เรื่องของโคเลตต์...เยียวยาอดีต

กับเรื่องผู้ชายแล้ว ความรักของฉันมักจบลงแบบหมดรักแทบทันทีตั้งแต่ต้น ฉันสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนแปลกหน้าตอนฉลองวันเกิดปีที่18 ซึ่งเมาเละเทะ ในปีต่อมาฉันเมาแอ๋อยู่ที่บาร์เหมือนเดิม ครั้งนี้ยอมให้กลุ่มผู้ชายที่รู้จักกันแค่ผิวเผินไปส่งบ้าน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกของฉันไปอีกหลายปี คืนนั้นฉันถูกรุมสกรัมขมขื่นอย่างเลวทรามไร้ศีลธรรม ผลที่ตามมาเลวร้ายยิ่งกว่า นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผู้ชายที่ฉันดึงดูดเข้ามาในชีวิตล้วนแต่เป็นภาะสะท้อนอย่างยอดเยี่ยมถึงความโกรธเกลียดที่ฉันมีต่อพวกที่รุมข่มขืนฉันและความชิงชังที่ฉันมีต่อตนเอง ครั้งแล้ว ครั้งเล่าที่ฉันต้องจมปลักอยู่กับความสัมพันธ์กับพวกผู้ชายอารมณ์ร้าย ฉุนเฉียว ชอบเดือดดาล เกลียดผู้หญิง ที่ถ้าไม่มาพร้อมกับอาการติดเซ็กส ติดยา ติดเหล้า ก็ติดพนัน ไม่มีผู้ชายคนไหนปฏิบัติต่อฉันด้วยความเคารพ เพราะฉันไม่เคารพตัวเอง ไม่มีใครเปิดใจให้ฉันเพราะฉันไม่เปิดใจให้ตัวเอง ไม่มีใครน่าศรัทธาเพราะฉันทรยศตัวเองเสมอ ทุกคนล้วนไม่ซื่อสัตย์ และไม่ยอมรับ ไม่ต่างจากที่ฉันเป็น



..มีต่อ เครดิต เดอะโซลเมท ซีเคร็ต โดย Arielle Ford

 

พออายุ27 ฉันเข้าบำบัดอาการติดเหล้า ฉันเริ่มเชื่อในพระเจ้า เริ่มศึกษาอภิปรัชญาและอ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่ตอนนี้รู้จักกันดีว่าเป็นกฏแห่งการดึงดูด ทั้งวอลเลซ วัตเทิลส์, แคทเธอรีน พอนเดอร์, เออร์เนสต์ โฮล์มส, อลิซ เบลลีย์, นอร์แมน วินเซนต์ พีล, เจมส์ อัลเลน และซัคติกาเวน พวกเขากลายเป็นเพื่อนรัดบนโต๊ะข้างเตียงของฉันไปแล้ว ฉันเริ่มใช้หลักการนึกภาพในใจในเชิงสร้างสรรค์ กล่าวยืนยัน และทำกระดานที่ตัดภาพมาติดอย่างมีศิลปะ เพื่อช่วยให้ฉันเห็นภาพและเสกคู่รักน่ารักมาให้ฉันสักคน ฉันทำกระดานความฝัน ตัดรูปภาพและภาพถ่ายจากนิตยสาร เลือกภาพผู้ชายผมสีเข้มมาดเท่ แถมยังถึงขั้นตัดรูปชุดแต่งงานเลยด้วย ฉันครุ่นคิดถึงลักษณะภายนอกของผู้ชายคนนี้ทุกวัน รวมถึงชุดแต่งงานและการเข้าพิธีแต่งงาน ทว่าลึกๆ แล้วในใจฉันยังไม่ให้อภัยตัวเอง หรือยังไม่ให้อภัยพวกคนชั่วที่ข่มขืนฉัน จึงไม่แปลกใจเลยที่คู่รักที่ฉันดึงดูดเข้ามาในชีวิตจะสะท้อนให้เห็นการขาดความรักและไม่เคารพตัวเองอย่างที่ฉันรู้สึกกับตัวเอง

 

ฉันเจอสามีคนแรกตอนไปนัดบอด เขาช่างเหมือนกับผู้ชายผมสีเข้มมาดเท่ที่ฉันตัดแปะบนกระดานไม่มีผิด หลังจากคบกันสักพักเขาก็ขอฉันแต่งงาน มันเป็นความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบมากสำหรับฉันในตอนนั้น ทั้งในแง่ของพลังงานและในแง่ของอารมณ์ แต่แล้วเราก็ไม่เคารพในภาษาของกันและกัน และไม่พร้อมสำหรับกันและกัน พอทุกอย่างจบลง เราทั้งคู่ต่างผิดหวัง แต่ก็ตาสว่าง และอย่างที่ปรากฏคือ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่เกิดขึ้นกับชีวิตฉัน ในที่สุดฉันเริ่มเข้าใจ

 

