หนีพระ - พึ่งหมอดู คนไทยไร้ที่ยึด! หวังชี้ช่องรวย

หนีพระ - พึ่งหมอดู คนไทยไร้ที่ยึด! หวังชี้ช่องรวย


http://hilight.kapook.com/view/25067

​

อาชีพหมอดูผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด สอดรับปัญหาเศรษฐกิจและสังคมตกต่ำ ชี้ผู้คนหันหน้าเข้าหาหมอดูมากขึ้น หวังเป็นที่ระบายความทุกข์ ทั้งเรื่องปากท้องและรักๆ ใคร่ๆ

ระบุหมอดูต้องนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม เพื่อสอนธรรมแทนพระสงฆ์ที่กำลังเข้าสู่ยุคเสื่อมศรัทธา จากปัญหาสภาพเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่กำลังรุมเร้าคนไทยอย่างหนัก ในแง่มุมหนึ่งของสังคมไทยพบว่า มีผู้คนทุกชนชั้นต้องหันหน้าเข้าหาหมอดูเป็นที่พึ่งทางจิตใจทั้งเรื่องอาชีพการงาน ความรัก และโชคลาภ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์การค้าแฮปปี้แลนด์พลาซ่า ย่านบางกะปิ เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีอาชีพหมอดูหลากหลายแขนงตั้งโต๊ะรับทำนายดวงชะตาเป็นจำนวนมาก อาทิ หมอดูลายมือ โหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์พม่า และไพ่ยิปซี เป็นต้น

นางสาวนัยรัตน์ แผ่นเบญจสุวรรณ อาชีพหมอดู อายุ 39 ปี กล่าวว่า เริ่มศึกษาการทำนายดวงชะตาด้วยไพ่ยิปซีเมื่อปีที่แล้ว โดยมีเพื่อนชักชวนไปเรียนกับอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นเวลา 1 เดือน และหันมาทำเป็นอาชีพหลักได้เลย เพราะมีงานเข้าเยอะทั้งที่แฮปปี้แลนด์พลาซ่าและรับงานจากหน่วยงานรัฐและเอกชนว่าจ้างไป ทั้งนี้สาเหตุที่มีคนหันหน้าเข้าหาหมอดูกันมากขึ้น เพราะผู้คนในทุกวันนี้กำลังขาดที่พึ่งทางจิตใจ และมองว่าการเข้าหาหมอดูทำได้ง่ายกว่าเข้าหาพระสงฆ์

น.ส.นัยรัตน์กล่าวว่า มีการวิเคราะห์กันว่า ภายใน 1-2 ปีจากนี้ไป อาชีพหมอดูจะได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากสมัยก่อนพระสงฆ์เป็นที่พึ่งสำหรับคนทุกข์ใจ แต่โลกสมัยนี้เปลี่ยนไปแล้ว วงการสงฆ์ถึงจุดตกต่ำ ผู้คนเสื่อมศรัทธาพระที่ไม่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ผู้ที่สอนธรรมะเปลี่ยนจากพระเป็นหมอดู ทั้งนี้มีความเชื่อว่าองค์เทพต้องการลงมาสร้างบารมี โดยอาศัยร่างมนุษย์เป็นตัวแทนเผยแพร่ธรรมะแก่มนุษย์ แต่คนคนนั้นจะต้องนั่งสมาธิ สวดมนต์ และปฏิบัติธรรม อย่างไรก็ตาม หมอดูเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ควรยึดติดหรือหลงเชื่องมงาย เพราะอาชีพหมอดูก็คือ นักจิตวิทยาที่คอยให้คำตอบแก่คนที่ไม่มีทางออกในชีวิต

"ลูกค้าที่มาหามีทุกกลุ่มทุกอาชีพ ตำรวจทหารก็มี ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยทำงาน บางคนมาหาทุกวันเพราะไม่ปล่อยวางเรื่องความรัก บางคนมีปัญหาในครอบครัว เวลาที่เราดูดวงก็จะใช้หลักธรรมะสอดแทรกหลักจิตวิทยาเพื่อให้เขาสบายใจ" น.ส.นัยรัตน์กล่าว

นางสมศรี อุระ อาชีพหมอดูหลากหลายแขนง อายุ 48 ปี กล่าวว่า เริ่มศึกษาการทำนายดวงชะตามานานแล้ว แต่เพิ่งหันมายึดเป็นอาชีพได้ประมาณ 5 ปี เพราะไม่ประสบความสำเร็จในด้านการงาน ทั้งนี้การที่มีคนเข้าหาหมอดูมากขึ้นเพราะคนไทยมีนิสัยชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไม่ดี สังคมไทยตกต่ำผู้คนจึงต้องหาที่ระบายความเครียด บางคนคิดฆ่าตัวตาย แต่พอมาหาเราก็เกิดความสบายใจและล้มเลิกความคิดนั้น เป็นความรู้สึกตื้นตันใจที่เราได้รับ

"เหมือนมีลิขิตกำหนดชีวิตให้เราต้องเป็นหมอดูเพื่อช่วยเหลือคน ช่วงนี้หมอดูไพ่ยิปซีเกิดขึ้นมากกว่าศาสตร์อื่นๆ เพราะเรียนง่าย เป็นเร็ว และมีความแม่นยำ ส่วนลูกค้าที่เข้าหาก็มีทั้งนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ แพทย์ อาจารย์หลากหลายอาชีพ ส่วนใหญ่มาถามเรื่องความรัก เพราะอยากให้เราเป็นที่ปรึกษาทางใจ" นางสมศรีกล่าว

ด้าน น.ส.วิไล โภคาเจริญวัจนะ อายุ 46 ปี เป็นอีกผู้หนึ่งที่ตั้งโต๊ะดูไพ่ยิปซีภายในแฮปปี้แลนด์พลาซ่า บอกว่าเริ่มประกอบอาชีพนี้ได้ 1 ปีกว่า จนกระทั่งสามารถเปิดหลักสูตรสอนการดูไพ่ยิปซีให้กับคนทั่วไป คนที่จะเรียนทางนี้ควรมีสัมผัสพิเศษ สวดมนต์ และนั่งสมาธิ โดยคิดค่าสอนรวมค่าตำราและอุปกรณ์ไพ่ยิปซีในราคา 3,300 บาท สอนตัวต่อตัวเป็นเวลา 15 ชั่วโมง ทั้งนี้ ลูกค้าที่มาดูไพ่ยิปซีเฉลี่ยวันละ 10 รายขึ้นไป มีทุกระดับทั้งนักธุรกิจ วิศวะ สถาปนิก ส่วนใหญ่ดูเรื่องการงานและชีวิตส่วนตัว เพราะเขาเห็นว่ามีความสะดวกที่จะคุยได้ง่ายกว่าพระสงฆ์


ข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
​