การเล่นหุ้นมีความเสี่ยง แหล่งทำเงินของบางคน

ไม่รู้ผมเสียดายโอกาสที่ผ่านมา หรือว่าบุญมันเยอะ ทำให้คาดเรื่องคู่ครอง ผมโสดมาตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยแต่งงาน ไม่กระตือรือร้นเรื่องสาว คิดว่า ถ้ารวย เดี๋ยวสาวก็มาเองแหล่ะ

หรืออนาคต อาจต้องไปบวช เบื้องบนคงไม่ค่อยอยากให้มีครอบ.. ไม่ให้หลงสาว หุๆ

 

ถ้ามีแฟนเป็นสาวสวยแบบนี้สักคน คงน่าจะดี ชีวิตจะได้มีชีวิตชีวา

 

​

 

บันทึกบุญกุศล ความดีของผม เชิญอนุโมทนาบุญครับ

ภาคความดีและการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ :
หมวด A :
1.เคยให้ผ้าห่มและเงินแก่เด็กเร่รอนในยามหน้าหนาว ที่นอนอยู่ข้างถนน (เป็นครั้งแรกที่ทำให้ได้ยินเสียงดนตรีสวรรค์ ที่ไพเราะมาก ไม่มีเสียงดนตรีใดในโลกที่จะไพเราะเท่าเสียงดนตรีสวรรค์ที่เคยได้ยิน)
2.เคยให้ความช่วยเหลือ บุคคลที่รู้จักทางอินเตอร์เนทเพียง 2 สัปดาห์ เป็นจำนวนเงินประมาณ 1 หมื่นบาท (ให้ฟรี ไ่ม่ได้ขอคืน เพื่อเป็นค่ายารักษาโรคมะเร็ง)
3.เคยให้เพื่อนยืมเงินเพื่อเรียนระดับป.ตรี (ราว 2 หมื่นกว่าบาท)
4.เคยให้เพื่อนยืมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในงานแต่งงาน (ราว 2 หมื่นบาท)
5.เคยให้นักศึกษารุ่นพี่ยืมเงินไปซื้ออุปกรณ์จำเป็น (เป็นจำนวน 3 หมื่นบาท)
6.เลี้ยงอาหารเพื่อนทั้งห้อง เป็นจำนวนเงิน 4 พันบาท (สมัยเรียนปริญญาตรี ที่พระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง)
7.ให้เงินแก่ผู้ด้อยโอกาส จำจำนวนครั้งไ่ม่ได้แล้ว
8.ให้ความช่วยเหลือคุณแม่คุณภัทรอังคาร(สมาชิกเวบพลังจิต) เป็นจำนวนเงิน 600 บาท (ช่วย 2 ครั้ง ครั้งละ 300 บาท)
9.ให้เงินช่วยเหลือท่านผู้มีอภิญญา (อดีตชาติของท่านคือพระนาง.....) จำจำนวนครั้งไม่ได้ แต่รวมแล้วมากกว่า 3 หมื่นบาท
10.เคยช่วยทำถนนและปลูกต้นไม้ให้กับสำนักสงฆ์
11.เคยสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก คืนละ 7 จบ เป็นเวลา 7 คืนเพื่ออุทิศบุญให้กับผู้ประสบภัย เมื่อปี 2547 (ได้นิมิตเห็นดวงวิญญาณจำนวนมาก จึงตั้งใจสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกแผ่อุทิศบุญกุศลให้)
12 เคยให้ทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่โรงเรียนบ้านแพงวิทยาคม จังหวัดนครพนม
13.เคยไปทำบุญกับพระกรรมฐานในคราวที่เครือหนังสือโลกทิพย์-โลกลี้ลับ จัดขึ้น จำนวนหลายครั้ง
14.เป็นบุญวาสนาให้ได้กราบและทำบุญกับหลวงปู่ศรี มหาวีโร จ.ร้อยเอ็ด
15.เป็นบุญวาสนาให้ได้กราบและทำบุญกับหลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน อายุราว 700 ปี)
16.เป็นบุญวาสนาให้ได้กราบและทำบุญกับหลวงปู่เรือง อาภัสโร อริยะสงฆ์ แห่งเขาสามยอด จ.ลพบุรี
17.เป็นบุญวาสนาให้ได้กราบและทำบุญกับหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
18.แจกพระธาตุให้กับคนรู้จักและญาติธรรมจำนวนหลายท่าน
ฯลฯ

ผู้สร้างและเจ้าของเว็บ :
1.เว็บเมตตาโฮมเพจ : http://metharung.blogspot.com
เนื้อหา :
การแก้กรรมทำแท้ง
การขอขมาพ่อแม่
บทสวดมนต์ (แบบแม่ชีทศพร)
บทสวดมนต์ (แบบหลวงพ่อจรัญ)
เมตตาพรหมวิหาระภาวนา (มหาเมตตาใหญ่)
พระคาถาหัวใจเศรษฐี
การอธิษฐานเสริมดวงด้านโชคลาภ
เคล็ดลับการอธิษฐานขอพรกับพระเครื่องหรือวัตถุมงคล
พระสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา รู้กรรมในอดีต รู้เห็นในปัจจุบัน หยั่งรู้ในอนาคต
คำอธิษฐานบารมี
คำแนะนำสำหรับท่านที่ต้องการขายที่ดิน, ขายบ้าน
คาถาบูชาพระสังกัจจายน์, คาถาบูชาขอลาภพระสังกัจจายน์
แชร์ประสบการณ์:ผมพบวิธีทำให้ชีวิตดีขึ้นทั้งในด้านการงาน การเงิน และครอบครัวในแนวทางของผมครับ
บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ (ฉบับเต็ม)
เคล็ดการภาวนา พระคาถาเงินล้าน
วิธีทำให้ค้าขายดี มั่งมีเงินทอง
คาถาเรียกเงิน
คาถาบูชาพระสีวลี ฉบับหลวงพ่อกวย (ลายมือหลวงพ่อ)
หนังสือกฏแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อจรัญ
พระธรรมคำสอนของหลวงปู่ใหญ่พระครูธรรมเทพโลกอุดร
ฯลฯ

2.เว็บเพื่อสุขภาพ : http://powerful-health.blogspot.com
เนื้อหา :
ยาเทวดา ยาอายุวัฒนะ หลวงปู่เรือง อาภัสสโร
บ้านอโรคยา
หนทางการรักษาโรคมะเร็ง
อ.นงนุช รักษาทุกโรคด้วยพลังจิต
ภาวนารักษาโรคมะเร็ง
พระคาถาสักกัตวา (โอสถปริตร)
แกว่งแขนรักษาโรค
หมอรักษาพระ
แม่หมอเทวดา
ดื่มน้ำรักษาโรค
สูตรยารักษาโรคกระเพาะ จากท่านแม่ชีใหญ่
ตำหรับยาสมุนไพร ของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
ยาอายุวัฒนะ ตำหรับของหลวงปู่เทพโลกอุดร
ฯลฯ

ได้ช่วยเหลือคนจำนวนประมาณ 27 ท่าน เพื่อเป็นค่าอาหารหรืออื่นๆ ที่จำเป็น :

1.ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 1) ช่วยเหลือได้จำนวน 10 ท่าน
http://metharung.blogspot.com/2014/01/blog-post_9.html

2.ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 2) ช่วยเหลือได้จำนวน 5 ท่าน
http://metharung.blogspot.com/2015/04/2.html

3.ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 3) ช่วยเหลือได้จำนวน 6 ท่าน
https://metharung.blogspot.com/2016/05/3.html

4.ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 4) ช่วยเหลือผู้คนได้จำนวน 2 ท่าน
https://metharung-background.blogspot.com/2017/02/blog-post.html

5.ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 5) ช่วยเหลือผู้คนได้จำนวน 4 ท่าน
https://metharung-background.blogspot.com/2017/09/5.html

แจกพระเครื่องและวัตถุมงคล (แจกจำนวนหลายครั้ง)

รายการพระเครื่อง-วัตถุมงคล ที่ผมได้เคยแจกไป (แจกฟรี) :
1.พระปิดตามหาเศรษฐี (เนื้อผง) วัดท่าขนุน แจกไปจำนวน 5 องค์
2.พระกริ่งชินบัญชรเงินล้าน รุ่น 1 แจกไป 1 องค์
3.ข้าวสารหิน แจกไปมากกว่า 7 ถุง
4.พระกริ่งมหาสมบัติ พระอาจารย์สมบัติ แจกไป 2 องค์
5.เหรียญนั่งพานรุ่นแรก รวยสมปรารถนา หลวงปู่สุภา กันตสีโล แจกไป 2 เหรียญ
6.เหรียญพระอุปคุต เนื้อเงิน(ชุบเงิน) แจกไป 1 เหรียญ
7.เหรียญพระอุปคุต เนื้อทองแดง แจกไป 1 เหรียญ
8.เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ แจกไป 3 เหรียญ (ราคาบูชาในปัจจุบันอยู่ที่เหรียญละ 1,500-2,000 บาท)
9.เหรียญพระอุปคุต เนื้อชุบทอง แจกไป 1 เหรียญ
10.พระสมเด็จลอยฟ้า ครูบาเหนือชัย แจกไปจำนวน 1 องค์
11.ผ้ายันต์ครอบจักรวาล หลวงพ่อเกษม เขมโก แจกไปจำนวน 1 ผืน
12.เหรียญปรกโสฬสมหามงคลบรมจักรพรรดิ แจกไป 1 เหรียญ
ฯลฯ

แจกพระเครื่อง วัตถุมงคล ครั้งที่ 5 : http://metharung.blogspot.com/2015/01/5_39.html
แจกพระเครื่อง วัตถุมงคล ครั้งที่ 4 : http://metharung.blogspot.com/2014/06/4.html
แจกพระเครื่อง วัตถุมงคล ครั้งที่ 3 : http://metharung.blogspot.com/2014/03/3.html
แจกพระเครื่อง วัตถุมงคล ครั้งที่ 2 : http://metharung.blogspot.com/2013/09/2.html
แจกพระเครื่อง วัตถุมงคล ครั้งที่ 1 : http://metharung.blogspot.com/2013/07/blog-post_23.html

