เมื่อ ”ความผิดหวัง“ เป็นคุณต่อชีวิตเราอย่างน่าอัศจรรย์

เมื่อ ”ความผิดหวัง“ เป็นคุณต่อชีวิตเราอย่างน่าอัศจรรย์

ชีวิตมนุษย์มีของคู่กันเสมอเหมือนมีหญิงคู่ชาย มีดินคู่น้ำ มีพระอาทิตย์คู่พระจันทร์ มีกลางวันคู่กลางคืน มีสุขคู่ทุกข์ มีนินทาคู่สรรเสริญ มีสมหวังคู่ผิดหวัง

สิ่งเหล่านี้เป็นพลังของชีวิตไม่ใช่อุปสรรคปัญหา เหมือนขั้วบวกกับขั้วลบของไฟฟ้าเหมือนหยินกับหยาง ชีวิตใครบ้างที่พบแต่ความสมหวังอย่างเดียว ไม่เคยผิดหวังเลย ฉะนั้น ”เมื่อถึงคราวผิดหวังขอให้นึกถึงคราวสมหวัง“

และเมื่อคราวสมหวังขอให้นึกถึงว่าอาจผิดหวังได้และในคราวได้ก็ให้รีบนึกถึงการสูญเสียบ้างจะทำให้จิตใจของเรามีสติ ไม่ประมาท ไม่ดีใจเกินไป ไม่เสียใจเกินไป

การมีคู่ของสิ่งต่างๆ จึงไม่ต่างอะไรกับชีวิตของเรา คราวประสบเคราะห์ร้าย ล้มเหลวในชีวิต ก็อย่าเพิ่งโทษตัวเอง อย่าคิดทำร้ายตัวเอง ให้พยายามคิดในทางที่เป็นคุณ ตั้งสติให้ได้ อย่าคิดว่าเราต้องได้อย่างเดียว อย่าคิดว่าทำไมเราจึงเป็นคนโชคร้ายเช่นนี้ คนอื่นไม่เห็นมีใครโชคร้ายเหมือนเราเลย การคิดในเชิงลบด้านเดียวจะทำให้จิตใจของเราตกต่ำ ดำดิ่ง ลงไปสู่หายนะได้เร็ว บางคนตั้งสติไม่ทันถึงขนาดทำร้ายชีวิตตัวเองหรือคนอื่นได้ง่าย

เยาวชนที่รักเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนหนุ่มสาว ข้าพเจ้าอยากให้สติคนรุ่นใหม่ที่มักใจเร็วด่วนได้ว่าความผิดหวังในชีวิตของท่านยังน้อยกว่าความผิดหวังในชีวิตของพ่อแม่ท่านหลายร้อยเท่าเพราะพ่อแม่เริ่มต้นสร้างชีวิตเรา สร้างบ้าน สร้างหน้าที่การงาน หาข้าวปลาอาหารมาป้อนเข้าปากเราจนเติบโตถึงวันนี้ ท่านพบทั้งความสมหวังและผิดหวัง หากเราทำอะไรพลาดพลั้งไป คิดดูสิว่าใครจะผิดหวังมากที่สุด ทุกข์ชนิดเดียวยังอดทนไม่ได้จะไปคิดมีคู่ครองได้อย่างไร ผิดหวังนิดเดียวก็คิดทำลายจะไปคิดครอบครองหัวใจใครได้อย่างไร

ความรักเป็นสิ่งที่ดีความใจเร็วด่วนได้ต่างหากที่ทำลายความรัก ”การไม่อดทนอดกลั้นต่อกันต่างหาก“ คือ ”กรรไกรตัดความรักให้ขาดสะบั้น“ ลองคิดทบทวนดูใหม่เถิดว่าชีวิตที่ผ่านมาวันเวลาที่ผ่านไป เราได้ทำอะไรที่เป็นการฝึกใจของเราบ้าง เราได้ทำอะไรที่ขัดเกลาใจของเราบ้าง นอกจากการเอาแต่ใจตัว เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก หากคิดได้ก็ขอให้ปรับปรุงแก้ไข

”แล้วความผิดหวังจะเป็นคุณต่อชีวิตเราอย่างน่าอัศจรรย์“

- พระราชญาณกวี(ท่านปิยโสภณ) -