ธรรมะ ข้อใด ดับโทสะได้ดี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย แสนสวาท, 17 ตุลาคม 2011.

  1. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    อันโทสะ พามนุษย์ ไปสู่อบายภูมิที่ต่ำสุด คือนรกภูมิ
    ความโกรธเปนไฟเผา ตัวเราให้ร้อนรนและหม่นหมอง

    คนผู้โกรธถูกความโกรธครอบงำยํ่ายีแล้ว แม้จะอาบนํ้า ไล้ทา ตัดผม โกนหนวด นุ่งผ้าขาวสะอาดแล้วก็ตาม แต่ถูกความโกรธครอบงำแล้ว ย่อมเป็นผู้มีผิวพรรณทราม

    ดิฉันเชื่อว่า ที่นี่ มีผู้คนอีกจำนวนมากที่มีธรรมะ ในการดับโทสะ ได้ดี
    พึงแสดงธรรม ให้ดิฉันได้ทราบด้วยเถิด อนุโมทนาสาธุการ




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    ได้แล้วฝากมอบให้เจ้ศัทธานนท์ด้วยนะครับเจ้าของกระทู้
     
  3. เดมีดี

    เดมีดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +1,271
    ความละอายค่ะ

    เมื่อโกธร ด้วยนานาประการ มารู้สึกตัว จิตก็หน้าแตกเป็นเสี่ยง ๆแล้ว ...เค้าบอกว่า ช้าไปต๋อย ทำไมรู้สึกตัวช้าจัง หลงด่าไปซะยืดยาว เหนื่อยเปล่าจริง ๆ
     
  4. คนทำสงคราม

    คนทำสงคราม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +24
    อยากรู้เหมือนกันคับ ผมก็คนนึงที่เกิดโทสะบ่อยแต่ไม่นานก็หาย เมื่อได้สติ(แบบมีเหตุมีผล) แต่คนบางคนระงับโทสะยาก(เจ๊suta...)เพราะยึดมั่นถือมั่นความคิดตนจากสิ่งที่ตนเห็นเพียงด้านเดียว ไม่เคยคิดที่จะมองด้านอื่นที่มีประโยชน์เลย ใครหยิบยื่นด้านอื่นให้มองก็ไม่เคยแล คนอย่างนี้ถูกจูงจมึูง่าย ใครเอาข้อมูลด้านเดียวมาให้ดูก็เชื่อเขาหมด ไม่คิดที่จะหาข้อมูลอื่นมาช่วยเสริมความคิดและตัดสิน กูเห็นกูไม่ชอบ ใครอย่ามาขวาง ใครขวางกูไม่ใช่มิตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2011
  5. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้โกรธเคือง ไม่พอใจ มีจิตอันโทสะกระทบ- *กระทั่ง มีใจดุจตะปูในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุที่โกรธเคือง ไม่พอใจ มีจิตอันโทสะกระทบกระทั่ง มีใจดุจตะปูในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายนั้น ย่อมไม่น้อม ไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อความทำติดต่อ เพื่อความเพียร ที่ตั้งมั่น ข้อที่จิตของภิกษุไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อ ความทำติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น อย่างนี้ ชื่อว่าตะปูตรึงใจ ประการที่ ๕ ที่ภิกษุนั้นยังละ ไม่ได้แล้ว ตะปูตรึงใจ ๕ ประการเหล่านี้ ชื่อว่าอันภิกษุนั้นยังละไม่ได้แล้ว.



    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ไม่โกรธเคือง ไม่ใช่เป็นผู้ไม่พอใจ มีจิต อันโทสะไม่กระทบกระทั่ง หาใช่ผู้มีใจดุจตะปูไม่ ในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุผู้ไม่โกรธเคือง ไม่ใช่เป็นผู้ไม่พอใจ มีจิตอันโทสะไม่กระทบกระทั่ง หาใช่ผู้มีใจดุจ ตะปูไม่ ในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายนั้น ย่อมน้อมไปเพื่อความเพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความ ประกอบเนืองๆ เพื่อความทำติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น ข้อที่จิตของภิกษุน้อมไปเพื่อความ เพียรเครื่องเผากิเลส เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อความทำติดต่อ เพื่อความเพียรที่ตั้งมั่น อย่างนี้ ชื่อว่าตะปูตรึงใจประการที่ ๕ ที่ภิกษุนั้นละได้แล้ว ตะปูตรึงใจ ๕ ประการเหล่านี้ ชื่อว่าอันภิกษุนั้น ละได้แล้ว.


