ทุกข์มากตอนนี้ นู๋เครียด ทุกเรื่องมันปะดังปะเดเข้ามา

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย dhamaskidjai, 15 สิงหาคม 2012.

  1. dhamaskidjai

    dhamaskidjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,855
    ค่าพลัง:
    +5,727
    มีคนรู้จักฝากถามมาครับ

    "นู๋ทุกข์มากตอนนี้ นู๋เครียด ทุกเรื่องมันปะดังปะเดเข้ามา เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนา พ่อนู๋เส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตครึ่งซีก นู๋ทุกข์ใจเป็นที่สุดที่พ่อนู๋จะไม่ได้กลับมาเดินมายิ้มเหมือนก่อนแล้ว นู๋ตัดสินใจลาออกจากงานไปดูแลพ่อโดยไม่จุดมุ่งหมายว่าจะทำอะไรเลี้ยงพ่อดี เงินเก็บนู๋หมดไปกับการสร้างห้อง+ห้องน้ำที่เหมาะกับคนพิการ มันก้อไม่กี่หมื่นหรอก แต่นู๋หมดเกลี้ยง ต่อมาทะเลาะกับคนที่บ้าน ทำให้อยุ่บ้านไม่ได้ นู๋เข้ากทม.อีกครั้ง งานไม่มี เงินก้อหมด พร้อมกับความรุ้สึกผิดว่าตัวเองทิ้งพ่อมา ไม่รุ้จะหันไปพึ่งใครแล้ว เพราะปกตินู๋จะไม่พึ่งใคร มีปัญหานู๋จะนึกถึงพ่อ พ่อจะให้คำปรึกษานู๋ แต่พ่อมาเป็นแบบนี้ นู๋มองไม่เห็นใครแล้วจิงๆ ปกติชีวิตนู๋จะไม่สุงสิงกับใคร แม้แต่ญาติ เป็นคนเก็บตัว นู๋ไม่มีกะจิตกะใจจะหางาน เพื่อนๆที่อยุ่รอบตัวนู๋ก็พลานใส่ ตวาดใส่ (เป็นเพราะนู๋ไม่เคยไว้ใจใคร ไม่เคยคิดว่าจะมีใครจิงใจกับนู๋จิงๆ)ทุกคนพร้อมเข้ามาบอกจะให้คำปรึกษา แต่นู๋ปัดทุกคนไม่พร้อมจะฟังใคร นู๋จึงอยากรุ้ว่า การรุ้เท่าทันอารมณ์มันคืออะไร ที่เค้าพุดกันว่า โกรธให้รุ้ว่าโกรธ เค้าทำกันยังไง ถ้าเรารุ้ว่าโกรธเราจะทำยังไงให้หายโกรธหายโมโห อยากรบกวนแค่นี้ค่ะ ขอโทษถ้านู๋ใช้คำไม่เหมาะสม นู๋ไม่รุ้เรื่องธรรมะเลยจิงๆ ช่วยตอบให้นู๋กระจ่างทีเถอะค่ะ ขอบคุนมากๆค่ะ"
     
  2. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    ขอให้คุณอดทนเข้มแข็งเอาไว้ก่อนนะครับ

