มุมสงบกับต้นไม้-ธรรมะของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 14 มีนาคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>มุมสงบกับต้นไม้-ธรรมะของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์

    อรุณวดี แสนวิเศษ อติ เกียรตินีรนาท ชลาธิป รุ่งบัว /ภาพ

    [​IMG]


    </TD><TD vAlign=top align=right>



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    ในโอกาสที่กองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) จะครบรอบสถาปนา 50 ปี ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. ปลีกเวลาจากสถานการณ์ยุ่งเหยิงต่างๆ เปิดบ้านพักที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย ถนนรามอินทรา ให้สัมภาษณ์กันแบบสบายๆ

    ทำให้เห็นอีกมุมหนึ่งในการใช้ชีวิต นอกเหนือจากงานราชการของนายทหารระดับผู้บัญชาการทหารสูงสุด

    พล.อ.บุญสร้าง กล่าวถึงภารกิจของ บก.สส. ว่า ภารกิจของ บก.สส. ยังคงเหมือนเดิม คือการป้องกันประเทศ อำนวยการยุทธ์ให้เหล่าทัพต่างๆ รวมถึงภารกิจในการพัฒนาประเทศ ผ่านงานของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และยังคงต้องดูแลสวัสดิการต่างๆ ให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา

    สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน เรื่องการปฏิรูปการปกครองมีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ดูแลอยู่ ทาง บก.สส. ก็สนองนโยบาย คมช. ที่มอบหมายซึ่งเป็นงานที่ บก.สส. ดำเนินการอยู่แล้ว เช่น การจัดสัมมนาเศรษฐกิจพอเพียง

    ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีความขัดแย้งกันภายใน คมช. พล.อ.บุญสร้างเผยว่า คนเราไม่ได้เหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้แต่ฝาแฝดยังไม่เหมือนกันเลย แต่เรื่องขัดแย้งไม่มี ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนกัน หรือไม่ก็รุ่นใกล้ๆกันอยู่แล้ว เรื่องความขัดแย้งจะเป็นข่าวลือเยอะ

    "คนไทยเราชอบดูคนขัดแย้งกัน คนเราสามัคคีกันดูไม่สนุก ชอบให้คนตีกัน อย่างไรก็ตาม อาจจะมีบ้าง แต่ก็น้อยเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ขยายไปมาก ผมดูๆ แล้วไม่เห็นมีอะไรขัดนัยน์ตา เป็นการทำงาน เพราะทุกคนมุ่งให้ประเทศชาติมั่นคง รายละเอียดอาจจะต่างกันไปบ้าง แต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ซึ่งกองทัพมีรูปแบบนั้นอยู่แล้ว"

    พล.อ.บุญสร้างยังพูดถึงนายกรัฐมนตรีในอนาคตว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ก็เหมือนทุกคนที่เห็นว่า คนที่ควรเป็นนายกฯ ต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม มีประสิทธิภาพในการทำงาน ดีอย่างเดียวทำงานไม่เป็นก็ใช้ไม่ได้ ทำงานเก่งอย่างเดียวแล้วไม่ดียิ่งอันตราย และต้องประสาน สามัคคี ทำให้เกิดเอกภาพในชาติบ้านเมือง บางคนอาจจะทั้งดี ทำงานเก่ง แต่ไปอยู่ที่ไหนวงแตกก็มี ทำให้ลูกน้องทะเลาะกันก็มี ดังนั้นชาติเราต้องประสาน สามัคคี สมานฉันท์ ทุกฝ่าย <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ถ้าคนไม่สามัคคีกัน ผมก็ชอบไปทำให้สามัคคีกันด้วยวิธีการที่เราพอจะทำได้ คนทะเลาะกันคงเป็นเรื่องที่ไม่ดี ซึ่งก็เป็นลักษณะของ บก.สส. ที่ต้องดูแลทั้งกองทัพบก เรือ อากาศ มีลูกน้องมาจากต่างหน่วยงาน ต่างภารกิจ เป็นเหล่าทัพที่คนละสีๆ ถ้าอยู่บก.สส.แล้วไม่สมานฉันท์ เหล่าทัพที่มีสีต่างๆ กันอาจต่อสู้กันก็ได้ ถ้ามาร่วมกันก็เท่ากับทวีกำลัง ถ้ามัวทะเลาะกันก็เท่ากับการทอนกำลัง แต่ชาติเราชอบตีกัน เช่นฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล มัวแต่เลื่อยขาเก้าอี้ กับป้องกันคนเลื่อยขาเก้าอี้ก็หมดแรงไปทำงานเพื่อประเทศแล้ว ผมจึงอยากให้คนไทยเข้าใจเรื่องความสามัคคีให้มากๆ"

