ถกอาเซียนเริ่มแล้ว! ไทยย้ำไม่เคยลงนามหยุดยิง

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=1gQ6fB2pnkE]YouTube - คืบหน้าทหารไทยปะทะหนักทหารกัมพูชา[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=qF26MQUmkTg]YouTube - คืบหน้าทหารไทยปะทะกัมพูชาตอน2[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=F6scKE7oEUY]YouTube - คืบหน้าทหารไทยปะทะกัมพูชาตอน3[/ame]

เกาะติดข่าว!คลิปภาพข่าวสดสัมภาษณ์ชาวบ้าน<wbr>­กลางสมรภูมิการปะทะ!!!!Updateเ!คืบหน้าทหา<wbr>­รไทยปะทะทหารกัมพูชาอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และท่าทีผบ.ทบ.และนายกษิต ภิรมย์ ต่อเหตุการปะทะ
http://www.oknation.net/blog/buzz/201...

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=TioVDC4Wdew]YouTube - ความจริงแผ่นดินเขาพระวิหาร[/ame]

ความจริงแผ่นดินเขาพระวิหาร by 15thMove จัดโดย โดย คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่ว<wbr>­นร่วมของประชาชน วุฒิสภา ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิห<wbr>­าร วันอังคารที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๒ ณ ห้องกมลทิพย์บอลรูม ชั้น ๒ โรงแรมสยามซิตี้ ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=4t8SgwpFdq4]YouTube - ท่าทีมาร์ค-ประยุทธ์ ไทย ปะทะ เขมร[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Wd9H1_H-nDI]YouTube - แหล่ประวัติศาสตร์ชาติไทย[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=wC4D3V3QWYA]YouTube - ประวัติศาสตร์ไทย[/ame]

 

สื่อเทศ! แพร่ภาพเขมรเตรียมอาวุธที่เขาพระวิหาร


สื่อเทศ! แพร่ภาพเขมรเตรียมอาวุธที่เขาพระวิหาร
สำนัก ข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่ภาพของทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา ในขณะกำลังขนสรรพาวุธเพื่อเตรียมในการปะทะกับทหารไทย และใช้ในบริเวณที่เชื่อว่าเป็นปราสาทเขาพระวิหารเป็นที่กำบัง
ในขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศยังรายงานอีกว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นหนังสือต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อเรียกร้องให้พิจารณาว่า "ฝ่ายทหารไทยได้ยิงปืนใหญ่เข้าใส่บริเวณปราสาทเขาพระวิหารและบริเวณโดยรอบ ส่งผลให้มรดกโลกดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก เสี่ยงแต่การพังทลาย"
ทั้งนี้ถึงแม้การปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจะสงบลงแล้ว แต่สำหรับประชาชนทั้งสองประเทศยังคงไม่ไหวใจในสถานการณ์ และยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงพักอาศัยอยู่ในที่หลบภัยชั่วคราวกันต่อไป












http://news.sanook.com/1000092-สื่อเทศ-แพร่ภาพเขมรเตรียมอาวุธที่เขาพระวิหาร.html

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=QJkkvcRg9Uw"]YouTube - ???? ??????????? 5 ?? 54 part 1[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Jq7lWCA45b8"]YouTube - ???? ??????????? 5 ?? 54 part 2[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=jp3xOXWL3bY"]YouTube - ???? ??????????? 5 ?? 54 part 3[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=R88rIdC-IkY"]YouTube - ???? ??????????? 5 ?? 54 part 4[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Lt8TnKSlxI0"]YouTube - ???? ??????????? 5 ?? 54 part 5[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=FGEjE71MF00"]YouTube - ???? ??????????? 5 ?? 54 part 6[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=-T6-iggq4u0"]YouTube - ???? ??????????? 5 ?? 54 part 7[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=bXI0DyaMoKg]YouTube - คลิป นาทีเขมรยิงถล่มไทย Cambodia-Thai Attack | 5 Feb 11[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=R80TJkv0ZdQ]YouTube - สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=szjI-PHa218]YouTube - เหตุปะทะไทย - กัมพูชา[/ame]

 

ไทย-เขมรปะทะอีก ทหารดับ 3พันอพยพหนี

[FONT=Tahoma,]ไทย-เขมรปะทะอีก ทหารดับ 3พันอพยพหนี

มทภ.2โร่ถก-หยุดยิงแล้ว มาร์คโวย-กัมพูชายิงก่อน ฉันทามติพธม.-แค่ไล่นายก



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
พลีชีพ- ศพส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี ซึ่งคลุมด้วยธงชาติ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดศิริวราวาส อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่วงเย็นวันที่ 5 ก.พ. หลังเสียชีวิตจากการปะทะกับกัมพูชาระลอก 2 ตอนเช้าวันเดียวกัน