หมวด B : วัตถุทาน, วิหารทาน, ธรรมทาน, เนกขัมมะบารมี, และอื่นๆ
บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนมกราคม 2555
1.ทำบุญร่วมสร้างพระอุโบสถวัดถ้ำกูป อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
2.ร่วมทำบุญจัดซื้อเจดีย์แก้ว เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ วัดฬุวรรณาราม จ.บุรีรัมย์ เป็นจำนวนเงิน 95 บาท
3.ทำบุญปูพื้นพระอุโบสถ วัดละว้า ต.ศรีกะอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก เป็นจำนวนเงิน 350 บาท
4.ทำบุญค่าภัตตาหารและโรงทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์สามเณร วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 400 บาท
5.ทำบุญร่วมสร้างอาคารโรงพยาบาล เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
6.ร่วมทำบุญผ้าห่มเพื่อไปแจกผู้ประสบภัยหนาว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เป็นจำนวนเงิน 320 บาท อ้างอิง : ร่วมทำบุญผ้าห่มเพื่อไปแจกผู้ประสบภัยหนาว3-4กพ.55นี้
7.ทำบุญถวายหลวงตาม้า จำนวน 100 บาท

บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555
1.ทำบุญทอดผ้าป่าเก้าอี้ที่นั่งเศรษฐีและโรงทาน เป็นจำนวนเงิน 398 บาท และทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทานบุญร่ำรวยและน้ำปานะ เป็นจำนวนเงิน 400 บาท
2.ทำบุญค่าภัตตาหารและโรงทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์สามเณร วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 400 บาท
3.ร่วมทำบุญยกช่อฟ้าเอก วัดหัวขัว ต.นาคำ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เป็นจำนวนเงิน 99 บาท
4.ทำบุญซื้ออิฐมอญ เพื่อก่อสร้างโบสถ์ วัดหัวขัว เป็นจำนวน 100 ก้อน เท่ากับ 90 บาท
บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนมีนาคม 2555
1.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์อุบาลี อตุโล วันออกจากนิโรธสมาบัติ (ทำบุญครั้งที่ 3) เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
2.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์อุบาลี อตุโล วันออกจากนิโรธสมาบัติ (ทำบุญครั้งที่ 4) เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
3.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์อุบาลี อตุโล วันออกจากนิโรธสมาบัติ (ทำบุญครั้งที่ 5) เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
4.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์อุบาลี อตุโล วันออกจากนิโรธสมาบัติ (ทำบุญครั้งที่ 6) เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
5.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์อุบาลี อตุโล วันออกจากนิโรธสมาบัติ (ทำบุญครั้งที่ 7) เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
6.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์อุบาลี อตุโล วันออกจากนิโรธสมาบัติ (ทำบุญครั้งที่ 8) เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
7.ร่วมทำบุญกับพระอาจารย์อุบาลี อตุโล วันออกจากนิโรธสมาบัติ (ทำบุญครั้งที่ 9) เป็นจำนวนเงิน 333 บาท
8.ทำบุญค่าภัตตาหารและโรงทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร วัดป่าขันติธรรม จำนวนเงิน 200 บาท
9.ร่วมทำบุญสร้างบายศรี วัดห้วยน้ำเย็น จ.พิษณุโลก เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนเมษายน 2555
1.ทำบุญค่าภัตตาหารและโรงทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์สามเณร วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 359 บาท
2.ทำบุญร่วมสร้างโบสถ์ วัดป่าหัวตลุก จ.นครสวรรค์ เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
3.ร่วมทำบุญสร้างศาลาโรงธรรมเอนกประสงค์ ศูนย์ปฏิบัติธรรม ลานธรรมอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
4.ทำบุญสวดพระอภิธรรม ครูบาข่าย วัดหมูเปิ้ง จ.ลำพูน เป็นจำนวนเงิน 100 บาท

บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนพฤษภาคม 2555
1.ทำบุญค่าภัตตาหารและโรงทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์สามเณร วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
2.ทำบุญร่วมสร้างศาลาการเปรียญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นจำนวนเงิน 500 บาท
3.ร่วมทำบุญถวายมหาสังฆทาน 9 วัด เป็นเงินจำนวน 100 บาท

บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนมิถุนายน 2555
1.ทำบุญค่าภัตตาหาร ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นจำนวนเงิน 500 บาท
2.ทำบุญค่าภัตตาหารและโรงทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 80 บาท
3.ทำบุญร่วมสร้างพระพุทธชินราช ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว ถวายวัดท่าสุทธาวาส อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเงินจำนวน 59 บาท
4.ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่า 14 วัด เป็นเงินจำนวน 70 บาท
5.ทำบุญร่วมสร้างพระสีวลี (องค์ที่ 2) ประดิษฐานหน้าพระอุโบสถ วัดวังขอน จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเงินจำนวน 399 บาท

บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนกรกฎาคม 2555
1.ทำบุญค่าภัตตาหารและโรงทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 498 บาท
2.ทำบุญร่วมสร้างพระอุโบสถ วัดสีหะลำดวน อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เป็นเงินจำนวน 500 บาท
3.ทำบุญร่วมสร้างศาลาการเปรียญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
4.ทำบุญร่วมบูรณะพระอุโบสถ วัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นจำนวนเงิน 50 บาท
5.ทำบุญร่วมสร้างห้องน้ำ วัดป่าหนองบัวน้อย จ.บึงกาฬ เป็นจำนวนเงิน 50 บาท

บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนสิงหาคม 2555
1.ทำบุญซื้อที่ดิน ถวายวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท
2.ทำบุญค่าภัตตาหารและโรงทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
3.ทำบุญร่วมสร้างพระอุโบสถ วัดสีหะลำดวน อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
4.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทานจัดภัตตาหารและน้ำปานะถวายแด่พระมหาเถระ, พระเถระ, พระนวกะ และสามเณร ณ.สำนักสงฆ์ภูสูงเจริญธรรม อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เป็นจำนวนเงิน 290 บาท
5.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทานสำหรับบุคคลทั่วไป ณ.สำนักสงฆ์ภูสูงเจริญธรรม อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เป็นจำนวนเงิน 290 บาท
6.ทำบุญร่วมสร้างศาลาการเปรียญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
7.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินบรมจักรพรรดิ์ ปี 2555 ณ.วัดพระพุทธบาทหริภุญไชย (ห้วยทรายขาว) จ.ลำพูน (ทำบุญครั้งที่ 1+ ทำบุญครั้งที่ 2) เป็นจำนวนเงิน 299 บาท

บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนกันยายน 2555
1.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินเพื่อบูรณะพระธาตุเจดีย์ วัดจอมทอง เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท
2.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินเพื่อบูรณะพระธาตุเจดีย์ วัดจอมทอง (ทำบุญครั้งที่ 2) เป็นจำนวนเงิน 399 บาท
3.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินเพื่อบูรณะพระธาตุเจดีย์ วัดจอมทอง (ทำบุญครั้งที่ 3) เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
4.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินเพื่อบูรณะพระธาตุเจดีย์ วัดจอมทอง (ทำบุญครั้งที่ 4) เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
5.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินเพื่อบูรณะพระธาตุเจดีย์ วัดจอมทอง (ทำบุญครั้งที่ 5) เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
6.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพมุงหลังคาพระอุโบสถ วัดสีหะลำดวน เป็นหลังคาขนาด 4 เมตร 70 เซนติเมตร จำนวน 1 แผ่น เป็นจำนวนเงิน 800 บาท
7.ทำบุญร่วมสร้างฐานพระประธาน เพื่อประดิษฐานในพระอุโบสถ วัดสีหะลำดวน เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
8.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทานจัดภัตตาหารและน้ำปานะถวายแด่พระมหาเถระ, พระเถระ, พระนวกะ และสามเณร ณ.สำนักสงฆ์ภูสูงเจริญธรรม อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
9.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทานสำหรับบุคคลทั่วไป ณ.สำนักสงฆ์ภูสูงเจริญธรรม อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เป็นจำนวนเงิน 50 บาท
10.ทำบุญร่วมสร้างพระสีวลี (องค์ที่ 3) ขนาดความสูง 2.10 เมตร ประดิษฐาน ณ.ศาลาปฎิบัติธรรม วัดอู่ตะเภา เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
11.ทำบุญร่วมสร้างพระสีวลี ขนาดความสูง 2.10 เมตร ประดิษฐาน ณ.ศาลาปฎิบัติธรรม วัดอู่ตะเภา กรุงเทพมหานคร (ทำบุญครั้งที่ 2) เป็นจำนวนเงิน 200 บาท

บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนตุลาคม 2555
1.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินเพื่อบูรณะพระธาตุเจดีย์ วัดจอมทอง (ทำบุญครั้งที่ 6) เป็นจำนวนเงิน 199
2.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพมหากฐินเพื่อบูรณะพระธาตุเจดีย์ วัดจอมทอง (ทำบุญครั้งที่ 7) เป็นจำนวนเงิน 299 บาท
3.ทำบุญร่วมเป็นเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
4.ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพทอดมหากฐิน สร้างสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก 21 เมตร วัดฉลองราชศรัทธาราม จังหวัดลำปาง เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
5.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี ยกช่อฟ้าอุโบสถกับหลวงตาวิเชียร ณ.วัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนเงิน 299 บาท
6.ทำบุญร่วมสร้างพระสีวลี (องค์ที่ 4) ขนาดความสูง 2.10 เมตร ประดิษฐาน ณ.วัดบ้านกล้วย ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
7.ทำบุญร่วมสร้างพระประธานปางชินราช ขนาดหน้าตัก 60 นิ้ว ถวายวัดศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น เป็นจำนวนเงิน 159 บาท
8.ทำบุญร่วมสร้างถนนเข้าสำนักสงฆ์ภูน้อย จังหวัดกาฬสินธ์ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
9.ทำบุญกฐินร่วมสร้างพระอุปคุต, ตู้พระไตรปิฎก, สมทบซื้อที่ดินให้วัด, พระประจำวันเกิดหน้าตัก 9 นิ้ว 9 องค์ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
10.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพช่อฟ้า พระอุโบสถวัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
11.ทำบุญร่วมสร้างศาลาการเปรียญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นจำนวนเงิน 400 บาท
12.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพในโครงการกฐินแสนกอง พ.ศ. 2555 ปีที่ 7 (เวบพลังจิต) เป็นจำนวนเงิน 420 บาท
13.ทำบุญร่วมสร้างประตูและหน้าต่าง พระอุโบสถวัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
14.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวชคุณปัญญา แก้ววิเชีัยร เป็นจำนวนเงิน 500 บาท
บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนพฤศจิกายน 2555
1.ทำบุญร่วมสร้างศาลาการเปรียญ สำนักสงฆ์ป่าห้วยเรือ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เป็นจำนวนเงิน 180 บาท
2.ทำบุญกฐิน วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
3.ทำบุญร่วมสร้างกำแพงแก้ว (กำแพงอุโบสถ) วัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
4.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพเสาตอม่อ วิหารสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก 109 นิ้ว วัดป่าบ้านหนองผักเเว่น อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
5.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวชคุณอนพัทย์ ห้าวแสงสว่างกุล เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนธันวาคม 2555
1.ร่วมทำบุญงานนิโรธกรรมครั้งที่ 9 ของพระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เป็นจำนวนเงิน 299 บาท
2.ทำบุญกับพระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต งานนิโรธกรรมครั้งที่ 9 วัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เป็นจำนวนเงิน 500 บาท (ฝากเงินให้คนที่รู้จัก ช่วยทำบุญแทนให้ผม)
3.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างกุฎิ ห้องน้ำพระสงฆ์ งานเข้า-ออกนิโรธกรรม พระครูบาิวิจิตร มนฺญโญ วัดกูเตอร์โกล (นาแฮ) เป็นจำนวนเงิน 300 บาท (ทำบุญครั้งที่ 1)
4.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างกุฎิ ห้องน้ำพระสงฆ์ งานเข้า-ออกนิโรธกรรม พระครูบาิวิจิตร มนฺญโญ วัดกูเตอร์โกล (นาแฮ) เป็นจำนวนเงิน 100 บาท (ทำบุญครั้งที่ 2)
5.ร่วมทำบุญสร้างหนังสือสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น, แผ่เมตตาเล็ก, เมตตาใหญ่ จำนวน 15 เล่ม เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
6.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างกำแพงแก้ว รอบอุโบสถ วัดโพธิญาณรังสี จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
7.ทำบุญร่วมสร้างสถานปฏิบัติธรรมหลวงปู่เทพโลกอุดร อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นจำนวนเงิน 200 บาท (เวบ yantip ห้องอ.นงนุช)
8.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทานแก่ชาวบ้านและผู้ปฎิบัติธรรมในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ณ.วัดวิมุตยาราม เป็นจำนวนเงิน 199 บาท (เวบ yantip ห้องอ.เจน)
9.ทำบุญร่วมสร้างพระสีวลี (องค์ที่ 5) ขนาดความสูง 2.10 เมตร ประดิษฐาน ณ.ที่พักสงฆ์สวนป่าพุทธสีวลี ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นจำนวนเงิน 79 บาท
บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนมกราคม 2556
1.ร่วมทำบุญในโอกาสที่พระครูบาเหนือชัย โฆสิโต ออกจากนิโรธกรรม เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
2.ร่วมทำบุญทุกอย่าง ในงานออกนิโรธกรรมของพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต เป็นจำนวนเงิน 500 บาท
3.ร่วมบุญสร้างหนังสือสวดมนต์ทำวัตร เช้า-เย็น ถวายพระครูวีระปัญญาคม(พระอาจารย์ถวิล) วัดศรีสง่าสามัคคี จ.ชัยภูมิ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
4.ร่วมทำบุญทุกอย่าง ในงานออกนิโรธกรรมของพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต เป็นจำนวนเงิน 300 บาท (ทำบุญครั้งที่ 2)
5.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างฉัตรยอดเจดีย์เก้าชั้น เพื่อประดิษฐานยังเจดีย์บ้านทีป้อคี วัดพระพุทธบาทวังตวง เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
6.ทำบุญร่วมสร้างหนังสือสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น ถวายสำนักสงฆ์วัดถ้ำดงเข จำนวน 2 เล่ม เป็นจำนวนเงิน 160 บาท
7.ร่วมทำบุญพิมพ์ภาพถวายหลวงปู่ครูบาอินสม สุวีโร เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
8.ทำบุญร่วมสร้างโคมไฟคริสตัล ประดับที่เพดานกลางพระอุโบสถ และประดับเหนือเศียรพระประธาน วัดสีหะลำดวน เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
9.ร่วมบุญสร้างหนังสือสวดมนต์ทำวัตร เช้า-เย็น ถวายพระครูวีระปัญญาคม(พระอาจารย์ถวิล) วัดศรีสง่าสามัคคี จ.ชัยภูมิ เป็นจำนวนเงิน 200 บาท(ทำบุญครั้งที่ 2)
10.ร่วมบุญปูหินแกรนิตรอบองค์พระประธาน วัดสีหะลำดวน จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
11.ร่วมเป็นเจ้าภาพลูกนิมิตเอก วัดป่าดอนหายโศก จ.อุดรธานี เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
12.ร่วมบุญลูกนิมิต ใบเสมาธรรมจักร ร่วมบุญกับท่านพระครูบาวิฑูรย์ ชินวโร ณ วัดศรีปิงชัย อ.เมืองลำพูน เป็นจำนวนเงิน 300 บาท (บอกบุญมาทาง PM)
บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2556
1.ทำบุญร่วมสร้างศาลาการเปรียญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นจำนวนเงิน 500 บาท
2.ร่วมทำบุญสร้างศาลาอเนกประสงค์ วัดป่าโคนผง ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นจำนวนเงิน 200 บาท
3.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อร่วมสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมและหลวงปู่ทวดปางนั่ง 1 องค์และหลวงปู่ทวดปางยืน 1 องค์ เป็นจำนวนเงิน 300 บาท
4.ทำบุญร่วมสร้างพระพุทธรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมฯ (พระทันใจสมปรารถนา) ขนาดหน้าตัก 2 เมตร ณ.วัดป่าหิมพานต์ ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
5.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพลงลายฐานสมเด็จองค์ปฐม วัดบูรณสามัคคีธรรม ต.ตากูก อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ เป็นจำนวนเงิน 320 บาท
6.ทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวชคุณศิวโรจน์ กีรติพิริยะกุล (เวบ yantip) เป็นจำนวนเงิน 200 บาท

บันทึกการทำบุญ สร้างความดี ที่ได้ทำไว้ในเดือนมีนาคม 2556
1.ทำบุญร่วมสร้างผอบทองคำ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานยอดพระเจดีย์พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่โฮม ญาณธัมโม ณ.วัดป่าสุทธิมงคล ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร เป็นจำนวนเงิน 280 บาท
2.ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคี (ร่วมบุญหล่อพระพุทธรูปกลางน้ำ หน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 15 เมตร) จำนวน 1 กอง (ทอดผ้าป่าวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2556) ณ.วัดถ้ำข้าวสารหิน บ้านผาสะนา ตำบลทรัพย์ไพรวัลย์ อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย เป็นจำนวนเงิน 199 บาท
3.ร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทาน เลี้ยงอาหารผู้มาร่วมงานหล่อพระพุทธรูปกลางน้ำ (หน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 15 เมตร) ณ.วัดถ้ำข้าวสารหิน บ้านผาสะนา ตำบลทรัพย์ไพรวัลย์ อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย เป็นจำนวนเงิน 100 บาท
4.ร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีบวงสรวงเป็นปฐมฤกษ์ก่อนที่จะหล่อพระ ณ.วัดถ้ำข้าวสารหิน บ้านผาสะนา ตำบลทรัพย์ไพรวัลย์ อำเภอเอราวัณ จังหวัด เป็นจำนวนเงิน 50 บาท
5.ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี (เพื่อร่วมหล่อพระพุทธรูปกลางน้ำ หน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 15 เมตร ณ.วัดถ้ำข้าวสารหิน อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย) จำนวน 1 กอง เป็นจำนวนเงิน 199 บาท (ทำบุญครั้งที่ 2)
6.ร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทาน เลี้ยงอาหารผู้มาร่วมงานหล่อพระพุทธรูปกลางน้ำ หน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 15 เมตร ณ.วัดถ้ำข้าวสารหิน อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย เป็นจำนวนเงิน 150 บาท (ทำบุญครั้งที่ 2)
7.ร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีบวงสรวงเป็นปฐมฤกษ์ก่อนที่จะหล่อพระ ณ.วัดถ้ำข้าวสารหิน อำเภอเอราวัณ จังหวัด เป็นจำนวนเงิน 50 บาท (ทำบุญครั้งที่ 2)
8.ร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทาน เลี้ยงอาหารผู้มาร่วมงานหล่อพระพุทธรูปกลางน้ำ หน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 15 เมตร ณ.วัดถ้ำข้าวสารหิน อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย เป็นจำนวนเงิน 100 บาท (ทำบุญครั้งที่ 3)
9.ร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีบวงสรวงเป็นปฐมฤกษ์ก่อนที่จะหล่อพระ ณ.วัดถ้ำข้าวสารหิน อำเภอเอราวัณ จังหวัด เป็นจำนวนเงิน 50 บาท (ทำบุญครั้งที่ 3)
10.ทำบุญร่วมสร้างถนนเข้าวัดผาเทพนิมิต ตำบลนิคมน้ำอูน อำเภอนิคมน้ำอูน จังหวัดสกลนคร เป็นจำนวนเงิน 100 บาท

