หนึ่งปี ณ ศิริราช

พระราชกรณียกิจเพื่อผองไทย สู่ปีเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา

ตลอดปี 2553 ที่ผ่านมา ที่ศาลา 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ไม่เคยว่างเว้นจากการเยี่ยมเยือน เนื่องด้วยมีประชาชนจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศ เดินทางมาลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ทุกวัน ไม่ขาดสาย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ข้าราชการ พระภิกษุ สามเณร นักเรียน นิสิต นักศึกษา พ่อค้าประชาชน ตลอดจนชาวต่างชาติ ทั้งที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย และนักท่องเที่ยวทั่วไป

นอกจากการลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประทับอยู่ ณ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช แล้ว คณะบุคคลต่าง ๆ ยังนำพานพุ่ม พานดอกไม้มาทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วนประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดก็จะนำของดีประจำถิ่น อาทิ พืชผักผลไม้ ขนมนมเนย ใส่ชะลอม ใส่ตะกร้ามาทูลเกล้าฯ ถวายเช่นกัน บางคณะก็นำพระพุทธรูป เครื่องยนต์กลไก สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ มาทูลเกล้าฯ ถวาย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

...แม้แต่หนูน้อยบางคน ที่คุณพ่อคุณแม่พานั่งรถโดยสารประจำทางมาลงนามถวายพระพร ยังนำหนังสือนิทานที่คุณพ่อคุณแม่อ่านให้ฟังก่อนนอนทุกคืนติดตัวมาด้วย หนูน้อยบอกว่า “จะมาอ่านนิทานให้ในหลวงฟัง จะได้นอนหลับฝันดี”
...เป็นถ้อยคำจากความรู้สึกจงรักภักดีของเด็ก ๆ

และในทุกครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ลงจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ มาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ พสกนิกรที่เฝ้าฯ รับเสด็จอยู่ริมทางเดินตลอด 2 ฟากฝั่งต่างเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างนั้นจนพระองค์เสด็จฯ ผ่านไป เพราะทุกคนตระหนักดีว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 65 ปี ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ ทรงตรากตรำพระวรกายหนักเพียงใดเพื่อพสกนิกรของพระองค์ ...โครงการในพระราชดำริมากมายที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ทุรกันดาร ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก อีกทั้งพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าทรงรักและเป็นห่วง “ลูก” ของพระองค์มากเพียงใด
แม้ตลอดปี 2553 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อฟื้นฟูพระวรกายหลังหายจากพระอาการประชวร แต่พระองค์ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมายทั้งส่วนพระองค์ และเพื่อพสกนิกร อาทิ วันที่ 14 ก.พ.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรการแสดงเชิดสิงโตเฉลิมพระเกียรติฯ โดยคณะสิงโตลูกหลวงปู่ทับ เขตบางกอกน้อย และคณะสิงโต กว๋องสิว จ.นครสวรรค์ เนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีน ซึ่งพระองค์ทอดพระเนตรจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทรงฉายการแสดงดังกล่าวด้วย

วันที่ 5 พ.ค.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อประกอบพระราชพิธีเนื่องในวันฉัตรมงคล

วันที่ 29 ก.ย.เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปยังอาคารหอประชุมราชแพทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ทอดพระเนตรการแสดงของวงดุริยางค์ฟิลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย ในงาน “ศิริราชคอนเสิร์ตเทิดไท้องค์อัครศิลปิน”

วันที่ 23 ต.ค.เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยในพระหัตถ์ในหลวงทรงถือสายจูงคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ไปยังตึกสยามมินทร์ฯ เชิญพวงมาลาขึ้นประดิษฐาน ณ ฐานพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายราชสักการะเนื่องในวันปิยมหาราช

วันที่ 6 พ.ย.เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยในพระหัตถ์ในหลวงทรงถือสายจูงคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ไปยังท่าน้ำศิริราช ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีของวง “มิวสิค ครู้ส” ในงานกาล่าดินเนอร์โครงการเพลงพระราชนิพนธ์ฯ เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา

วันที่ 21 พ.ย.เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปยังท่าน้ำศิริราช เพื่อทรงลอยพระประทีปเนื่องในวันลอยกระทง

วันที่ 24 พ.ย.เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปยังท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ฯ ประทับเรือพระที่นั่งอังสนาที่กองทัพเรือจัดถวาย เสด็จฯ ทางชลมารคไปทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ และทรงเปิดสะพานภูมิพล 1 ภูมิพล 2 ที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในละแวกดังกล่าวให้พ้นจากอุทกภัย

วันที่ 5 ธ.ค.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และข้าราชการ เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2553
วันที่ 12 ธ.ค.เสด็จฯ ไปยังอาคารหอประชุมราชแพทยาลัย รพ.ศิริราช ทอดพระเนตรคอนเสิร์ตการกุศล “ดุ๊ก เอลลิงตัน แชร์ริตี้ คอนเสิร์ต” เพื่อหารายได้สมทบทุนจัดหาอุปกรณ์การแพทย์สยามินทราธิราช

พระราชกรณียกิจพระราชทานเงินและสิ่งของ

วันที่ 19 เม.ย.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บ และค่าใช้จ่ายในการทำศพแก่ผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.

วันที่ 22 ส.ค.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างฝายเก็บน้ำ บนเทือกเขาตันหยง เขตพระราชฐานพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ หมู่ 2 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อให้สัตว์ป่ามีน้ำช่วงหน้าแล้ง ไม่มารบกวนที่ทำกินของราษฎร

วันที่ 19 ต.ค.พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 10 ล้านบาท ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำไปจัดซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการยังชีพ มอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่

วันที่ 1 พ.ย.พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพิ่มอีก 10 ล้านบาท ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำไปจัดซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการยังชีพ มอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่

วันที่ 3 พ.ย.พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 3 ล้านบาท ให้กองทัพเรือ นำไปจัดซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการยังชีพ มอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

วันที่ 14 พ.ย.โปรดเกล้าฯ ให้นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นครราชสีมา อันเชิญแจกันดอกไม้พระราชทาน เข้าเยี่ยมอาการอาพาธ พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

วันที่ 18 พ.ย.พระราชทานเงินจัดซื้อสิ่งของช่วยราษฎรประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.ชุมพร

วันที่ 26 พ.ย.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เดินทางไปมอบเครื่องกันหนาวพระราชทานแก่ราษฎรชาวไทยภูเขาในโครงการตามพระราชดำริ ที่สถานีพัฒนาเกษตรกรที่สูง บ้านสันติสุข-บ้านขุนกำลัง ต.ขุนควร อ.ปง และราษฎรชาวไทยภูเขาที่โครงการบ้านในป่าใหญ่ บ้านหนองห้า ต.ร่วมเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา

วันที่ 7-19 ธ.ค.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำเครื่องนุ่งห่มกันหนาวพระราชทาน ไปมอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ รวมทั้งราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 14 จังหวัด รวมทั้งมอบอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์

นอกจากนี้ยังพระราชทานพระราชวโรกาสให้บุคคล และคณะบุคคล เข้าเฝ้าฯ อีกมากมาย

พระราชกรณียกิจข้างต้นนี้ เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติเพื่อพสกนิกรของพระองค์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ และในปี 2554 นี้ เป็นปีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา รัฐบาลได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติครั้งยิ่งใหญ่ตลอดทั้งปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2554 โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อพระราชพิธี ว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554” และพระราชทานชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ว่า “งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554”.

Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > หนึ่งปี ณ ศิริราช<!-- google_ad_section_end -->