    </pre>ตัดมาจาก
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=12&A=3449
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2011
  6. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    (ธรรมนิพนธ์จากทิเบต)

    ท่านผู้เฒ่าอมยิ้มอีกคำรบหนึ่ง

    "มี...ยังมี มรรควิธี ที่จะเอาชนะความน่าสะพึงกลัวนี้ได้
    และเป็นอุบายวิธีที่ไม่ยากเกินไปหรอกหนา
    ด้วยว่าสรรพสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมา ย่อมต้องดับสิ้นสลายไป
    แลหาใช่มีทุกชีวิตที่จักสถิตอยู่ได้ถึงวัยชรา

    ในการดำรงชีพมีชีวาโดยไม่ม้วยมรณานั้น
    ต้องอาศัยอมฤตธรรมอันเป็นทิพยวิเศษ
    และนั่นเป็นสิ่งพิเศษเอกอุที่จะบรรลุได้ยากยิ่ง


    ผู้ยิ่งใหญ่ทุกท่านในอดีตกาลที่ผ่านมา ได้ม้วยมรณาลงสิ้นแล้ว
    ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์
    และพระราชา ผู้ที่ทรงคุณธรรม
    เช่นเดียวกับผู้ที่ทำบาปกรรมอกุศล

    ถ้วนทั่วทุกคน ต้องผจญกับความตายในวันหนึ่ง

    แล้วตัวเจ้าจะพึงแตกต่างไปจากนี้หรือไฉน ?
     
  7. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    เพลงเพราะๆฟังสบาย จะได้ใจเย็นๆ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Ne-JqQgJACU"]รัตนสูตร, รัตนปริต, RATANA SUTRA - YouTube[/ame]
     
  8. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    เดี๋ยวก็ดับไปเอง
     
  9. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    น้อมคารวะท่านแสนสวาท

    ตามประสบการณ์ของผู้น้อยและเพื่อนที่คุยกันประจำ...ความโกรธมันดับได้เองค่ะ แต่เพราะความรังเกียจมัน มันจึงถูกเราผูกเอาไว้กับตัวโดยอัตโนมัติค่ะ

    เพื่อนของผู้เขียนที่คุยกันประจำเขาก็โกรธง่ายโกรธแรงเหมือนกัน โกรธทีนี้นอนไม่หลับไปเป็นเดือนๆเลย เขาต้องการวิธีระบายความโกรธโดยไม่สร้างความเสียหายให้กับตนเอง และผู้อื่นเช่น ร้องตะโกนใส่หมอน ถูบ้าน ฯลฯ และต้องบำเพ็ญขันติบารมี+ศีลบารมียืนพื้นไว้เลย บำเพ็ญแบบกระท่อนกระแท่นก็ไม่เป็นไร ขอว่ากายกรรมอย่าละเมิดเลย วจีกรรมพยายามให้เต็มที่อาจละเมิดบ้างหากทนไม่ไหวจริงๆ แล้วพยายามตั้งคำถามขณะโมโหให้ได้เร็วที่สุดว่า "ตัวเราก่อเหตุอะไร" มันจึงมีเรื่องน่าโมโหเกิดขึ้น แล้วก็พยายามหาคำตอบที่ตนยอมรับให้ได้ (สำหรับคู่กรณีนี้เราย่อมทราบดีแล้วว่าเขาก่อเหตุอะไร แต่เวลาโกรธเรามักไม่ทันนึกว่าตัวเราทำอะไรไปบ้าง) ดิฉันเรียกสิ่งนี้ว่าการนำโทสะซึ่งเป็นเตโชธาตุมาเปลี่ยนเป็นสติ (ตัวตั้งคำถาม) ปัญญา (ตัวตอบ) ให้แสงสว่างกับตนเองค่ะ

