ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fenómenos Naturales

    โรมาเนีย - ช่วงเวลาแห่งการถล่มที่ส่งผลกระทบต่อ 20 ครอบครัวจาก 150 ครอบครัวใน Azuga ในปรากวันนี้ 10 เมษายน

    ใน Azuga 20 ครอบครัวจากหมู่บ้านในปรากถูกอพยพเนื่องจากการถล่มครั้งใหญ่

    แผ่นดินถล่มเกิดขึ้นในเมือง Prahovean ...

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fenómenos Naturales

    โรมาเนีย - ดินถล่มในเมือง Azuga วันนี้ 10 เมษายน

    แผ่นดินถล่มยังไม่ถึงบ้าน แต่มีผู้อพยพ 20 ครอบครัวเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ว่าแผ่นดินถล่มจะดำเนินต่อไปและส่งผลกระทบต่อบ้าน จากข้อมูลแรกปรากฏว่า Azuga ได้รับผลกระทบ หน่วยงานท้องถิ่นจะจัดทำที่พักอาศัยสำหรับครอบครัวอพยพ

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fenómenos Naturales

    โรมาเนีย - ดินถล่มยังคงดำเนินต่อไปหลังจากรายงานครั้งแรกในเมือง Azuga วันนี้ 10 เมษายน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fenómenos Naturales

    โรมาเนีย - ดินถล่มยังคงดำเนินต่อไปในเมือง Azuga ในวันนี้ 10 เมษายน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fenómenos Naturales

    สหรัฐอเมริกา - เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงในบ่ายวันศุกร์นี้ที่สถานีไฟฟ้าในเมืองเบอร์แบงก์, แคลิฟอร์เนียวันที่ 10 เมษายน

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โคโรน่าไวรัสลงเรือรบที่ฝรั่งเศส

    หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน มีข่าวนาวิกโยธินสหรัฐ เกือบร้อยติดเชื้อ Covid-19 บนเรือรบ ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลท์ จนต้องทิ้งสมอ จอดกักโรคกันที่เกาะกวม มาคราวนี้ ไวรัสโคโรน่าบุกไปโจมตีเรือรบของฝรั่งเศสจนแตกพ่าย ต้องรีบถอยเรือกลับท่าทันทีเหมือนกัน

    เรือรบที่ต้องจบศึกในครั้งนี้ คือ เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ชารล์ เดอ โกล ที่กำลังแล่นอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติค พร้อมทหารเรือกว่า 1,760 นาย

    แต่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มีทหารเรือราว 40 นาย เริ่มมีอาการติดเชื้อไวรัส

    เท่านั้นแหละ กระทรวงกลาโหมสั่งระงับการเดินทาง รีบส่งทีมแพทย์เข้าไปตรวจเชื้อ จากผลตรวจก็พบทหารเรือติดเชื้อ Covid-19 ถึง 50 นาย และมี 3 นายต้องถูกส่งตัวด่วนทางเครื่องบิน ไปเข้าโรงพยาบาลทหารที่เมืองตูลงทันที

    เมื่อเป็นเช่นนี้ เรือรบหรู ชาร์ล เดอ โกล จึงต้องยุติปฏิบัติการ หันหัวเรือกลับฐานทัพเรือเมืองตูลง ก่อนกำหนดการณ์เดิมเกือบ 2 สัปดาห์

    แต่ในระหว่างที่เดินทางกลับ ลูกเรือที่เหลืออยู่ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน และยังต้องมาลุ้นกันอีกว่า กว่าจะกลับถึงท่า จะมีใครติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกหรือเปล่า

    ยังเป็นปัญหาต่อเนื่อง กับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าตัวนี้ แม้แต่ในกองทัพเกรียงไกร ยังต้องแตกพ่ายเมื่อต้องสู้ศึกกับศัตรูที่มองไม่เห็นตัวในครั้งนี้ จนกว่าเราจะพบยาต้าน หรือวัคซีน ที่พอจะรับมือกับมันได้บ้างนะคะ

    แหล่งข้อมูล
    https://www.aljazeera.com/news/2020...-aboard-aircraft-carrier-200410115829402.html

    https://www.thedefensepost.com/2020/04/08/french-aircraft-carrier-charles-de-gaulle-coronavirus/

    https://www.straitstimes.com/world/...d=20&cx_testVariant=cx_1&cx_artPos=5#cxrecs_s

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวญี่ปุ่นโวย นี่กักตัวโควิดหรือศูนย์รวมโฮมเลส !!
    ส่องมาตรการการกักตัวของสนามบินนาริตะ ถ้าบินมาญี่ปุ่นตอนนี้จะต้องเจออะไรบ้าง !?
    .
    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าตอนนี้ใครคิดจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเนี่ย ไม่ได้ละนะ เพราะเขายกเลิกวีซ่าชั่วคราวไปแล้ว คนที่จะบินเข้าญี่ปุ่นตอนนี้ได้ก็คือคนญี่ปุ่น รวมถึงต่างชาติที่มีความจำเป็นต้องเข้าประเทศ มีบัตรไซริว ฯลฯ รายละเอียดว่าใครเข้าได้ไม่ได้นี่ลองติดตามในเว็บสถานทูตเอาเน้อออ
    .
    วันนี้เลยจะมาเล่าเรื่องถ้าใครเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะตอนนี้จะต้องเจออิหยังบ้าง
    (แปลรวมๆมาจากบล็อคของคนเวียดนามกับคนญี่ปุ่นที่กำลังถูกกักตัวอยู่ที่นาริตะนะครับ)
    .
    1. ขั้นแรกเลย พอเครื่องลงจอด ก็จะต้องนั่งค้างเติ่งอยู่ในเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ไม่ต้องกลัวเหงา เพราะในระหว่างนี้จะมีเอกสารกองมหึมามาให้กรอก (ข่าวเขาบอกว่าเอกสารภาษาญี่ปุ่นล้วนๆนะ คันจิมาเป็นพรืด เพราะตอนนี้คนที่เข้าญี่ปุ่นก็ต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นพอสมควรมั้งงงงง) เอกสารก็เป็นพวกประวัติ แล้วก็ใบยินยอมให้ตรวจสอบไวรัส **ตอนนี้ใครที่ลงเครื่องที่นาริตะเขาจะจับตรวจไวรัสทุกคนนะครับ**
    .
    2. พอกรอกเสร็จ รอเขาปล่อยตัว ก็จะค่อยๆเดินออกมา ก่อนถึงตรวจคนเข้าเมืองก็จะมีบู้ทพิเศษเป็นบู้ทเก็บตัวอย่างเพื่อเอาไปตรวจเลย โดยใช้ก้านสำลีแยงๆเข้าไปในจมูก ห้ามเผลอจามใส่หน้าเจอหน้าที่เด็ดขาด -*- ซึ่งผลการตรวจจะต้องรอ 1-2 วัน พอแหย่จมูกเสร็จแล้วก็เดินไปผ่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า ผ่านด้านศุลกากรอะไรตามปกติ
    .
    3. หลังจากผ่านออกมาแล้ว เขาก็จะให้กักตัวที่นี่เพื่อรอผลตรวจ (ผลตรวจต้องใช้เวลา 1-2 วัน) เขาบอกมีทางเลือก 2 ทางคือโรงแรมใกล้สนามบินที่เขาจัดไว้ให้ (จ่ายเงินเพิ่มเอง) กับห้องพักรวม แต่คือว่าโรงแรมแม่มเต็มตลอดเวลาจ้าาาา ส่วนใหญ่เลยได้พักห้องรวมกันหมด
    เขาก็จะกวาดตอนขึ้นรถบัสไปที่ห้องพัก มีอาหารว่างแจก เป็นขนมกล่องๆนู้นๆนี่ๆเหมือนที่เรากินตอนพักเบรคประชุมไม่ก็งานศพอะ แต่เขาบอกว่าอร่อยอยู่นะอาจจะเพราะหิว 555
    .
    4. แต่พอไปถึงที่พักรวมนี่คือความพีคที่แม้แต่ชาวญี่ปุ่นยังตกตะลึง พร้อมกับด่าว่านี่มันอิหยังเดสก๊ะ ?
    เพราะอิห้องพักรวมนี่มันก็คือบริเวณที่รับกระเป๋าที่ดัดแปลงมาเป็นห้องพัก ที่นอนนั้นสร้างจากอุปกรณ์ทันสมัยนาโนเทคโนโลยีสไตล์ญี่ปุ่นนั่นก็คือ ... กระดาษลัง ...
    เอ่อ ... อ่านไม่ผิด กระดาษลังแบบลุงโฮมเลสเนี่ย !! เขาเอากระดาษลังมาดัดแปลงเป็นเตียงนอนให้ ดูไม่ค่อยแข็งแรง แต่ก็แข็งแรงกว่าที่คิดนะ จริงๆตอนเกิดภัยพิบัติแล้วต้องอพยพไปรวมกันบางที่ก็มีการใช้กระดาษลังมาทำเตียงแบบนี้เหมือนกัน แม้จะดูอนาถาเหมือนลุงโฮมเลส แต่เขามีฟุตงเป็นที่นอนปูๆให้
    .
    ในข่าวบอกว่าที่นอนดีนะ นอนสบาย แต่หนาวชิบหาย จากไม่ป่วยกรูจะป่วยเพราะที่กักตัวของเอ็งเนี่ย !! (ว่าแต่ตรวจรับตัวอย่างไปก่อนแล้วก็เอาคนไปอยู่รวมกัน ถ้าในนั้นมีคนที่ติดเชื้อ มันไม่ติดกันไปทั้งห้องละเรอะ !?)
    .
    5. นอนในกระดาษลัง 1-2 วัน รอผลการตรวจออก
    ถ้าผลออกมาเป็นลบ คือไม่ติดเชื้อ ก็จะให้กลับบ้านไปกักตัวเอง 14 วันที่บ้าน เขาบอกว่าตรงจุดนี้ไม่มีใครตามดูแล้ว ก็ให้กรอกข้อมูลที่อยู่อะไรไปแค่นั้น แต่คือการจะออกจากห้องกักตัวนี่ได้มีแค่ 2 ตัวเลือกคือ
    ***ต้องให้คนมารับหรือเช่ารถขับไปเองเท่านั้น***
    ห้ามใช้ขนส่งสาธารณะเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถบัส หรือจะโชว์รวยนั่งแท๊กซี่ก็ห้าม แม้แต่จะต่อเครื่องบินในประเทศก็ไม่ได้ เช่นบ้านอยู่อาโอโมริ ก็ไม่สามารถต่อเครื่องไปลงอาโอโมริได้ ต้องให้ที่บ้านขับรถมารับจากอาโอโมริ ไม่ก็เช่ารถขับไปเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องตลกเพราะเขาบอกว่าตอนนี้รถเช่าจากสนามบินเขาบอกว่าเต็มไปแล้วล่วงหน้า 2 สัปดาห์แล้วเพราะคนเช่าขับกลับบ้านเนี่ย
    .
    ดังนั้นใครที่ไม่มีคนขับรถมารับก็จะต้องพักโรงแรมใกล้ๆเป็นเวลา 14 วัน ถึงจะใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อกลับบ้านได้ (ออกเงินเอง) เป็นอันจบพิธี
    .
    สรุปก็คือที่ให้กักตัวในกระดาษลังนี่คือให้อยู่รอฟังผลตรวจเฉยๆนะ (1-2 วัน) ซึ่งก็เอามารวมๆกัน ใครไม่ติดมันก็จะมาติดตอนนี้แหละ หลังจากนั้นก็ให้กลับไปกักตัวที่บ้านกันอยู่ดี ไม่ได้มีการบังคับให้กักตัว ไอ้การกักตัวที่บ้านนี่ก็กลายเป็นเรื่องของจิตสำนึกของแต่ละคนไปแทน
    .
    แต่ข้อดีก็คือจะมีไข้ไม่มีไข้เขาก็จับตรวจหมดทุกคนนะ ก็คงคัดกรองไปได้ส่วนหนึ่ง หรืองบอาจจะใช้ไปกับการตรวจทุกคนหมดแล้ว เลยเหลือแค่กระดาษลังอันนี้ก็ไม่รู้นะ แต่ก็ต้องรับสภาพกันไปแหละ ช่วงนี้ลำบากกันทุกประเทศ
    .
    ข่าวและภาพจาก : kazuki01282000 , wasabi1094