และอื่นๆ อีกมากมาย เข้าไปอ่านได้ที่เว็บผม : https://metharung-background.blogspot.com/2014/10/blog-post_21.html

 

ความไม่จีรัง

ทุกสรรพสิ่งในโลกหรือโลกอื่น ล้วนไม่จีรัง

มียศ เสื่อมยศ มีลาภ เสื่อมลาภ มีเกิดก็มี... มีขาว ก็มีดำ มีสุข ก็มีทุข์ มีพบ ก็มีพราก

แถวบ้านมีชาวพม่ามาพักอาศัยบ้านเช่าของพี่ชาย อยู่เกือบติดกัน เป็นชาวพม่าหลายคน

เขามาทำงานก่อสร้าง มาพักอยู่หลายเดือน ทั้งชายและหญิง

หลายเดือนที่เขามาพัก ก็แทบจะไม่เคยคุยกัน มีเพียงครั้งเดียวที่หนุ่มชาวพม่ามาถามว่าร้านขายของพี่ชายอยู่ตรงไหน เพราะวันนั้นเครื่องสูบน้ำมันสูบน้ำไม่ขึ้น

สาวพม่าหน้าตาพอใช้ได้มีอยู่ 2 คน แต่ผมไม่เคยคุยเลย เพราะผมไม่ค่อยได้คุยกะใคร และจีบผู้หญิงไม่ค่อยเป็น ชีวิตส่วนใหญ่ของผม คงเป้นประเภททำงาน สวดมนต์คนเดียว ดูทีวีคนเดียว หุๆ

วันนี้เห็นชาวพม่า เก็บข้าวของ บางส่วนก็ทิ้ง สงสัยคงจะกลับบ้านเกิดที่พม่า ผมเองไม่ค่อยว่างและแทบไม่เคยคุยกะเขา ก็เลยไม่ได้ไปถามเขา

คนมาพักอาศัยเกือบติดบ้านที่ผมพัก นานเกือบปี แต่แทบไม่ได้คุยกัน

เมื่อชาวพม่าจากไป ข้างบ้านหรือบ้านนั้นก็เงียบเหงา คงต้องรอคนมาเช่าใหม่

นี่แหล่ะชีวิตสัตว์โลก อาจได้พบ ได้เห็น หรือได้คุย หรือได้แค่เห็นหน้าแต่ไม่เคยได้คุย แล้วก็ต่างคนต่างไปตามวาระกรรมของแต่ละคน ในโลกนี้หาสิ่งใดจีรังไม่ได้หรอก

แม้แต่คนที่เป็นผัวเมียกัน ได้แชร์ร่างกายบางส่วนในบางครั้ง สุดท้ายก็ต้องแยกจาก ตามสัจจธรรม พบเพื่อพราก หรือพรากเพื่อพบ และสัจจธรรม เกิด แก่ เจ็บ ...

 

อยากมีเมีย หรืออยากมีผัว ต้องทำอย่างไร?

คนเราเกิดมาแล้วมากมายหลายชาติภพ

ดังนั้นจึงเคยมีผัวหรือมีเมียมาแล้วมากมายอาจเป็นร้อยคน หรือเป็นพันคน หรือหมื่นคน

สำหรับท่านที่ยังไม่มีเนื้อคู่หรือคู่ครองในชาติปัจจุบัน แต่อยากมีคู๋ครองหรือเนื้อคู่ มีวิธีการมากมาย อาทิ เช่น

1.การถวายสิ่งของที่เป็นคู่ ให้กับพระสงฆ์ แล้วอธิษฐานให้ได้เนื้อคู๋หรือคู่ครองที่เหมาะสมกับตนเอง

2.การอธิษฐาน ขอพรหรือแก้กรรมเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง

...ตั้งแต่ชาติต้นจนถึงปัจจุบัน และบารมีทั้ง 10 ทัศ.. ช่วยเกื้อหนุนให้ได้พบคู๋แท้โดยเร็วไว ได้เป็นคู่บุญ คู่สร้างบารมี....

3.การขอขมาและอธิษฐานให้ได้พบเจอคู่ครอง

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำ สัญญา เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้ ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิต อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้

( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ )

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

"หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดี อโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร"

4.หมั่นรักษาศีล 5 โดยเฉพาะศีลข้อ 3 ไม่ผิดสามีหรือภรรยาของผู้อื่น

5.ถือศีล8 และตั้งใจทำกรรมฐานสมาธิ ประมาณ 8 วัน 8 คืน เพราะอาจเกี่ยวข้องกับในอดีตชาติ ต้องแก้ไขด้วยบุญจากเนกขัมมะบารมี

6.ขอพรกับพระบรมธาตุ หรือพระธาตุเจดีย์ หรือพระธาตุทันใจ หรือหลวงพ่อทันใจ

7.ขอพรกับหลวงพ่อโสธร มีหลายคนที่ไปขอพรหรือบนกับหลวงพ่อโสธร ในเรื่องเนื้อคู่ และก็มีสมหวังหลายท่าน

8.ไปขอความเมตตากับหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม
ในอดีตที่ผ่านมา มีครูท่่านหนึ่ง อายุเริ่มเยอะ แต่ไม่มีเนื้อคู่หรือคู่ครองสักที ได้ไปกราบขอความเมตตากับหลวงพ่อสายทอง ท่านได้ดูด้วยอำนาจสมาธิอภิญญา ก็ได้แนะนำให้ครูท่านนั้นไปเปลี่ยนชื่อ ผ่านไปไม่นาน ครูหญิงคนนั้นก็ได้แต่งงานสมใจ

อยากมีเมีย หรืออยากมีผัว ต้องมีความกล้าด้วยน่ะ อย่าทำตัวแบบผม ที่ไม่ค่อยกล้าจีบผู้หญิง เอาใจผู้หญิงไม่เป็ง ระวังจะแห้ว 55

 

ผู้หญิงกะผู้ชาย แตกต่างกันที่สรีระร่างกาย แต่จิตใจและความรู้สึกก็คล้ายๆ กัน หากได้คู๋ดี ก็เกื้อหนุนกันได้ หากได้คู่ไม่ค่อย.. ก็อาจทุกข์ สงสัยคงอยู่ที่บุญทำกรรมแต่งหรือเปล่า หรือ สัตว์โลกย่อมเดินไปตามกรรม

คนรักกันชอบกัน ชีวิตคู๋ไม่ได้อยู่ที่ SEX อย่างเดียวเป็นหลัก สิ่งอื่นที่สำคัญก็เช่น การเป็นกำลังใจให้กัน ความซื่อสัตย์ต่อกัน ความจริงใจ

หากหาคู่ครองที่ดีพอไม่ได้ จงอยู่คนเดียวต่อไป

 

หลวงปู่เรือง อาภัสสะโร ปฏิบัติธรรมสถาน เขาสามยอด จ.ลพบุรี

​

ประวัติหลวงปู่เรือง อาภัสสะโร

ปูนียธรรมสถาน เขาสามยอด หลังโรงพยาบาลอานันทมหิดล อ.เมือง จ.ลพบุรี
หลวงปู่เรือง ชื่อเดิมว่า บุญเรือง นามสกุล สุขสันต์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค. 2457 (ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 2 ปีขาล) เวลา 08.00 น. ที่บ้านสร้าง ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
ต่อมาได้ย้ายมาอยู่บ้านสระข่อย ต.โคกปีบ อ.ศรีมหาโพธิ์ (ได้แยกเป็น อ.โคกปีบ แล้วต่อมาเปลี่ยน เป็นชื่อ อ.ศรีมหาโพธิ์ ) จ.ปราจีนบุรี

โยมบิดาชื่อ นายคำพันธ์ สุขสันต์ โยมมารดาชื่อ นางศรี สุขสันต์ มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา8 คน ชาย 5 หญิง 3 หลวงปู่เป็นคนที่ 2
เมื่ออายุเข้าเกณฑ์ศึกษา หลวงปู่ได้เข้ารับการศึกษาชั้นประถม ที่โรงเรียนขุนโคกปีบปรีชา โดยมีคุณครูหลั่น ปราณี ผู้เป็นครูสอนและครูใหญ่(ต่อมาลาออกมาเป็นกำนัน ต. โคกปีบ)

หลวงปู่เรียนจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ท่านเก่งทั้งภาษาไทยและภาษาขอม เมื่อเรียนจบแล้วทางราชการได้ให้ท่านช่วยสอนหนังสือเพราะเห็นว่า ท่านเรียนเก่งมาก และฉลาด

ในสมัยนั้น (ปี พ.ศ. 2468) คนที่จะเรียนหนังสือมีน้อยมาก และที่จะเรียนจนจบชั้นประถมปีที่ 4 ยิ่งหาได้ยากยิ่ง แต่ท่านไม่รับสอน กลับมาช่วยโยมบิดา มารดาทำไร่ทำนาทำสวน จนอายุครบอุปสมบท หลวงปู่เข้ารับการอุปสมบทตามประเพณีชายไทย เมื่ออายุครบบวชจะต้องบวชทดแทนคุณบิดามารดา ท่านอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 6 ก.ค. 2477 (ตรงกับวันแรม 10 ค่ำ เดือน 8 ปีจอ) เวลา 14.08 น. ณ วัดสระข่อย ต.โคกปีบ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ. ปราจีนบุรี อายุ 21 ปี (ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 7) โดยมี พระสมุห์จำปา (ต่อมาเป็นพระครูวิมลโพธิ์เขต) วัดสระข่อย อันเป็นเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบลโคกปีบ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพัด ธัมมะธีโร วัดโคกมอญ(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดโคกไทย) ต.โคกปีบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ฉัตร คังคะปัญโญ วัดต้นโพธิ์ ต.โคกปีบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อันมีพระครูพิบูล วัดท่าประชุม อ.ศรีมหาโพธิ์ เป็นเจ้าคณะแขวง (เจ้าคณะอำเภอศรีมหาโพธิ์) ได้รับฉายาว่าอาภัสสะโร