    พล.อ.บุญสร้าง บอกด้วยว่า สังคมไทยต้องเร่งพัฒนาเยาวชนให้ซื่อสัตย์ เพราะคนไม่ซื่อสัตย์เป็นประชาธิปไตยไม่ได้

    "ผมคุยกับประเทศที่เขาพัฒนาประชาธิปไตยแล้วว่า เด็กนักเรียนถ้าไม่คุมสอบจะมีคนทุจริตกี่คน เขาก็บอกใน 100 คนมีไม่ถึง 5 คน ส่วนของไทยเกินครึ่ง แล้วอย่างนี้เป็นประชาธิปไตยปกติได้อย่างไร เพราะจะโหวตอะไรแต่ละที คนเลวมีอยู่เกินครึ่ง เรื่องนี้พัฒนาได้ด้วยความซื่อสัตย์ เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับสายเลือด แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม การเรียนรู้เป็นหลัก เรื่องนี้สำคัญ"



    ส่วนงานยามว่างของผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.บุญสร้างเล่าว่า "ผมชอบปลูกต้นไม้ ชอบสะสมไม้หายาก ก่อนหน้านี้ไปซื้อที่ดินไว้ที่หน้าโรงเรียนเตรียมทหาร อ.บ้านนา จ.นครนายก ราคาไร่ละแสนบาท เป็นที่มีโฉนด ซื้อพร้อมเพื่อนๆ พี่ๆ ชักชวนกันไปทั้งหมด 13 ครอบครัว ตัดแบ่งเท่าๆ กัน พอดีที่ของผมอยู่ตรงหัวมุม เลยซื้อขยายต่อออกไปรวมแล้วมีที่อยู่ราว 20 กว่าไร่"

    "ในที่ดินได้ขุดร่องน้ำทำเป็นเกาะเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่กว่า แล้วปลูกต้นไม้ต่างๆ ที่บนเกาะก็ปลูกต้นโพธิ์ที่มาจากอินเดีย เมืองพุทธคยา ซึ่งเกาะนั้นคิดว่าจะเอาไว้เป็นที่ปฏิบัติธรรมในอนาคต" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    นาข้าวที่นครนายก




    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ส่วนที่ดินที่เหลือ 7 ไร่ ก็เอาไปทำนา เพราะเป็นที่นาอยู่แล้ว การทำนาเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรหนักหนา ครั้งแรกว่าจะใช้ควายมาไถนา แต่หลายคนทักท้วงก็เลยมาใช้เครื่องจักร

    "พื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกผลไม้ สวนครัว และปลูกต้นไม้ป่า เพราะผมเป็นคนชอบต้นไม้ป่า เช่น ยางนา ตะเคียน ขานาง ไคร้หอม พยอม ต้นไม้ในตระกูลสมอ อย่าง สมอพิเภก สมอดีงู สมอไทย ต้นสาระ ต้นไม้หายากต้นแรกกว่าจะได้ต้องรอถึง 3 ปี คือต้นซ่านใหญ่ ตอนนี้ที่มีรวมแล้วมีต้นไม้แปลกๆ 300-400 ชนิด"

    "ถ้าเกษียณก็จะไปอยู่ที่นั่นมากหน่อยเพราะอากาศดี สงบ ใกล้สนามกอล์ฟ ส่วนการปฏิบัติธรรมก็แล้วแต่ใจ เพราะเกษียณแล้วคงมีเวลามากขึ้น แต่ปัจจุบันที่นั่นยังไม่มีอะไรทำนองนี้ ใหม่ๆ อาจจะเป็นที่จัดงาน แต่วันหนึ่งเมื่ออายุมากขึ้นสภาพมันพร้อมก็อาจจะเหมาะที่จะปฏิบัติธรรม แล้วแต่ธรรมชาติของมนุษย์ที่มันจะเป็นไป เราทำให้พร้อมให้เป็นสถานที่ดีเอาไว้ นอกจากที่อ.บ้านนา ผมยังปลูกป่า ต้นไม้หายากไว้ที่บ้านที่จ.สุพรรณฯ ด้วย ปลูกไม้ป่าเต็มพื้นที่เลยแทบไม่มีทางเดินแล้ว ผมชอบดูต้นไม้มันโต"

    พล.อ.บุญสร้างยังเผยด้วยว่า ชอบต้นไม้หายาก โดยเฉพาะต้นไม้ยืนต้นที่ฟอร์มสวยๆ ไม้เนื้อดี ไม้เนื้อแข็ง ล่าสุดไปฟิลิปปินส์มาก็ไปซื้อไม้ "นารา" ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง แต่ความจริงคล้ายประดู่บ้านเรา

