น คิดแทนคนอื่นมันก็ต้องทุกข์เพราะเราแก้ไขเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้เลย ทำดีแทบตายเขาอยากมองเราว่าเลวจะไปทำอะไรได้ สิ่งที่ทำได้คือทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เอาเวลาคิดถึงเรื่องคนอื่นมาทำหน้าที่ของตัวเอง ทำดีที่สุดแล้วเขาจะไม่พอใจมันก็ช่วยไม่ได้ เราเองก็ตำหนิตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เพราะเราทำหน้าที่ของเราดีที่สุดแล้ว ถ้าคนอื่นเขาคิดมากอยู่แล้ว มาเจอเราคิดมากเหมือนกันมันก็ต้องคอยแต่ระแวงกัน คิดแทนกันอยู่ตลอด
     
  6. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ก็ไม่ควรจะไว้ใจมาแต่แรกแล้ว
    อะไรที่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา ต้องตรวจสอบด้วยตัวเอง
    จบมาแล้วอย่าไว้ใจใคร จะติดคุกเอาง่าย ๆ
     
  7. peaceful69

    peaceful69 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    ใจผมตอนนี้คืออยากบวช อยากทำบุญอุทิศเจ้ากรรมนายเวรมากๆ ตอนนี้ผมปิดเฟสบุ๊คทิ้งเพื่อความสงบของจิตใจครับ ช่วยแนะนำเรื่องการทำบุญที่ช่วยได้กัลยามิตรทีครับ
     
  8. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ท่านmakigochanแนะนำไว้ดีมากแล้ว ขออนุโมทนาครับ...

    น้องpeaceful69 คิดจะบวชก็เป็นเรื่องดี แต่พึงทราบว่า ถ้าจะบวชเพื่อเจ้ากรรมนายเวรแล้วก็ดูท่าว่าจะไม่เกิดประโยชน์อะไรนัก เพราะวัตถุประสงค์ที่แท้ที่กุลบุตรพึงมีในการออกบวขคือ"เพื่อขจัดขัดเกลากิเลสของตน เพราะเห็นภัยในวัฏฏะ"....หากไม่ทราบวัตถุประสงค์นี้ การบวชน่าจะเป็นเรื่องที่"เสี่ยงมากต่อการได้ไปอบายนรก"ได้ง่ายกว่าการครองเพศฆราวาสครับ..

    น้องพึงทราบว่าผู้บวชโดยไม่รู้ บวชเพราะประเพณี บวชแก้บน บวชปิดภาคเรียนฯลฯ ส่วนมาก พอบวชเสร็จก็เปลี่ยนเฉพาะการนุ่งห่ม แต่กิริยาอาการพฤติกรรมยังเป็นฆราวาสอยู่ จึงทำได้แต่เรื่องที่ผิดพระธรรมแลวินัย ทั้งชาวโลกก็ติเตียนไม่เลื่อมใส กลายเป็นผู้ทำการบ่อนทำลายพระศาสนาไปเสีย เช่นนี้ เเม้เขาเองก็ไม่อาจรู้ตัวเลย ว่าตนเองกำลังทำบาปมหันต์แก่ตนอย่างไร เพราะไปบวชในวัดที่มีแต่ฆราวาสสวมจีวร...

    การบวชที่แท้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผู้บวชต้องดำรงชีวิตในทิศทางที่ไม่เคยคุ้นมาก่อน จากการที่เคยกิน อาหาร ๓มื้อ ต้องลดลงเหลืออย่างมาก๒มื้อ ที่เคยดูหนังฟังเพลง เล่นเน็ตนอนฟูกนุ่ม กลับทำไม่ได้เมื่อบวชแล้ว ...ฯลฯ มีเรื่ิองราวเกี่ยวกับพระวินัยบัญญัติที่ต้องรู้ต้องปฏิบัติให้ถูกตามพระพุทธประสงค์อีกหลายอย่าง ที่คนที่บวชเพราะไม่รู้ไม่ใส่ใจศึกษาประพฤติตาม จึงได้มีชายนุ่งห่มจีวรอาศัยข้าวผ้าอาหารที่ชาวบ้านเขานำมาถวาย แต่ไม่ประพฤติสมณธรรม ไม่สำรวมสังวรในสมณเพศ..ไม่อาจทำตนให้เป็นนาบุญอันดีเพื่อสงเคราะห์ชนผู้มีศรัทธานำสิ่งของไทยธรรมมาถวาย..

