พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับวิชาการโหราศาสตร์

ในห้อง 'ในหลวงกับพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 14 กรกฎาคม 2009.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,494
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับวิชาการโหราศาสตร์

    พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์

    [​IMG]
    <hr width="80%" color="#000080">ในโบราณกาล พระมหากษัตริย์ในฐานะผู้ปกครองประเทศและจอมทัพ จำเป็นต้องทรงศึกษามีความรู้ในวิชาการแขนงต่างๆ อาทิ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ศิลปะการต่อสู้โดยใช้อาวุธในรูปแบบต่างๆ การฝึกม้าช้าง ตำราพิชัยสงครามซึ่งจะมีหัวข้อวิชาเกี่ยวกับโหราศาสตร์อยู่ด้วยเพื่อใช้ในการคำนวณหาฤกษ์ที่สำคัญต่างๆ เช่น ฤกษ์เคลื่อนทัพ ฤกษ์เข้าตีข้าศึก เป็นต้น สำหรับวิชาโหราศาสตร์นี้ พระมหากษัตริย์บางพระองค์ได้ทรงสนพระทัยศึกษาอย่างจริงจังแล้วนำมาประยุกต์ใช้งานด้วยพระองค์เองดังตัวอย่าง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ซึ่งทรงได้รับการยกย่องกันในวงการโหรเมืองไทยว่า ทรงมีความรู้และเชี่ยวชาญในวิชาการโหราศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง แต่บางพระองค์ก็เพียงแต่ศึกษาตามหน้าที่เป็นความรู้ ส่วนรายละเอียดในทางปฏิบัตินั้นได้ทรงมอบให้แก่ขุนนางที่มีตำแหน่งโหรหลวงเป็นผู้รับผิดชอบ โหรหลวงบางท่านได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นถึงพระยาโหราธิบดี

    สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันนั้น มิได้ปรากฏหลักฐานว่าพระองค์ท่านทรงเคยศึกษาวิชาการแขนงนี้มาก่อน จนกระทั่งผมได้เปิดอ่านหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” ซึ่งโปรดเกล้าฯให้จัดพิมพ์จำหน่าย และได้พบว่าในภาพประกอบการเดินทางทางทะเลของพระมหาชนกนับตั้งแต่วันออกเดินทาง วันที่เรือพระที่นั่งถูกพายุในทะเลจนอับปาง จนถึงวันที่นางมณีเมขลามาช่วย มีรูปภาพดวงแสดงที่ตั้งของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ในวันเกิดเหตุไว้ทุกภาพ

    ผมในฐานะนักศึกษาวิชาโหราศาสตร์คนหนึ่งจึงอดไม่ได้ที่จะพิจารณาดูดวงเหล่านี้โดยเฉพาะในวันที่เกิดพายุรุนแรงขึ้นจนเป็นเหตุให้เรือพระที่นั่งของพระมหาชนกอับปางนั้น ดาวพระเคราะห์ต่างๆ สถิตอยู่ในราศีใดบ้างเพื่อประกอบการศึกษาค้นคว้าวิชาการนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของดาวพระเคราะห์กับอุบัติภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เรียกว่า Mundane Astrology

    ในบทพระราชนิพนธ์ได้ทรงระบุวันเดือนที่เกิดเหตุไว้ประกอบดวงชะตาว่า เป็นวันที่ ๒ พฤษภาคม ส่วนปีและเวลาที่เกิดเหตุมิได้ทรงระบุไว้ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนพุทธกาลส่วนวันที่นางมณีเมขลามาช่วยนั้นเป็นวันที่ ๙ พฤษภาคม หลังจากวันที่พระมหาชนกได้ทรงพระวิริยะว่ายน้ำอยู่ในมหาสมุทรมาแล้วเป็นเวลา ๗ วัน

    ท่าน B.V. Raman โหราจารย์อินเดียที่มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่งได้กล่าวถึงอิทธิพลของดวงดาวที่มีต่อสภาพดินฟ้าอากาศไว้หลายประการในหนังสือที่ท่านได้เขียนไว้คือ “PLANETARY INFLUENCES ON HUMAN AFFAIRS” ซึ่งผมขอประมวลมาเพียงบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับวาตะภัยและแปลเป็นไทยได้ใจความดังนี้

    ดาวพระเคราะห์ที่มีอิทธิพลแก่ลมพายุทั้งความรุนแรงและทิศทาง ได้แก่ ดาวเสาร์จะแสดงผลต่อลมมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ และดาวพฤหัสบดีจะส่งผลต่อลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทั้งนี้จะส่งผลได้เด่นชัดมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อดาวพระเคราะห์ทั้งสองสถิตในราศีมิถุน ราศีตุลย์ และราศีกุมภ์ซึ่งล้วนแต่เป็นราศีธาตุลม และทำมุมสัมพันธ์กับดาวจันทร์และดาวอาทิตย์ คือ ทับกัน เล็งกัน หรือ ๙๐ องศา