</td></tr></tbody></table>มทภ.2 นำทีมถกกัมพูชายุติหยุดยิงตั้งแต่เที่ยง พร้อม 4 เงื่อน ไข หยุดยิง-ไม�เพิ่มกำลัง-หยุดทำป?นลั่น-ถอนคนจากพื้นที่ หลังเกิดเหตุปะทะอีกระลอกช่วงเช้าตรู่ที่ช่องโดนอาว จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยเจ็บ 2 เสียชีวิต 1 นาย ส่วนสถานการณ์ชายแดนรอบข้างกลับสู่ภาวะปกติหลังหยุดยิง มาร์คเรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง พร้อมแถลงหนุนการทำงานของ กองทัพ บัวแก้ว 2 ประเทศต่างอ้างอีกฝ่ายยิงก่อน พธม.ระดมพลขอประชามติเคลื่อนไหวต่อ

ปะทะเดือดอีกรอบ-ตาย 1 เจ็บ 2

เมื่อเวลา 06.25 น. วันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดการปะทะกันระหว่างทหาร ไทยกับทหารกัมพูชาที่ช่องโดนอาว อยู่ใกล้กับ ภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ซึ่งทหารทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงปะทะกันนานประมาณ 30 นาที เสียงปืนจึงได้สงบลง ผลจากการปะทะกันในครั้งนี้ปรากฏว่า ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี สังกัด พัน ร.162 จ.ยโสธร โดนสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะเสียชีวิตคาที่ พลฯ ธวัชชัย ศรีวิเศษ ได้รับบาดเจ็บที่เข่าขวา และทหารพรานสงคราม ธุรชัย โดนสะเก็ดระเบิดที่หน้าอก รวมแล้วมีทหารไทยเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บอีก 2 ราย ซึ่งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดถูกส่งไปที่ ร.พ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะ เกษ เพื่อให้แพทย์รักษาพยาบาลและชันสูตรศพต่อไป

รายงานข่าวจากแหล่งข่าวทางทหารว่า จากการปะทะกันมีทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 64 นาย และรถถังถูกกระสุนปืนใหญ่ของไทยพังเสียหาย 12 คัน ซึ่งรถถังทั้งหมดของกัมพูชาที่ถูกทำลายนี้จะประจำอยู่ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ขณะเดียวกัน วัดแก้วสิกขาคีรีศวรซึ่งสร้างอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน ปรากฏว่าได้ถูกกระสุนปืนใหญ่ของไทย หลังคาวัดได้รับความเสียหาย ขณะที่ชุมชนรอบวัดแก้วสิกขาคีรีศวรก็ได้ถูกกระสุนปืนใหญ่ได้รับความเสียหาย หลายสิบหลังด้วยกัน

3 พันกว่าชีวิตอพยพหนีสงคราม

ต่อมาเวลา 08.00 น. วันเดียวกัน ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะ เกษ นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย ได้สั่งให้รถดับเพลิงมาทำการฉีดน้ำดับไฟที่ไหม้บ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งถูกไหม้ทั้งหลัง เนื่อง จากถูกกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชา เมื่อวานนี้ และขณะนี้ไฟกำลังลุกกรุ่นอยู่ ส่วนชาวบ้านภูมิซ

รอลทั้งหมดได้พากัน อพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพบริเวณหอประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ ทั้งหอประชุมใหม่และเก่าจนล้นหอประชุมทั้งสองแห่ง และต้องขยายพื้นที่ในการรองรับผู้อพยพไปอยู่ที่หอประชุมวิทยาลัยการอาชีพ กันทรลักษ์ หอประชุมที่ว่าการ อ.ศรีรัตนะ หอประชุม ร.ร.บ้านท่าสว่าง และศีรษะอโศก ซึ่งขณะนี้มีผู้อพยพหนีภัยสงครามประมาณกว่า 3,000 คน

กองทัพเคลื่อนกำลังตรึงพื้นที่

ต่อมาเวลา 08.15 น. พล.ท.ธวัชชัย สมุทร สาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ทหารสังกัดกองกำลังสุรนารี พร้อมอาวุธหนัก เคลื่อนกำลังไปเสริมกำลังเพิ่มเติมที่บริเวณภูมะเขือ ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร และที่บริเวณช่องโดนอาว ซึ่งเป็นที่ที่มีการปะทะกันระหว่างทหาร ไทยกับทหารกัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันหลายส่วนราชการของ จ.ศรีสะเกษ ได้นำรถยนต์ไปรับชาวบ้านที่ยังตกค้างอยู่ หลังจากที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เพื่ออพยพชาวบ้านให้มารวมกันอยู่ที่ศูนย์อพยพที่ทางราชการจัดไว้เพื่อความ ปลอดภัย

สั่งปิดด่านช่องสะงำ

เวลา 08.30 น. ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ทางราชการได้มีการสั่งปิดช่องสะงำเป็นการชั่วคราว ห้ามไม่ให้ประชา ชนชาวไทยและชาวกัมพูชาผ่านเข้าออก เนื่องจากสถานการณ์ที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่บริเวณ เขาพระวิหาร ซึ่งจากการปิดด่านช่องสะงำในครั้งนี้ปรากฏว่า ได้ทำให้คณะทัวร์ของคนไทยจาก จ.อุบลราชธานี ประมาณ 30 คน ติดค้างอยู่ในเขตกัมพูชา ที่จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ซึ่งยังไม่ทราบว่ากลุ่มทัวร์คนไทยดังกล่าวจะสามารถเข้ามาในเขตแดนไทยได้ใน ช่วงวัน เวลาใด