    เอาเรื่องส่วนตัวของคุณก่อนนะครับ


    ตัวผมเองนั้นก็ได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งเช่นกัน พ่อเป็นมะเร็ง แม่สร้างหนี้สินมากมาย อาจจะคงเพราะความคิดท่าน คงคิดจะเก็บเป็นสมบัติไว้ให้ลูกหลาน เพื่อให้ลูกได้มีหน้ามีตา แต่พลันกับทำให้ลูกนั้นต้องรับผิดชอบอย่างหนัง ผู้หญิงคนนั้นตกงานอยู่หางานทำยังไม่ได้ อะไรที่ประหยัดได้เขาก็ประหยัด เขาไม่สุงสิงกับไม่ ตัดเพื่อหมดเพราะไม่อยากเอาปัญหาไปให้ใครรู้ สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นทำได้ตอนนี้คือ
    1. สมัครงาน หางานไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย
    2. สิ่งใดที่เธอพอจะทำที่เป็นงานสุจริตหาเงินให้พอได้กินและใช้หนี้ที่แม่ได้ทำไว้อีกนับล้านแต่เธอไม่เคยกล่าวโทษแม่เลยแม้แต่คำเดียว ยังคงรักและเคารพไม่เปลี่ยนแปลง และ พ่อที่เธอรักที่สุดก็ได้เสียไปเพราะโรคมะเร็งแล้ว เธอรับจ้างทำหมดทุกอย่าง วันๆหนึ่งได้นอนไม่เกิน 4 ชม บางวันได้นอน 1 ชม. ร่างกายก็ทรุดไม่มีประกันสังคมไปหาหมอก็ต้องจ่ายเยอะ ได้แต่ซื้อยาพารากับยาแก้แพ้มากิน ค่าแรงได้วันละ 250 หยุดก็ไม่ได้เงิน ค่าแรงต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำด้วยซ้ำ เธอจบ ป.ตรี บัญชี

    - คุณคิดว่าผู้หญิงที่ประเสริฐที่ผมนับถือคนนี้ กับ คุณ ใครทุกข์กว่ากัน และ ใครแบกรับมากกว่ากันครับ
    - ผู้หญิงคนนั้นเธอไม่เลือกงานขอแค่ได้งานมีเงินใช้หนี่และมีกินโดยไม่ขอใคร ปัญหาเธอแบกรับเยอะมาก บางวันได้เจอหน้ากันเธอร้องไห้ไม่หยุด แต่พอหยุดร้องแล้วเธอก็กลับมาสู้ใหม่ เธอพูดกับผมว่า ท้อน่ะมันท้อ แต่มันล้มไม่ได้จนกว่าจะตาย ขอให้นำเรื่องราวผู้หญิงประเสริฐคนนี้ไปคิดดูนะครับ ว่าสิ่งที่คุณเจอนั้นมันหนักกว่าผู้หญิงคนนี้ไหม และ มันมากมายจนหาทางออกไม่ได้จริงๆ หรือ เพราะคุณไม่ยอมหาทางออกเอง


    จบเรื่องความคิดเห็นในปัญหาชีวิต



    เรื่องทางธรรม


    มันไม่มีใครรู้ทันอารมณ์ทั้งสิ้น ยกเว้น พระอรหันต์ พระพุทธเจ้า คนธรรมดาอย่างเราๆนั้นทำได้แค่รู้ตามให้ไวด้วยสติ เมื่อมันปรุงแต่งแสดงเกิดขึ้นแก่จิต

    - จากที่ผมได้มองดูเรื่องราวของคุณนั้น คุณยังขาดสติอย่างมาก สตินี้ไม่ใช่คำที่เขาใช้ด่าว่ากันในทางโลกนะครับ แต่กล่าวถึงความระลึกรู้ ไม่เลื่อนลอยเป็นต้น สืบต่อเกิดเป็นความรู้ตนในขณะนั้นๆที่กำลังดำเนินชีวิตไปอยู่

    - [๒๙] สตินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
    สติ ความตามระลึก ความหวนระลึก สติ กิริยาที่ระลึก ความทรงจำ ความไม่เลื่อนลอย ความไม่ลืม สติ อินทรีย์คือสติ สติพละ สัมมาสติ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า สตินทรีย์
    มีในสมัยนั้น.

    เมื่ออบรมณ์สติอันให้เกิดขึ้นอยู่เนืองๆต้องมีสมาธิเป้นองค์ประกอบตามเสมอเพื่อให้เกิดปัญญา

    - [๓๐] สมาธินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
    ความตั้งอยู่แห่งจิต ความดำรงอยู่แห่งจิต ความมั่นอยู่แห่งจิต ความไม่ส่ายไปแห่งจิต ความไม่ฟุ้งซ่านแห่งจิต ภาวะที่จิตไม่ส่ายไป ความสงบ อินทรีย์คือสมาธิ สมาธิพละ สัมมาสมาธิ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า สมาธินทรีย์ มีในสมัยนั้น.