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนจีนในญี่ปุ่นโวยว่าญี่ปุ่นเหยียดจีนเรื่องไวรัส ด้วยการขึ้นป้ายว่าไวรัสมาจากจีน
    แต่ชาวญี่ปุ่นสวนทำไมเรียก Spanish flu ไม่เป็นการเหยียด แต่พอบอกไวรัสจากจีนถึงเป็นการเหยียด?
    .
    วันนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนกันพอสมควร ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านนะฮะ
    เรื่องของเรื่องก็คือที่ร้านยามาดะเดนกิ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังของญี่ปุ่น (ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ก็มีขายของหลายอย่างเหมือนห้างสรรพสินค้าอะนะครับ) เขาขึ้นป้ายไว้ตรงแผนกยาเป็นสามภาษา ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ ใจความก็ประมาณว่า
    .
    "เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
    ทำให้ผลิตสินค้าพวกหน้ากากอนามัยและของที่เกี่ยวข้องไม่ทันมาวางขาย ต้องขออภัยด้วย"
    .
    ซึ่งตีลังกาอ่านยังไงก็ดูปกติไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพียงแต่ทว่ามันมีประเด็นตรงท่อนภาษาญี่ปุ่นของใบประกาศมันเขียนยาวกว่าของภาษาจีนและอังกฤษ ถ้าใครอ่านภาษาญี่ปุ่นออกก็คงจะเห็นตั้งแต่คำแรกของประกาศเลย ว่าตรงท่อนภาษาญี่ปุ่นมันเขียนขยายความไวรัสมากกว่าเวอร์ชั่นภาษาอื่นๆว่า
    .
    "เนื่องจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดมาจากประเทศจีน ...."
    .
    ซึ่งการเขียนป้ายนี้ก็ทำให้คนจีนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น (และอ่านญี่ปุ่นออก) เกิดไม่พอใจเป็นอย่างมากและมาโพสลงทวิตเตอร์เป็นภาษาญี่ปุ่นว่าทำไมร้านยามาดะเดนกิถึงต้องมาเขียนเหยียดกัน เมิงกล้ามากนะ อยากจะทะเลาะกับคนจีนใช่ไม๊ นี่มันเป็นเจตนาเหยียดชัดเจนเพราะในภาษาจีนและภาษาอังกฤษไม่มีคำนี้ แต่ดันเขียนไว้แต่ในภาษาญี่ปุ่น ร้านยามาดะควรออกมาขอโทษต่อคนจีน และเขาจะแบนร้านยามาดะเดนกิและไปซื้อของจากโยโดบาชิคาเมร่าแทนแม่มเลย
    .
    แต่ผลปรากฎว่านายคนนี้โดนชาวเน็ตญี่ปุ่นเข้ามายำเละเทะเลยแฮะ ความเห็นของคนญี่ปุ่นคือมันไม่ใช่การเหยียด แต่มันคือการอธิบายความจริง คนจีนก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ใช่ป่ะว่าไวรัสมันมีที่มาจากจีน หรือจะบอกว่าอู่ฮั่นไม่ใช่จีน ยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงตรงนี้ได้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการเรียกชื่อไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish flu) กรณีนี้ร้านยามาดะไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เพราะปกติการติดประกาศในญี่ปุ่นก็จะเขียนละเอียดอยู่แล้วถ้าเขียนสั้นๆห้วนๆมันจะไม่สุภาพตามวัฒนธรรมญี่ปุ่น ส่วนที่ในภาษาจีนและภาษาอังกฤษไม่ได้เขียนเอาไว้มันก็เป็นเรื่องปกติเพราะเขียนสั้นๆให้ได้ใจความก็พอ บางคนก็หนักหน่อยด่าแรงเลย แบบว่า เอ็งไม่ต้องไปซื้อโยโดบาชิคาเมร่าหรอก กลับบ้านเอ็งไปเลยไป กรูรำคาญคนจีนในญี่ปุ่นเต็มแก่แล้วโว้ย
    .
    เอาจริงเรื่องนี้ผมก็พยายามจะเข้าใจทั้งสองฝั่งนะ ฝั่งญี่ปุ่นเขาก็มองในแง่ของว่ามันคือความจริงคือข้อเท็จจริงจะไปปฏิเสธมันทำไม
    ส่วนทางฝั่งคนจีนก็อาจจะมองว่าญี่ปุ่นตั้งใจเหยียดคนจีนแน่นอน ...
    .
    มองกลับมาเมื่อก่อนเราก็เรียกชื่อของโรคต่างๆตามต้นกำเนิดของมันเช่นไข้หวัดใหญ่สเปน หรือหัดเยอรมัน อันนี้ก็เรียกันเป็นปกติไม่ได้มีการมองเรื่องการเหยียดกันเท่าไร แต่พอพูดว่าไวรัสจีน หรือไวรัสอู่ฮั่น คราวนี้กลับกลายเป็นการเหยียดไปทันที ทั้งนี้คงเป็นเพราะกระแสเรื่องต่อต้านการเหยียดทั้งสีผิวเชื้อชาติมันมีมากขึ้นในช่วงหลังล่ะมั้งนะ แต่กรณีนี้จะมองว่าเป็นการเขียนเพื่อขยายความก็พอได้ล่ะมั้งนะ
    .
    เรื่องนี้ถ้าถามความเห็นผม มันเป็นความจริงแหละแต่เอ็งก็ไม่ต้องเขียนลงไปก็ได้นี่นา เครียดกับไวรัสก็พอแล้วไม๊ ต้องมาทะเลาะกันเรื่องอื่นอีก
    .
    ปล. คนญี่ปุ่นเขาก็ยังไม่ค่อยเรียกโรค Covid19 กันเหมือนบ้านเรา เขานิยมเรียกไวรัสโคโรน่ากัน โรคติดไวรัสโคโรน่ามากกว่าเพราะมันออกเสียงง่ายตามหลักภาษาญี่ปุ่น
    .
    ข่าวจากทวิตเตอร์ ZhengYa78123660

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Wudhichai Maitreesophone

    มหาวิบัติภัยจากโคโรน่าไวรัสถล่มโลก ยังดำเนินต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเมื่อใด วันนี้ภูเขาไฟ ใน Iceland เกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างเกาะกรีนแลนด์ กับตอนเหนือของทวีปยุโรป (นอร์เวย์) ภูมิอากาศจะหนาวมากๆ เพราะอยู่ใกล้วงกลม Arctic Circle ภูมิอากาศที่เกาะ Iceland จะเรียกว่าภูมิอากาศแบบ Subarctic Climate ซึ่งภูเขานี้ ไม่เคยแสดงตัวว่าเป็นภูเขาไฟมายาวนานถึง 800 ปีแล้ว ก็เกิดปะทุขึ้นอีกในปีนี้