ส่วนที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย แม้จะยังไม่ได้มีการสั่งปิดเป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนใดกล้าที่จะขึ้นไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระ วิหาร เนื่องจากเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายจากการปะทะกันระหว่าง ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ขณะที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร มีทหารไทยพร้อมอาวุธปืนครบมือเต็มอัตรา ตั้งด่านตรวจเข้ม เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ มีเพียงรถทหารที่บรรทุกกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งเสบียงอาหารเท่านั้นที่ผ่านขึ้นลงตลอดเวลา

ส่งจนท.สำรวจ-ดูแลบ้านราษฎร

เวลา 08.45 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยว ข้องทำการสำรวจความเสียหายอาคารบ้านเรือน สถานที่ราชการที่ได้รับความเสียหายจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหาร กัมพูชา ขณะที่พ.ต.ท.ทิพย์พงษ์ ทิพย์เกสร สารวัตรใหญ่ สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ และร.ต.อ.ไพรวัลย์ อายุวงค์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว. ศรีสะเกษ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงมะลู และสภ.โดนอาว ออกตรวจสอบดูแล รักษาความสงบเรียบร้อยในเขต ต.เสาธงชัย และทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอ.กันทรลักษ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สินของชาวบ้านที่ทิ้งบ้านเรือน ทรัพย์สินเอาไว้ และอพยพหนีภัยสงครามไปอยู่ที่ศูนย์อพยพของทางราชการ

นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย กล่าวว่า จากการสำรวจบ้านเรือนของชาวบ้าน พบว่า มีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย เนื่องจากถูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชา ปรากฏว่า มีบ้านเรือนถูกไฟไหม้ทั้งหลัง 7 หลัง และบ้านเรือนเสียหายเป็นบางส่วน หลังคาและฝาบ้านพังเสียหายเล็กน้อย และได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. ของคืนที่ผ่านมา มีทหารกัมพูชาประมาณ 200 นาย บุกเข้ามาที่บริเวณเขื่อนห้วยขนุน ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ แต่ว่าถูกทหารไทยยิงปะทะสกัดเอาไว้ได้

มทภ.2 บุกถกกัมพูชาหยุดยิง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย- กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยพล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผบ.กองกำลังสุรนารี และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางเข้าไปในเขตกัมพูชาที่ร้านอาหารใกล้กับจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา โดยได้ไปเจรจากับพล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา รวมทั้งคณะนายทหารระดับสูงของฝ่ายกัมพูชา เพื่อเจรจาหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบที่บริเวณเขาพระวิหาร ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยประชุมหารือกันอย่างเคร่งเครียดนานประมาณ 2 ช.ม. ซึ่งได้ข้อสรุปการประชุมว่า จะหยุดยิงพร้อมกันตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันนี้เป็นต้นไป และจะไม่มีการเพิ่มกำลังทหารหรือเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนอีก

จากนั้นทางฝ่ายกัมพูชาได้ส่งมอบทหาร ไทย 4 นาย ซึ่งเป็นทหารชุดประสานงานอยู่ที่บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีศวรกลับคืนให้กับ ฝ่ายไทย ซึ่งทหารไทยทั้ง 4 นายไม่ได้ถูกจับเป็นตัวประกันแต่อย่างใด แต่ว่าเขมรได้ขอให้อยู่ในพื้นที่จำกัดระหว่างการสู้รบและอนุญาตให้โทรศัพท์ พูดคุยกับลูกเมียได้ แต่ไม่ให้รายงานสถานการณ์การสู้รบบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีศวร เพื่อเป็น การชี้เป้าหมายพิกัดให้กับทางฝ่ายทหารไทยได้ทราบ และนับตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันนี้เป็นต้นไป ไม่ได้ยินเสียงปืนระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาปะทะกันอีกแต่อย่างใด ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 11.00 น. ทหารฝ่ายกัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่เข้ามาในเขตแดนไทย 2 นัด แต่กระสุนปืนใหญ่ตกไปทางด้านทิศตะวันของบ้านภูมิซรอล ห่างจากชุมชนประมาณ 4 ก.ม.