    จึงพึงใคร่ครวญไตร่ตรองให้ดีก่อนจะตัดสินใจโดยเฉพาะในเรื่องบวช



    ขอแนะนำให้เข้าหากัลยาณมิตรที่ยอดเยี่ยมกว่าใครๆในจักรวาล คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ เราจะเข้าหาพระองค์ท่านได้ก็ด้วยการสดับรับฟังพระธรรมที่ทรงตรัสสอนไว้ น้องพึงศึกษาพระธรรมให้มากจะได้มีปัจจัยเพื่อการเกิดขึ้นของปัญญา เมื่อบุคคลมีปัญญาอยู่ เขาย่อมวินิจฉัยปัญหาและแก้ไขได้ด้วยความฉลาด เขาจะพึ่งตนเองได้ ไม่ต้องตระเวณไปถามใครที่ใหน ที่อาจให้คำแนะนำที่ไม่เข้าเรื่องกับปัญหาของเรา..

    เมื่อได้ปัญญาดีแล้ว บุคคลย่อมสามารถแยกแยะได้ว่าผู้ใดเป็นกัลยาณมิตรหรือพาลมิตรเพราะมีปัญญาจึงไม่ถูกใครๆหลอกให้เชื่ออะไรๆที่งมงาย ไม่คิดว่าจะบวชเพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรอะไรๆที่แม้ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า"คือใคร?"อยู่ที่ใหน?..สักแต่ว่าฟังเขาว่ามาว่ามีอยู่ แต่ไม่เคยเห็นนายเวรคือเจตนาในจิตใจของตนเองเลยว่า เพราะเจตนาเหล่านั้นทีเดียวที่ลากจูงตนให้ต้องมาพบทุกข์เช่นนี้...มัวแต่กลัวเจ้ากรรมลึกลับ จนไม่เห็นนายเวรคือเจตนาบาปที่ตนมี แล้วจะพ้นจากการทำบาปก่อกรรมให้ตนไปได้อย่างไร..?

    ขอให้น้องยุติการคบพาลมิตรที่นิยมเป่าหูให้เชื่อในลัทธิเจ้ากรรมฯโดยเร็ว หันมารักษาศีล ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ..เมื่อจะบวชก็พึงไปบวชที่วัดญาณเวศกวัน ย่อมมีโอกาสได้ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องจะได้มีปัญญาคุ้มครองตนมิให้ตกต่ำ ทีีวัดนี้ มีกัลยาณมิตรอยู่ ท่านพึงเข้าไปเถิด...

    ขอให้พ้นทุกข์ภัยในสังสารวัฏโดยเร็วครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2013
  9. soranita

    soranita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +33
    คนนอกบ้านไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น
    น้อยคนที่จะจริงใจ ส่วนใหญ่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
    บางคนใช้วิธีสร้างสรรค์แต่หลายคนก็ใช้วิธีเหยียบคนอื่นให้จมดิน
    แต่ทุกคนมีกรรมเป็นของๆตน เป็นผู้รับผลของกรรม ทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลนั้น
    คุณต้องพิจารณาตัวเองว่า เคยทำแบบนี้กับใครมั้ย และอย่าทำแบบนี้กับใครอีก
    พิจารณาว่า เราทำงานเต็มที่ดีมั้ย การสื่อสารกันในการทำงานดีมั้ย อย่าปล่อยให้มีเรื่องเข้าใจผิด รักษาน้ำใจกันดีหรือยัง
    เมื่อคุณทำดีแล้ว เขายังใช้วิธีที่สกปรกเหยียบคุณจมดิน นินทาว่าร้าย กลั่นแกล้งคุณอีก
    เขาย่อมจะได้รับผลกรรมที่เขาทำ ยิ่งเรียนการตลาด คำพูดและภาพลักษณ์คงสำคัญใช่มั้ยคะ
    เขาทำลายคุณ สักวันเขาจะถูกทำลายไปเอง ถึงวันนั้นคุณอาจจะสงสารเขานะ