    เมื่อมีสมาธิเกิดควบคู่กับสติ ปัญญาย่อมเกิดขึ้น

    - [๓๑] ปัญญินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
    ปัญญา กิริยาที่รู้ชัด ความวิจัย ความเลือกสรร ความวิจัยธรรม ความกำหนดหมาย
    ความเข้าไปกำหนด ความเข้าไปกำหนดเฉพาะ ภาวะที่รู้ ภาวะที่ฉลาด ภาวะที่รู้ละเอียด
    ความรู้แจ่มแจ้ง ความค้นคิด ความใคร่ครวญ ปัญญาเหมือนแผ่นดิน ปัญญาเครื่องทำลายกิเลส
    ปัญญาเครื่องนำทาง ความเห็นแจ้ง ความรู้ชัด ปัญญาเหมือนปฏัก ปัญญา อินทรีย์คือปัญญา
    ปัญญาพละ ปัญญาเหมือนศาตรา ปัญญาเหมือนปราสาท ความสว่าง คือ ปัญญา แสงสว่าง
    คือ ปัญญา ปัญญาเหมือนประทีป ปัญญาเหมือนดวงแก้ว ความไม่หลง ความวิจัยธรรม
    สัมมาทิฏฐิ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า ปัญญินทรีย์มีในสมัยนั้น.

    ซึ่ง สติ สมาธิ ปัญญา จะเกิดขึ้นเป็นผลดีนั้นเราต้องมี ศีล ทาน พรหมวิหาร๔ ซึ่งเป็นเครื่องแห่งความเกิดกุศลทางจิตและทางกายและวาจา

    งงไหมครับ หากคุณอ่านดูแล้วงง ให้คุณปฏิบัติในชีวิตประจำวันด้วยการระลึกรู้ทันตามความคิด เช่น
    - เมื่อคิดโกรธแค้นใคร ให้รู้ทันตามว่าโกรธอยู่ ระลึกว่าความคิดที่เป็นอกุศลจิตเกิดขึ้นแก่ใจแล้ว
    - เมื่อรู้ว่ามันเกิดแล้ว ให้พึงหยุดคิด หยุดทบทวนประมาณตนเอง หาข้อผิดพลาดของตนเอง ไตร่ตรอง ถึงผลดีและผลเสียก่อนจะกระทำการใดๆทางกาย วาจา ใจ
    - ดับวางมันด้วยการวางใจที่เป็น เมตตา กรุณา และ ทาน จนดับความติดข้องใจการการรับรู้อารมณ์ทาง หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ นั้นๆ
    - นี่คือแค่เพียงเศษเสี้ยวในแนวทางธรรมเบื้องต้นในการเจริญสติเท่านั้น และ ขณะที่จิตคุณเป็นกุศลด้วยสติ สมาธิพร้อมกับความตรึกนึกที่ดีจะตามมาเสมอๆ แล้วจะค่อยๆกลั่นออกมาแก้ปัญหาทางโลกเพื่อเห้นทางแก้ปัญหา และเห็นเหตุของปัญหา จนเห็นปัญญาในทางธรรมอีกขั้นหนึ่ง
    - เมื่อเจริญสติเช่นนี้อยู่ทุกขณะจิตแล้วก็ควรปฏิบัติในสมาธิเพื่อให้เป็นผลที่ใช้สนับสนุนสติ สมัปขัญญะ และ ปัญญา ด้วย

    - ศึกษาเพิ่มเติมกับข้อธรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ตาม Link นี้ซึ่งแต่ละหัวข้อจะมี Link ย่อยๆ ไว้อธิบายและแสดงวิธีปฏิบัติเบื้องต้นที่ผมอธิบายเป็นภาษาพูดธรรมดาไว้ เป้นแนวทางของพระพุทธเจ้าตรัสสอนแล้วสืบต่อมาทางครูอุปัชฌาสายพระป่าที่ผมได้บวชศึกษา แล้วกรองออกมาเป็นแนวทางตามวิถีจริตโดยรวมของผมครับ

    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7456.0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 สิงหาคม 2012
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เห็นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับ ...

