ที่บ้านสะสมรูปพระโพธิสัตว์ และเทพ ไว้เยอะ อยากได้รูปปั้นพระมารีจิโพธิสัตว์เพื่อจะอัญเชิญไว้ในงานกินเจเยาวราชปีนี้ ใครมีให้ยืมหรือให้เช่าบ้าง พระมารีจิ นี้ถ้าเปรียกับทางฮินดู คือพระแม่อุมาใช่หรือเปล่า
มีด้วยเหรอครับ ไม่เคยได้ยินเเฮะ ชื่อเหมือนพระแม่มารี ของคริสต์เลยนะครับ เป็นโพธิสัตว์ดิ้วยเหรอครับ น่าสนใจถ้ามีรูปช่วยเอามาโพสหน่อยนะครับ ผมก็อยากเห้นเหมือนกันว่าจะแนวไหน หึหึ
อันนี้ถามดูนะครับ ใช่พระมารดาแห่งดวงดาวหรือเปล่า ที่ท่านมี 3 ตา แล้วทรงหมูเป็นพาหนะครับ ถ้าไม่ใช่ต้องขอโทษด้วยครับ
ทำไมคุณไม่เอารูปท่านแล้วไปลองถามดูแถวเยาวราชดูล่ะครับ หรือถามตามศาลเจ้าก็ได้ครับ หรือไม่งั้นก็เอารูปภาพไปจ้างช่างปั้นให้ก็ได้ครับ
พระโพธิสัตว์มารีจิ เป็นพระโพธิสัตว์แห่งแสงอรุณ เป็นเทพธรรมบาลพระองค์หนึ่ง ซึ่งถวายชีวิตเพื่อปกป้องพระธรรม พระองค์เป็นสัญลักษณ์แห่งรุ่งเช้า กลับเรื่องร้ายมาเป็นเรื่องดี ถือเป็นพระโพธิสัตว์แห่งกำลังใจครับ... ญี่ปุ่นเรียก มารีชิ-เท็น ครับ ^^ โอม มา รี จี มัม สวาหา
มารีจิเทพธิดาธารณี ต้นฉบับภาษาจีนของอโมฆะ แห่งราชวงศ์จิ้น ชาคริต อิสสรานนท์ แปลไทย ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้ สมัยหนึ่ง สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประทับแสดงธรรม ณ เชตวันมหาวิหารของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ในเมืองสาวัตถี ก็โดยสมัยนั้นแล พระบรมศาสดาทรงตรัสแก่สงฆ์บริษัทว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ยังมีมหาเทวนารีผู้หนึ่งมีพระนามว่า เทพธิดามารีจิ ทรงไว้ซึ่งมหิทธานุภาพอันเป็นอิสระยิ่งใหญ่ ท้าวเธอดำเนินเป็นปุเรจาริกอยู่เบื้องหน้าพระสุริยะเทพ และพระจันทรเทพเป็นนิจกาล พระสุริยะเทพและพระจันทรเทพ มิสามารถทัศนาเห็นท้าวเธอ แต่ท้าวเธอสามารถทอดทัศนาเห็น พระสุริยะเทพ และพระจันทรเทพ ไม่มีผู้ใดสามารถประสพพบเห็นท้าวเธอ ไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้เข้าใจ(วาระจิต) ไม่มีผู้ใดสามารถจับต้อง ไม่มีผู้ใดสามารถมัดพันธนาการ ไม่มีผู้ใดสามารถกระทำโพยภัยอันตราย ไม่มีผู้ใดสามารถข่มเหงคะเนงร้าย ไม่มีผู้ใดสามารถก่อให้เกิดหนี้สินในโภคทรัพย์ ไม่มีผู้ใดสามารถตำหนิติเตียน อนึ่ง ไม่กระทำให้ผู้มีความอาฆาตพยาบาท สามารถบรรลุแก่อุบายได้ พระบรมศาสดาทรงตรัสต่อไปว่าดุก่อน ภิกษุทั้งหลาย หากมีบุคคลใดกระทำมนสิกเรจนถ่องแท้ในพระนามของมารีจิเทวี ผู้นี้ และหมั่นน้อมรำลึกนึกถึงเป็นนิตย์แล้ว บุคคลผู้นั้น ก็สามารถจักประสพพบเห็น มิสามารถเข้าใจล่วงรู้ มิสามารถจับต้อง มิสามารถจองจำพันธนาการ มิสามารถกระทำอันตราย มิสามารถกระทำย่ำยี และไม่สามารถทำให้บุคคลเป็นหนี้สินในโภคทรัพย์ ไม่สามารถกระทำให้บุคคลได้รับคำตำหนิติโทษ ไม่สามารถกระทำให้ผู้มีความอาฆาตพยาบาทสามารถบรรลุในอุบายได้ อนึ่งหากมีกุลบุตรและกุลธิดาใด สำเหนียกรู้ซึ๊งในพระนามของเทพธิดามารีจิพึงกระทำมนสิกเรดังนี้ ข้าพเจ้ารู้ซึ้งโดยถ่องแท้ว่า มารีจิเท วมาตาทรงไว้ซึ่งกฤษฎาภินิหารอันยิ่งใหญ่ บัดนี้ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมรับไว้เป็นสรณะที่พึ่ง ขอท้าวเธอพิทักษ์รักษาข้าพเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถพบเห็นข้าพเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้ในข้าพเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถสัมผัสจับต้องข้าพเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถจองจำพันธนาการข้าพเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถให้ร้ายหมายขวัญข้าพเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถกระทำย่ำยีข้าพเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถก่อให้เกิดหนี้สินในโภคสมบัติแก่ข้าพเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถตำหนิติโทษข้าพเจ้า