    [​IMG]

    "ผมชอบปลูกป่า เดี๋ยวก็จะไปปลูกป่าที่ดอยแม่สลอง และป่าที่อุทยานน้ำหนาว ไม่อย่างนั้นก็หมดจากสถิติป่าไม้ของไทยถูกโค่นปีละ 3 ล้านไร่ ถือเป็นปีละหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด เมืองไทยต้องช่วยกันมากๆ เพราะการปลูกต้นไม้มีความสำคัญต่อทั้งเศรษฐกิจและจิตใจ ปลูกต้นไม้ให้มีป่ามากๆ

    "ลองคิดให้ลึกซึ้งดูว่าถ้าคนไทยทำเรื่องเหล่านี้ ก็จะไม่มีใครไปทำเรื่องชั่วๆ ขณะเดียวกันก็จะได้ป่าไม้ ถ้ารู้จักตัดขายก็จะสร้างรายได้มหาศาล เพราะไม้ในเมืองไทยในโลกนี้ไม่มีแล้ว ถึงเขามีป่าเขาก็ไม่มีไม้ดีๆ เหมือนเรา ไม่ว่าจะเป็น ไม้ชิงชัง สัก ตะเคียน ประดู่ ซึ่ง 1 ไร่ ถ้าตัดต้นใหญ่โดยต้นเล็กปล่อยให้โตต่อไป โดยป่าไม่ให้เสียก็จะขายได้ไร่ละล้านบาท แล้วเมื่อก่อนเราทำลาย ตัดไปขายถ่านบ้างอะไรบ้าง ปีหนึ่งๆ เราทำลายไป 3 ล้านไร่ ถ้ารู้จักทำอย่างมีระบบเมืองไทยไม่ต้องทำอะไร แค่ตัดไม้ขายก็ได้เงินถึง 3 ล้านล้านบาท"

    พล.อ.บุญสร้างยกตัวอย่างต่างประเทศว่า ประเทศเยอรมันเขามองระยะยาวในเรื่องป่าไม้ เขารักษาไว้ได้หมด มีกฎหมายที่ออกมา 200 ปีแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ยังใช้รักษาป่าได้ แต่กฎหมายไทยทันสมัยตลอดเวลา แต่ใช้ไม่ได้เลย เพราะปรับปรุงใหม่ตลอดเวลา ทันสมัยแต่ใช้ไม่ได้ รักษาไว้ไม่ได้



    พล.อ.บุญสร้างยังขยายความเรื่องการศึกษาธรรมะด้วยว่า ศึกษาอยู่ตลอด

    "ผมอ่านหนังสือ สวดมนต์ เป็นการศึกษา แม้แต่คิดและปฏิบัติงานนั้นก็ต้องมีคุณธรรมนำงาน ไม่งั้นจะไปหลงทำไม่ดี ทุกวันนี้ผมสวดมนต์วันละหลายครั้ง เช้า เย็น กลางคืน ก่อนนอน เช้าก่อนออกจากบ้าน ที่ทำงานไปถึงก็สวดอีก ก่อนเข้านอนก็สวด ผมไหว้พระสวดมนต์ สวดเร็วประมาณ 10-15 นาทีก็เสร็จ แล้วแต่จะสวดมนต์บทไหน

    "การสวดมนต์บ่อยๆ ดี เพราะคนเราถ้าจิตว่างไม่ไปทำความดี มันก็จะไปทำความไม่ดี จึงต้องดึงไว้ให้มากๆ เพราะเขาบอกว่าคนเรามีแนวโน้มจะลงต่ำ ถ้าไม่ดึงไว้มันก็จะลง เผลอไม่ได้ ปราชญ์ยังว่าคนเราจิตต้องพยายามดึงไว้ แต่ก็ยากหน่อย"

    ทุกวันนี้คนเราเป็นอรหันต์ได้ง่ายขึ้น แต่เดิมต้องคอยพบพระพุทธเจ้าให้ชี้แนะถึงได้เป็นอรหันต์ แต่ทุกวันนี้คนเราเข้าถึงธรรมะได้ง่ายขึ้นผ่านหนังสือ ผ่านเทป ผ่านทีวี และซีดี

    "ผมชอบอ่านหนังสือธรรมะ หนังสือปรัชญา มีหนังสือธรรมะสะสมไว้อยู่หลายหลวงปู่เหมือนกัน โดยรวมแล้วแต่ละเล่มเขียนก็เหมือนๆ กัน"
    [​IMG]



    -------------------
    Ref.
    http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03fea01140350&day=2007/03/14&sectionid=0327
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...