    และสำหรับการที่เขาทำให้คนอื่นมองคุณในแง่ร้าย คนที่เชื่อโดยฟังความข้างเดียว ก็ไม่ควรได้รับการใส่ใจจากคุณ คุณอาจดูดีกว่านี้ก็ได้ถ้าอยู่ในสายตาของผู้ปราศจากอคติ
    และก็...คุณไม่น่าโทรไปถามนิสัยเขาเลยนะคะ พลาดมากๆ พวกนี้เขาไม่เอาคุณ เขาก็ถึงกันสิคะ คุณทำอะไรเขาก็โจมตีทั้งนั้น ดีที่สุดคืออย่าทำตัวให้เขาโจมตีเราได้ค่ะ
     
  10. peaceful69

    peaceful69 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    แล้วถ้าเปลี่ยนจุดประสงค์ มาเป็นอยากหาทางสงบกับจิตใจคระบเพราะชีวิตวุ่นวาย รวมทั้งกะจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่ไปด้วยครับก็เลยอยากใช้ชีวิตช่วงบวชทำให้จิตใจสงบครับ ตอนปิดเทอมผมจะไปบวชพราหมณ์ก่อนคับ แล้วปีหน้าจะบวชนาคต่อครับ เพราะปีนี้ต้องไปสอบเข้าอีกมหาลัยครับ เรียนต่อทางสายวิทยาศาสตร์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2013
  11. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941

    เมื่อทราบชัดในเป้าประสงค์ของตน และมั่นใจว่า เมื่อมีโอกาสบวชจะสามารถฝึกหัดขัดเกลาตนให้กิเลสลดลงได้บ้าง การบวชนั้นจะบวชอย่างไรก็มีอานิสงค์มากทั้งนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่พึงทราบคือความสงบนั้นไม่ได้อยู่ในที่ใดที่หนึ่ง แต่อยู่ที่ใจ บางทีหวังไว้มากว่าอยู่วัดจะสงบ กลับพบสิ่งตรงข้าม..เพราะวัดก็ไม่ได้ห้ามคนไม่ดีหรือกันไว้เฉพาะคนดีเท่านั้น การทำใจว่าไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใด..ก็อาจต้องพบเจออารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนาได้เช่นกัน อาจช่วยให้ลดความผิดหวังได้บ้าง และสามารถอดทนต่อผัสสะที่ไม่ดีลงได้..

    ก็ขอให้สมประสงค์และอนุโมทนาในความมุ่งมั่นเพื่อการบวชครับ..

    ส่วนว่าบวชแล้วชีวิตจะดีขึ้นหรือแย่ลงก็อย่าเอามาโยงกัน เพราะไม่ใช่เหตุผลที่สอดคล้องอะไร..เมื่อบวชอยู่ก็พึงใช้โอกาสศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้าให้มาก หากมีใครๆห้ามปรามการศึกษาธรรมะ ก็พึงทราบว่าเขาเหล่านั้นไม่ใช่กัลยาณมิตร ควรรีบปลีกตนออกห่าง เพราะการศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น จะเป็นอุปการะแก่การได้ปัญญา สั่งสมความมีปัญญาไว้แม้มากชาตินับไม่ถ้วนทีเดียว..สามารถเข้าถึงความพ้นทุกข์ได้แน่แท้...ถ้าพลาดโอกาส ฟังแต่คำสอนของบางท่านที่ไม่ได้อ้างอิงตามที่พระพุทธเจ้าสอนแล้ว ก็น่าหวาดเสียวว่าต่อไปจะหมดโอกาสได้รับเอาพระธรรมที่ถูกแท้ของพระพุทธเจ้าได้อีก...เรียกว่าตกหลุมหรือกับดักในสังสารวัฏไปเสียแล้ว พึงทราบประโยชน์ที่ตนควรมีและได้ด้วยดีเถิด..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2013
  12. Alekdoodee