ทางด้านอารมณ์ต้องถือว่าฉันรู้สึกตกต่ำย่ำแย่สุดขีด สุดท้ายต้องยอมจำนนให้กับความจริงที่ว่า ฉันยังคงคับแค้นอัดอั้นฝังใจจากการถูกข่มขืนครั้งนั้น ยังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อและอยากแก้แค้น ฉันไม่เคยไว้ใจใคร และไม่พร้อมที่จะเปิดใจให้ใคร (ที่ไม่เพียงแต่กับผู้ชาย แต่กับตัวฉันเองด้วย) นั่นคือจุดเริ่มต้นการรักษาของฉันอย่างแท้จริง ฉันสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะไม่ยุ่งกับใครนานหนึ่งปี และจะทบทวนความคิดความรู้สึกของตัวเอง เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดในอดีตที่ยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน ฉันหัดที่จะให้อภัย ปลดปล่อยความเคียดแค้น และมองบทบาทของตัวเองในละครชีวิตบทนี้ ฉันรู้สึกกลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง ความอ่อนน้อมเข้ามาแทนที่ความโกรธและความกลัวที่ฉันเก็บซ่อนไว้ในใจอยู่นาน ฉันเริ่มเป็นความรักอย่างที่ฉันเสาะหา ในที่สุดฉันก็ให้อภัยตัวเอง ตอนอายุ44 ฉันพร้อมจะให้พระเจ้านำทางฉันไปหาความรัก ฉันสวดอ้อนวอนพระองค์ทุกวัน ให้ช่วยตัดสินว่าคู่ชีวิตของฉันจะเป็นเช่นไร (ถ้าฉันจะมีคู่กับเขาสักคน) แล้วเช้าวันหนึ่ง ฉันตื่นขึ้นพร้อมกับความรู้สึกว่ามีหวัง

 

ในช่วงนี้ ฉันให้คำแนะนำลูกค้าจำนวนมากถึงวิธีการเสกคู่ชีวิต โดยใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อ ฉันว่ามันจริงที่คุณต้องสอนสิ่งที่คุณอยากเรียนมากที่สุด ลูกค้าส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ฉันเลยคิดจะลองดูบ้าง ฉันเข้าเว็บไซต์หาคู่ในวันรุ่งขึ้น มีหน้าต่างโผล่ขึ้นมาทันที เป็นภาพผู้ชายหล่อมาก ไม่ต้องอ่านโฆษณาฉันก็เชื่อแล้วแค่จ้องมองลึกเข้าไปในตาเขา สัญชาตญาณเรดาร์ของฉัน ปิ๊ง ทันที! ฉันติดต่อเขา เขาโทรกลับ ทันทีที่ได้ยินเสียงเขา ฉันรู้เลยว่าเขาคือคนที่ใช่ มันไม่มีความตื่นเต้น มีแต่ความสงบ อบอุ่น เป็นมิตร ที่แตกต่างจากอารมณ์ปรารถนาในห้วงรักอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ครั้งก่อนๆ ไม่ต้องใช้เวลานานเราก็คิดตรงกันว่าเราเกิดมาคู่กัน และตั้งแต่พบกัน เราไม่เคยห่างกันอีกเลย

 

เพราะแผลในใจของฉันได้รับการรักษา และทั้งหมดกลับมาเติมเต็มเหมือนเดิมแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเนื้อคู่จึงสร้างอยู่บนรากฐานที่มั่นคง ฉันให้สัญญาข้อหนึ่งที่สำคัญมากตั้งแต่เริ่มคบกันว่าฉันจะไม่ใช้คำพูดหยาบคาย หรือแสดงกิริยาไม่เคารพต่อเขาเป็นอันขาด เราทั้งคู่เล่าเรื่องราวความรักในอดีตที่เจ็บปวดให้กันและกันฟัง และรู้ดีว่าไม่มีใครอยากทำผิดซ้ำอีก ประสบการณ์สอนพวกเราว่า ถ้าคุณทำแต่เรื่องเดิมๆ คุณย่อมได้ผลลัพธ์แบบเดิมๆ

 

แน่นอน เราตัดสินใจจะให้เกียรติคำสัญญาของเราด้วยการสาบานต่อหน้าพระเจ้าและแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตอนแต่งงาน เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีวันหย่า หากมีเรื่องขัดใจกัน เราจะแก้ปัญหาให้จบก่อนเข้านอน เราจะให้เกียรติกัน และสนับสนุนการเติบโตทั้งกายและใจของอีกฝ่าย จะไม่มีการชักใย ไม่มีการแก่งแย่งชิงดี เราจะอยู่ใกล้ชิดกัน แต่จะไม่ใกล้จนเงาของแต่ละคนทาบทับกัน เราเป็นทีม เป็นเพื่อนรัก เราจะคุยกันด้วยความรักที่มีให้แก่กัน หัวเราะกับเรื่องขำขันด้วยกัน เรารู้ว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ แต่จะสมบูรณ์แบบสำหรับกันและกัน ฉันคงไม่มีวันดึงดูดความรักมั่นคงมากขนาดนี้ได้แน่ หากยังไม่ให้อภัยตัวเอง และไม่ให้อภัยทุกคนที่เคยทรยศฉัน



....