    นักวิทยาศาสตร์เตือนถึงเมืองที่อยู่ใกล้ๆ ให้ระมัดระวังอันตราย เพราะเมื่อราว ระหว่างปี 1210 - 1240 ได้เกิดระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้ และได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบราว 50 ตารางกิโลเมตร และปัจจุบันได้มีการใช้ความร้อนใต้ภิภพแห่งนี้ ในการผลิตไฟฟ้าอยู่ด้วย การระเบิดครั้งอาจจะเป็นการระเบิดที่รุนแรง และเป็นอันตรายต่อเมืองที่อยู่ใกล้ๆ ได้ จึงขอให้ระมัดระวังที่สุด

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Wudhichai Maitreesophone

    แค่โคโรน่าไวรัสเรื่องเดียว ก็เจ็บป่วย และตายเป็นอันดับ 1 ของโลกไปแล้ว ยังจะท้ารบกับซาอุดิอาระเบียเพิ่มเข้ามาอีก ประเดี๋ยวก็มีเรื่อง ยุ่งกันใหญ่พอดีกัน

    ท่านวุฒิสมาชิก Kevin Cramer ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกจากรัฐหลุยเซียน่า พรรครีพับลิกัน ซึ่งหลุยเซียน่าเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ยื่นกฎหมายต่อรัฐสภา เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐต้องถอนทหารอเมริกัน และยุทโธปกรณ์ที่อยู่ในซาอุดิอาระเบีย ออกมาให้หมดภายใน 30 วัน ในกรณีที่ซาอุดิอาระเบีย ไม่ยอมลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง และส่งออกน้ำมันราคาถูกออกมาตีตลาดน้ำมันของสหรัฐที่มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า

    วุฒิสมาชิก Kevin Cramerกล่าวว่า เศรษฐกิจ ความมั่นคง ระบบสวัสดิการของสหรัฐ โดยเฉพาะในรัฐหลุยเซียน่า ได้รับความกระทบกระเทือน จากการดั้มพ์น้ำมันราคาถูกออกมาตีตลาดน้ำมันของเรา และที่สำคัญสหรัฐได้ใช้จ่ายงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี ในการปกป้องประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และรักษาความปลอดภัยเส้นทางขนส่งน้ำมันให้แก่ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน บัดนี้ถึงเวลาที่เราจะใช้งบประมาณ และทรัพยากรของเรา ในการปกป้องผู้ผลิตน้ำมัน และเศรษฐกิจของเราเองเสียที ถ้าซาอุดิอาระเบียยังคงเดินหน้าทำลายตลาดน้ำมันของเรา เราก็จะต้องถอนทหาร และยุทโธปกรณ์ของเรา ออกจากหน้าที่ดูแล ปกป้องประเทศผู้ผลิตน้ำมันเสียที พร้อมกับเก็บภาษีขาเข้าน้ำมันจากซาอุดิอาระเบียให้หนักในทันที

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Wudhichai Maitreesophone

    สำหรับท่านที่อยากเห็น การเปรียบเทียบ เรือบรรทุกเครื่องบิน ของชาติต่างๆ มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะเรือบรรทุกเครื่องบินของแต่ละประเทศได้สร้างขึ้น ตามความจำเป็น และงบประมาณของแต่ละประเทศ ไม่ได้เป็นขนาดเดียวกัน ของสหรัฐใหญ่ระดับแสนตัน อังกฤษ เรือ HMS Queen Elizabeth Displacement: 65,000 tons ฝรั่งเศส เรือ Charles de Gaulle Displacement 42,500 Tons

    แต่เพื่อให้เสียกำลังใจ ผมเลยจับเอา Charles de Gaulle ของฝรั่งเศส ซึ่งมี Displacement 42,500 Tons ใช้เครื่องยนต์ Steam Turbines ขนาด 61 MW

    มาเปรียบเทียบ กับ Theodore Roosevelt ของสหรัฐ ซึ่งมี Displacement:104,600 Tons และใช้เครื่องยนต์ Steam Turbines ขนาด 194 MW

    France
    Name: Charles de Gaulle
    Namesake: Charles de Gaulle
    Operator: Marine Nationale
    Ordered: 3 February 1986
    Builder: Naval Group
    Laid down: 14 April 1989 (stacking of elements in prefabrication since 24 November 1987)
    Launched: 7 May 1994
    Maiden voyage: 18 May 2001
    Renamed: Ordered as Richelieu on 3 February 1986, renamed Charles de Gaulle 18 May 1987
    Homeport: Toulon, France
    Identification: • Hull number: R91
    • MMSI number: 228711555
    Nickname(s): CDG
    Honours and
    awards: Jack with the colours of the Free French Forces (front) and the ribbon of the Ordre de la Libération (back)
    Status: In service
    General characteristics
    Type: Aircraft carrier
    Displacement: 42,500 tonnes (full load)
    Length: 261.5 m (858 ft) overall
    Beam: 64.36 m (211.2 ft) overall
    Draught: 9.43 m (30.9 ft)
    Propulsion: • 2 × Areva K15 pressurised water reactors (PWR), 150 MWt each
    • 2 × Alstom Steam Turbines with a total 61 MW shaft power
    • 4 × diesel-electric
    • 2 × shafts
    Speed: 27 knots (50 km/h)
    Range: Unlimited distance; 20–25 years
    Endurance: 45 days of food
    Capacity: 800 commandos, 500 tonnes of ammunitions
    Complement: • Ship's company: 1,350
    • Air wing: 600
    Sensors and
    processing systems: • DRBJ 11 B tridimensional air search radar
    • Thales SMART-S MK2 (replacing DRBJ 11B)
    • DRBV 26D air search radar
    • DRBV 15C low altitude air search radar
    • Arabel target acquisition radar
    Electronic warfare
    & decoys: • ARBR 21 Detector
    • ARBB 33 Countermeasures suite
    • ARBG2 MAIGRET Interceptor
    • 4 × Sagaie decoys launcher
    • SLAT (Système de lutte anti-torpille) torpedo countermeasures
    Armament: • 4 × 8 cell A-43 Sylver launchers carrying the MBDA Aster 15 surface-to-air missile.
    • 2 × 6 cell Sadral launchers carryingMistral short range missiles
    • 8 × Giat 20F2 20 mm cannons.
    Aircraft carried: • 30–40 aircraft, including
    • 30-40 Rafale M
    • 2 E-2C Hawkeye
    • 2 NFH Caïman Marine
    • 1 AS565 Panther ISR
    • 2 AS365F Dauphin Pedro

    United States
    Namesake: Theodore Roosevelt
    Ordered: 30 September 1980
    Builder: Newport News Shipbuilding Co.
    Cost: U.S. $4.5 billion in 2007 dollars
    Laid down: 31 October 1981
    Launched: 27 October 1984
    Commissioned: 25 October 1986
    Homeport: NAS North Island, San Diego, California
    Motto: • Qui Plantavit Curabit
    • (Latin: "He who has planted will preserve.")
    Nickname(s): TR, Big Stick
    Status: in active service
    Badge:
    General characteristics
    Class and type: • Nimitz-class aircraft carrier
    • Theodore Roosevelt subclass
    Displacement: 104,600 long tons (117,200 short tons)
    Length: • Overall: 1,092 feet (332.8 m)
    • Waterline: 1,040 feet (317.0 m)
    Beam: • Overall: 252 feet (76.8 m)
    • Waterline: 134 feet (40.8 m)
    Draft: • Maximum navigational: 37 feet (11.3 m)
    • Limit: 41 feet (12.5 m)
    Propulsion: • 2 × Westinghouse A4W nuclear reactors
    • 4 × steam turbines driving 4 × shafts
    • 260,000 SHP (194 MW)
    Speed: 30+ knots (56+ km/h; 35+ mph)
    Range: Unlimited distance; 20–25 years
    Endurance: Limited only by food and supplies
    Complement: • Ship's company: 3,200
    • Air wing: 2,480
    Sensors and
    processing systems: • AN/SPS-48E 3-D air search radar
    • AN/SPS-49(V)5 2-D air search radar
    • AN/SPQ-9B target acquisition radar
    • AN/SPN-46 air traffic control radars
    • AN/SPN-43C air traffic control radar
    • AN/SPN-41 landing aid radars
    • 4 × Mk 91 NSSM guidance systems
    • 4 × Mk 95 radars
    Electronic warfare
    & decoys: • AN/SLQ-32A(V)4 Countermeasures suite
    • SLQ-25A Nixie Torpedo Countermeasures
    Armament: • 2 × Sea Sparrow
    • 2 × RIM-116 Rolling Airframe Missile
    • 2 × Phalanx CIWS (close-in weapon system) Gatling guns
    Armor: 63.5 mm Kevlar armor over vitals
    Aircraft carried: 90 fixed wing and helicopters

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Wudhichai Maitreesophone

    นักการเมืองอเมริกัน นี่เขาดีกว่า...มากๆ คือเขาไม่ยอมหน้าด้านอยู่ในตำแหน่ง ทั้งๆ ที่สังคมตำหนิติเตียนเขา

