ปรมิตร
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
18 ธันวาคม 2016
วันที่สมัครสมาชิก:
17 กุมภาพันธ์ 2007
โพสต์:
404
พลัง:
528
อัลบั้ม:
2
Photos:
19

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 526 16
อนุโมทนา 2 0
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0
วันเกิด:
5 ธันวาคม 1983 (Age: 41)
ที่ตั้ง:
ขอนแก่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย
อาชีพ:
บำบัดโรค

แชร์หน้านี้

ปรมิตร

เป็นที่รู้จักกันดี, 41, จาก ขอนแก่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย

ปรมิตร เห็นครั้งสุดท้าย:
18 ธันวาคม 2016
    1. Sriaraya5
      Sriaraya5
      สัญญาจำได้หมายรู้ตาม ๆ กันมา แล้วก็มาสื่อแสดง

      เห็นเพียงด้านเดียว จึงยังไม่สมบูรณ์ ความรู้ที่ไม่ก่อประโยชน์

      เมื่อสิ้นยุคก็มีวันที่จะเลิกใช้ แล้วสิ่งใหม่จะเข้ามาแทนที่ กับ ความจริงที่ถูกเก็บ

      กับผู้ไม่รู้ขึ้นแสดงธรรม

      เหมือนมีการนำปลดออก เกษีณจากการบรรจุตำแหน่งผู้นำจิตวิญาณ
    2. Sriaraya5
      Sriaraya5
      ไม่ได้กล่าวว่า ฆารวาส เป็นอรหันต์ไม่ได้

      หลักอิทธิบาท 4 แม้ประสงค์จะมีชีวิตตลอดหนึ่งกัปก็สามารถทำได้เมื่อเจริญอิทธิบาท 4 ให้ถึงพร้อม
    3. Sriaraya5
      Sriaraya5
      นั่นก็เท่ากับว่าท่านกำลังอยู่กับสิ่งที่ไปไม่รอด
    4. Sriaraya5
      Sriaraya5
      คำสั่งสอนของหลวงปู่พระครูเทพโลกอุดร

      "พระอรหันต์ไม่มีหญิงหรือชาย ธรรมมิได้แยกหญิงหรือชาย

      ดุจน้ำก็ย่อมเป็นน้ำ ไม่มีตัวผู้ ตัวเมีย พระเข้านิพพานได้ ฆราวาส

      ก็เข้านิพพานได้" และกระผมก็ไม่ขัดกับหลวงปู่เทพโลกอุดรขอรับ
    5. Sriaraya5
      Sriaraya5
      ความจริงแล้วไซร์
      สภาวะพระอรหันต์บริสุทธิ์มาก มิอาจอยู่ในขันธ์ในเพศฆารวาส หาเป็นความจริงไม่
    6. ปรมิตร
      ปรมิตร
      หากเป็นเช่นนั้น ท่านจงเร่ง บรรพชาอุปสมบท เถิด
      ธรรมะที่สูงกว่า โสดาบัน มิเหมาะสมกับฆารวาส
    7. ปรมิตร
      ปรมิตร
      หาก เข้าถึงอมตธาตุ คือพระนิพพานแล้ว(นิพพานกิเลส) คารวาสมิอาจดำรงขันธ์อยูได้ถึง เจ็ดวัน จะนิพพานขันธ์ เพราะเหตุที่ว่า สภาวะพระอรหันต์บริสุทธิ์มาก มิอาจอยู่ในขันธ์ในเพศฆารวาส
    8. Sriaraya5
      Sriaraya5
      ตถาคตทุกองค์อุบัติในโลกที่เต็มไปด้วยกิเลส

      ตถาคตทุกองค์ก็ถึงซึ่ง กิเลสนิพพานในโลกฉันนั้น

      บุตรแห่งแสงสว่างปรมิตร
    9. ปรมิตร
      ปรมิตร
      หากสภาวะที่ได้ละซึ่งการถือเอา จิตและกาย มองเห็นโลกนี้ ว่างเปล่า
      ย่อมเข้าถึงอมตธาตุคือพระนิพพาน
    10. Sriaraya5
      Sriaraya5
      7 วันอย่างต่ำ ในการเป็นขึ้นมาภายหลัง
    11. Sriaraya5
      Sriaraya5
      คำถามและคำตอบ ได้รู้แจ้งแทงตลอดแล้วซึ่งใจท่านปรมิตร
    12. Sriaraya5
      Sriaraya5
      เราย่อมเล็งเห็นความว่างภายนอกเป็นอาวกาศธาตุ

      เราจึงสำเนียกแลเห็น เห็นอยู่ซึ่งความว่างในจิตที่ไม่มีเขตแดน
    13. Sriaraya5
      Sriaraya5
      การละก็คือ การครอบครองทุกสิ่ง

      ที่เข้ากับอนัตตาที่มีอยู่ก่อนแล้ว

      คำว่าทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง จึงแทรกซึม

      อยู่กับตถาคตา มันเป็นเช่นนั้นเองปรมิตร

      ปรมิตรนักรบแห่งธรรมะ ปรมิตรพุทธบุตร
    14. Sriaraya5
      Sriaraya5
      ธรรมะก็ดี ศีลก็ดี มีไว้ให้ขัดเกลา เพื่อให้ละ