ท่านได้จำพรรษาและศึกษาพระธรรมพระวินัยอยู่กับพระอุปัชฌาย์ที่วัดสระข่อย (อยู่ใกล้สระมรกตประมาณ 2 กม.) เป็นเวลา 10 พรรษา โดยได้อยู่รับใช้ปฏิบัติพระอุปัชฌาย์พร้อมทั้งศึกษาวิชาต่างๆจากพระอุปัชฌาย์ จนเป็นที่รักและไว้วางใจยิ่งจากพระอุปัชฌาย์ ด้านการศึกษาธรรมะ หลวงปู่ได้เรียน นักธรรมชั้นตรีและสอบได้นักธรรมชั้นตรีในพรรษาแรกนี้เลย (พ.ศ. 2477) จากสำนักเรียนที่วัดของท่าน

พรรษาที่ 2 (พ.ศ. 2548) สอบได้นักธรรมโทพรรษาที่ 3 สอบได้นักธรรมเอก จะเห็นได้ว่าหลวงปู่ให้ความสำคัญต่อการศึกษามาก และหาได้ยากยิ่ง ที่พระภิกษุเรียนเก่งขนาดสอบได้ปีละชั้น ทั้งที่พรรษายังน้อย อายุแต่ 23 ปีเท่านั้น เมื่อท่านเรียนจบนักธรรมแล้ว พระอาจารย์ฉัตร วัดต้นโพธิ์ อันเป็นพระคู่สวดของท่าน ได้มาขอท่านจากพระอุปัชฌาย์ให้ไปช่วยสอนธรรมะที่วัดต้นโพธิ์ ท่านก็ไปช่วยสอนอยู่ระยะหนึ่ง พร้อมกันนี้ท่านได้ศึกษาวิชาบาลีมูลกัจจายน์และวิชาโหราศาสตร์สมุนไพรใบยา พร้อมวิชาคาถาอาคมต่างๆ ไปด้วย จนพรรษาพ้น 10 พรรษาแล้ว ท่านเห็นว่าได้ศึกษาวิชาการพอที่จะปกครองตนเองได้แล้วจึงกราบลาพระอุปัชฌาย์เพื่อออกธุดงค์แสวงวิเวก ประพฤติปฏิบัติธรรมไปในที่ต่างๆ โดยก่อนจากไป หลวงปู่ได้ขอผ้าจีวรจากพระอุปัชฌาย์ไปเพียง 1 ชุด พระอุปัชฌาย์ทั้งรักทั้งห่วงลูกศิษย์องค์นี้มากแต่เพื่ออนาคตของศิษย์ท่านอนุญาตให้ไปได้ โดยได้ยกผ้าครองให้ทั้งชุด หลวงปู่กราบลาพระอุปัชฌาย์อันเป็นที่เคารพยิ่ง พร้อมทั้งกล่าวว่า ผมไปแล้ว ผมจะไม่กลับมาอีก จะแสวงหาวิมุตติธรรมไปเรื่อยๆ

จนทุกวันนี้เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว หลวงปู่ก็ยังไม่ได้กลับไปวัดบ้านเดิมอีกเลย หลวงปู่ตัดสินใจเด็ดขาด สะพายย่ามแบกกลดเดินทางออกจากวัดไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น เช้าก็ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ หนทางสมัยก่อนยังไม่เจริญ เหมือนสมัยนี้ ต้องใช้เกวียนเป็นส่วนมากเดินทางธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะภาคอีสานหลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปจนทั่ว มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่เดินธุดงค์มาที่กรุงเทพฯแล้วแวะจำพรรษาที่วัดทางหลวง จ.นนทบุรี (ปัจจุบันไม่ทราบว่าเปลี่ยนชื่อเป็นวัดอะไร) พอดีช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นเข้ามาอยู่ในเมืองไทยมาก ทำให้ฝ่ายพันธมิตรซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา ได้มาทิ้งระเบิดแถวๆกรุงเทพและเขตปริมณฑลเป็นจำนวนมาก ที่ท่านอยู่ก็ใกล้กองกำลังญี่ปุ่นจึงพลอยฟ้าพลอยฝนโดนระเบิดหล่นใส่ใกล้วัดเป็นประจำ ชาวบ้านในเขตนั้นก็ย้ายอพยพไปอยู่ยังต่างจังหวัดกันเกือบหมด มีญาติโยมมาถามหลวงปู่ด้วยความเป็นห่วงว่า หลวงปู่ไม่ย้ายไปต่างจังหวัดหรือ? ไม่กลัวโดนระเบิดหล่นใส่หรือไง ? หลวงปู่บอกว่า คนเราเมื่อถึงที่ตายอยู่ตรงไหนก็ตาย ไม่มีใครหนีพ้นหรอก

ตอนที่เครื่องบินจะมาทิ้งระเบิด หวอก็เปิดดังสั่นไปหมด เพื่อให้คนหลบภัยในที่กำบัง หลายคนวิ่งเข้าวัดหลบในอุโบสถบ้าง ทั่วๆไปบ้าง แต่หลวงปู่กลับนั่งภาวนาอยู่บนศาลาเฉยๆ ไม่ไปหลบที่ไหน พระเณรอยู่ในวัดก็หลบกันหมด แต่เป็นที่น่าแปลกคือ ระเบิดที่มาทิ้งเที่ยวแล้วเที่ยวเล่ากลับตกแค่รอบๆวัดไม่ตกในวัดเลย(ทิ้งตอนกลางคืน) ระยะปลายๆ สงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ขึ้นอีสานแล้วกลับมาอยู่ที่ จ.ลพบุรี ที่ถ้ำพิบูลในปี พ.ศ. 2489 (พรรษาที่ 13) (ถ้ำพิบูลอยู่ใกล้วัดพระบาทน้ำพุ ที่ดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ในปัจจุบัน) หลวงปู่เรืองได้มาจำพรรษา ที่ถ้ำพิบูล 5 พรรษา ต่อมาทางทหารได้มานิมนต์ให้ท่านไปอยู่ที่วัดสร้างใหม่เป็นที่เจริญ และใหญ่โตกว่าที่เดิม อีกทั้งไม่กันดารเพราะที่ท่านอยู่นี้เป็นเขตของทหารและทหารซ้อมยิงอาวุธอยู่บ่อยๆ กลัวว่าจะเป็นอันตรายได้ อีกอย่างในหน้าแล้งกันดารน้ำมาก จึงขอให้ไปอยู่ที่วัดสร้างใหม่ “แต่หลวงปู่ไม่ไป กลับเก็บกลดสะพายย่ามธุดงค์เข้าป่าลึกไปเลย ท่านก็เดินธุดงค์อยู่ในป่าเดินตามหลังเขาไปเรื่อยๆ ไม่ยอมลงจากเขา จนมาพบ ถ้ำพระอรหันต์ที่เขาสามยอด (เมื่อ พ.ศ. 2493) หลวงปู่จึงตัดสินใจอธิษฐานจิตว่า จะไม่ไปไหนอีก จะอยู่จำพรรษาที่นี้ตลอดไปและจะไม่ลงจากเขานี้อีกด้วย ซึ่งเมื่อ 40 ปีกว่าก่อน ที่แถวๆนี้ยังมีเสือ มีช้าง และสัตว์ป่าชุกชุมอยู่รวมถึงไข้ป่ารุนแรงด้วย ในระยะแรกที่หลวงปู่อยู่ท่านไม่ลงไปไหนเลย รวมทั้งไม่ได้บิณฑบาตด้วย แต่ท่านก็อยู่ได้ ผู้เขียนได้สอบถามหลวงปู่ว่า 2 - 3 ปีแรก หลวงปู่ไม่ได้บิณฑบาตเลย อยู่องค์เดียวมาตลอด ไม่มีใครมาพบเห็นเลย หลวงปู่อยู่ได้อย่างไร? และฉันอะไร? จึงอยู่ได้

หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ฉันยอดไม้ใบไม้ โดยเฉพาะยอดโสม ซึ่งขึ้นอยู่บนเขามากมายก็ฉันมาตลอด อิ่มแทนข้าวก็อยู่ได้ ส่วนหน้าแล้งบนเขาไม่มีน้ำแล้วหลวงปู่เอาน้ำที่ไหนมาดื่มและมาสรง (อาบ) หลวงปู่บอกว่าก็ตัดเอาเถาวัลย์ให้น้ำไหลจากเถาวัลย์ เอากระติกรองแล้วนำมาฉัน วันละนิดเดียวพอแก้กระหาย เพราะอยู่ในถ้ำอากาศเย็นจึงไม่ต้องฉันบ่อยๆ ส่วนน้ำสรง ก็ไม่ต้อง เพราะอะไร เพราะเหงื่อไม่ค่อยออก กลิ่นตัวจึงไม่ค่อยมี ฝนตกทีก็ได้สรงกันที หลวงปู่อยู่ที่บนเขามา 48 ปีแล้ว โดยไม่ยอมลงไปไหน ระยะหลังค่อยดีขึ้นมาหน่อยเพราะมีผู้คนมาเจอท่านแล้วพากันบอกต่อๆไป จึงมีคนมากราบเยี่ยมเยียนบ่อยขึ้น พร้อมทั้งถังใส่น้ำ แต่ก็พอใช้ระยะหนึ่งเท่านั้น พอหน้าแล้งน้ำไม่ค่อยพอใช้เช่นเดิม ในปีที่ผ่านมามีพระเณรมาจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่อีก 2 รูป อีกทั้งมีสัตว์ป่ามาร่วมใช้ร่วมดื่มด้วย เช่น กระรอก กระแต นก สุนัข ไก่ป่า ฯลฯ ที่สำคัญมีลิง 2 ฝูงใหญ่ เป็นลิงป่าประมาณ 100 กว่าตัว จะมาทุกวัน วันละหลายๆหน จนเชื่องขนาดจัดเล่นได้เพราะฝูงลิงมาอาศัยบารมีหลวงปู่อยู่ตั้งแต่แรกที่ท่านมาอยู่ จึงเป็นภาระให้หลวงปู่พอสมควร ทั้งเรื่องอาหารและน้ำ ปัจจุบันหลวงปู่อายุได้ 94 ปี พรรษา 64 แต่ยังแข็งแรกมาก ฉันอาหารเพียงมื้อเดียวเท่านั้น โดยหุงกับหม้อดินแบบโบราณ ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงอาหารส่วนมากเป็นฝักที่ขึ้นอยู่ทั่วๆไป หลวงปู่ไม่ค่อยจะเจ็บป่วยอะไร ถ้าเจ็บป่วยก็จะเก็บสมุนไพรบนเขามาต้มฉันเอง เพราะหลวงปู่มีความรู้เรื่องสมุนไพรมากก่อนการเป็นอยู่ของหลวงปู่ง่ายๆ จะลำบากมาก ก็เรื่องน้ำในหน้าแล้งที่จะใช้เท่านั้น

ประสบการณ์ ต่อไปนี้เป็นเรื่องต่างๆ ที่ผู้เขียนได้ฟังจากปากหลวงปู่เอง รวมทั้งฟังเล่าจากคนอื่นๆ ที่ได้ประสบมาบุคคลที่เล่าให้ฟังนี้ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งพยานบุคคลและสิ่งของ ขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาเอาเอง โดยไม่ได้ลำดับตอนแต่อย่างใด เทวดานิมนต์ รับบาตรบนสวรรค์ หลวงปู่เล่าให้ พระมหาเสรี สารทโรและสามเณร สมพงษ์ ฟังเมื่อเดือน ก.ค.2538 ในขณะมาจำพรรษาอยู่ด้วย หลวงปู่เล่าว่า ตอนมาอยู่ที่ปูชนียธรรมสถานเขาสามยอด (ถ้ำพระอรหันต์) ก่อนเจอถ้ำนั้น ท่านเดินมาตามป่าไผ่ ไม้ไผ่ได้แตกดังลั่นมาตลอดทาง ดังโผละๆ ลั่นไปหมดจนถึงถ้ำ จึงหยุดแตก บนเขามีไม้ไผ่รวกเป็นจำนวนมาก ในสมัยนั้นยังเป็นป่าดงดิบอยู่ มีช้างป่า เสือโครง เสือลาย สัตว์ป่า ชุกชุมมาก หลวงปู่เล่าให้ฟังว่าครั้งหนึ่งได้มีรุกขเทวดามานิมนต์ไปบิณฑบาตบนสวรรค์ หลวงปู่ถามเทวดาว่าจะขึ้นไปได้อย่างไร ? รุกขเทวดาบอกให้เดินตาม แล้วเทวดาก็เดินนำหลวงปู่เดินตามไป หลวงปู่เล่าให้ฟังว่ามีความรู้สึกเหมือนตัวเบาเดินขึ้นทางต้นไผ่แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เป็นสถานที่สวยงามมาก ไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อน พอรับบาตรเสร็จก็เดินกลับ พอหันหลังกลับเท่านั้นมีความรู้สึกว่ายืนอยู่บนยอดไผ่แล้วยอดไผ่ค่อยๆโน้มยอดลงจนถึงดิน ก็เดินกลับถ้ำมาฉัน (ไม่ได้ถามหลวงปู่ว่า รสชาติเป็นอย่างไร) หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ที่เขาสามยอดสมัยก่อนนั้นมีถ้วยชามอยู่ในถ้ำมากมาย เวลาบ้านใครมีงานก็มายืมเอาไปใช้ ใช้เสร็จก็เอามาคืนในถ้ำ แต่ต่อๆมาชาวบ้านบางคนยืมแล้วคืนไม่ครบของเหล่านั้นเลยหายไปหมด วันดีคืนดี เช่น วันสำคัญๆทางพระพุทธศาสนา จะมีเสียงสวดมนต์บ้างเสียงฆ้อง เสียงระฆังบ้าง ดังมาจากบนเขา เรื่องนี้ผู้เขียนกับสามเณรก็เคยได้ยิน ผู้คนที่เคยไปอยู่ร่วมปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่อีกหลายท่านก็เคยได้ยินทั้งนั้น เช่น เมื่อเดือน ก.ค. 2538 ผู้เขียนและสามเณรได้ยินเสียงคนสนทนากัน เป็นเสียงผู้หญิงและผู้ชายชัดเจนตอนนั้นเป็นเวลาดึกในถ้ำมีผู้เขียนอยู่คนเดียวแต่มีหลายคนได้ยิน เรื่องดังกล่าวเคยเกิดมาแล้ว 2 ครั้ง เสียงสนทนาและเสียงดนตรีไทยดังอยู่สักครู่ก็หายไป นับเป็นเรื่องแปลกมาก

 

ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ได้เล่าให้ฟังว่า นอกจากมีคนลับแลมาหาท่านแล้ว ก็ยังมีพระหนุ่มมาหา คือ ขณะที่หลวงปู่นั่งอยู่ในถ้ำ ได้มีพระภิกษุหนุ่มรูปงามองค์หนึ่งมาหาท่าน แล้งนั่งสนทนาธรรมด้วยอยู่นาน จนเวลาพอสมควรจึงลาท่านกลับ แต่ขากลับนี้ได้เดินออกจากถ้ำหายไปเฉย ๆ โจรปล้นไม่ได้อะไร แต่กลับเป็นบ้า หลวงปู่ได้เล่าให้บรรดาลูกศิษย์ที่ขึ้นไปหาฟังกันหลายคน รวมทั้งผู้สื่อข่าว น.ส.พ.ไทยรัฐ ด้วย มีพยานบุคคลอยู่ในปัจจุบันนี้อีกมากมาย คือตอนที่ท่านอยู่บนเขา ระยะหลังมีคนมาพบเห็นท่าน แล้วนำไปบอกเล่าต่อๆ กัน จึงมีคนไปกราบท่านมากขึ้น พวกมิจฉาชีพนึกว่า ท่านมีปัจจัย(เงินทอง)มาก เลยขึ้นมาปล้นท่าน มาขโมยของท่าน ปล้นกันต่อหน้า โดยจับท่านมัดกับต้นไม้ แล้วใช้อาวุธจี้ขู่ แต่พวกโจรก็ไม่ได้อะไรไป เพราะท่านไม่มีสมบัติอะไรให้ จะมีก็แต่สบงจีวรบาตรกลดเท่านั้นที่ท่านมี เพราะหลวงปู่ไม่สนใจจะใช้เงินทอง อีกอย่างท่านไม่จับต้องเงินทองด้วยก็เลยทำให้พวกโจรผิดหวังไป

ทั้งหมดที่หลวงปู่เล่า โดนปล้น 4 ครั้ง โดนขโมยรื้อค้นอีหลายครั้ง แต่บาปกรรมย่อมไม่ปรานีใคร เพราะพวกที่ไปปล้นท่าน พอลงมาก็ทะเลาะกันเองฆ่ากันตายก็มี วิกลจริตเป็นบ้าเป็นกันทุกคน จนพวกญาติๆ ต้องพากันขึ้นไปขอขมาท่าน ท่านก็ไม่เคยถือสาอะไร อโหสิกรรมให้เสมอ ขึ้นเขาได้เร็ว สงสัยมีวิชาตัวเบา มีหลายๆคนที่โรงพยาบาลอานันทมหิดลและใกล้เคียงเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเคยใส่บาตรให้หลวงปู่บ่อยๆ พอใส่บาตรแล้ว ได้เดินตามหลวงปู่ขึ้นเขา แต่ก็ตามไม่ทัน คนแก่อายุขนาด 70-80 ปี เดินขึ้นเขาได้อย่างไร คนเป็นหนุ่มเป็นสาวยังต้องพักแล้วพักอีกตั้งหลายหน พอขึ้นไปถึงเขาหลวงปู่ก็ฉันอิ่มนานแล้ว พวกเขาถามหลวงปู่ว่า ขึ้นมาทางไหน ทำไมเร็วนัก หลวงปู่ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มๆหลายคนสงสัยว่าหลวงปู่มีวิชาตัวเบา หรืออาจจะมีความสามารถร่นระยะทางได้เป็นแน่ ผู้เขียนไม่กล้าวิจารณ์ ขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาเอาเอง ระเบิด ใส่ไม่เป็นอะไร มีอยู่ครั้งหนึ่ง ทหารกำลังซ้อมยิงปืนคอ อยู่ที่ตีนเขา ตอนสายๆนายทหารยกธงแดงขึ้น เตรียมพร้อมยิง ขณะนั้นพอดีหลวงปู่กำลังเดินลัดมาทางริมป่าพอดีแต่ทหารไม่เห็นหลวงปู่ จึงยกธงลง สั่งยิง พอยิงเสร็จทหารมองดูตรงบริเวณกระสุนตกและเห็นมีพระเดินอยู่ต่างตกใจตะโกนให้พระหลบแต่ช้าไปเสียแล้วกระสุนตกตรงพระพอดี เสียงระเบิด บึม ดังสนั่นหวั่นไหว ทหารตกใจวิ่งไปดู ฝุ่นตลบไปหมด พอเข้าไปใกล้ๆเห็นพระเดินต่อเฉยเลยไม่เป็นอะไร จึงเข้าไปกราบ แล้วถามว่าท่านมาจากไหนครับหลวงปู่ตอนนั้นยังหนุ่มมาก บอกว่า อยู่บนเขานี้เอง พร้อมกลับชี้มือไปบนเขาสามยอด แล้วก็เดินขึ้นเขาไป ทหารเก็บอาวุธเสร็จก็รีบวิ่งตามขึ้นเขา แต่ตามมาทัน เป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง ทุกวันนี้นายทหารท่านนี้ยังอยู่ที่ ร.พัน 31