    โทสะจะยังไม่หายไปทันทีนะคะ ต้องบำเพ็ญนานหน่อย คุณแสนสวาทไม่ต้องไปกลัวโทสะ นะคะ อย่าไปอยากให้มันหาย สู้กับโทสะเสมือนเรากำลังซัดกับคู่กรณีนั่นแหล่ะ...เพียงแต่เราเปลี่ยนเป้าหมายจากการเบียดเบียนคู่กรณีมาเบียดเบียนตนเองแทน เอาพลังโกรธที่จะก่อกายกรรมและวจีกรรมมาระบายออกตามวิธีที่เราเห็นควร (ถูบ้าน ขุดดิน ฯลฯ) จากนั้นนำพลังงานส่วนที่เหลือที่มันจะก่อมโนกรรมนี่ล่ะ มาเจริญสติปัญญา ขันติสัจจะ ตามสมควร

    ผู้มีโทสะมาก...เป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเจริญสติปัญญามากค่ะ
     
  10. wลังlnw

    wลังlnw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +108
    พรหมวิหาร4 จ้ะ
     
  11. แมง มุม

    แมง มุม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    5 วิธีดับโทสะด้วยตัวเอง

    1. ผัดผ่อนความโกรธ วิธีการที่ง่ายที่สุดและเป็นที่กล่าวขวัญมานาน คือนับเลข 1-10 ในใจหรือถ้ารู้สึกว่าอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านยังไม่เบาบางลงก็นับต่อไปเรื่อยๆ เพราะระหว่างที่นึกนับเลขในใจ จะทำให้ความโกรธถูกผลัดออกไป เมื่อนับเสร็จแล้วย้อนกลับมาถึงเรื่องที่ทำให้โกรธอีกครั้ง อารมณ์ตอนนั้นจะเริ่มสงบลงแล้ว

    2. หนีออกจากสถานการณ์ หากรู้สึกตัวเองกำลังโกรธอยู่ ควรเดินหลีกออกจากสถานการณ์หรือบุคคลที่ทำให้คุณโกรธไปก่อน เพื่อไประงับสติอารมณ์เสียก่อน เหมือนอย่างที่มักได้ยินเขาพูดกันว่า “ไว้อารมณ์เย็นๆแล้วค่อยมาคุยกัน เพราะพูดไม่ตอนนี้ก็คงไม่รู้เรื่อง”

    3. ระบายอารมณ์โกรธด้วยการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา อย่างเวลาที่โกรธเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายแล้วไม่สามารถทำอะไรเขาได้ คุณอาจจะระบายอารมณ์โกรธนั้นด้วยการไปเล่นกีฬาที่ใช้กำลังมากๆในตอนเย็นเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ เช่น วาดหน้าเพื่อนไว้ที่ลูกบอลแล้วเตะให้เต็มแรง หรือนึกถึงหน้าของคนที่เราโกรธ แล้วรำกระบองท่าเตะในออกนอกเท้าฉากเสียให้หนำใจ

    4. ออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้งแล้วตะโกนให้สุดเสียง ระบายความคั่งแค้นที่อยู่ในใจ ตะโกนออกมาให้ดังเต็มที่เลย หรือถ้าหาที่โล่งแจ้งไม่ได้จริงๆ มีเพื่อนผู้เขียนบางคนตะโกนใส่โถส้วม เสร็จแล้วกดชักโครกทิ้งไปซะด้วย พอหลังจากหายโกรธแล้ว คุณอาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่คุณเคยคับข้องใจเป็นเรื่องเล็กน้อยเต็มทีก็ได้

    5. ทำงานบ้านระบายความโกรธ ได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างรถ เช็ดกระจก ขัดห้องน้ำ ขัดพื้น ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายโกรธ นับเป็นวิธีระบายความโกรธที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะทั้งอารมณ์เย็นลง และบ้านก็สะอาดเรียบร้อยขึ้น
     
  12. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,849
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,021
    พอดีผมไปอ่านเจออันนี้มา อ่านเเล้วนําไปปฎิบัติได้เลยครับ

    โกธะ อุปกิเลสข้อ ๓ (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

    พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวรฯ
    ลงพิมพ์ในหนังสือแสงส่องใจ
    ๓ ตุลาคม ๒๕๒๙

    O โกธะ อุปกิเลสข้อ ๓ ท่านแปลว่า “โกรธ”