ไก่อูเผยเงื่อนไขหยุดยิง

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 12.10 น. พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ข้อสรุปจากการเจรจากับทหารฝ่ายกัมพูชาซึ่งตกลงกันใน 4 ประเด็น คือ 1.ต่างฝ่ายตกลงกันว่าหยุดยิง 2.จะไม่มีการเพิ่มกำลังทั้งสองฝ่าย 3.ผู้บังคับบัญชาของแต่ละฝ่ายจะต้องกำกับดูแลกำลังพลของตัวเองไม่ให้มี อุบัติเหตุเล่นปืนลั่นกันขึ้นมาแล้วนำไปสู่การปะทะอีกและ4.ให้นำทหารชุด ประสานงานซึ่งเป็นทหารของทั้งสองฝ่ายออกจากพื้นที่ใกล้เขาพระวิหาร เพราะที่ผ่านมาจุดประสานงานซึ่งมีกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน แต่ฝ่ายกัมพูชามักไปออกข่าวว่ามีทหารไทยถูกจับกุมตัวอยู่ จึงยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีการจับเชลยศึกซึ่งเป็นทหารไทยไป มีแต่เพียงกำลังชุดประสานงานร่วมที่อยู่บริเวณดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งจากการปะทะที่เกิดขึ้น ทำให้จุดประสานงานได้รับความเสียหาย ต่างฝ่ายจึงตกลงถอนกำลังกลับมา รอให้มีการสร้างจุดประสานงานขึ้นใหม่และมีความพร้อมก่อน จึงจะส่งกำลังกลับขึ้นไปใหม่

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เบื้องต้นจะดำเนินการตามข้อตกลงใน 4 ประเด็นก่อน ยังไม่มีการระบุแผนการดำเนินการอื่นต่อไป และหลังการเจรจาของแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ความชัดเจน จึงสั่งเปิดจุดผ่านแดนได้ตามปกติ หลังสั่งปิดไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ได้แก่ บริเวณ ด่านที่ช่องจอม ช่องอานม้า และช่องสะงำ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ส่วนความเสียหายจากการปะทะ ที่รับรายงานล่าสุดมีดังนี้ ฝ่ายไทย เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ซึ่งเริ่มปะทะ มีทหารไทยบาดเจ็บ 8 นาย วันที่ 5 ก.พ.ปะทะวันที่ 2 บาดเจ็บอีก 4 นาย เสียชีวิต 1 นาย รวมทหารไทยบาดเจ็บ 12 นาย เสียชีวิต 1 นาย แต่มีพลเรือนไทยเสียชีวิตด้วย 1 ราย ส่วนฝ่ายกัมพูชา ทราบว่าได้รับความเสียหายเยอะ ทหารเสียชีวิตจากการปะทะ 60-64 นาย สูญเสียรถถังและยานเกราะ 12-13 คัน แต่ไม่มีพลเรือนกัมพูชาเสียชีวิต ดังนั้นขอให้ประชาชนที่รักชาติทั้งหลายใช้สติคิดให้ดี เพราะการปะทะกันไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา เพราะเหตุที่เกิดขึ้นแม้มีการปะทะกันแล้ว ก็ต้องกลับมาสู่โต๊ะเจรจาอยู่ดี ดังนั้นขอว่าใครจะทำอะไรก็ต้องใช้สติ

ช่วงเย็นเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ

เวลา 14.45 น. ที่วัดศิริวราวาส รถร.พ. กันทรลักษ์ ได้นำศพของ ส.อ.วุธชรินทร์ ที่เสียชีวิต คลุมด้วยธงชาติโดยมีเพื่อนทหารช่วยกันยกศพมาวางบนแท่นบนศาลาวัด โดยมีพล.อ. พิเชษฐ์ วิสัยจร ผช.ผบ.ทบ. เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ มีผู้บังคับบัญชา และเพื่อนทหารของ ส.อ.วุธชรินทร์ มาร่วมรดน้ำศพกันเป็นจำนวนมากท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด จากนั้นพระสงฆ์ได้ประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ซึ่งกำหนดการที่จะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้นต้องรอให้ญาติพี่น้องของ ส.อ.วุธชรินทร์ ประชุมปรึกษาหารือกันเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จนถึงช่วงเย็นบรรยากาศตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากการเจรจาหยุดยิงระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยกับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่อพยพหนีภัยสงครามก็ยังไม่กล้าที่จะกลับเข้าไปพัก อาศัยในบ้านเรือนของตนเองที่บ้านภูมิซรอล เนื่องจากว่า บริเวณหมู่บ้านภูมิซรอลเป็นบริเวณที่กระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามา ตกเป็นแนวในเขตแดนไทย หากกลับเข้าไปเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายจากการสู้รบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอด เวลานั่นเอง

สุรินทร์ปิดช่องจอมถึงบ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สุรินทร์ว่า เมื่อเวลา 07.00 น. บริเวนตลาดช่องจอม บ้านบ้านพัฒนา ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เงียบเหงาพ่อค้ากัมพูชาปิดประตูร้าน แต่ยังคงมีเพียงพ่อค้าคนไทย เปิดค้าขายเล็กน้อย ส่วนจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน ฝั่งตรงข้าม บ่อนกาสิโน อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ตลอดเส้นทาง ทหารพราน ตั้งด่านตรวจเข้ม เนื่องจากประตูด่านถูกสั่งปิด และห้ามยานพาหนะเข้า