    นาย Thomas Modly รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือสหรัฐ ที่ทำเป็นอวดแสดงความรักชาติเหนือกว่าผู้อื่น ด้วยการสั่งปลดกัปตัน Brett Crozier ผู้บังคับการเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Theodore Roosevelt (CVN-77) ที่ออกรายงานแจ้งกระทรวงทหารเรือ และกระทรวงกลาโหมทราบว่า ลูกเรือ USS Theodore Roosevelt ป่วยด้วยการติดเชื้อโคโรน่าไวรัส ขออนุญาตแวะเข้าฐานทัพเรือเกาะกวม เพื่อนำลูกเรือขึ้นฝั่งเข้ารับการรักษาพยาบาล จนทำให้เกิดเอกสารดังกล่าวรั่วไหลไปยังสื่อสารมวลชน ทำให้ความลับของทางราชการรั่วไหลออกไปสู่สาธารณะ นาย Thomas Modly ยังได้เดินทางไปพูดคุยกับลูกเรือ USS Theodore Roosevelt เพื่อทำความเข้าใจ และขอให้ยอมรับคำสั่งดังกล่าวของเขา แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากลูกเรือ เพราะเมื่อลูกเรือป่วย กัปตัน Brett Crozier ก็ต้องส่งลูกเรือเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับที่รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือมาลงโทษผู้บังคับการเรือของเขา

    นอกจากนั้นทางสภาผู้แทนราษฎร โดย House Speaker Nancy Pelosi จากพรรคเดโมแคร็ต ได้เรียกร้องให้นาย Thomas Modly ลาออกจากตำแหน่งเสียทันที เพราะได้ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ในการลงโทษกัปตัน Brett Crozier ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ปกป้องลูกเรือที่ติดเชื้อโคโรน่าไวรัส ซึ่งถ้ากัปตัน Brett Crozier ตัดสินใจช้า กองทัพเรืออาจสูญเสียกำลังพลนับร้อยนายที่ติดเชื้อโคโรน่าไวรัส

    หลังจากสภาผู้แทนราษฎรออกมาเรียกร้องให้ลาออกไม่ถึงชั่วโมง นาย Thomas Modly ก็ยื่นใบลาออกจากรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ และในช่วงบ่าย รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ก็ได้อนุมัติการลาออกของนาย Thomas Modly เรียบร้อยแล้ว
    ...

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ดราม่าบังเกิดหลังรัฐบาลตุรกีประกาศเคอร์ฟิวแบบฟ้าผ่า....

    จากโพสก่อนนี้หลังรัฐบาลตัดสินใจประกาศเมื่อตอนสี่ทุ่มคืนวันศุกร์ ว่าวันเสาร์อาทิตย์นี้มีเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านนะตัวเธอออ.....

    ประชาชนก็ตื่นตกใจเลยจ้าาาา. คนที่ยังไม่ได้ตุนของตุนขนมปัง ก็แห่กันออกไปจับจ่ายซื้อของกันจ้าละหวั่น คนเบียดเสียดยัดเยียด รถติดกันเป็นแพ...แบบโคตร Chaotic บางคนถึงขั้นชกต่อยกัน. ไปดูตามทวิตนี่ โอ้วมายก๊อดมาก. ถ้าใครมีไวรัสคงติดกันคืนนี้นี่แหละ

    อยากดูภาพและคลิปต้องตามหาในทวิตเตอร์ #korona แล้วก็จะเจอ. นัวนุงกันมาก.

    รูปนี่ก็ได้มาจากทวิตเตอร์เหมือนกัน.

    #อยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ นะตัวเธอ.

    #เล่าเรื่องเมืองแมว





     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fenómenos Naturales

    สหรัฐอเมริกา - รุ่งอรุณ ชั้นหิมะขาวโพลนใน Maine วันนี้ 11 เมษายน

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบคนอเมริกัน ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นโรคอ้วน
    รายงานเผยพบคนที่เป็นโรคอ้วน และติดเชื้อโควิด-19 มักมีอาการป่วยรุนแรง ขณะที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนาในสหรัฐฯ มีผู้ป่วยหนักจากโรคโควิด-19 ถึง 60% เป็นโรคอ้วน
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Insight : ภาวะเงินฝืดกำลังจะมา ? เรากำลังอยู่ในความเสี่ยงภาวะเงินฝืด !!

    บันทึกหน้าที่ 1 : First Wave of a New Bear Market

    5e9082d5f58ef818ca2dd2cb_800x0xcover_lIsANC9q.jpg
    ...คลื่นลูกแรกของตลาดหมี...

    ภาวะถดถอยในตลาดสินทรัพย์ ได้รับการทำนายโดย Elliott Wave International บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ Elliott Wave* ระดับโลก เริ่มจากการที่ตลาดหุ้นโดน Short Sell อย่างรุนแรง ตามมาด้วยการเทขายในสินทรัพย์อื่น ๆ ภายในกรอบเวลาที่สั้นมาก ๆ และเราเรียกสิ่งนี้ว่า "คลื่นลูกแรกของตลาดหมี (First Wave of a New Bear Market)"

    * สำหรับผู้อ่านที่ไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้านตลาดหุ้น Elliott Wave เป็นทฤษฎีหนึ่งซึ่งเป็นหัวใจหลัก ๆ ของ Technical Analysis เช่นเดียวกับ Dow Theory

    ผลที่จะตามมาหลังจาก First Wave ก็คือดัชนีหุ้นต่าง ๆ จะทรุดตัวลงในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ และนี่ไม่ใช่แค่ในตลาดหุ้น แต่มันจะส่งผลไปถึงตลาดน้ำมัน ตลาดโลหะ ตลาดพันธบัตร ทั้งหมดจะทรุดตัวลงเช่นกัน

    ภาวะเงินฝืดในราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ เป็นสัญญาณที่แน่นอนว่าการหดตัวของเศรษฐกิจกำลังจะมา และมันจะทำให้เกิดหนี้เสียในระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเอกชน ซึ่งก็สมเหตุสมผลที่จะเป็นเช่นนั้น เนื่องจากในปัจจุบัน เรามีหนี้สินท่วมโลกอยู่แล้ว ตามธรรมชาติของตลาดจึงต้องกลับไปสู่ความ "สมดุล"

    สังเกตได้จากกราฟด้านล่างนี้ คาดการณ์ระดับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่เกิดวิกฤต (ถ้าเงินเฟ้อลดลง นั้นก็หมายถึงเงินฝืดกำลังเพิ่มขึ้น)

    5e9090fc5e576155ba5c3fcf_800x0xcover_FccGsELv.jpg
    ข้อสังเกต : วิกฤตเมื่อปี 2008 ทำให้ดัชนีดังกล่าวลดลงต่ำกว่า 0 ส่วนวิกฤตครั้งนี้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1% เรียบร้อยแล้ว และถ้าการระบาดยังยืดเยื้อ ก็มีแนวโน้มสูงมากที่ดัชนีดังกล่าวในปัจจุบันจะลดลงต่ำกว่า 0 ครับ

    ภาวะเงินฝืด ส่งผลทำให้ราคาสินค้าลดต่ำลง ซึ่งมันควรจะเป็นผลดีกับผู้บริโภคหลัก(ชนชั้นแรงงานและชนชั้นกลาง)ใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้วประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่ที่ผู้บริโภค หรือคนหาเช้ากินค่ำเลยครับ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะได้ประโยชน์ คือผู้ปล่อยกู้ และผู้มีรายได้ประจำ(ค่อนข้างสูง)ทั้งสิ้น

    ลองคิดภาพสิครับ ต่อให้ราคาสินค้าต่ำลง แต่ถ้าคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าตามตลาด คุณก็ต้องแข่งขันกับคนอื่น ซึ่งก็คือต้องตั้งราคาขายให้ต่ำลงไปด้วย แล้วใครจะอยากขายครับ ? ดังนั้นแล้วมันจะเกิดเหตุการณ์ "กักตุนสินค้า" และจากนั้นจะตามมาด้วยการ "โก่งราคา" ในที่สุด

    และไม่ใช่แค่พ่อค้าแม่ค้านะครับ ต่อให้เป็นนายจ้างก็เถอะ แต่ถ้าเป็นภาคเอกชน ยังไงก็ต้องดิ้นรนต่อสู้กับบริษัทอื่น โดยเฉพาะภาครัฐที่เงินทุนสนับสนุนแน่นกว่า (ทั้งด้านสวัสดิการและอื่น ๆ)

    เมื่อผู้บริโภคมีเงิน และต้องการซื้อ แต่ไม่มีใครอยากขาย ตลาดก็จะวนเข้าสู่ลูปที่ขาดสภาพคล่อง(อีกแล้ว) และอย่าลืมนะครับว่า "หนี้สิน" ที่เรากู้มาก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม มันไม่สามารถหายไปได้เหมือนสภาพคล่องในตลาดครับ

    แล้วในขณะที่คนเหล่านี้กำลังอยู่ในวังวนที่ไม่จบสิ้นของความปั่นป่วนทางการเงิน พวกนายแบงค์ รวมถึงผู้ปล่อยกู้อื่น ๆ กำลังทำอะไรอยู่ ? คำตอบคือไม่ต้องทำอะไรครับ คนพวกนี้ก็แค่ถือครองหนี้ที่คนส่วนใหญ่กู้ไปเอาไว้เรื่อย ๆ แล้วรอเวลาที่ธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมกับเวลาครบกำหนดชำระหนี้ที่จะมาถึง...