    รุนแรงน้อยกว่าโทสะ โกรธเป็นเพียงความเคืองหรือขุ่นเคืองเท่านั้น และก็เช่นเดียวกับอุปกิเลสทุกข้อ เช่นเดียวกับความทุกข์ทั้งปวง ความโกรธเกิดจากความคิดปรุงแต่ง ขณะใดไม่มีความคิดปรุงแต่งยั่วยุตนเองให้โกรธ ขณะนั้นความโกรธจักไม่เกิด

    ดังนั้น เมื่อเกิดความโกรธขึ้นในผู้ใด หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องใดสิ่งใด พึงมีสติรู้ว่าตนเองเป็นผู้คิดปรุงแต่งให้ความโกรธนั้นเกิดขึ้น ผู้ผิดที่แท้จริงที่ทำให้ตนโกรธจึงหาใช่ใครอื่น เป็นตัวของตัวเองแท้ๆ

    ความโกรธหรือความขุ่นเคืองจะเกิดขึ้นด้วยความคิดปรุงแต่งไปต่างๆ เช่น เขาว่าเรา เขาทำไม่ถูกใจเรา เขาไม่ให้ของที่เราชอบใจ ดังนี้เป็นต้น เป็นการคิดปรุงแต่งที่ไม่รุนแรงเท่าที่ก่อให้เกิดโทสะ

    ความรู้สึกที่เกิดจากความคิดปรุงแต่งนั้นจึงเบากว่า เป็นเพียงความโกรธ ไม่ถึงเป็นโทสะที่เป็นความร้ายกาจ ความโกรธจึงเปรียบดังควันหมอกที่จางกว่าโทสะ ปิดบังความประภัสสรแห่งจิตไม่มืดมิดเท่าโทสะ

    เมตตาที่ดับความคิดปรุงแต่งให้เกิดโทสะ จักดับความคิดปรุงแต่งให้เกิดความโกรธได้ง่ายกว่า การเจริญเมตตาจึงเป็นการขจัดหมอกมัวครอบคลุมความประภัสสรแห่งจิตถึงสองชั้น คือทั้งที่เป็นหมอกมัวแห่งโทสะ และทั้งที่เป็นหมอกมัวแห่งความโกรธ เปิดทางให้ปรากฏความประภัสสรสวยงามแห่งจิตยิ่งขึ้น

    เมตตากำจัดโทสะและความโกรธได้ จึงกำจัดความผูกโกรธได้ด้วย

    (จบอุปกิเลสข้อ ๓)

    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10610

    ถ้าเป็นในทางธรรม จากที่ผมได้ศึกษามา เราต้องใช้วิธีเจริญมรณานุสติ เเละเจริญอสุภะ ( พิจารณาจากซากศพ ) ครับ หากผมศึกษามาผิดก็ขออภัย เเต่คิดว่าผมจําไม่ผิดครับ คือถ้าเรานึกถึงความตายว่า ซักวันเราเเละเขาก็ต้องตายอยู่ดี เเล้วเราจะเสียเวลาไปกับการโกรธ การทําให้ตัวเองร้อนรนอยู่ทําไมกัน จริงๆเเล้วผมเป็นคนที่มีโทสะเเรงมากๆ เเต่ตั้งเเต่หันมาทําสมาธิ สวดมนต์ เจริญมรณานุสติเเละเจริญอสุภะในทุกๆวัน ทุกวันนี้โทสะของผมลดลงไปมาก อันนี้กล้าพูด เพราะผมปฎิบัติเเล้วเห็นได้จริงๆครับ อยากให้ทุกคนหมั่นพิจารณาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่เที่ยง เกิดมาเเล้วก็ต้องดับไป ดั่งเช่นอารมณ์โมโหของเรา เราโมโหในวินาทีนี้ อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็ดับไปเเล้ว ที่สําคัญคือ เราอย่าไปยึดติดในอารมณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามา เพราะเขาผ่านมาเเล้วก็ผ่านไปครับ อ้อ การให้อภัยก็เป็นเรื่องที่สําคัญ จงให้อภัยคนๆนั้นเเละให้อภัยตัวเองครับ ตอนเเรกๆอาจจะดูเหมือนว่าทํายาก เเต่ถ้าเราลองครั้งที่ 1 เเล้ว ครั้งต่อๆไปเราก็จะทําได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ ขอให้อดทนเป็นที่ตั้งครับ ขอเป็นกําลังใจให้ทุกคนครับ อ้อ ขอฝากหนังสือ ชีวิตเป็นอย่างนี้ ใต้ comment ของผมให้คุณ แสนสวาท เเละทุกคน download ไปอ่านดูครับ ลองสละเวลาอ่านให้จบดู เเล้วเราจะเข้าใจในตัวเองมากขึ้นครับ อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2011
  13. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    อนุโมทนาสาธุการ กับทุกท่านค่ะ
    ทั้งความเหมือนและความต่าง
    ที่เหลือนำมาพิจารณา