    นอกจากเรื่องทุกข์เพราะพ่อป่วยแล้ว ก็ีมีทุกข์เพราะเพื่อน .. เท่าที่หนูเล่ามาเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดนี้ ตัวหนูเองมีส่วนมิใช่น้อยเลย เพราะ...


    "เพราะปกตินู๋จะไม่พึ่งใคร มีปัญหานู๋จะนึกถึงพ่อ พ่อจะให้คำปรึกษานู๋ แต่พ่อมาเป็นแบบนี้ นู๋มองไม่เห็นใครแล้วจิงๆ ปกติชีวิตนู๋จะไม่สุงสิงกับใคร แม้แต่ญาติ เป็นคนเก็บตัว นู๋ไม่มีกะจิตกะใจจะหางาน เพื่อนๆที่อยุ่รอบตัวนู๋ก็พลานใส่ ตวาดใส่ (เป็นเพราะนู๋ไม่เคยไว้ใจใคร ไม่เคยคิดว่าจะมีใครจิงใจกับนู๋จิงๆ)ทุกคนพร้อมเข้ามาบอกจะให้คำปรึกษา แต่นู๋ปัดทุกคนไม่พร้อมจะฟังใคร"..

    เข้าใจว่าหนูคงมีประสบการณ์ไม่ดีบางอย่างจึงจำกัดตนเองจากโลกภายนอก ทั้งยังถึงกับไม่ไว้ใจใครๆ ...เรื่องนี้ หนูลองพิจารณาเองเงียบๆไม่ต้องนำมาลงในที่นี้ และทบทวนดูว่า ที่จริงเหตุการณ์นั้นๆมีอิทธิพลแก่อุปนิสสัยของหนูที่ไม่ไว้ใจใครๆใช่หรือไม่....

    จากนั้น ก็ควรทำความเข้าใจว่า เราไม่สามารถอยู่ในโลกได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆเลย ในบางโอกาส เราก็จำเป็น ต้องพึ่งพา หรือช่วยเหลือผู้อื่น..เช่นในเวลานี้ที่หนูต้องการคนที่จะพึ่งได้ในการดูแลพ่อ ทั้งการได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆที่เสนอความช่วยเหลือแ้ม้จะเพียงคำแนะนำก็จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากหนูไม่หวังพึ่งใครจริง คงไม่เข้ามาถามหาคำแนะนำในที่นี้ จริงใหมครับ?

    ในเวลาที่ตนเข้าตาจน จิตใจอาจถูกทุกข์รุมเร้า จนสติปัญญาไม่คล่องแคล่วเหมือนในยามปกติ การได้ฟังคำแนะนำจากคนอื่นๆจะมีส่วนช่วยได้มาก เราพิจารณารับหรือไม่รับเอาเองได้ตามที่เห็นควร..ว่ากันที่จริง หนูยังมีเพื่อนดีมากที่กระตือรือร้นจะช่วยเหลือ เพื่อนแท้ย่อมคอยช่วยเหลือเพื่อนในยามยากนะครับ..



    ว่ากันตามจริงแล้ว ความโกรธเมื่อเกิดแล้วก็ย่อมดับลงไปในทันทีนั่นเอง แต่ที่ดูเหมือนโกรธยาวนานนั้นเพราะตนคิดถึงมันบ่อยๆ ใส่ใจมันนานนั่นเอง สภาพธรรมทั้งหลายมีความแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดไม่คงที่อะไร..เพราะถ้าโกรธแล้วมันไม่ดับ หนูนั่นแหละจะดับชีพไปทีเดียว เพราะความโกรธมีอาการเผาไหม้ประทุษร้ายอารมณ์ ในรายที่โกรธมากมาย จิตใจจะเหมือนถูกแผดเผาจนร่างกายพลอยวิบัติไปด้วย มีการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ พาไปสู่อาการของโรคสารพัดชนิดเป็นรางวัล..มีโรคจิต ซึมเศร้า หดหู่ โรคกระเพาะ หัวใจ มะเร็ง ความดันฯลฯ