ดูดวงได้แม่นยำมาก
มีอยู่วันหนึ่ง หลวงปู่กำลังเดินจงกรมอยู่หน้าถ้ำได้มีคณะศรัทธาจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาหา เห็นท่านกำลังเดินจงกรมอยู่ แต่ไม่รู้ว่าท่านกำลังทำอะไร จึงถามท่านว่า หลวงปู่กำลังหาอะไรอยู่หรือครับ? หลวงปู่ตอบว่า กำลังหาพุทธอยู่ หลวงปู่เป็นผู้มีเมตตามาก แต่ไม่ค่อยชอบวุ่นวายชอบอยู่เงียบๆ พูดน้อย ถามคำก็ตอบคำ ท่านดูดวงให้ทุกคนที่ไปหา หากต้องการ โดยดูให้ฟรี ไม่ต้องเสียอะไรทั้งสิ้น

จดหมายจากทหารไทย
ในสมรภูมิเวียดนาม เมื่อปี 2512 ถึง...พระอาจารย์เรือง เขาสามยอด จากค่ายแบล์แคทร์ เวียดนามใต้ 18 ส.ค. 12 นมัสการ มายังหลวงพ่อ จากกระผม ส.อ.ตาบ ทองสีขาว นับตั้งแต่กระผมได้มาพักและได้มาเยี่ยมหลวงพ่อแล้วกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อในเวียดนามอีก หลวงพ่อครับ บุญของผมแท้ๆบุญบารมี และอำนาจรัศมีของหลวงพ่อได้คุ้มครองตัวของกระผม คลาดแคล้วอย่างปาฏิหาริย์เลยครับ ผมปฏิบัติทุกอย่างที่หลวงพ่อให้กระผมไป กระผมจะขอเล่าให้หลวงพ่อฟัง ในวันนั้น กระผมกับลูกน้องของกระผมอีก 4 คน รวมกับผมด้วยเป็น 5 คน ทางกองพันออกคำสั่งให้ไปทำการกวาดล้าง ข้างคืนวันแรกก็ยังหลอกครับ พอวันรุ่งขึ้นตอนบ่ายๆ ซิครับ หมวดของกระผมขึ้นปีกซ้ายและหมู่ของกระผมซิครับ ขึ้นด้านซ้ายสุดและกระผมเป็นคนนำลูกน้องเป็นคนเดินหน้าเลยครับ จ๊ะกันตรงหน้าเลยครับ ห่างกันเพียง 4-5 วาเท่านั้น มันอยู่ในที่กำบังเป็นป่ามืดและทึบมาก และมีบังเกอร์อย่างแข็งแรก มันยิงผมด้วยปืนอาก้า 30 นัดก่อนเลย แต่คลาดแคล้วไม่ถูก ผิดหมด ถากไปหมด มีถูกอยู่นัดหนึ่ง แต่ไม่เข้า พอจุ่มๆหนังพอแตกเท่านั้น นอกนั้นก็ถากหมวกเหล็กไปเฉียดลำตัว และขาไปหมดเลยพร้อมทั้งหมู่บ้านด้วยในวันนั้น ในหมวดเดียวกับกระผมนี้ ในวันนั้นบาดเจ็บ 1 คน คือ ส.อ.ทองรัด คำศรีนิล อยู่ที่ผส.31 นี้และครับ อยู่ห่างมากอยู่ข้างหลังหมู่ของกระผมอีกตั้งไกล

สุดท้ายนี้กระผมไม่มีอะไรเล่าให้ฟังมีแต่คิดถึงหลวงพ่อเท่านั้น ด้วยความเคารพและบูชา ส.ต.ตาบ ทองสีขาว
จากค่ายแบร์แคทร์เวียดนามใต้
22 ก.ค. 12

ขอนมัสการมายังหลวงพ่อ
นับตั้งแต่กระผมได้มาพักแล้วกลับไปรู้สึกว่าหนักมากครับหลวงพ่อ ปะทะกันอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งมาถึงวันที่ 18 ก.ค. 12 เดือนนี้ กองร้อยได้ออกลาดตระเวนกวาดล้าง ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 12 เวลา 8 โมงเช้า จนถึง วันที่ 18 ก.ค. 12 เวลา 11 โมงเศษๆ ก็ได้เกิดปะทะกันขึ้น กระผมเป็นหมู่นำ ผมเห็นผิดสังเกตขึ้น ผงจึงสั่งลูกน้องให้รู้ตัว แล้วผมจึงตัดสินใจขึ้นหน้าลูกน้อง เดินต่อไปได้ประมาณ 50 เมตร ก็เกิดยิงกันในระยะนี้เอง ผมตกอยู่ในลงล้อมของข้าศึก มันยิงเอาผมเงยหัวไม่ขึ้นเลยครับ ผมยิงสู้อย่างไม่ลดละเลย มันรุมยิงผมตั้ง 7-8 คนแต่ผมก็ยิงมันบาดเจ็บไปเหมือนกันว่าเห็นเลือดหยดไปเป็นทางเลยครับ แต่ผมก็ถูกนิดหน่อย ถูกขาตรงน่องพอปริ่มๆกางเกงขาดเป็นรูเลยครับ และถากหมวกเหล็กผ้าพรางขาดเป็นรูไปเลยครับ ผมคิดว่ารัศมีของหลวงพ่อคุ้มครองผมไว้ แท้ๆ เลยครับ คลาดแคล้วอย่างปาฏิหาริย์เลยครับ

ทุกวันคืนผมท่องมนต์คำที่หลวงพ่อให้ไปและจะออกทำงานทุกครั้ง ผลระลึกถึงหลวงพ่ออยู่ทุกครั้งเลยครับ ผมปฏิบัติตามที่หลวงพ่อบอกทุกอย่างและเอาติดตัวอยู่ตลอดเวลาเลยครับ

สุดท้ายนี้ผมไม่มีอะไรจะเล่าให้ฟังนอกจากคิดถึงเท่านั้น และเดี๋ยวนี้หวังว่าหลวงพ่อคงสุขสบายเหมือนเดิม ด้วยความเคารพและบูชามา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ส.อ. ตาบ ทองสีขาว

 

​

 

ในสมัยสงครามเวียดนาม มีทหารคนหนึ่งไม่อยากไปรบ จึงมาหาหลวงปู่ ท่านเลยให้พระไป 1 องค์ พร้อมพระคาถา ทหารนายนั้นไปสงครามแนวหน้า หลังจากสงครามสงบก็ได้กลับมาหาหลวงปู่อีก เขาได้เล่าว่า ตอนออกไปรบด้วยกัน 40 กว่าคน ข้าศึกได้ซุ่มโจมตี พวกคนตกอยู่ในวงล้อมหลายวัน จนกระสุนหมด ทหารที่ไปด้วยเสียชีวิตทุกคนเขารอดตายมาได้เพียงคนเดียว กลับมาก็ขึ้นมากราบหลวงปู่เลย ทหารท่านนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ได้ปลดเกษียณแล้วย้ายไปอยู่ที่ไหนไม่ทราบ แต่จะมาหาหลวงปู่บ่อยๆ

หลวงปู่ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า มาอยู่บนยอดเขาได้ประมาณ 10 ปี (พ.ศ. 2502) เกิดอาพาธด้วยไข้ป่า อาการหนักมาก นอนซมอยู่แต่ในถ้ำไปไหนไม่ได้เลยเป็นอยู่หลายวันอาการมีแต่ทรงกับทรุดลงเรื่อยๆบางครั้งหนักขนาดลุกไปไหน

ไม่ได้เลย หลวงปู่คิดไปว่า คราวนี้คงไม่รอดแน่แล้ว เพราะยาสมุนไพรที่ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ต่างๆ ตอนเดินธุดงค์ หลวงปู่เก็บมาต้มฉันหลายขนานแต่ก็ไม่หายเห็นว่าไม่ไหวแน่แล้ว จึงนึกถึงครูอาจารย์ของท่านแล้วกำหนดจิต

อธิษฐานว่า หากจะมรณภาพที่นี้ด้วยพิษไข้ป่า ก็ขอให้ละสังขารโดยสงบลงไปเดี๋ยวนี้เลยแต่ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็ขอให้หายไปโดยไว ด้วยบารมีธรรมของท่าน ที่สั่งสมมาแต่ในทางที่ดี ตั้งแต่บวชมา หลวงปู่อธิษฐานจิตได้ไม่นานก็มีเรื่อง

แปลกเกิดขึ้น นั้นคือแรงอธิษฐานของท่านได้ร้อนถึงรุกขเทวดา (เทวดาที่อยู่ตามเขาตามถ้ำ ตามต้นไม้) ต้องลงมาช่วยรักษาท่าน หลวงปู่เล่าว่า ในเวลาบ่ายของวันนั้นเองได้มีหญิงสาวรูปร่างสวยงามมาก มาร้องเรียกท่านที่หน้าถ้ำท่าน

จึงลุกขึ้นนั่ง แลเห็นหญิงสาวคนนั้น หลวงปู่เล่าว่าสวยงาม ท่าทางเรียบร้อย นุ่งห่มเหมือนคนในวังพูดจาไพเราะชวนฟังอย่างยิ่ง พอเข้ามากราบหลวงปู่เสร็จ ก็สนทนากับหลวงปู่ว่า หลวงปู่ไม่สบายหรือคะ หลวงปู่ตอบว่า ไม่สบายมา