พ.ต.ต.อนันต์ ทองสุข สว.ตม.ช่องจอม กล่าวว่า ช่วงคืนที่ผ่านมามีหนังสือสั่งการด่วนให้ ปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอมไม่มีกำหนด เนื่องจากสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ตึงเครียด เพราะมีกองกำลังทหารกัมพูชาเคลื่อนไหวมาก หวั่นเกรงนักท่องเที่ยวไม่ปลอดภัย จึงมีคำสั่งให้ปิดด่านตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จนกระทั่งเวลา 13.00 น. จึงมีคำสั่งให้เปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเปิดประตูด่านมีชาวกัมพูชาลำเลียงสิ่งของ เครื่องจักสานหวาย และปลาแห้ง ปลาร้า ขึ้นฝั่งไทยไปจำหน่ายตลาดช่องจอม แต่ช่องตรวจหนังสือเดินทางเงียบเหงา ไม่มีคนเข้าไปใช้บริการ ส่วนฝั่งไทยก็มีขบวนรถบรรทุกพ่วง 3 คัน ลำเลียงวัสดุก่อสร้าง หิน ปูน ทราย ไปส่งในหมู่บ้านโอเสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย

นายศิริชัย ตันติรัตนานนท์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ด่าน อ.กาบเชิง กล่าวว่า อบต.เตรียมแผนรองรับสถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา โดยได้ซักซ้อมเมื่อเสียงปืนกัมพูชาถล่มในพื้นที่ คือ จุดนัดพบประชาชน โรงเรียนบ้านนาเรือง จากนั้นได้ใช้รถยนต์รับประชาชนอพยพไปในที่ปลอดภัย คือ โรงเรียนปราสาทเบง

บ่อนปอยเปตแจ้งจุดพลุตรุษจีน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สระแก้วว่า บรรยา กาศที่ด่านชายแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในเช้าวันนี้ พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือข่าวการสู้รบของทั้ง สองประเทศ กลับมาเก็บข้าวของ พร้อมปิดร้านกลับบ้าน และรอฟังข่าวอยู่ทางฝั่งกัมพูชา โดยมีพ.ต.อ.มานัด ศรีวงษา ผกก.ตม. อรัญประเทศ อรัญประเทศมาคอยอำนวยความสะดวกให้ เพื่อให้ความปลอดภัย กับนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวกัมพูชา ที่ต่างเร่งรีบเดินทางเข้ามาที่ร้านเพื่อเตรียมเก็บข้าวของกัน ทำให้ตลาดโรงเกลือเงียบ เหงา ส่วนที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ก็มีชาวกัมพูชามารอข้ามฝั่งเข้ามาในเขตไทยไม่ถึง 400 คน จากที่ปกติจะเข้าออกกันนับหมื่นคนต่อวัน<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
หยุดยิง - พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 นั่งเจรจากับพล.ท.เจีย มอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ได้ข้อยุติว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะหยุดยิงและไม่เพิ่มกำลังทหารอีก

</td></tr></tbody></table>

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยพล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.กกล.บูรพา และเจ้าหน้าที่กว่า 10 คนได้เดินทางเข้าไปพบปะกับเจ้าหน้าที่ประสานงานกัมพูชา-ไทย เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต อ.โอดจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่บริเวณสะพานมิตรภาพชายแดนไทย-กัมพูชา และที่ตลาดโรงเกลือ ขณะที่ฝ่ายไทยและกัมพูชาได้พูดคุยกันที่บริเวณสะพานมิตรภาพชายแดน ไทย-กัมพูชา ฝ่ายประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เข้ามาแจ้งว่า ในคืนนี้วันที่ 5 ก.พ.นี้ ทางบ่อนกาสิโน สตาร์เวกัส ในปอยเปต จะจัดงานฉลองวันตรุษจีน และจะจุดพลุขึ้นฟ้า หลายร้อยนัด จึงได้ขอประสานกับฝ่ายไทยเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยและกัมพูชารับทราบ โดยทั่วกัน เพื่อป้อง กันการเข้าใจผิด อาจเกิดความตระหนกตกใจได้

ส่วนความเคลื่อนไหวตามแนวชายแดนด้าน อ.โคกสูง อ.ตาพระยา และ อ.อรัญประเทศ จนท.ทหารไทยและ จนท.ตชด.เตรียมพร้อมรบอยู่ในที่ตั้ง เช่นเดียวกันกับ จนท.ทหารฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวกำลังรบตามจุดสำคัญต่างๆ ตลอดทั้งคืนเช่นกัน แต่ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรด้านจังหวัดสระแก้วเหตุการณ์ทั่วไปยังปกติอยู่

ที่ตราดไม่วิตกเหตุปะทะ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตราด ว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายอดิศร สิทธิชอบธรรม ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรคลองใหญ่ นายวิชัย กันสาด นักวิชาการศุลกากร พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางตรวจที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เพื่อตรวจดูสถาน การณ์ พบว่ายังมีพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าในตลาดชายแดนบ้าน หาดเล็กกว่า 300 คน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามปกติ ขณะที่พ่อค้า-แม่ค้าชาวไทยสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น แต่เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวชาวไทย และผู้เล่นพนันเดินทางเข้ายังบ้านหาดเล็กและเดินทางเข้าไปยังฝั่งกัมพูชา น้อยลง จากเดิมที่มีอยู่จำนวน 200-300 คน แต่ขณะนี้มีเพียงไม่ถึง 100 คน ขณะที่จุดผ่อนปรนการค้าชั่วคราว บ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง ที่ตั้งของตลาดถาวรค้าชายแดน ปรากฏว่า บริเวณฐานทหารพรานนาวิกโยธินที่ 535 บ้านท่าเส้น มีชาวบ้านทมอดา ต.ทมอดา อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต นำสินค้าและของป่ามาขายในตลาดบ้านท่าเส้นโดยก่อนลงมาจากชายแดนได้ลงทะเบียน เข้า-ออก ที่ฐานบ้านท่าเส้นจำนวน 220 คน และไม่ได้วิตกกังวลกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ

ร.อ.ซก อุล ผบ.กองลาดตระเวนที่ 2 กอง พัน 501 (คลองม่วง) อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต ที่เดินทางมาประสานงานกับ ร.อ.ณัฐพงษ์ ปรีดารัตน ผบ.ร้อย ทพ.นย.ที่ 535 (บ้านท่าเส้น) พร้อมนายอดิสร สิทธิชอบธรรม ได้ร่วมกันสนทนาถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน จ.ศรีสะเกษ และยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่ไม่มีความขัดแย้งใดๆ โดยในขณะนี้พล.ท.บุญ เซ็ง ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 5 ได้ย้ำเตือนทหารกัมพูชาในชายแดนให้เตรียมพร้อมก็ตาม แต่ทหารทั้ง 2 ฝ่าย มีความสัมพันธ์ที่ดีและยังติดต่อไปมากันตลอดแนวด้านจ.ตราด ซึ่งระหว่างสนทนาทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมดื่มกาแฟและร่วมกันจับมือแสดงความสามัคคีและร่วมมือกัน

นาวิกฯ-กล.บูรพาคุมเข้ม

พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผบ.กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และผบ.นาวิกโยธิน เดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนและหน่วยทหารนาวิกโยธินที่ อ.บ่อไร่ อ.เมือง และ อ.คลองใหญ่ เพื่อมอบนโยบายและมอบขวัญและกำลังใจ และให้ทหารนาวิกโยธินในพื้นที่เตรียมความพร้อม 100% โดยหากมีคำสั่งใดๆ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที

พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์กล่าวด้วยว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 3 และผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 5 ของกัมพูชาแล้ว ซึ่งทั้ง 2 คน เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่าง 2 ฝ่าย และยังต้องการร่วมมือในการทำงานในพื้นที่ด้วย

พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร.2 รอ. ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี กล่าวถึงสถานการณ์การปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาที่จ.ศรีสะเกษ ว่า กรณีดังกล่าวนั้นไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบของกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ แต่ในด้านกองกำลังบูรพาได้สั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังชายแดน ฝั่งภาคตะวันออกติดต่อกัมพูชาอย่างใกล้ชิด ยังไม่ได้เพิ่มกำลังพล หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารแต่อย่างใด

พท.เร่งรัฐบาลระงับขัดแย้ง

เวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ จนมีชาวบ้านภูมิซรอลที่เคยออกมาเรียกร้องสันติสุขด้วยการต่อต้านกลุ่ม พันธมิตรฯ บาดเจ็บและเสียชีวิต ว่า พรรคเข้าใจถึงความจำเป็นในการทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของทหาร และจะไม่ก้าวล่วงกับการทำงานรักษาความมั่นคงของกองทัพ แต่อยากเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบความปลอดภัยของราษฎรมากกว่านี้ ต้องมีมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดความสูญเสียเช่นนี้ขึ้นอีก นอกจากนี้ รัฐบาลควรเร่งเจรจากับกัมพูชา เพื่อหาข้อยุติจากปัญหาข้อพิพาทที่เริ่มบานปลายและอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่ มากขึ้น

"หากยังปล่อยปละละเลยและตั้งใจเล่นการเมืองมากเกินไป คิดแต่จะใช้สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นแสวงประโยชน์ให้กับตนเองและพวก พ้องโดยขาดความจริงใจในการแก้ปัญหาเพื่อประเทศชาติ และประชาชน ความหวังที่จะพบกับความสำเร็จในการยุติข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยการเจรจา จะลดลงไปเรื่อยๆ หากรัฐบาลยังคงยืนยันจะยึดแนวทางแก้ไขปัญหาแบบที่ผ่านมา โดยไม่ฟังคำเตือนและคำแนะนำจากทุกฝ่าย เช่น ฝ่ายค้าน นักวิชาการ สื่อมวลชนที่ต้องการให้แก้ไขปัญหาด้วยการเจรจามากกว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นอาจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