    นั้นก็เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมคนรวย(ที่รู้ทัน)ยิ่งรวยขึ้น และคนจนยิ่งจนลง


    บันทึกหน้าที่ 2 : The Collapse in Money Velocity

    5e9085da5e576155ba4a3a3a_800x0xcover_q1p8atVI.jpg
    ...การพังทลายลงของสภาพคล่องทางการเงิน...

    เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังหยุดชะงัก และเงินไม่ถูกใช้จ่าย สิ่งนี้บังคับให้เกิดภาวะเงินฝืดโดยอัตโนมัติ

    ความหมายที่ถูกต้องของ "ภาวะเงินเฟ้อ" คือ การขยายตัวของ Supply ทั้งหมดสำหรับ "เงินและสินเชื่อ" ในภาคเศรษฐกิจ ซึ่งตรงข้ามกับ "ภาวะเงินฝืด" ที่อธิบายถึงการหดตัวลงของ Supply

    ขออธิบายด้วยทฤษฎีพื้นฐานทางด้านการเงินง่าย ๆ คือ

    MV = PQ (เข้าใจง่ายครับ อย่าพึ่งอคติกับคณิตศาสตร์นะ)

    M = Money (เงิน)

    V = Velocity of Money (ความเร็วของเงิน)*

    P = Price (ระดับราคาทั่วไป)

    Q = Quantity (ปริมาณสินค้า)

    * Velocity of Money หรือความเร็วของเงิน เป็นคำที่อธิบายถึงอัตราความเร็วในการ "เปลี่ยนมือ" ผู้ถือเงิน ให้ง่ายกว่านั้นคือ ถ้าตัวเลขของ V สูงหมายถึง เจ้าของเงินได้เงินมาและใช้จ่ายเงินไปสู่ผู้อื่นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันสอดคล้องกับ "สภาพคล่อง" ของตลาด

    ซึ่งปัจจุบันนี้เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ V ลดลงอย่างมากเนื่องจากคนไม่ค่อยใช้จ่าย (ถือเงินไว้กับตัวนานขึ้น) ดังนั้นตามสมการ MV=PQ แล้วหากเราไม่เพิ่ม M ในขณะที่ V ลดลง มันก็จะทำให้ P และ Q ลดลงนั่นเอง (ราคาขายต่ำลง และบริษัทก็ผลิตน้อยลง)

    ดังนั้นคำตอบที่ว่าทำไม FED ถึงต้องอัดฉีดเงินมหาศาล นั้นก็เพราะต้องการเพิ่ม M ให้สมดุลกับ V ที่ลดลงไป เพื่อรักษา P และ Q ให้คงเดิมนั่นเอง

    5e908b415fc3c6183048921e_800x0xcover_N268sLq6.jpg
    ภาพด้านบนคือกราฟของ V ในปัจจุบัน (2020) ส่วนภาพด้านล่างที่ World Maker กำลังจะนำเสนอต่อไปคือกราฟของ V ในช่วงวิกฤต Great Depression (1929) อยากให้ผู้อ่านลองเปรียบเทียบกันดูครับ

    โดยหลักคิดปกติแล้ว การที่ FED พิมพ์เงินออกมา ต้องทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ สูงขึ้นใช่ไหมครับ แต่ในสถานการณ์นี้อย่าลืมว่า V มันลดลงครับ ไม่ใช่คงที่

    และพอ V มันลดลงแล้วเนี่ย ทำให้มีอีกสิ่งที่น่าคิดกว่านั้นอีกครับ

    5e90913458f97c18e505f15d_800x0xcover_W9t0wm1W.jpg
    คำถามก็คือ ถ้าหากวิกฤตได้คลี่คลายลงแล้ว และ V ได้เพิ่มขึ้นกลับมาในระดับของสภาวะปกติ หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เนื่องจากผู้คนมักจะตอบรับอย่างรุนแรงต่อข่าวดีหลังข่าวร้ายเสมอ แล้ว FED จะทำอย่างไรต่อไป ???

    แน่นอนครับว่า FED ก็ต้องลด M ลงใช่ไหมครับ เพื่อรักษาสมดุลไม่ให้ P และ Q พุ่งสูงเกินไป และเมื่อนั้นแล้วช่วงเวลาแห่งการ "ทวงหนี้" ก็จะมาถึงครับ เราจะได้เห็นการปรับเปลี่ยนมาตรการต่าง ๆ เช่น ลดการปล่อยสินเชื่อ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กลับไปที่ระดับเดิม

    พอถึงเวลานั้นเราจะได้เห็นบริษัทต่าง ๆ หาเงินมาใช้หนี้กันเลือดขึ้นหน้าเลยล่ะครับ จะพูดว่ามันคือการทำนายอนาคตก็ใช่นั่นแหละครับ แต่มันต่างกันนิดนึงตรงที่สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกครั้งในหน้าประวัติศาสตร์ เมื่ออยู่ในสถานการณ์และปัจจัยส่งเสริมที่คล้ายกัน เช่นเดียวกับในปัจจุบัน

    5e909febdb21f718f5325707_800x0xcover_WkmDLj3N.jpg
    บริษัทไหนใช้หนี้ทันก็รอด ส่วนบริษัทที่ใช้หนี้ไม่ทัน...ก็ล้มละลาย ซึ่งไอการ "ล้มละลาย" เนี่ยมันเป็นข้อกำหนดของกฎหมายทางการค้าซะด้วยสิครับ นั่นหมายความว่า รัฐบาลไม่ได้มีสิทธิจะมาช่วยเหลือเยียวยาให้รอดพ้นวิกฤตไปได้ตลอดครับ ในบางครั้งจึงต้องดิ้นรนกันเอาเอง เนื่องจากภาครัฐก็มีภาระของตัวเองอยู่มหาศาลแล้ว

    หลายคนอาจสงสัยว่าหากบริษัทล้มละลาย หนี้จะไปไหน? คำตอบก็คือมันจะกลายเป็น "หนี้เสีย" นั่นเอง ซึ่งบุคคลที่ถูกฟ้องล้มละลายก็ยังคงเป็นหนี้อยู่ หรือหากมีทรัพสินย์อื่น ๆ นอกจากเงินสดเหลือก็จะต้องถูกยึดไปขายเพื่อนำเงินมาชดใช้ และที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือจะไม่สามารถประกอบธุรกิจใด ๆ ได้ในสถานะ "บุคคลล้มละลาย"


    บันทึกหน้าที่ 3 : Investors Give Cash Away

    5e909b995fc3c618305e48a3_800x0xcover_uQSa_sai.jpg
    ...นักลงทุนเทเงินสดออกไป...

    หลังฐานเพิ่มเติมที่บ่งบอกเราว่า "ภาวะเงินฝืด" เพึ่งจะเริ่มต้น

    ขัดกับหลักการทั่วไปของ "ภาวะเงินฝืด" ที่กล่าวว่า "Cash is King" เพราะโดยปกติของภาวะเงินฝืดนั้น เงินสดจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สินทรัพย์อื่น ๆ ราคาตกต่ำลง

    ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น นักลงทุนควรเก็บเงินไว้กับตัวสิ ตกลงยังไงกันแน่ ? ไปดูกันครับ

    ที่ World Maker บอกว่ามันขัดกันก็เพราะตลาดเงินกำลังโดนแทรกแซง ทำให้มันไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงครับ และสิ่งนี้จะส่งผลกระทบให้นักลงทุนทั่วไปเกิด Bias* จนมองไม่เห็นความจริงและตัดสินใจผิดพลาดอย่างง่ายดาย

    *Bias หมายถึง ความคิดตามหลักเหตุผลซึ่งสอดคล้องกับความจริงที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น นักลงทุน A เชื่อว่าหุ้นจะขึ้นเพราะปัจจัย X แล้วหลังจากนั้นไม่นานราคาหุ้นก็ขึ้นมาจริง ๆ ทำให้นักลงทุน A ยิ่งมั่นใจว่าปัจจัย X คือปัจจัยที่ทำให้หุ้นขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหุ้นอาจจะขึ้นจากปัจจัยอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับปัจจัย X เลย

    5e90b07e6803a318ea576c8c_800x0xcover_swADaASt.jpg
    ราคาหุ้นที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้ แน่นอนว่ามันมาจากการเข้าซื้อโดยสถาบันการเงินอย่างธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ (โดยเฉพาะ FED) ไม่ได้เป็นเพราะตลาดกลับเข้าสู่สภาวะปกติ อย่างที่นักลงทุนบางกลุ่มเข้าใจ

    ลองคิดตามหลักความเป็นจริงนะครับ ในตอนที่หุ้นกำลังดิ่งอย่างหนัก นักลงทุนคนไหนจะกล้าเข้าซื้อด้วยจำนวนเงินมหาศาลขนาดที่ผลักให้ตลาดหุ้นกลับมาเป็นสีเขียวเส้นยาว ๆ จนนักลงทุนรายย่อยเริ่มทยอยซื้อตาม ถ้าไม่ใช่กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ ? (น่าคิดไหมล่ะครับ)

    หลักฐานก็ตามรูปด้านล่างนี้เลยครับ มี 2 รูปนะครับ

    1. รูปแรกแสดงถึงการถือครองสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงหนี้สินของ FED ในช่วงเริ่มมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ครับ

    5e90fede6803a318ea9d0a2d_800x0xcover_qq6Gyufb.jpg
    Source : Goldmoney
    2. รูปที่สองแสดงถึงการถือครองสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงหนี้สินของ FED หลังจากปรับใช้มาตรการช่วยเหลือมาสักพักครับ