    หนูลองพิจารณาหาสาเหตุที่ตนโกรธเถิดว่าที่เราโกรธนั้น เพราะเราหรือเพราะคนอื่น?..ที่เราโกรธนั้นสมควรหรือไม่? มีเหตุผลควรโกรธหรือเปล่า? เราโกรธแล้วได้ดีมีสุขหรือเดือดร้อนใจเนืองนิจ? โกรธแล้วได้ประโยชน์อะไรบ้างหรือมีโทษอะไร?..


    ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่า โกรธเพราะรำคาญ ที่คนอื่นมาหวังดีกับตน ก็พึงทราบว่าเราทำร้ายตนเองเท่านั้น ..ประโยชน์อันพึงมีพึงได้ย่อมเสียไป น่าเสียดายนัก..หากหนูเคยหวังดีกับใครๆแล้วเขาไม่รับ..กลับโกรธเรา ด่าเรา...หนูจะรู้สึกและจะทำตัวอย่างไรกับเขานั้น? จะยังคิดจะหวังดีต่อหรือหลีกปลีกตนออกไปร้อยโยชน์พันโยชน์ในทันทีไม่รีรอเล่า?...
    พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า.. เหตุสมควรโกรธในโลกย่อมไม่มีเลย ..ไฟเสมอด้วยความโกรธไม่มี ..


    การพิจจารณาเพ่งโทษติเตียนคนอื่นเป็นของง่าย แต่การพิจารณาเพ่งโทษติเตียนตนเองเป็นวิสัยของผู้มีปัญญาเท่านั้น ชื่อว่าผู้มีปัญญาย่อมทราบชัดในเรื่องที่ทำให้ใจตนหวั่นไหวหรือเคืองโกรธ..เพราะมีปัญญาจึงทราบว่าความโกรธย่อมนำแต่ทุกข์โทษมาให้ คนเราเมื่อทราบว่าสิ่งใดนำเรื่องเดือดร้อนมาให้ ย่อมหลีกละห่างจากสิ่งนั้น ..แม้เมื่อความโกรธยังปรากฏเกิดอีก ก็ตั้งอยู่ไม่นาน การสำรวมระวังย่อมเกิดขึ้น ... การสั่งสมอุปนิสัยใหม่ให้ไม่โกรธย่อมตั้งขึ้น..คราวนี้เขาพูดแค่๑นาที เราอาจโกรธจนไข้ขึ้น..คราวหน้า เขาอาจพูด๑๐นาที ความโกรธจึงปรากฏ...คราวนู้นอาจฟังเขาได้๓ชั่วโมงจึงโกรธ..ต่อไปๆ อาจฟังทั้งชาติก็ไม่โกรธเลยเพราะตนฝึกใจมาแล้วด้วยดีจากคราวก่อนๆ...ดังนี้เป็นต้น..

    หลักการเหล่านี้มีอยู่ในคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น .ล้วนเป็นเรื่องจริง นำไปปฏิบัติเองพิสูจน์เองได้ลองพิจารณาดูครับ

    ขอให้หางานใหม่ได้โดยเร็วด้วยอำนาจบุญแห่งความเป็นผู้มีกตัญญูต่อพ่อครับ..
     
  4. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    การรู้เท่าทันอารมณ์ เช่น ตอนนี้เราโกรธ เราก็รู้ตัวว่าเรากำลังโกรธ มันร้อนรุ่มแค่ไหน เป็นไฟเผาตัวเราและคนรอบข้างแค่ไหน แล้วเราควรจะเก็บมันไว้รึปล่าว ถ้าคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ ก็ทิ้งมันไป ฝึกการเจริญเมตตาก็ช่วยได้นะคะ จับภาพพระที่่ชอบ จับกระแสเมตตา รักษาอารมณ์สงบเยือกเย็นไว้ให้ได้ แล้วความรู้สึกไม่ดีต่างๆก็จะดับไปเองค่ะ

    เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆไปให้ได้ ^^
     
  5. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,732
    ก็เข้ามาให้กำลังใจด้วยคนนะคะ ส่วนเรื่องที่ถามคงได้คำตอบบ้างแล้ว ... การตัดสินใจหรือแม้แต่คิดในเรื่องต่างๆ ถ้ายังมีอารมณ์โกรธอยู่ ให้วางเรื่องที่คิดหรือเรื่องที่ต้องตัดสินใจก่อน เพราะอารมณ์โกรธมักจะขวาง ปัญญา ของเราค่ะ ถ้าคิดตอนที่โกรธ นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ยังจะพาเราไปเสียอีกค่ะ สงบใจลงก่อนนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
     
  6. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    การจะดับความทุกข์ ดับความโกรธมันต้องดับที่เหตุของทุกข์เหตุความโกรธนั้น
    จะมาดับที่ปลายเหตุไม่ได้ เพราะไม่ต่างจากการเลื่อนเวลาที่เราจะต้องทุกข์ออก
    ไป แต่ยังหนีมันไม่ได้ ยังพ้นจากมันไม่ได้ ดังนั้นการจะดับทุกข์ได้มันต้องรู้เหตุ
    แห่งทุกข์ มันเลยต้องคอยดูต้องสังเกตุด้วยความนิ่งสงบอย่างที่สุด เป็นแต่เพียง
    ผู้ดูผู้รู้อย่างเดียว ไม่ว่าอารมณ์อะไรที่เกิดขึ้นก็ดูมันอย่างเดียว การที่เห็นอย่างต่อ
    เนื่องนี่คือตัวสติ พอมีสติแล้วปัญญาก็จะเกิด พอปัญญาเกิดมันก็ดับทุกข์ที่เกิดได้
    ทัน เรื่องที่เคยทำให้เราทุกข์ถ้าเกิดปัญญาขึ้นมาแล้วมันจะทำให้เราทุกข์ต่อไป
    อีกไม่ได้ แต่จะรีบร้อนไม่ได้ และไม่ใช่การทำหรือไม่ทำอะไร เพียงแต่ดูอารมร์ที่
    เกิด-ดับ ได้ตลอดเวลานั้นมันจะมาถึงของมันเอง
     
  7. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,614
    ขอเป็นกำลังใจให้น้องนะคะ พยายามดูลมหายใจเข้าออกของตัวเองบ่อย ๆ ฝึกจนเป็นนิสัยไปเรื่อย ๆ นึกได้เมื่อไรก็หมั่นทำ จะทำให้กลายเป็นคนมีสมาธิและใจเย็นขึ้น ถ้าวันไหนว่างก็เข้าไปนั่งในโบสถ์มองดูหน้าพระประธานให้ขึ้นใจ แล้วหลับตาให้นึกเห็นแต่ภาพของท่านจนจิตว่างแล้วพยายามทำจิตให้เป็นสมาธิไปเรื่อย ๆ นะคะ ขอให้น้องผ่านพ้นอุปสรรคไปด้วยดีค่ะ
     
  8. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    เก่งนะครับ ที่อยู่มาได้จนทุกวันนี้ มีคนที่เขาทุกข์มากกว่าน้องอีกตั้งหลายล้านคน เชื่อเถอะ ผมคนนึงแหละ พ่อแม่มีก็เหมือนไม่มี พี่น้องมีก็เหมือนไม่มี เพื่อนเขาก็เป็นคนอื่น เรานั่นแหละที่ต้องทำตัวอยู่ให้ได้ในโลกนี้ ทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์ ทุกข์เพราะอะไร แก้ปัญหาอย่างไง โกธรก็ให้รู้ว่าโกธรเพราะอะไร แล้วปล่อยวางคือทิ้งความโกธรไป อย่าเก็บไว้ในใจ อย่าคิดโกธร เกลียด อาฆาตใคร ถ้าคิดก็ให้ตัดออก ผมทำแบบนี้แหละ ตอนนี้ดีกว่าเดิมตั้งเยอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...