นานแล้วทานยาเท่าไรก็ไม่หายเสียที หญิงสาวบอกว่า เห็นหลวงปู่ไม่สบายมาหลายวันแล้ว เลยวันนี้มาเยี่ยมและเอายามาให้ พร้อมกันนั้นก็เอายา ซึ่งเป็นห่อประเคนหลวงปู่ และบอกว่าทานยานี้โดยเอาต้มแล้วทานวันสองวันก็จะหาย

พร้อมกันนั้นได้บอกตัวยาด้วย ซึ่งหลวงปู่ได้จดเอาไว้ (และผู้เขียนได้ลอกลงไว้ ณ ที่นี้ด้วยแล้วพร้อมพระคาถาเพิ่มนิมิต) หลวงปู่ได้สนทนากับหญิงสาวนั้นว่า รู้ได้อย่างไรว่าอาตมาไม่สบาย หญิงสาวตอบว่า เห็นว่าไม่สบายมาหลายวัน

แล้ว หลวงปู่ถามว่าเห็นได้อย่างไร? บ้านอยู่ที่ไหน? หญิงสาวตอบว่า ก็เห็นอยู่ในถ้ำนี้ บ้านก็อยู่บนเขานี้แหละ หญิงสาวยังบอกอีกว่า เห็นหลวงปู่ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่ที่นี้แล้ว หลวงปู่จะถามต่อ ก็พอดีหญิงสาวคนนั้นบอกขอตัวกลับ

ก่อนกราบลง 3 ครั้ง แล้วเดินออกจากถ้ำไป หลวงปู่ก็ยังงงๆอยู่ หันมามองห่อยาแล้วหันไปที่หญิงสาวอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว หลวงปู่จึงรู้ว่าเป็นรุกขเทวดาเอายามาให้ท่านแน่ จึงนำยาไปต้มฉันตามที่รุกขเทวดาแนะนำ

ฉันยาได้สองวัน โรคไข้ป่าก็หาย จนทุกวันนี้หลวงปู่ไม่ป่วยหนักอีกเลย เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว เรื่องของรุกขเทวดามาปรากฏนี้ เป็นเรื่องปัจจัตตังคือพบเองเห็นเอง จะเข้าใจเอง

ยาเทวดา ยาอายุวัฒนะ
ท่านให้เอาดอกจัน 1 บาท พระวาน 1 บาท กานพูล 1 บาท สมุลแว้ง 1 บาท มหาหิงคุ์ 1 บาท ชะเอมเทศ 1 บาท ลูกจันทร์ 1 บาท พริกไทยร่อน 1 บาท หัสคุณเทศ 1 บาท ยาทั้ง 9 อย่างนี้ หนักเท่าๆกัน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้ง รับประทาน

ก่อนเข้านอน ขนาดปลายนิ้วก้อย รับประทาน 1 เดือน โรคภัยไข้เจ็บจะหายหมด กลับเป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นทานแก่บุคคลที่อ่อนเพลีย ตำรานี้ได้มาจากหลงปู่เรือง ถ้ำพระอรหันต์ เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี

ธรรมะเพิ่มพลังจิต เกิดเทพนิมิตพุทธอิทธิฤทธิ์คุ้มครอง
คาถาของ หลวงปู่เรือง ถ้ำพระอรหันต์ เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี

​

 

ขอกับผ้ายันต์แดงครูบาเที่ยงธรรม ถูกเลขท้าย 3 ตัว

​

 

ท่านที่สนใจเช่าบูชาผ้ายันต์แดงครูบาเที่ยงธรรม ติดต่อหาผมได้ครับ 081-2670895

ให้บูชาที่ 3,900 บาท

 

​

ช่วงเกิดวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งที่ยังตามหลอกหลอนจนถึงทุกวันนี้ธุรกิจใหญ่น้อยล้มระเนระนาด ทรัสต์เจ๊งธนาคารล้มโรงงานปิดตัวเจ้าของกิจการฆ่าตัวตายคนตกงานเดือดร้อนกันทุกย่อมหญ้า บางคนใจสู้หน่อยก็ยอมลดตัวลงมาค้าขายตามชุมชนและตลาดต่างๆ คุณศิวัฒน์เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็มาทำแซนวิสเดินเร่ขายเองย่านสีลมส่วนคนที่ทุนน้อยก็นำทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งใหม่และเก่านำมาขายตามตลาดนัดเล็กๆจนเกิดเป็นธุรกิจใหม่ที่เรียกในปัจจุปันว่า.."เปิดท้ายขายของ"เพื่อเอาตัวรอดในช่วงนั้นไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง..
ผมเองก็ได้รับผลกระทบมากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำในตอนนั้นล้มลงเงินลงทุนเกือบร้อยล้านละลายหายไปกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแถมยังเป็นหนี้สถาบันการเงินต่างๆอีกแปดสิบกว่าล้านกลุ้มใจหาทางออกไม่เจอชีวิตมีแต่ความทุกข์หมดที่พึ่งจะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้ด้วยความที่เป็นคนชอบทำบุญจึงเริ่มเดินทางไปกราบพระอริยสงฆ์ทั่วประเทศทั้งวัดป่าสายปฏิบัติและพระเกจิอาจารย์ดังๆแบบที่เรียกว่า"ค่ำไหนนอนนั่น"ใกล้ที่ไหนนอนที่นั่นในปั๊มน้ำมัน ศาลาวัด ศาลาริมทาง สวนสาธารณะที่ปลอดภัยใกล้ๆชุมชนจนได้พบพระเหนือโลกยุคนั้นมากมายและเป็นที่มาของ #พระเหนือโลกในวันนี้

ภาพของครูบาอาจารย์ที่ทรงจิตทรงธรรมมีเมตตาทุกครั้งที่ได้กราบไหว้ทำบุญท่านมักจะมอบวัตถุมงคลให้พร้อมกับให้ศิลให้พรให้ร่ำรวยโชคดีมีความสุข(ทุกองค์จะให้พรเหมือนกัน) เช่นหลวงปู่หมุนท่านให้ปลัดขริกที่ท่านแกะเองจากไม้คูนพร้อมกับให้พรว่า"กลับไปรวยๆเด้อ"

หลวงปู่เที่ยงธรรมมอบผ้ายันต์แดงพร้อมปลัดขริกแล้วกำชับว่า"เอาติดตัวไปเรียกเงินเรียกทองร้อยล้านพันล้าน"ยังดังก้องหูจนทุกวันนี่ หลวงปู่อิงจับหัวแล้วเป่าจนเย็นวาบเหมือนโดนน้ำแข็งแล้วบอก"ทำอะไรให้สำเร็จสมความปรารถนาทุกอย่าง" หลวงปู่ละมัยให้ปรอทที่ท่านหุงกับมือแล้วบอก"เอาไปชนะจนชนะให้ทั่วจักรวาล" หลวงปู่กองวัดสระมณฑลลงนะด้วยแป้งที่หน้าแล้วบอกว่า"ต่อไปเอ็งจะเป็นที่รักใคร่ใครเห็นใครรักครูบาอาจารย์จะเมตตา หรือแม้แต่หลวงปู่สรวงเทวดาเดินดินยังเอาขวดน้ำเปล่าตีหัวไล่เคราะห์ร้ายทุกข์โศกโรคภัยพร้อมทั้งให้หวยที่ท่านเขียนกับมือตัวเองสามตัวตรงๆเลย...

ความเดือดร้อนจากวิกฤติต้มยำกุ้งทำให้เห็นถึงทางออกทางใจของคนที่เดือดร้อนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือที่พึ่งทางใจ พุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณ และวัตถุมงคลที่อริยะสงฆ์ผู้มีอภิญญาร่วมกันอธิฐานจิตปลุกเสกให้เกิดความศักดิสิทธิมีอิทธิฤทธิช่วยเหลือให้มีโชคลาภโภคทรัพย์หนุนดวงเสริมบารมีให้เกิดความสำเร็จร่ำรวยตามวาสนาบารมีอันจะเป็นกำลังสืบสานค้ำจุนศาสนาให้ครบห้าพันปีตามพุทธทำนายและก็เป็นจริงตามที่ตั้งใจวัตถุมงคล..รุ่นรวยทันใจ..ได้สร้างปาฏิหารย์ตั้งแต่เริ่มต้นหลังพุทธาภิเษกเสร็จให้โชคลาภร่ำรวยทันทีกับเลขร.ศ.218ร่ำรวยทั่วหน้าทันทีหลังจากนั้นวัตถุมงคลรวยทันใจได้สร้างปาฏิหารย์มากมายแก่คนบูชาพลิกดวงจากคนไม่มีอะไรกลายเป็นเศรษฐีมากมายจากร้ายกลายเป็นดีจนกลายเป็นวัตถุมงคลแห่งยุคดิจิตอลอีกทั้งมีราคาแพงจนเกินความสามารถที่คนยุคหลังที่ศรัทธาหลวงปู่หมุนจะหามาบูชาได้ในปัจจุปัน
#จากวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุปันนี้ทำให้ย้อนกลับไปมองอดีตและบาดแผลที่เจ็บปวดของวิกฤติต้มยำกุ้ง

เครดิต : รวยทันใจแรงบันดาลใจหลังเกิดวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งปี2540

 

การขอขมาและอธิษฐานให้ได้พบเจอคู่ครอง

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำ สัญญา เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้ ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิต อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้

( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ )

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

"หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดี อโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร"

 

​

 

ท่านที่อยากเป็นเพื่อนกับผม ก็สามารถคุยกันได้ที่ไลน์นะครับ

Line ID : metharung

 

หลายปีก่อน เริ่มใช้ FACEBOOK ปัจจุบันก็นิยมใช้อีกอย่าง ก็คือ Line

LIne ก็มีความสะดวกหลายอย่าง เช่น ถ่ายรูปได้ แชร์วีดีโอได้ โทรคุยฟรีได้

 

​

 

​