พระสังฆราชสร้างโบสถ์ดินแห่งแรกในไทย

คมชัดลึก :สมเด็จพระสังฆราชสร้างโบสถ์ดินแห่งแรกในไทย ชูต้นแบบวัดพอเพียงถวายในหลวง 84 พรรษา ทุนสร้างไม่เกิน1ล้านบาท



เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2554 พระราชรัตนมงคล สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะที่ปรึกษาโครงการสร้างอุโบสถดิน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 เปิดเผยว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์การสร้างอุโบสถดินแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ในพื้นที่บ้านห้วยยาง อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร

โดยจะมีการสร้างอุโบสถ กุฎิ เจดีย์ ที่ทำจากดินทั้งหมด ซึ่งทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จะนำดินจากที่สังเวชนียสถาน 4 แห่ง จากประเทศเนปาล อินเดีย และดินจากพระสถูปโบราณสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช จากเมืองตักศิลา ประเทศปากีสถาน มาผสมเพื่อความเป็นสิริมงคลในการสร้างอุโบสถดินด้วย นอกจากนี้ สมเด็จพระสังฆราช ยังได้ประทานพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ที่แกะสลักจากหินหยกที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย เตรียมนำมาประดิษฐานเป็นพระประธาน เมื่ออุโบสถสร้างเสร็จแล้วอีกด้วย


พระราชรัตนมงคล กล่าวต่อไปว่า สำหรับอุโบสถดิน จะมีขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 15 เมตร จะจุพระได้ไม่น้อยกว่า 50 รูป โดยจะใช้งบประมาณจัดสร้างไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนกุฎิดินจะจัดสร้าง 2 หลัง ราคาหลังละไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งแรงงานที่จะนำมาจัดสร้างจะเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำที่กำลังจะพ้นโทษที่ ผ่านการอบรมการฝึกอาชีพก่อสร้างบ้านดินของกรมราชทัณฑ์ มาร่วมจัดสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำความดีให้สังคม


อย่างไรก็ตาม ตนและพระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชนำคณะอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดสกลนครสำรวจพื้นที่และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง ในการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว โดยทางจังหวัดสกลนครเห็นว่า วัดป่าพุทธนิมิต เป็นวัดกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ปัจจุบันมีพระครูปลัดสมบัติ อาภัสสโร เป็นเจ้าอาวาส ในพื้นที่ 14 ไร่ 70 ตารางวา เหมาะที่จะสร้างอุโบสถดินมากที่สุด


“อุโบสถดิน และศาสนสถานที่ สมเด็จพระสังฆราช ทรงสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเป็นไปตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะให้วัดดังกล่าวเป็นต้นแบบของการสร้างอุโบสถอย่างพอเพียง ไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะปัจจุบันมีการสร้างพระอุโบสถในราคาสูง 10 ถึง 100 ล้านบาท แต่ไม่คุ้มค่าประโยชน์การใช้สอย เพราะบางวัดมีพระจำพรรษาเพียงแค่ไม่กี่รูป และสอดคล้องกับแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเน้นให้ สร้างวัดแบบประหยัดและคุ้มค่าจากการใช้งาน” ที่ปรึกษาโครงการฯกล่าว

พระราชรัตนมงคล กล่าวอีกว่า พื้นที่ที่จะจัดสร้างอุโบสถดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอ่างเก็บน้ำห้วยโท ห้วยยาง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทรงให้ความสำคัญกับพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น การสำรวจพื้นที่ การดูแลการจัดสร้าง พร้อมเปิดดำเนินการด้วยพระองค์เอง พร้อมกับเชิญคณะทูตานุทูตมาร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดอ่างเก็บน้ำเมื่อวัน ที่ 30 พฤศจิกายน 2532 ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้ชื่อว่า ยากจนที่สุดในจังหวัด จากความแห้งแล้ง ข้าวไม่พอบริโภค


"ปัจจุบันพื้นที่นี้สามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง และเป็นหมู่ที่มีรายได้จากการเพาะกล้าไม้ส่งขายปีละไม่ต่ำกว่า 27 ล้านต้น มีรายได้ประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี จึงทำให้พื้นที่นี้เป็นที่สนใจของนักวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศมาศึกษาดูงานเป็นจำนวนมากในการเป็นต้นแบบของการพลิก ชีวิตประชาชนจากยากจนมาอยู่ดีกินดี"พระราชรัตนมงคล กล่าว

http://www.komchadluek.net/detail/20110218/89286/พระสังฆราชสร้างโบสถ์ดินแห่งแรกในไทย.html