    หากตอนโกรธมีสติ ก็คงได้เจริญปัญญามาบ้างแล้ว

    ธรรมะ เมื่อมีแล้ว ควรแบ่งปันกัน
     
  14. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488

    หากได้ยินเสียงท่าน คงดับโทสะ ได้เปนแน่แท้เลยค่ะ คุณน้องขาาาาาาาาาา
     
  15. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    สติ สัมปชัญญะ ครับ..โกรธโทสะนั้น สะสมมาจากอนุสัยของความสุขเวทนา(ราคานุสัย) จากทุกขเวทนา(ปฎิฆานุสัย)..นอนเนื่องอยู่ในจิต.เมื่อ อายตนะ กระทบวิญญานขันธ์ เกิดผัสสะแล้วเกิด เวทนาขึ้นมา(สุข ทุกข์ เฉยเฉย)...เวลาทุกครั้งที่เรากระทบอารมณ์ครั้งใหม่ใหม่ไม่ว่าจะผ่านมาทางใหนก็ตาม (หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ)จากที่เคยได้รับสุขเวทนาแล้วไม่ได้เหมือนเดิม ก็จะเกิดความขุ่นเคือง.....................การที่สติสัมปชัญญะระลึกตรงที่เรารับอารมณ์(สิ่งที่จิตรู้จากอายตนะ)เกิด ผัสสะ .....รู้เหตุปัจจัย ของการเกิด ดังนี้ และการตั้งอยู่ของโทสะดังนี้ จะทำให้จะเห็นว่าโทสะก็ไม่ใช่ ของเราจริงจริง ไม่มีประโยชน์ ไม่ควรใหลตาม.....อย่างนี้ส่วนจะทำได้แค่ใหนแล้วแต่บุคคล... สติสัมปชัญญะนี้ ใช้ระลึกกับ โลภะ และ โมหะ ที่เกิดกับเราได้ด้วย วันนีง เราอาจสลัด มันหลุดจากความเป็นของเรา ไม่เก็บเอาไว้ ด้วยการ เจริญสติ ที่ต่อเนื่อง ครับ ลองดู........({)
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** ท่านเชื่อไหมว่า ****

    สัจจะ คือ แก่นสารการปฏิบัติ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ง่ายๆ สั้นๆ ..สติ...เท่านั้น
     
  18. J_Shaman

    J_Shaman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +15
    สั้นๆง่ายๆครับ มั่นนึกถึงคำว่านรกอยู่ในใจเมื่อใดที่มีโทสะก็จงรีบเปลี่ยนหาอะไรทำไปเรื่อยๆ (การเปลี่ยนพฤิตกรรม) ธรรมชาติของมนุษย์คือสิ่งที่คนต้องเข้าใจตัวเราเองก่อน ต่อให้ศึกษาธรรมมามากแค่ไหนท่าไม่เข้าใจมันก็ตีความไม่ออก ผู้ปฐิบัติจึงย่อมระลึกอยู่เสมอว่าท่าตัวเองยังระงับไม่ได้แล้วจะเอาอะไรไปสอนคนอื่นเขา อีกวิธืก็นั่งพิจารณาไปเรื่อยๆว่าอะไรคือสาเหตุ(การกระทำ) อะไรเป็นตัวก่อให้โทสะมากขึ้น(อารมณ์) แล้วจะดับทุกข์นั้นมีวิธีไหนบ้าง(ใจ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2011
  19. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    ว่าแต่ว่า ห่วงนางตานี น้ำท่วมเช่นนี้ จะเอาใบกล้วยที่ไหนมาทำบายศรีไหว้ครู
    งานใบตองทั้งหลาย ต้องใช้กล้วยตานี อย่างเดียวเลย
    ใครปลูกกล้วยบ้าง.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...