ไม่สามารถทำให้ศัตรูคู่พยาบาทสามารถบรรลุในอุบายแก่ข้าพเจ้า ก็โดยสมัยนั้นแล พระบรมศาสดาทรงตรัสสาธยายธารณีดังนี้ ก็โดยสมัยนั้นแล เมื่อสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสาธยายธารณีดังกล่าว จบเป็นปริโยศานแล้ว ได้ทรงตรัสในท่ามกลางสงฆ์บริษัทว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หากมีบุคคลใดได้บำเพ็ญภาวนาในธรรมสูตรดังกล่าวพึงน้อมจิตกระทำปณิธานดังนี้ ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางราชภัย ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางโจรภัย ขอจงอารักษ์คุ้มครขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางสัญจรภัย ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางภัยจากการพลัดหลงในพงภัยรกชัฏ ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางอุทกภัยและอัคคีภัย ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางศัสตรภัย ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางปีศาจภัย ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางแห่งยาเบื่อยาพิษ ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางภัยแห่งสัตว์ร้ายขบกัด ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางภัยแห่งแมลงพิษกัดต่อย ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางอาพาธภัยและ ทุพพภิกขภัย ขอจงอารักษ์คุ้มครองข้าพเจ้า ในท่ามกลางศัตตรูและพาลภัย ขอจงส่งเสริมคุ้มครองข้าพเจ้า ตั้งมั่นในพุทธะธารณี ขอจงส่งเสริมคุ้มครองข้าพเจ้า ตั้งมั่นในธรรมธารณี ขอจงส่งเสริมคุ้มครองข้าพเจ้า ตั้งมั่นในสังฆธารณี ขอจงส่งเสริมคุ้มครองข้าพเจ้า ตั้งมั่นในเทวธารณี ขอจงส่งเสริมคุ้มครองข้าพเจ้า ตั้งมั่นในดาบสธรณี ตลอดจนส่งเสริมคุ้มครองข้าพเจ้าในทุกๆถิ่นสถาน ทุกๆกาลเวลา และอภิบาลรักษาข้าพเจ้า............เป็นนิจนิรันดร์อนันตกาล สวาหะ สมเด็จพระโลกนาถเจ้าทรงตรัสต่อไปว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายตถาคตแสดงธรรมบรรยายอันเนื่องด้วยเทวธรรมแห่งเทพธิดา มรีจิโดยสังเขป เพื่อสงเคราะห์แก่นิกรสัตว์ในกลียุคเบื้องหน้า ซึ่งตกอยู่ในท่ามกลางทุกขภัยอันน่าประหวั่นพรั่นพรึง อันเทวโพธิสัตว์ผู้ นี้ ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาปณิธานอันยิ่งใหญ่ ท้าวเธอมักจักดำเนินไปในทุกขยสถานที่ประสพภัยภิบัติเป็นเนืองนิตย์ เพื่อพิทักษ์รักษาบรรดาเหล่านิกรสัตว์ ให้พ้นจากภยันตรายอันเกิดจากทวยเทพ นาค ยักษ์ กินนร ตลอดจนศัตตรูคู่พยาบาท และบรรดาเหล่าสัตว์ร้ายทั้งปวง พวกเธอทั้งหลายพึงสมาทานรักษา และประกาศเผยแพร่ เพื่อยังประโยชน์สุขแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ก็ในสมัยนั้นแล บรรดาพระภิกษุสงฆบริษัท ตลอดจนเหล่าทวยเทพ นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร และมโหรคทั้งหลาย เมื่อได้สดับพุทธพจน์แล้ว ต่างก็เกิดปิติจิต ศรัทธาน้อมรับ นำไปบำเพ็ญปฏิบัติโดยพร้อมเพรียงกัน ก็ด้วยประการฉะนี้แล ที่มา http://www.google.co.th/url?sa=t&so...uqmRDg&usg=AFQjCNG9hRJONMuEGezBJRnjm2v2IXgD0Q
ท่านมีหลายพระหัตถ์ มี2พระหัตถ์ถือดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ท่านทรงหมูป่า 7 ตัว มี 3 เศียร ตรงกลางเป็นหน้าหญิง อีกข้างเป็นยักษ์ และ อีกข้างเป็นหมูป่า ทรงนั่งบนราชรถที่มีหมูป่า 7 ตัวเป็นสัตว์เทียมพาหนะ องค์ท่านเป็น1ใน 24 จูเทียน หรือ 24เทพธรรมบาล ซึ่งเป็นเทพที่คุ้มครองดูแลพระพุทธศาลนาเป็นเทพชั้นสูงที่คนจีนจะสักการะบูชาในพิธี ก้งจูเทียนคับ