 

<IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0px; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0px; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0px; TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 0px; LEFT: 0px" id=_atssh758 height=1 src="//s7.addthis.com/static/r07/sh32.html#cb=0&ab=fs-0&dh=palungjit.org&dr=&du=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff11%2F%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%86%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-280617.html&dt=&inst=1&lng=th&pc=men&pub=xa-4a38f0f6636e48fa&ssl=0&sid=4d60fbf9dae39c96&srd=1&srf=0.02&srp=0.2&srx=0&ver=250&xck=0&rev=89959&xd=1" width=1 name=_atssh758 frameborder="0"></IFRAME>
'พระสังฆราช'สร้างโบสถ์ดินถวายในหลวง

วันเสาร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 9:27 น

<SCRIPT type=text/javascript src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa"></SCRIPT> ​

<TABLE id=ext-gen5 class=x-tabs-strip border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD style="WIDTH: 72px" id=ext-gen10 class=" on">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>



ปีมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา "สมเด็จพระสังฆราช" ทรงสร้างโบสถ์ดินแห่งแรกในประเทศ ถวาย ณ วัดป่าพุทธนิมิต สาย "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" เผย นำดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่ง จาก 3 ประเทศ "เนปาล-อินเดีย-ปากีสถาน" มาผสมเป็นสิริมงคลในการสร้างอุโบสถดิน ตั้งงบไว้ไม่เกิน 1 ล้านบาท หวังสะท้อนให้เห็นสร้างประหยัดคุ้มค่ากับเงินไม่ใช่งบเยอะแต่ใช้งานไม่คุ้มค่า ระบุ ตั้งเป้าให้เป็นต้นแบบวัดพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ส่วน กทม. นำประชาชนลงนามถวายพระพรบนผืนผ้ายาว 999 เมตร

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. พระราชรัตนมงคล ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะที่ปรึกษาโครงการสร้างอุโบสถดิน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 เปิดเผยว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์การสร้างอุโบสถดินแห่งแรกในประเทศ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ พื้นที่บ้านห้วยยาง อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร มีการสร้างอุโบสถ กุฏิ เจดีย์ ที่ทำจากดินทั้งหมด ซึ่งนำดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่ง จากประเทศเนปาล อินเดีย และดินจากพระสถูปโบราณสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมืองตักกศิลา ประเทศปากีสถาน มาผสมเป็นสิริมงคลในการสร้างอุโบสถดิน

นอกจากนี้สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ที่แกะสลักจากหินหยกที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย เตรียมนำมาประดิษฐานเป็นพระประธานเมื่ออุโบสถสร้างเสร็จแล้วอีกด้วย สำหรับอุโบสถดิน จะมีขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 15 เมตร จุพระสงฆ์ได้ไม่น้อยกว่า 50 รูป ใช้งบไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนกุฏิดินจะจัดสร้าง 2 หลัง ไม่เกินหลังละ 1 แสนบาท ซึ่งแรงงานที่จะนำมาจัดสร้างจะเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำที่ผ่านการอบรมการฝึกอาชีพก่อสร้างบ้านดินของกรมราชทัณฑ์ มาร่วมจัดสร้าง

ทั้งนี้อาตมาและพระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชได้นำคณะอธิบดีกรมราชทัณฑ์ สำรวจพื้นที่และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเห็นว่า วัดป่าพุทธนิมิต เป็นวัดกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ปัจจุบันมีพระครูปลัดสมบัติ อาภัสสโร เป็นเจ้าอาวาส ในพื้นที่ 14 ไร่ 70 ตารางวา เหมาะที่จะสร้างอุโบสถดินมากที่สุด โดยอุโบสถดิน และศาสนสถาน จะเป็นไปตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะให้วัดดังกล่าวเป็นต้นแบบของการสร้างอุโบสถอย่างพอเพียง ประหยัด และคุ้มค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะปัจจุบันมีการสร้างพระอุโบสถในราคาสูง 10-100 ล้านบาท แต่ไม่คุ้มค่าประโยชน์การใช้สอย เพราะบางวัดมีพระจำพรรษาไม่กี่รูป