    เมื่อพิจารณาจุดที่ตั้งของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ตามดวงในวันเกิดเหตุวาตะภัยที่ปรากฏอยู่ในบทพระราชนิพนธ์ฯ คือในวันที่ ๒ พฤษภาคม จนเป็นเหตุให้เรือพระที่นั่งของพระมหาชนกต้องอับปางแล้ว ปรากฏว่าดาวเสาร์สถิตราศีกุมภ์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม ดาวพฤหัสบดีสถิตราศีตุลย์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม เช่นกัน นอกจากนี้ดาวพฤหัสบดียังทำมุมเล็งกับดาวอาทิตย์ที่สถิตอยู่ในราศีเมษ และทำมุม ๙๐ องศากับดาวจันทร์ซึ่งสถิตในราศีมังกรตรงกับที่ท่านโหราจารย์ B.V. Raman ได้กล่าวไว้ อนึ่ง เมื่อพิจารณาตรงจุดที่เรือพระที่นั่งของพระมหาชนกอับปางนั้นอยู่ในบริเวณลองติจูด ๙๐ องศาเศษ ซึ่งอยู่ในอาณาเขตต่อเนื่องระหว่างประเทศบังคลาเทศกับประเทศพม่า และตามตำรา Mundane Astrology ได้กำหนดให้ลัคนาของดวงเมืองประเทศพม่าไว้ในราศีตุลย์ พายุรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันนั้นจึงเกิดจากอิทธิพลของดาวพฤหัสบดีที่ทำมุมเล็งกับดาวอาทิตย์ และทำมุม ๙๐ องศากับดาวจันทร์ เท่านั้นดูจะยังไม่เพียงพอหากไม่ได้พิจารณาถึงจุดที่ตั้งของดาวมฤตยูซึ่งทางโหราศาสตร์ถือว่า เป็นเจ้าการของอุบัติเหตุด้วย ดาวมฤตยูในวันที่เกิดเหตุนี้ปรากฏว่า สถิตอยู่ในราศีมังกรราศีเดียวกับดาวจันทร์จึงทำมุม ๙๐ องศากับดาวพฤหัสบดีช่วยส่งอิทธิพลในทางทุกข์โทษให้แก่ดาวพฤหัสบดีอีกส่วนหนึ่ง อุบัติภัยอันเกิดจากลมพายุหรือวาตะภัยจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งคือ จุดที่ตั้งของดาวพลูโตซึ่งระบุไว้ในดวงวันเกิดเหตุนั้นได้สถิตอยู่ร่วมกับราหูในราศีพิจิกซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำ ดาวพลูโตมีความหมายในตัวประการหนึ่งว่า "เรืออับปาง"ดังนั้นเมื่อสถิตร่วมกับราหูซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในวงการโหราศาสตร์ว่าหากเข้ามาประชิดในเชิงมุมกับดาวอาทิตย์และดาวจันทร์ในวันข้างขึ้น ๑๕ ค่ำ ก็จะเกิดจันทรุปราคา หรือ จันทรคราส ถ้าเป็นวันข้างแรม ๑๕ ค่ำ (เดือนคู่) หรือข้างแรม ๑๔ ค่ำ (เดือนคี่) ก็จะเกิดสุริยุปราคาหรือ สุริยคราส ซึ่งจะมีอิทธิพลส่งผลเป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตาได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในกรณีนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่า ได้เกิดจันทรคราสขึ้นก่อนวันที่เกิดเหตุและเงาดำของคราสหรือราหูได้ครอบคลุมมาถึงอาณาบริเวณที่ใกล้เคียงกับจุดที่ตั้ง ของดาวพลูโตจึงส่งผลให้เกิดการอับปางของเรือขึ้น
    ผมเองได้เคยปฏิบัติหน้าที่สนองพระเดชพระคุณมาเป็นเวลานานและในบางโอกาสที่ได้เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ พระองค์ท่านได้ทรงทราบว่า ผมมีความสนใจศึกษาวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวอยู่จึงได้รับสั่งสอบถามผมในบางเรื่องบางประเด็น นอกจากนี้ ผมยังได้ทราบว่าพระองค์ท่านยังได้มีพระราชกระแสสอบถามเกี่ยวกับเรื่องโหราศาสตร์จากข้าราชบริพารอีกหลายท่าน อาทิ ท่านอาจารย์ภาวาส บุนนาค อดีตรองราชเลขาธิการ (ถึงแก่กรรมแล้ว) ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ประสบการณ์ในวิชาการโหราศาสตร์มากท่านหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง และผมเองไม่มีโอกาสทราบเลยว่า พระองค์ท่านได้ทรงศึกษาวิชาการนี้มาจากที่ใดมากน้อยเพียงใด แต่เมื่อผมได้สังเกตพระราชกระแสเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอดแล้ว ผมจึงเข้าใจเอาเองว่า พระองค์ท่านจะต้องทรงมีความรู้ทางวิชาการโหราศาสตร์ไม่น้อย และเมื่อผมได้ตรวจสอบวิเคราะห์ดวงแสดงจุดที่ตั้งของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของพระมหาชนกตามหลักวิชาโหราศาสตร์ที่ผมได้ศึกษาเล่าเรียนมาแล้ว ทำให้ผมมีความมั่นใจยิ่งขึ้นว่านอกเหนือจากพระปรีชาสามารถในวิชาการรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เกษตรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การสื่อสารโทรคมนาคม การจัดการจราจร การชลประทาน การอุตุนิยมวิทยา การดนตรี การกีฬา ฯลฯ แล้ว พระองค์ท่านยังทรงมีพระปรีชาสามารถในวิชาการโหราศาสตร์อีกแขนงหนึ่งด้วย เพราะจุดที่ตั้งของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ที่พระองค์ท่านได้แสดงไว้ในดวงของวันที่มีเหตุการณ์เกี่ยวกับการเดินทางของพระมหาชนกดังที่ปรากฏอยู่ในหนังสือพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” นั้น มีที่มาจากรากฐานความเป็นไปได้ซึ่งสามารถพิสูจน์ยืนยันด้วยหลักวิชาโหราศาสตร์ดวงดาวได้อย่างจริงๆ และเป็นสิ่งที่พสกนิกรคนไทยโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวงการโหราศาสตร์ควรภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน

    ถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะทรงมีพระปรีชาสามารถในวิชาการโหราศาสตร์มากน้อยเพียงใดก็ตาม แต่โดยที่พระองค์ท่านได้ทรงมีพระราชศรัทธาเลื่อมใสเข้าพระทัยในแก่นแท้ของพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้งแท้จริง และทรงน้อมนำมาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า พระองค์ท่านจะใช้วิชาการแขนงนี้เป็นเพียงส่วนประกอบพระราชวิจารณญาณในพระราชกรณียกิจบางเรื่องบางประเด็นเช่นเดียวกับบุรพพระมหากษัตราธิราชเท่านั้น

    ประชาชนคนไทยนับได้ว่าเป็นผู้ที่มีโชคดีที่พระมหากษัตราธิราชซึ่งทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรม ทรงมีพระปรีชาสามารถ ทรงมีพระราชอัจฉริยภาพสูงส่ง และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่พวกเราเหลือคณานับ ดังนั้นในวโรกาสที่สำคัญยิ่งที่วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ท่านได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่ง จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่พวกเราชาวไทยทุกคนจะได้ร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานถวายพระพรให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานตลอดไป




    ที่มา:��кҷ����稾������������ǡѺ�Ԫҡ��������ʵ��
    ผมได้เคยเขียนบทความเรื่องนี้ออกเผยแพร่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๐ จนถึงบัดนี้เป็นเวลา ๖ ปีเศษ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมได้ใช้เวลาว่างศึกษาค้นคว้าวิชาโหราศาสตร์ดวงดาวเพิ่มเติมจนมีความรู้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น จึงได้นำบทความนี้มาปรับปรุงแก้ไขใหม่เพื่อเป็นวิทยาทานแก่นักศึกษาวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาว


    --------------------
    ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก:
    �ҪԹվ�Шѹ���
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2009
  2. sammyreturn

    sammyreturn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +49
    ยอดพระมหากษัตริย์ ครับ
     
  3. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,689
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

    ขออนุโมทนาอย่างยิ่งต่อเจ้าของกระทู้ค่ะ
     
  4. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +974
    สาุธุู อนุโมทนา ครับ

    แปลกไหมครับผมมีความเห็นว่า ที่ในหลวงท่านนำ ดวง วัน สองวัน นี้ พระองค์ท่านอาจต้องการสื่ออะไร บางอย่างออกมา
     
  5. ต้นไทร

    ต้นไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +666
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
     
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260

    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงกันท่านเจ้าของกระทู้ครับ
     
  7. yuth seacon

    yuth seacon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +249
    สมดั่งที่เป็นพระมหาโพธิสัตว์มาโปรดพสกนิกรโดยแท้
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
    สาธุ
     
  8. nantapong

    nantapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    913
    ค่าพลัง:
    +2,154
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. Unlimited Indy

    Unlimited Indy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,228
    ค่าพลัง:
    +803
    เย็นศิระเพราะพระบริบาล

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...