อัดข้อมูลมั่ว-กษิตเหลว

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการ ทหาร สภาผู้แทนราษฎรที่มีพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ได้ร่วมประชุมหารือต่อกรณีการปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นว่ากองทัพต้องจัดลำดับความเข้าใจ ในการสื่อสารกันเองในการข่าวก่อนออกมาบอกประชาชน เพราะหากข้อมูลผิดเพี้ยน หรือยังไม่ชัดเจน ไม่ควรรีบออกมาแถลงข่าว ไม่เช่นนั้นจะเติมเชื้อไฟให้ปะทุ โดยเฉพาะเรื่องที่พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ว่าฝ่ายตรงข้ามเปิดฉากยิงก่อนและมีทหารไทยถูกจับไป 5 นาย ขณะที่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่าไม่มีทหารไทยถูกจับไป ส่วนใครยิงก่อนนั้นอยู่ระหว่างสอบสวน ซึ่งการออกมาให้ข่าวคนละทิศละทางอาจเป็นการให้ข้อมูลที่สับสนและเกรงว่ากอง ทัพอาจตกเป็นประเด็นในการจุดชนวนอื่นๆ

นายจิรายุ กล่าวว่า ปัจจุบันมีประเทศซึ่งมีเรื่องพื้นที่ทับซ้อนกว่า 200 ประเทศ แต่ที่มีปัญหาข้อพิพาทมีกว่า 70 ประเทศ ได้ใช้วิธีเจรจาตกลงกันได้ แต่เมื่อรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมาบริหารประเทศก็มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านมาตลอด เมื่อถึงเวลานี้ รัฐบาลไม่ต้องกลัวเสียฟอร์ม นายกฯ หรือรองนายกฯ ควรเป็นผู้เดินไปเจรจากับผู้นำกัมพูชาเอง แทนที่จะให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเคยพิพาททางวาจากับผู้นำกัมพูชาไปแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นได้จากการเจรจากับกัมพูชาในตอนกลางวัน แต่ตกบ่ายก็เกิดเหตุการณ์ปะทะขึ้น รัฐบาลควรสนใจเรื่องนี้ให้เหมือนสมัยที่เคยเป็นฝ่ายค้าน

มาร์คเรียกถกด่วน

เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วน หน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงสถานการณ์ชาย แดนไทย-กัมพูชา อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.การต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โดยใช้เวลาหารือนาน 1 ชั่วโมง

นายอภิสิทธิ์แถลงภายหลังการประชุมว่า เหตุการณ์ปะทะกันที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ. บริเวณชายแดนระหว่างเวลา 15.00-18.00 น. รัฐบาลได้รับทราบมาตั้งแต่เกิดเหตุขึ้น และกองทัพได้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยและตอบโต้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเวลา 18.00 น. เหตุการณ์จึงยุติลง รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทางผบ.ทบ.และโฆษกทบ.ได้แถลงไปเรียบร้อยแล้ว ขอยืนยันข้อเท็จจริงตามนั้น

แถลงหนุนกองทัพ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอเรียนให้ประชาชนมีความมั่นใจว่ารัฐบาลไทยและกองทัพไทยถือหลักปฏิบัติ ชัดเจนคือเราไม่ไปรุกรานใคร แต่เราจะปกป้องอธิปไตยของเราให้ถึงที่สุด ฉะนั้นปฏิบัติการที่ดำเนินการเมื่อวันที่ 4 ก.พ. รัฐบาลให้การสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ และจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในการกระทำสิ่งที่มีความจำเป็นพอควรแก่เหตุใน การปกป้องอธิปไตยของเรา ส่วนกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ยืนยันจุดยืนนี้ให้ชาวโลก ประชาคมโลก ให้รับทราบ และจะชี้แจงต่อเอกอัครราชทูตของประเทศที่มีบทบาทสำคัญทั้งในส่วนของมนตรี ความมั่นคง สหประชาชาติ มรดกโลก และประเทศอื่นๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากปัญหาที่มีการโจมตีและล่วงล้ำอธิปไตยของไทยก่อนจึงได้มีการตอบโต้ไป

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ส่วนมรดกโลก ทางประเทศไทยจะชี้ให้เห็นอีกครั้งว่าพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารนั้น เป็นพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง จึงไม่สมควรดำเนินการอะไรที่จะเพิ่มเติมความตึงเครียดและนำไปสู่ความเสี่ยง ต่อการสูญเสียในบริเวณดังกล่าว นั่นหมายถึงสมควรระงับในเรื่องการดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไว้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการยืนยันสิ่งที่ทางฝ่ายไทยได้เคยเตือนคณะกรรมการมรดกโลกมาตลอด

ยันอยู่ในวิสัยแก้ไขได้

นายกฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับกัมพูชา ยืนยันว่าปัญหาทั้งหมดนั้นอยู่ในวิสัยที่จะแก้ไขได้ตามข้อตกลงและตามกลไกของ กรรมาธิการร่วม คือเอ็มโอยู และเจบีซี และเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีการมาล่วงละเมิดในเรื่องของ เอ็มโอยูและเจบีซี เพราะทางกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าประเทศไทยต้องการแก้ไขปัญหาโดยสันติ วิธีและใช้กระบวนการ กลไกตามหลักสากล

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ได้กำชับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ให้กำชับไปยังพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าฯของจังหวัดที่เกี่ยวข้องในการดูแลความเป็นอยู่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยเพื่อความปลอดภัยและขอเรียน ว่าในหลักปฏิบัติที่ทำอยู่ขณะนี้ คือ กองทัพมีแผนรองรับสถาน การณ์ต่างๆ อยู่แล้ว และสามารถประสานได้กับฝ่ายปกครองในการที่จะดูแลความปลอดภัยของประชาชน