    5e90ffa96803a318ea9e3c13_800x0xcover_ZN-Pwnx0.jpg
    Source : Goldmoney
    อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นขึ้นมาจากการเข้าซื้อของ FED นั้น ก็สามารถสร้าง Bias ที่รุนแรงให้แก่นักลงทุนที่เชื่ออยู่แล้วว่าตลาดหุ้นจะดีขึ้น เป็นการเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้อย่างมาก และเมื่อเป็นอย่างนี้สัก 2-3 ครั้ง พวกเขาก็จะกล้าลงทุนด้วยเงินจำนวนมากขึ้น ด้วยความมั่นใจที่ถูกเติมเต็มมากขึ้นเช่นกัน

    เกล็ดความรู้ : สิ่งนี้เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นตามทฤษฎี Reflexivity ของพ่อมดแห่งการเงินอย่าง George Soros ครับ

    5e90af836803a318ea560a62_800x0xcover_9YjZz5wX.jpg
    ข้อสังเกต : จริง ๆ แล้วนักลงทุนเหล่านี้ไม่ได้คิดผิดว่าตลาดหุ้นจะดีขึ้น เพราะต่อไปมันจะดีขึ้นแน่นอน 100% แต่สิ่งที่พวกเขาส่วนใหญ่ผิดคือเรื่องของจังหวะและเวลา (มันจะดีขึ้นแน่นอน แต่ต้องรอให้ผ่านจุดต่ำสุดไปก่อน) การมองหาโอกาสทองในช่วงวิกฤตที่ทุกคนกำลังหวาดกลัว เป็นเรื่องฉลาด และเป็นสิ่งที่ดี ควรค่าแก่การสนับสนุนให้ทำต่อไป แต่ต้องอย่าลืมคำนึงถึงความเป็นจริง และต้องแน่ใจด้วยว่านั่นคือโอกาสทองจริง ๆ ไม่ใช่กับดัก

    Dealogic บริษัทผู้นำด้านการเงินระดับโลกระบุว่า การออกหุ้นกู้โดยบริษัทที่มี Credit rank อยู่ในระดับ "น่าลงทุน (Investment Grade)" เพิ่มขึ้นไปที่ระดับสูงกว่า 2.44 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติรายเดือนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2019 (ตอนนั้นมียอดกู้ 2.52 แสนล้านดอลลาร์)

    ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ว่า บริษัทเหล่านี้เอาเงินกู้ของนักลงทุนไปทำอะไร ?

    5e90c2566803a318ea6f8c6d_800x0xcover_s0oQg9Sv.jpg
    สิ่งที่บริษัทเหล่านี้ทำหลังจากได้เงินทุนจำนวนมหาศาลโดยการออกหุ้นกู้จากนักลงทุน คือการทำ Leveraged Buyout และ Leveraged Buybacks ครับ

    Leveraged Buyout หมายถึง การเข้าซื้อหุ้นของบริษัทอื่นโดยใช้เงินที่กู้ยืมมา โดยเป้าหมายของบริษัทที่เข้าซื้อคือการกินเงินปันผลและทำกำไรจากราคาส่วนต่างของหุ้น พูดง่าย ๆ คือบริษัทเหล่านี้กะว่าจะเอาเงินกู้ยืมไปลงทุนต่อในบริษัทอื่น และรอกินกำไรจากส่วนต่างอย่างเดียวเลย ไม่ต้องทำอะไรมาก สบาย ๆ เหมือนเสือนอนกิน

    ซึ่งโดยส่วนใหญ่สัดส่วนหนี้ต่อเงินทุนในการทำ Leveraged Buyout จะอยู่ที่ 90% ต่อ 10% ครับ กล่าวคือในจำนวนเงิน 100% ที่เข้าซื้อจะมีถึง 90% เป็นเงินที่กู้มาอีกที หรือก็คือ "หนี้" นั่นแหละครับ

    ภาพด้านล่างจะอธิบายถึงอุดมคติของบริษัทเหล่านี้ครับ จะเห็นได้ว่าหากมันเป็นไปตามแผน หนี้ที่กู้ยืมมาจะลดลง โดยสัดส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นเหล่านั้นจะกลายมาเป็นกำไรให้บริษัทครับ

    5e90c5036803a318ea71ee81_800x0xcover_rcdcmmQm.jpg
    ส่วน Leveraged Buyback ก็มีความหมายคล้าย ๆ กัน แต่ต่างกันตรงที่เป็นการ "ซื้อหุ้นของบริษัทตัวเองคืน" ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงเงินปันผลต่อหุ้นที่สูงขึ้น

    โดยเป้าหมายของการซื้อหุ้นบริษัทตัวเอง ก็คือการรอกินเงินปันผล และเทขายตอนที่ราคาขึ้นไปสูงมาก ๆ แล้วก็เอากำไรจากส่วนต่างตรงนั้นไปจ่ายคืนหนี้ที่กู้มาจากนักลงทุนอีกที (สบายเกิ๊น)

    สรุปคือ Leveraged Buyout และ Leveraged Buybacks ต่างกันแค่บริษัทที่เข้าซื้อ แต่มีเป้าหมายเหมือนกัน 100%

    ทั้งหมดนั้นก็คือสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้น All-time high กันเป็นว่าเล่น (ฟองสบู่ที่ใหญ่สุด ๆ จากการเก็งกำไรโดยใช้หนี้สินที่กู้ยืมมาอีกที)

    จนมาถึงในปัจจุบัน ที่ตลาดหุ้นโดนเทขายอย่างหนักหน่วงไปแล้วรอบหนึ่ง พอได้เงินกู้มาใหม่รอบนี้ บริษัทเหล่านั้นก็เริ่มการ Leveraged Buyout/Buybacks อีกครั้งอย่างเมามัน รวมถึงเงินที่อัดฉีดเข้ามาพยุงตลาดหุ้นไว้อีก

    ภาพด้านล่างนี้แสดงให้เห็นถึงดัชนีการออกหุ้นกู้โดยธนาคาร Barclays ซึ่งจะเห็นได้ว่าปริมาณยังห่างไกลจากจุดสูงสุดเมื่อปี 2008 อยู่มาก แต่ลองสังเกตดูว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของกราฟก็สูงชันกว่าในช่วงปี 2008 มากเช่นกัน สิ่งเหล่านี้บอกอะไรเรา? คำตอบคือมันกำลังบอกว่า "นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น"

    5e90d6c56803a318ea7e625f_800x0xcover_sL4PML1-.jpg
    ข้อสังเกต : แปลกนะครับ ระบบการเงินทั่วโลกสนับสนุนให้คนเป็นหนี้ตลอดเวลา เพราะอะไร? นั่นก็เพราะคนจะได้ทำงานเป็นลูกจ้างใช้หนี้กันไปตลอดชีวิตไงล่ะครับ ส่วนคนที่ใช้ชีวิตสบาย ๆ นอนกิน ก็คือคนที่รู้ทันระบบเหล่านี้ และรู้ว่าเวลาไหนควรทำอย่างไร นี่คือความจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ว่าระบบการเงินทำงานอย่างไร

    แน่นอนว่าเมื่อนักลงทุนผู้ Bias เห็นสีเขียวและอัตราเงินปันผลที่สูงทะลุขอบฟ้าเช่นนี้ ใครจะอดใจไหวล่ะครับ ก่อนหน้านี้ก็พุ่ง All-time high ติด ๆ กันอย่างสวยงาม และจู่ ๆ ก็มาเกิดวิกฤตให้ราคาหุ้นตกหนักจนดูเหมือนโคตรถูก แถมเงินปล่อยกู้ก็ออกมาไม่จำกัด ดอกเบี้ยก็ต่ำ ปัจจัยทุกอย่างพร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจ นี่แหละโอกาสทองที่เราตามหา !!

    5e90d3936803a318ea7cc88e_800x0xcover_8yav0x9M.jpg
    เห็นหรือยังครับว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป หลังจากหุ้นขึ้นในรอบนี้ ?? คำตอบก็คือบริษัทเหล่านี้จะต้องเทขายหุ้นทิ้งเพื่อเอากำไรมาใช้หนี้อีกที พร้อม ๆ กับการที่ FED ถอนเงินที่เคยช่วยพยุงตลาดไว้ออกไป (เอาหนี้คืน พร้อมกำไรส่วนต่าง) ทีนี้แหละครับ เราจะเห็น Second Wave of Bear Market แน่นอน

    ส่วนความเสี่ยงในการเกิด Third Wave นั้นจะมาจากการถอนหุ้นของนักลงทุนรายย่อยทั่วโลก ที่ขาดความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนแล้ว รวมถึงการล้มละลายของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งหากเกิดขึ้นก็คงจะเป็นคลื่นลูกที่รุนแรงที่สุด และเป็นจุดต่ำสุดของตลาดหุ้น (คลื่นขาลงครบ 3 ลูกตามทฤษฎี Elliott Wave พอดี)

    ภาพตอนนั้นสำหรับใครที่ยังถือหุ้นอยู่ก็จะรู้สึกเหมือนโดน Thanos ใส่ถุงมือแล้วดีดนิ้วใส่ครับ ส่วนใครที่ถือเงินสดไว้กับตัว เมื่อถึงตอนนั้น World Maker คิดว่ามันเป็น "โอกาสทอง" ที่จะ Buy รัว ๆ แล้วล่ะครับ

    5e90ce8b6803a318ea797cf9_800x0xcover_qLT5I-P6.jpg
    ยังครับ !! ยังไม่จบ มีอีก 2 เรื่องที่คุณต้องรู้ แต่ตอนนี้ให้โอกาสพักหายใจกันก่อนสักแปบนึง...ถ้าใครพร้อมแล้วก็เชิญเสพความรู้ต่อด้านล่างได้เลยครับ


    บันทึกหน้าที่ 4 : The Excess of Credit Situation

    5e90df8a6803a318ea837ea8_800x0xcover_9fWwaPpP.jpg
    ...สถานการณ์ของสินเชื่อส่วนเกิน...