พระราชรัตนมงคล กล่าวอีกว่า พื้นที่ที่จะจัดสร้างอุโบสถดินนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระ บรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเคยเสด็จฯทรงเปิดอ่างเก็บน้ำห้วยโท ห้วยยาง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมกับเชิญคณะทูตานุทูตมาร่วมเป็นสักขีพยานเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2532 ทำให้ประชาชนที่ได้ชื่อว่า ยากจนที่สุดในจังหวัด ข้าวไม่พอบริโภค ปัจจุบันทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง และเป็นหมู่บ้านที่มีรายได้จากการเพาะกล้าไม้ส่งขายปีละไม่ต่ำกว่า 27 ล้านต้น มีรายได้ 50 ล้านบาทต่อปี ทำให้พื้นที่นี้เป็นที่สนใจของนักวิชาการ ทั้งในและต่างประเทศมาศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก ในการเป็นต้นแบบของการพลิกชีวิตประชาชนจากยากจนมาอยู่ดีกินดี

ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช พสกนิกรปวงชนชาวไทยต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าตราบนานเท่านานและขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างพร้อมใจกันเดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพร พร้อมกับนำแจกันดอกไม้ รวมทั้งสิ่งของต่าง ๆ มาทูลเกล้าฯ ถวาย อาทิ คณะผู้สูงอายุและ อสม. รพ.ส่งเสริมสุขภาพบ้านในโหมง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร คณะ อสม. และเจ้าหน้าที่อนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นิคมพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล คณะกรรมการบริหาร กองทุนระบบประกันสุขภาพ สภาเด็กและเยาวชน อ.บรบือ จ.มหาสารคาม คณะครูโรงเรียนบ้านทุ่งโป่ง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี คณะอาจารย์นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง คณะ อบต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นต้น

ที่ตึกสยามินทร์ ชั้น 2 ห้องจุฬาภรณ์ รพ.ศิริราช หน่วยงานทั้งภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชน รวมถึงครอบครัว ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างพร้อมใจกันเดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬา ภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็นจำนวนมาก พร้อมกับนำแจกันดอกไม้ รวมทั้งสิ่งของต่าง ๆ มาทูลเกล้า ถวาย อาทิ คณะผู้สูงอายุ จ.ชุมพร คณะ อบต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี คณะอาจารย์นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า อ.เมือง จ.จันทบุรี คณะอบต.ไทรโสภา อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น

ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติ พระชนมพรรษา 84 พรรษา พร้อมลงนามถวายพระพร บนผืนผ้าความยาว 999 เมตร ร่วมกับเครือข่ายยุวชนประชาธิปไตย นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทุกหมู่เหล่า

ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดหลังเก่า จ.นครศรีธรรมราช นายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ. พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์กร มูลนิธิต่าง ๆ นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชน ร่วมลงนามถวายพระพรลงบนผืนผ้าสีเหลืองความยาว 999 เมตร เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว







Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > 'พระสังฆราช'สร้างโบสถ์ดินถวายในหลวง

 

ตามความคิดของผม

จะสร้างแบบไหน

ผมก็สนับสนุนทั้งนั้น

เพราะในอุดมคติของชาวพุทธเราถือว่า

การทำนุบำรุงศาสนสถานด้วยความศรัทธาเลื่อมใส

ย่อมจะเป็นบุญกุศลต่อผู้สร้างและหมู่คณะเอง

สำหรับพวกที่เขาสร้างโบสถ์ทองคำ ฯลฯ

อย่างหรูหรา

พวกเขาก็ไม่ได้จะมาอวดความรวยหรือเอาหน้า
อะไรหรอก

เจตนาสำคัญเพียงแค่หนึ่งเดียว

ก็คือพวกเขาตั้งใจหวังอยากได้บุญกุศลเท่านั้นเอง

แทนที่พวกเขาจะนำเงินไปใช้สร้างบ้านสวยๆของตัวเอง ฯลฯ

แต่พวกเขาอุตส่าห์มีใจที่ตั้งมั่นในบุญกุศล

นำเงินมาร่วมสร้างโบสถ์ที่ไม่ได้เป็นของสมบัติส่วนตัวของใครเลย

และในขณะเดียวกัน

แม้กระทั่ง

แค่เราช่วยทำความสะอาดห้องน้ำในวัด

อย่างตั้งใจจริง

ก็ได้บุญแล้ว

ถ้ามีความศรัทธาเลื่อมใส

จากใจจริง

เรื่องโบสถ์ดิน

นั้น

ผมไม่ไ้ด้สนับสนุนและคัดค้าน

 

ผมขอร่วมอนุโมทนาในการสร้างโบสถ์ดินนะครับ

เพียงแค่

อยากให้ชาวพุทธเรานั้นขี้เหนียวกับตัวเอง

แต่ในส่วนที่ทำเพื่อศาสนาพุทธของพวกเรายินดีทุ่มเต็มที่