บนบา่นโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย foo, 29 มกราคม 2013.

  1. foo

    foo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2013
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +6
    คือดิฉันเป็นคนชอบคิดมาก ฟุ้งซ่านและก็ขี้กลัวมาก
    แต่ก่อนจะไม่เป็นขนาดนี้แต่ก่อนหน้านี้มีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจ
    จนเกิดเปนความกลัวขึ้นมา
    และมักจะคิดไปเอง
    เช่น จะชอบคิดไปว่า ขอให้..... แล้วจะ ....ถวาย
    คือจิงๆแล้วไม่ได้ตั้งใจจะขอ
    กลัวว่าถ้าไม่ไปแก้ที่ขอไว้จะเกิดสิ่งไม่ดี
    กลัวมาก เปนแบบนี้หลายครั้ง
    จนเครียดค่ะ
    ต้องทำอย่างไรดีคะ
    แล้วถ้าไม่ไปแก้จะเปนอะไรไหมคะ
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941

    นี้เป็นเรื่องปรกติของเราทั้งหลาย ในยามที่ถูกทุกข์กระหน่ำหนักหนา จิตใจย่อมดิ้นรนกระสับกระส่าย หาทางที่จะพ้นไปเสียจากทุกข์นั้นโดยเร็วที่สุด จึงคิดอยากให้มี กำลังแห่ง"ปาฏิหาริย์"ต่างๆ จากแหล่งที่ตนเคยมีศรัทธาบ้าง เคยฟังคนอื่นเล่าขานบ้าง จากความที่ตนเสพคุ้นมาในคราก่อนบ้างฯลฯมาลบหรือปัดเอาเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดนั้นให้ยุติลงในทันทีทันใจ..หากสิ่งนี้เป็นเรื่องที่เกิดได้จริงตามปรารถนาแล้วไซร้ ย่อมไม่มีใครในโลกต้องทนทุกข์อะไรๆนานเลย...แต่ในความจริงแล้ว สิ่งทั้งหลายเกิดด้วยเหตุปัจจัยมากมาย การที่ทุกข์มาปรากฏก็เพราะปัจจัยต่างๆ มีกรรมบ้าง ตัณหาบ้าง ทิฏฐิ มานะ ภูมิ กาลเวลาฯลฯ..ฯลฯ..ฯลฯ....การจัดการกับทุกข์จะมีเเละเป็นได้ด้วยดีต้องอาศัยการสดับรับฟังพระธรรมคำสอนที่ถูกแท้ของพระพุทธเจ้าอันเป็นปัจจัยให้เกิดปัญญา...และปัญญานี้ ย่อมเป็นเหมือนแสงสว่างสาดส่องให้เห็นที่มาของปัญหาหรือทุกข์ ผู้นั้นจึงสามารถแก้ไขทุกข์ได้อย่างถูกต้อง ด้วยความไม่งมงายในเรื่องที่ขาดเหตุผล..

    สิ่งที่ท่านจขกท ต้องทำในบัดนี้และโดยทันทีคือ..ยุติความวิตกกังวลด้วยความกลัวในการคิดบนบานอะไรๆลงเสีย...เพราะนี้เป็นอาการของจิตที่เป็นไปกับอุททัจจะคือฟุ้งซ่าน เป็นบาป หากปล่อยให้ยืดเยื้อยาวนาน บาปนี้จะมีกำลังมาก อาจทำให้กลายเป็นโรคจิตหรือบ้าได้ เพราะสติแตกกระจายไปแล้ว...

    การคิดบนบานอะไรๆเช่นนี้ หาได้มีผลอะไรที่ผูกท่านจขกทไว้กับใครหรืออะไรไม่ ..เป็นอุปาทานที่ตนสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกตนเองว่า นี่นะเป็นเรื่องขลัง เพราะไปเกี่ยวข้องกับผีบ้าง เปรตบ้างหรือเทวดาบ้างตามอำนาจผลักดันของตัณหาขอตนที่ต้องการพ้นทุกข์ภัย...เวลานั้น ที่คิดบนบาน ก็มีแต่ใจตนเท่านั้นที่เป็นไป ไม่ได้มีใครมาตีขลุมรับเป็นเจ้ามือรับสิ่งบนบานอะไรๆอย่างที่คิดไปเองเลย พอคิดไปก็เดือดร้อนใจอีกตามมา เรียกว่าทุกข์แล้วในตอนแรกยังไม่จบ ก็ได้ทุกข์ใหม่มาซ้อนทับอีกเช่นนี้ น่าจะพิจารณาเห็นสิ่งที่เกิดนี้จริงๆว่า ไม่มีใครทำเราให้เข้าถึงทุกข์หรอก เราเองเท่านั้นทำตนเอง...