    Hamilton Bolton ผู้เชี่ยวชาญด้าน Elliott Wave ซึ่งเคยศึกษาประวัติศาสตร์การเกิดภาวะถดถอยครั้งใหญ่ (Depression) ตั้งแต่ปี 1830 จนถึงปี 1957

    เขาได้ข้อสรุปสำคัญดังนี้

    1. ทุกครั้งของการเกิดภาวะถดถอยครั้งใหญ่ จะเริ่มจากการเกิดภาวะเงินฝืดในสินเชื่อส่วนเกิน ซึ่งเป็น 1 ในปัจจัยหลักอื่น ๆ

    2. มีบางครั้งที่สถานการณ์เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนเกิน เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีสุดท้ายก่อนฟองสบู่แตก

    3. เหตุการณ์อื่น ๆ อย่างเช่นการล้มละลายครั้งใหญ่ หรือภาวะฉุกเฉินที่บีบบังคับให้เราต้องทำอะไรสักอย่าง จริง ๆ แล้วมักจะมีสัญญาณให้เห็นล่วงหน้าเสมอ อย่างน้อยก็หลายเดือนทีเดียว (ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป) และในหลายกรณีที่เกิดขึ้น ก็มีสัญญาณเตือนล่วงหน้ามาก่อนถึงหลายปี

    ดังนั้นแล้วข้อสรุปของเขาคือ "การก่อตัวเพิ่มมากขึ้นของสินเชื่อส่วนเกิน คือเงื่อนไขหลักก่อนที่จะเกิดภาวะเงินฝืด"

    World Maker ขอนำเสนอกราฟด้านล่างนี้ ซึ่งแสดงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ "หนี้ภาคเอกชน" สหรัฐฯ เมื่อช่วงวิกฤต Great Depression ปี 1930

    5e90eb38db21f718f57348b9_800x0xcover_xX9xTLBS.jpg
    Source : Federal Reserve
    และแน่นอนว่าตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ในช่วงปี 1930 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตก็ทำ All-time high กันเป็นว่าเล่นครับ ดูได้จากกราฟด้านล่างเลยครับ เราจะเห็นชัดเจนว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น

    5e90f67b6803a318ea92b20e_800x0xcover_k3ijKwux.jpg
    ที่นี้ลองดูแนวโน้มหนี้ภาคเอกชนของสหรัฐในปัจจุบัน ตามกราฟด้านล่างนะครับ จะเห็นความคล้ายคลึงกันอย่างยิ่งเลยทีเดียว และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือจริง ๆ แล้วกราฟมันบอกเราว่าภาวะเงินฝืดเริ่มมาตั้งแต่วิกฤตซัพไพรม์เมื่อปี 2008 แล้ว และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (ง่าย ๆ คือวิกฤตตอนนี้ มันรวมปัจจัยทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันหมดเลย)

    และปัจจุบัน จากการที่ราคาของหุ้นก่อนหน้านี้ได้ขึ้นไปทำ All-time high อย่างต่อเนื่องมาแล้ว เศรษฐกิจก็กำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจหากหนี้ภาคเอกชนจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงแรกของวิกฤต เพราะมันมีสาเหตุมาจากการที่ GDP ลดต่ำลง แต่หลังจากนั้นเราจะต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืดอย่างรุนแรง

    ...ผู้ให้ยืม จะไม่อยากให้ยืม ส่วนผู้กู้ ก็จะไม่อยากกู้...

    5e90ef0ddb21f718f5752a8d_800x0xcover_xuWwCZ-D.jpg
    เพื่อให้เห็นภาพชัดกว่านั้น World Maker มีกราฟของประเทศญี่ปุ่นในช่วงวิกฤตปี 1980 มาให้ดูด้านล่างอีกด้วยครับ ซึ่งสภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่นในตอนนั้น บอกเลยว่ามุมมองต่อตลาดของผู้คนดีมาก ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทำจุดสูงสุดทุกปีตั้งแต่ 1980 จนถึงปี 1989 และได้พังทลายลงในปี 1990

    นอกจากนี้หากลองสังเกตในรูปดูดี ๆ จะเห็นว่าในจุดที่ตลาดหุ้นสูงสุดไปแล้ว หนี้ภาคเอกชนยังคงพุ่งขึ้นต่อไปสักพัก และหลังจากนั้นก็เกิดภาวะเงินฝืดอย่างรุนแรง

    ข้อสังเกตุอีกอย่างคือ "ระดับหนี้ของญี่ปุ่นเทียบกับ GDP ในตอนนั้น อยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับสหรัฐฯ ในตอนนี้ ที่ประมาณ 200% of GDP"

    5e90fd2adb21f718f5830d84_800x0xcover_3wEEclk8.jpg
    อีกสิ่งที่เราควรจำไว้ คือการที่หนี้ภาคเอกชนยังคงอยู่ได้ขนาดนี้ มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า FED ได้ทำการ QE เข้าไปอย่างมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    ซึ่งนั่นทำให้งบดุลของ FED ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อยแล้วครับ

    5e90f8436803a318ea946892_800x0xcover_mE18mZAX.jpg
    และกราฟสุดท้าย(ของตอนนี้) จะแสดงให้เห็นถึง Demand ของสินเชื่อที่ลดลงในช่วงวิกฤตซัพไพรม์ปี 2008 ครับ

    5e9100b26803a318ea9fb2d7_800x0xcover_y5oQzPCv.jpg

    บันทึกหน้าที่ 5 : Inflation Slowed Sharply

    5e9101dd6803a318eaa18b11_800x0xcover_1kFBSrnd.jpg
    ...อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว...

    ในเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ได้ชะลอลงอย่างรวดเร็ว เสริมกับปัจจัยการแพร่ระบาดของ Coronavirus ที่ทำให้ภาคเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดต้องหยุดชะงัก

    ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index) หรือ CPI ลดลง 0.4% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2020 และลดลง 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งในปีก่อนหน้านั้น CPI เพิ่มขึ้น 2.3%

    ดัชนีหลัก (The Core index) ซึ่งไม่รวมถึงภาคอาหารและพลังงาน ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า และเป็นการลดลงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2010

    5e9105d7db21f718f590e254_800x0xcover_V5R5Om97.jpg
    รายละเอียดที่น่าสนใจอื่น ๆ คือ

    หมายเหตุ : ทั้งหมดเทียบจากเดือนกุมภาพันธ์ 2020

    1. ราคาตั๋วเครื่องบินลดลงกว่า 12.6%

    2. ราคาเสื้อผ้าลดลง 2%

    3. ราคารถออกใหม่ลดลง 0.4%

    4. ราคาอาหารลดลง 0.3%

    5. ราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลง 5.8%

    6. ต้นทุนน้ำมันดิบลดลง 10.5%

    7. ราคาที่พัก/อสังหาริมทรัพย์ ลดลง 6.8%

    8. ราคาให้เช่าที่พัก/ที่ดิน ลดลง 0.3%

    9. ราคาสินค้าและอุปกรณ์ทำความสะอาดเพิ่มขึ้น 1.1%

    10. ราคาพืชและดอกไม้สำหรับปลูกภายในบ้านเพิ่มขึ้น 2.1%

    ข้อสังเกต : การลดลงของภาวะเงินเฟ้อ สอดคล้องโดยตรงกับการก่อตัวของภาวะเงินฝืด อันนี้ไม่ต้องอธิบายอะไรมากนะครับ Make Sense สุด ๆ

    ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเสี่ยงที่อยู่เกิดภาวะเงินฝืดครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านไม่มากก็น้อย มองเห็นภาพรวมของเศรษฐกิจในปัจจุบันได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ


    การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา

    World Maker


    สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่

    https://www.facebook.com/WorldMakerTH


    References :

    1.https://deflation.com/Articles/First-Waves-of-a-New-Bear-Market

    2.https://deflation.com/Articles/The-Collapse-in-Money-Velocity-and-the-Coming-Deflation

    3.https://deflation.com/Articles/Deflation-Investors-Give-Cash-Away

    4.https://deflation.com/Articles/Deflation-The-Excess-of-Credit-Situation

    5.https://www.bloomberg.com/news/arti...arch-while-core-prices-fell?srnd=economics-vp

    6.https://www.goldmoney.com/research/goldmoney-insights/the-destructive-force-of-bank-credit

    7.https://www.forbes.com/sites/stevek...gain-write-off-the-private-debt/#3814598173f8


    https://www.blockdit.com/posts/5e9077cd6803a318ea1108ab
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #อัพเดทผู้ติดเชื้อ วันนี้วันเดียวผู้ติดเชื้อ 662 คน ทำลายสถิติต่อวันทั้งหมด

    วันนี้ 11 เม.ย 2020 จำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นรวม 6,849 คน และคาดว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากคนญี่ปุ่นบางกลุ่มยังคงใช้ชีวิตตามปกติอยู่ และไม่ยอมกักตัวอยู่ที่บ้าน