      ไม่ใช่ให้แบกให้ยึด
    15. Sriaraya5
      Sriaraya5
      ท่านได้เดินมาถึงหน้าประตูของการตรัสรู้

      แต่ท่านก็ยังไม่ละ ส่วนที่เป็นบุญและเป็นบาป
    16. ปรมิตร
      ปรมิตร
      ผู้ที่ทำบาป โดยไม่รู้ว่านั่นคือบาป ย่อมมีโอกาสกระทำบาปด้วยความไม่ยำเกรงเปรียบดั่งคนผู้ตาบอด ย่อมกำเอาก้อนเหล็กเเดงโดยไม่มีจิตสะทกสะท้านต่อผล
    17. ปรมิตร
      ปรมิตร
      บุคคลผู้มีฉลาดชีวิตอยู่กับโลก ย่อมศึกษาวิชาโลก เพื่ออยู่กับโลก
      แต่มิได้ทิ้ง ทางเดินแห่งจิต
      แม้มิได้กระโจนลงไปแต่รู้ทางเดิน ย่อมเป็นการดีกว่า ไม่รู้
      หากมิได้ศึกษา แต่กระโจนลงไปทำ หากไม่มีบุญเก่าหนุนนำย่อมเดินทางผิดได้โดยง่าย
    18. Sriaraya5
      Sriaraya5
      มิตรไมตรี แปลว่าเพื่อนผู้ยิ่งใหญ่

      มิตรไมตรี เป็นกัลญาณมิตร เพื่อนผู้เดินทางไกลของหมู่สัตว์ทุกผู้ทุกนาม ไม่ได้สำคัญตนว่า

      ประเสริฐกว่า เสมอหรือด้อยกว่าผู้ใดเลย

      การใช้ชีวิตและความเชื่อที่ได้กล่าวไว้นั้น เป็นทางแห่งกัลญาณมิตรแท้ๆ เพราะไม่ได้เกิดมาเพื่อ

      เป็นศัตรูใครจึงได้ชื่อมิตรไมตรี
    19. Sriaraya5
      Sriaraya5
      การคิดและการใช้ชีวิต
      และความเชื่อศรัทธานะครับ

      ที่บอกว่าไม่ใช่ปรมิตร
    20. Sriaraya5
      Sriaraya5
      ผมเนี่ยนะ ก็ผมนะสิ ไม่ใช่ปรมิตร
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    วันเกิด:
    5 ธันวาคม 1983 (Age: 41)
    ที่ตั้ง:
    ขอนแก่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย
    อาชีพ:
    บำบัดโรค
    แนะนำตัวเอง:
    เราไม่ควรยึดติดว่าสิ่งนั้น สิ่งนี้เป็นของเรา

    หรือทำสิ่งใดแล้วจะได้อย่างนั้น จงทำให้ดีที่สุดกับทุกคน

    ไม่ควรถือตัวว่าเราดีกว่า เสมอหรือเลวกว่าเพราะการยึดติดย่อมมีความคาดหวัง เมื่อหวังไว้มากก็ย่อมเสียใจมาก เพราะเหตุที่ว่า คนเราย่อมมีการพลัดพรากเป็นธรรมดา จึงควรตั้งจิตกลางๆรู้เท่าทันสัจจะธรรม

    ดั่ง คำสอนของพระศาสดา ที่ว่า การประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ พลัดพรากจากของรักของเจริญใจก็เป็นทุกข์ มีความปารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นนั่นก็เป็นทุกข์ นั่นเอง หากเปรียบเทียบกับทุกข์ที่จะเกิดขึ้นจริงๆ คือการเกิด การแก่ การเจ็บไข้ และการตาย เรื่องเหล่านั้นย่อมเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

    เมื่อพิจารณาตามสัจจะธรรม นั้นแล้ว เราพึงไม่ยึดถือตัวตน

    เพราะเราเป็นแค่จิตดวงเดียวที่เกิดขึ้นโดยอาศัยกายเนื้อจากบิดาและมารดา เกิดมาเพื่อประกอบกรรมดี สร้างกุศลเสริมบารมีเพื่อเป็นเสบียงจนกว่าจะข้ามพ้น สังสารวัฏ มนุษย์ผู้เข้ามาในชีวิตล้วนเป็นไปตามอำนาจของกรรม ที่มีเหตุและปัจจัย เพียงแค่เราใช้ปัญญาพิจารณาว่าจะก่อกรรมใดร่วม ยับยั้ง หรือวางเฉยกรรมใดเพื่อไม่ให้เกิดกรรมใหม่ เท่านั้น ต่อไปหากควบคุมไม่ได้ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม ตามเหตุตา
    เกิดจากจิตที่โดนตรวนให้เวียนว่ายตายเกิดในโลกด้วยอำนาจของกรรมและกิเลส อาศัยกายเนื้อจ

    ปัจเจกะโพธิมุตตะมันติ

    ลายเซ็น

    ขอนอบน้อม แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ ของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น แลนอบน้อมแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายด้วยเศียรเกล้า
  • Loading...
Loading...