    ท่านจขกท พึงทราบว่า การรับสินบนเป็นกิริยาของคนพาล หากท่านต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นพาล ท่านจะได้ความสวัสดีจากที่ใหน?..ท่านเมื่อคบพาลอยู่ที่จะไม่ถูกพาลเบียดเบียนนั้น เป็นไปไม่ได้ จึงพึงละเลิกการส้องเสพกับการบนบานอะไรนี้เสียโดยเร็ว มิฉะนั้นจะเป็นการสั่งสมนิสสัยสันดานแห่งการนิยมบนบานจนหนาแน่น แก้ไม่ได้อีก ...

    ท่านพึงหันมาคบบัณฑิตคือพระพุทธเจ้าเสียโดยทันที แล้วศึกษาพระธรรมที่พระองค์ตรัสสอนไว้ดีแล้ว เมื่อท่านคบบัณฑิต...ท่านย่อมได้ปัญญาทราบชัดว่า สัตว์ทั้งหลาย"มีกรรมเ็ป็นของตน"..ท่านจะมีสัมมาทิฏฐิ คือเห็นถูกตรงในเรื่องกรรมว่า กรรมมีผล เมื่อทำดีผลดีย่อมหวังได้ เมื่อทำชั่วความวิบัติย่อมตามมา..ไม่ไขว้เขวเป็นอย่างอื่นที่คนเขลาผู้ไม่ได้สดับคิดเอาเอง...ท่านเมื่อได้กัมมสกตาปัญญา แล้วย่อมขวนขวายในกิจแห่งบุญด้วยตนเองทีเดียวโดยไม่รอใครๆให้มากระตุ้น .. ความคิดที่จะพ้นทุกข์ด้วยการบนบานอะไรๆย่อมไม่เกิดอีก เพราะความฉลาดคิดที่เกิดด้วยปัญญามา ขวางกั้นไว้ ท่านย่อมเป็นผู้เจริญ เพราะพ้นแล้วจากความงมงายที่ไม่มีเหตุผล อันคนส่วนมากเป็นไปกันอยู่..ความเดือดร้อนใจใดๆ เพราะเกิดจากมิจฉาทิฏฐิ คือการบนบานย่อมปราศไป เข้าถึงความมั่นคงในสัมมาทิฏฐิ อันเป็นปัจจัยอย่างยอดเยี่ยมในการพ้นทุกข์ทั้งมวลได้แน่แท้ เพราะสัมมาทิฏฐิ คือองค์แรกในมรรค 8ที่ เราต้องเจริญหรือทำให้มีให้ได้ นะครับ..

    สรุป คือ ยุติความกังวลเสีย เพราะการบนบานนั้น ไม่มีผลอะไรๆ เมื่อใดยังคิดบนบานอยู่ก็ให้นึกตามมาว่า...

    "การรับสินบนเป็นกิริยาของคนพาล หากท่านต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นพาล ท่านจะได้ความสวัสดีจากที่ใหน?.."..

    ความคิดบนบานจะยุติลงได้เพราะท่านย่อมรักตนไม่อยากเดือดร้อนเพราะพาล จริงใหม?..

    สบายใจได้แล้วครับ ..สมัยที่ผมยังไม่นับถือพุทธ ก็คิดแบบท่านจขกท มามากมายหลายหน ...แต่ก็ไม่เคยพบว่าคำบนบานมีผลอะไรในที่ใหน ตอนหลังจึงหายบ้าไปเองเพราะเสียเวลา เปลืองสมองน่ะครับ..
     
  3. aapinyah

    aapinyah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2012
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +160
    ลองเปลี่ยนจากขอหรือบน มาเป็นให้ โดยการ แผ่เมตตา แทน เริ่มจากท่องให้ติดปาก และติดใจก่อน นึกถึงเมื่อไร ก็ให้ท่องเมื่อนั้น น่าจะดีขึ้นนะ
     
  4. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    จุดธูป 16 ดอก ปักกลางแจ้ง ก่อนสิบโมงเช้า
    บอกว่า ถ้าหากหนูไม่ได้จุดธูปบน ขอเทพยดาทั้งหลายทั้งปวงอย่ารับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...