    Alekdoodee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    อย่าคิดมากเลยครับ มันเป็นเรื่องปกติในสังคมทุกสังคม เพียงแต่เราก็ต้องปรับให้อยุ่กับมันให้ได้ ไม่ต้องถึงว่าจะไม่ไว้ใจคนหรอกครับ ต่างคนต่างคิด ขอเพียงเราได้ผ่านพ้น "บททดสอบชีวิต" ในแต่ละช่วงของเราเถอะครับ ผมก็เจอมามากมายจนรับแทบไม่ไหว แต่ก็สอบผ่านกับบททดสอบเหล่านั้น มันทำให้เราแกร่งขึ้น มีวัคซีนในจิตใจมากขึ้น และมองหาหนทางแก้ปัญหาต่างๆได้ดีครับ ขอให้ประสบแต่สิ่งดีๆต่อไป ล้มแล้วลุกด้วยตัวเอง แล้วหันกลับไปมองว่าเราล้มเราพลาดเพราะอะไร แล้วก็อย่าให้พลาดในเรื่องเดิมอีกก็พอครับ สู้ๆ (อเล็กครับผม)
     
  13. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    Wow วันนี้ มิชิโกะจัง แน่นมาเลย แสดงว่าโดนมาเยอะนิ :cool::cool:
    อย่าหนีครับ เห็นทุกข์อย่าทำใจให้เศร้า ดีใจว่าเราได้สัญญาณการตัดภพตัดชาติ แล้ว ได้เห็นตัณหาของคนบนโลก เห็นแล้วรู้แล้วก็อยู่กับมันให้ได้ ถ้าจำเป็นต้องอยู่นะ ตั้งใจไว้ว่า ไอ้โลกระยำ อย่างนี้ไม่ขอมาเกิดอีก ให้มีชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ไปนิพพานกันดีกว่า
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ปัญหาทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นนะคะ
    ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่มีปัญหา
    เพียงแต่ว่ามากหรือน้อยต่างกัน
    ปัญหาในระดับเดียวกัน
    ก่อให้เกิดความทุกข์สำหรับแต่ละคนแตกต่างกัน
    ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และมุมมองที่มีต่อปัญหา และวิธีการแก้ปัญหา
    ชีวิตคนเรา เหมือนกลางวัน กับกลางคืน มีมืดมีสว่าง
    มีขึ้นและมีลง
    ขอให้ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
    และประสบผลสำเร็จในทุกๆเรื่องนะคะ
     
  15. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,061
    จะว่าโดนมาก็ใช่นะคะ ถือว่าเป็นการเรียนรู้ด้วยล่ะค่ะ

    ตอนทำงานใหม่ๆ มีหลายเรื่อง ที่ไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องเป็นอย่างนั้น

    พอทำงานนานๆ เราก็สังเกตดูว่า

    ปํญหาหลายอย่าง เกิดจากคนค่อนข้างมาก ทั้งนี้ก็อาจจะรวมถึงตัวเราด้วยค่ะที่ไม่รู้ตัว

    หากดูในเรื่องการทำงาน ปัจจัยการทำงานที่เรามักพูดถึง คือ 4 M

    money machine method และ man

    และ man คน นี่แหล่ะค่ะ เป็นปัญหาที่แก้ยากสุดค่ะ

    เพราะเราต่างจิตต่างใจ ต้องหาทางที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้อย่างปกติสุขที่สุด

    เท่าที่จะทำได้ ใครเป็นทุกข์ เราก็มาช่วยกันให้กำลังใจ แนะนำในสิ่งที่เราพอจะรู้ค่ะ

    ทุกข์และปัญหา มีทางแก้ แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ต้องสู้กันมันค่ะ

    เชื่อว่าทุกท่านทำได้ค่ะ Yes you can do !
     

แชร์หน้านี้

Loading...