ป้องกันการชนด้วย"รถยนต์พูดได้"

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 9 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    ป้องกันการชน ด้วย "รถยนต์พูดได้"

    คอลัมน์ ไอเดีย อัพเดต



    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>แม้ว่า "อุบัติเหตุ" จะเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม แต่ก็สามารถป้องกันได้ และหนึ่งในวิธีการป้องกันที่จะนำเสนอในวันนี้คือ "รถพูดได้"

    โดยบรรดาค่ายรถยนต์กำลังพัฒนาระบบความปลอดภัยที่ใช้ระบบจีพีเอส และสัญญาณไว-ไฟล้ำสมัยที่ช่วยให้ รถยนต์สื่อสารระหว่างกันได้ และสามารถส่งข้อความเตือนผู้ขับขี่เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

    ล่าสุดฟอร์ด มอเตอร์ได้สาธิตเทคโนโลยีดังกล่าวให้ผู้กำหนดนโยบายและผู้สื่อข่าวชมก่อนงานวอชิงตัน ออโต้ โชว์ ซึ่งในการทำงานนั้นพบว่า แต่ละวินาทีจะมีการส่งข้อความหลายครั้งเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของรถ ความเร็ว เบรก และทิศทางพวงมาลัย และหากตรวจพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอันตรายหรือชนกับรถคันอื่น ก็จะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ทันที ด้วยการเตือนผ่านเสียงและไฟกะพริบสีแดงบนแผงหน้าปัด

    เทคโนโลยีชิ้นนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยป้องกันการชนกันของรถยนต์ที่เกิดจากการเปลี่ยนเลน หรือขับประชิดกับรถคันอื่นมากเกินไป หรือการขับตรงไปยังสี่แยกขณะที่รถคันอื่นฝ่าไฟแดงมา

    และแม้ว่าจะเพิ่งนำมาเผยโฉม แต่จริง ๆ แล้วค่ายรถยนต์ได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีนี้มาเกือบหนึ่งทศวรรษ โดยค่ายรถยนต์ เช่น เจนเนอรัล มอเตอร์ส โตโยต้า เดมเลอร์ ได้รวมตัวกันเพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับระบบป้องกันการชนมาตลอด

    แต่คาดว่าจะใช้เวลาอีก 5-10 ปี กว่าที่จะติดตั้งระบบเตือนดังกล่าวในรถยนต์ในสหรัฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของฟอร์ดมองว่า หากติดตั้งในรถยนต์จำนวนมากพอ ก็จะสามารถลดยอดคนตายจากอุบัติเหตุบนทางหลวงได้พอสมควร

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานบริหารความปลอดภัยทางการจราจรทางหลวงของสหรัฐระบุว่า การสื่อสารระหว่างรถยนต์ด้วยกันจะช่วยแก้ปัญหารถชนกันได้ราว 4.3 ล้านคัน หรือประมาณ 4 ใน 5 ของกรณีรถชนที่ผู้ขับขี่ไม่ได้เสพยาหรือเมา

    ทั้งนี้ เทคโนโลยีป้องกันรถชนบางระบบใช้ระบบเรดาร์ติดตั้งไว้ที่หน้าหรือหลังรถ แต่ฟอร์ดอธิบายว่า ระบบไว-ไฟและจีพีเอสมีราคาย่อมเยากว่า และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ทุกทิศทางรอบคันรถ

    นอกจากนี้ เพราะขณะนี้มีการใช้เทคโนโลยีไว-ไฟและจีพีเอสอย่างกว้างขวาง จึงเอื้อให้ค่ายรถสามารถติดตั้งเทคโนโลยีนี้ในรถยนต์รุ่นปัจจุบันได้

    สำหรับคนทั่วไป ในฤดูร้อนที่จะถึงนี้ค่ายรถยนต์จะจัดโครงการคลินิกขับรถ เพื่อเปิดโอกาสให้สัมผัสกับรถยนต์อัจฉริยะจริงๆ

    ซึ่ง ปีเตอร์ แอพเพล เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเทคโนโลยีนวัตกรรมและวิจัยของกระทรวงคมนาคมสหรัฐ มองว่า เทคโนโลยีคือโอกาสที่จะช่วยให้รถยนต์หลายล้านคันสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับรถที่กำลังแล่นอยู่แบบเรียลไทม์ และโลกใหม่ของการสื่อสารแบบไร้สายจะช่วยทำให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น

    ประชาชาติธุรกิจ
    ลิ๊งค์ที่มาค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...