    กดติดตามเพจเรา "คนไทยในญี่ปุ่น" เพื่อรับข่าวสารระหว่างไทยและญี่ปุ่น

    อ้างอิง : News Digest

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    *อัพเดทสถานการณ์ในมาเลเซียประจำวันที่ 11 เมษายน 2563*

    1. ผู้ติดเชื้อสะสม 4,530 ราย (เพิ่ม 184 ราย) รักษาหายแล้วสะสม 1,995 ราย (เพิ่ม 165 ราย) เสียชีวิตสะสม 73 ราย (เพิ่ม 3 ราย)

    2. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อประชาชน (รวมถึงข้าราชการ) ที่ฝ่าฝืน/ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ MCO โดยในตอนนี้มีผู้ที่ถูกปรับ RM 1,000 ไปแล้วจำนวน 815 ราย / ถูกคุมขังอีก 242 ราย ทั่วประเทศ

    3. สาธารณสุขมาเลเซียได้เริ่มดำเนินการตรวจเชื้อโควิด-19 ในชุมชนมาเลเซียแบบครอบคลุม โดยได้เริ่มตรวจผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ Hulu Langat (1 ในพื้นที่สีแดงที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด) ทั้งหมดประมาณ 500 คนในวันนี้ (11 เมษายน 2563) ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้พี่น้องคนไทยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเลเซียหากมีการเข้าไปตรวจเชื้อในพื้นที่ของท่าน รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่หากจะต้องกักตัวอยู่ในที่พัก 14 วันหลังการตรวจเชื้อ

    4. มาเลเซียประกาศพื้นที่สีแดง (red zone) เพิ่มเติมอีก 1 พื้นที่คือ Melaka Tengah โดยในตอนนี้มีจำนวน red zone ที่มีผู้ป่วยมากกว่า 41 ราย/พื้นที่ ทั่วประเทศทั้งหมด 26 พื้นที่ สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ ดังนี้

    1. Petaling, Selangor
    2. Lembah Pantai, KL
    3. Hulu Langat, Selangor
    4. Klang, Selangor
    5. Gombak, Selangor
    6. Seremban, Negeri Sembilan
    7. Johor Bahru, Johor
    8. Kluang, Johor
    9. Kota Bharu, Kelantan
    10. Kinta, Perak
    11. Kepong, KL
    12. Titiwangsa, KL
    13. Hilir Perak, Perak
    14. Tawau, Sabah
    15. Kuching, Sarawak
    16. Bahtu Pahat, Johor
    17. Jerantut, Pahang
    18. Cheras, KL/Selangor
    19. Putrajaya
    20. Jasin, Melaka
    21. Kota Samarahan, Sarawak
    22. Sepang Petaling, Selangor
    23. Rembau, Negeri Sembilan
    24. Kuantan, Pahang
    25. Hulu Selangor, Selangor
    26. Melaka Tengah, Melaka

    หากมีอัพเดทสถานการณ์เพิ่มเติม สถานเอกอัครราชทูตฯ จะมาแจ้งให้พี่น้องคนไทยทราบต่อไป

    #เราจะสู้ไปด้วยกัน

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทวีปแอฟริกาต้องเผชิญกับภัยคุกคามอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน จากฝูงตั๊กแตนครั้งที่สองในปีนี้ ซึ่งมีความยิ่งใหญ่กว่าครั้งแรกถึงยี่สิบเท่า

    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

    จากรายงานของหนังสือพิมพ์พบว่าการรุกรานของตั๊กแตนครั้งแรกนั้นมีขนาดใหญ่มากของในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา แต่คลื่นตั๊กแตนครั้งที่สองนั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 20 เท่าของขนาดครั้งแรก

    ตั๊กแตนทะเลทรายนับพันล้านตัวหลั่งไหลมาจากแหล่งที่อยู่ในโซมาเลียเพื่อค้นหาอาหารพืชสดที่ใช้เป็นอาหาร การอพยบในครั้งนี้จะทำให้ผู้คนหลายล้านเสี่ยงต่อความอดอยาก

    และตอนนี้เมื่อผู้คนต้องต่อสู้กับการแพร่เชื้อไวรัส covid-19 แต่ต้องมาเจอกับการต่อสู้กับตั๊กแตน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่อันดับสอง และสำหรับเกษตรกรมีความเสี่ยงต้องสูญเสียพืชผลในพื้นที่ชนบท

    “ ผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับตั๊กแตนกล่าวว่า มันทำลายล้างมากกว่า coronavirus เพราะทุดคนเชื่อว่าไวรัสจะไม่ไปถึงที่นี่”
    เกษตรกรบางคนในหมู่บ้าน Abukat ใกล้ชายแดนเคนยากำลังใช้เครื่องมือทุกอย่างเท่าที่มีในความพยายามที่จะกำจัดตั๊กแตนออกไป แต่ความพยายามเหล่านี้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก

    ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าคลื่นตั๊กแตนครั้งใหม่ที่่คุกคามส่วนใหญ่ของแอฟริกาตะวันออกรวมถึง เคนยา เอธิโอเปีย และซูดานใต้ ด้วยการคุกคามที่อดยากของฝูงตั๊กแตน ทำให้การแพร่ของฝูงครั้งใหม่นี้มีการพบเห็นใน จิบูตี เอริเทรีย แทนซาเนีย และคองโก

    BY>>>>>Giant Khan<<<<<

    https://www.alalamtv.net/news/4856941/الأكبر-منذ-70-عاما--موجة-جراد-تهدد-قارة-أفريقيا-صور

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,824
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทะเลทรายอัพเดตสถานการณ์ ตั๊กแตน 8 เมษายน 2563

    คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแอฟริกาตะวันออก

    ฝนที่ตกลงมาอย่างกว้างขวางในช่วงปลายเดือนมีนาคม อาจทำให้จำนวนตั๊กแตนเพิ่มขึ้นอย่างมากในแอฟริกาตะวันออก เยเมนตะวันออก และอิหร่านตอนใต้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    แอฟริกาตะวันออก
    สถานการณ์ปัจจุบันในแอฟริกาตะวันออกยังคงน่าตกใจอย่างยิ่งเมื่อมีวงกระโดดและจำนวนฝูงใหม่เพิ่มขึ้นในภาคเหนือและเคนยาตอนกลาง เอธิโอเปีย และโซมาเลีย

    สิ่งนี้แสดงถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงด้านอาหารและการดำรงชีวิตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพราะมันสอดคล้องกับการเริ่มต้นของฤดูฝนที่ยาวนานและฤดูเพาะปลูก

    แม้ว่าการควบคุมภาคพื้นดินและทางอากาศกำลังดำเนินอยู่ แต่ฝนที่ตกลงมาในช่วงปลายเดือนมีนาคมจะช่วยให้ฝูงใหม่ยังคงเติบโตเต็มที่และวางไข่ในขณะที่ฝูงฝูงจำนวนน้อยสามารถย้ายจากเคนยาไปยังยูกันดา, ซูดานใต้และเอธิโอเปีย

    ในช่วงเดือนพฤษภาคมไข่จะฟักเป็นวงกระโดดที่จะสร้างฝูงใหม่ในปลายเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการเริ่มต้นของการเก็บเกี่ยว

    ●เคนยา ฝูงดูเหมือนจะมีขนาดเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือที่มีการเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกบางส่วน
    ●เอธิโอเปีย ทุกวันนี้มีรายงานฝูงใหญ่ในภาคใต้ (SNNPR)
    ●ยูกันดา ฝูงที่ยังเยาว์วัยและเติบโตเต็มที่ปรากฏขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Katakwi, Amuria, เขต Agago) ในวันที่ 5-7 เมษายน ทหารดำเนินการควบคุม ฝูงเพิ่มเติมอาจปรากฏขึ้นในพื้นที่เหล่านี้จากเคนยาและย้ายไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    อาราเบียนอารเบีย
    ฤดูใบไม้ผลิกำลังผสมพันธุ์ สถานการณ์ในเยเมนยังคงลดลง
    ●เยเมน ฝูงที่ยังเยาว์วัยถูกพบบนชายฝั่งที่ชายแดนโอมานและอีกหนึ่งทางเหนือของ Aden และฝูงที่โตแล้วกำลังวางอยู่บนที่ราบสูงทางทิศตะวันออก
    ● ซาอุดิอาระเบีย การฟักตัวและวงในเร็วขึ้นใกล้กับอ่าวเปอร์เซียซึ่งมีการปฏิบัติการควบคุมอย่างต่อเนื่อง
    ● OMAN ควบคุมการดำเนินการต่อสิ่งที่กระโดดและกลุ่มตั๊กแตนผู้ใหญ่ในภาคเหนือ กลุ่มใหญ่ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเห็นอยู่ทางทิศใต้

    เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    ฤดูใบไม้ผลิกำลังผสมพันธุ์

    สถานการณ์ในอิหร่านเริ่มน่าเป็นห่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ
    ●อิหร่าน จำนวนวงกระโดดที่เพิ่มขึ้นกำลังก่อตัวตามแนวชายฝั่งทางใต้จากการวางฝูงก่อนหน้านี้
    ●ปากีสถาน ควบคุมการดำเนินการกับกลุ่มสิ่งที่กระโดดใน Baluchistan, Punjab และ Khyber Pakhtunkhwa

     

แชร์หน้านี้

Loading...