ยึดหลัก'รักสงบ-รบไม่ขลาด'

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น รัฐบาลมีความเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชนไทย เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องตอบโต้ เพราะเห็นได้ชัดว่าโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน ซึ่งฝ่ายไทยไม่ได้ทำเลย ฝ่ายไทยทำคือตอบโต้ไปยังจุดหมายที่เป็นจุดหมายทางทหารเท่านั้น แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในฝั่งกัมพูชาที่ขณะนี้มีรายงานว่าหลายสิบคนนั้น เป็นข้อเท็จจริง แต่ฝ่ายไทยไม่ได้มีการโจมตีไปยังเป้าหมายที่เป็นพลเรือนเลย มีแต่การตอบโต้ไปยังเป้าหมายทางทหารเท่านั้น นี่คือข้อเท็จจริงที่อยากเรียนทั้งหมด และการดำเนินการในส่วนของรัฐบาล และกองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

"ผมอยากเรียนว่าเวลานี้เป็นเวลาที่ผมอยากเห็นประชาชนคนไทยมีความสมัครสมาน สามัคคี รวมใจเป็นหนึ่ง ในการสนับสนุนกองทัพ และเจ้าหน้าที่ของเราในการปกป้องอธิปไตย และขอให้ยึดตามหลักหรือนโยบายที่ผมคิดว่าอยู่ในใจของคนไทยทุกคนอยู่แล้ว เพราะอยู่ในเพลงชาติของเรา รักสามัคคี ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด 3 วรรคเท่านี้ที่ผมคิดว่าถ้าตอนนี้คนไทยได้ยึดถือตรงนี้จะทำให้เราสามารถเดิน หน้าในการดูแลสถานการณ์ ปกป้องอธิปไตยได้อย่างมีประ สิทธิภาพ เรียบร้อย ราบรื่น" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลเอาใจใส่เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และพร้อมสนับสนุนบุคลากร กองทัพ ฝ่ายปกครอง ทุกวิถีทางที่จะดูแลประชาชนคนไทย ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าหน่วยงานของรัฐนั้นมีความเป็นเอกภาพทั้งในทาง ความคิด แนวปฏิบัติ และทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการที่จะดูแลประโยชน์ของประเทศและประชาชน และขอบคุณประชาชนจำนวนมากที่เป็นกำลังใจและห่วงใยกองทัพ ประชาชนของเราตลอดบริเวณแนวชายแดน

โฆษกรบ.ยันไม่กระทบสัมพันธ์

เวลา 14.00 น. นายปณิธาน กล่าวภายหลังการประชุมฝ่ายความมั่นคงว่า รัฐบาลยืนยันว่าจะเร่งรัดแก้ไขสถานการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็ว ขณะนี้ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในประเทศสามัคคีกันเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ และแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นทั้งไทยและกัมพูชา เรื่องนี้จะมีการชี้แจงกับนานาชาติและทูตของประเทศต่างๆ คณะมนตรีความมั่นคง สหประชาชาติ และสมาชิกของประเทศของยูเนสโก เพื่อยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเข้าไปในพื้นที่โดยไม่ตกลงกัน หรือมีข้อยุติเรื่องของเขตแดน <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
1.เขมรตรึง - เว็บไซต์ข่าวของกัมพูชาโชว์ภาพทหารเขมรพร้อมอาวุธครบมือ ประจำการอยู่ที่ปราสาทพระวิหาร หลังเกิดเหตุปะทะกับทหารไทยจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย

2.เขมรตรึง - เว็บไซต์ข่าวของกัมพูชาโชว์ภาพทหารเขมรพร้อมอาวุธหนักกำลังตรึงแนวชายแดน หลังสถานการณ์ตึงเครียดจนเกิดการปะทะกันรุนแรงถึง 2 รอบ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.

3.-5.พิษสงคราม - ชาวบ้านภูมิซรอลกว่า 3 พันชีวิตอพยพมาอาศัยอยู่ที่บริเวณที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ ชั่วคราว สภาพความเสียหายของโรงเรียนฝั่งไทยที่ถูกอาวุธหนักของกัมพูชายิงถล่มใส่ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. และบังเกอร์หลุมหลบภัยที่กลายมาเป็นสถานที่รายงานข่าวของผู้สื่อข่าว

</td></tr></tbody></table>

ต่อข้อถามถึงรายงานข่าวว่ามีทหารกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนมาก นายปณิธาน กล่าวว่า เนื่อง จากเป็นพื้นที่ของกัมพูชาไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่รายงานที่ได้รับพบว่าความสูญเสียของกัมพูชาค่อนข้างสูง และกำลังตรวจสอบ ส่วนการประท้วงนั้นจะทำตามขั้นตอนคือเรียกทูตกัมพูชาเข้ามาพบเพื่อยื่น หนังสือ และชี้แจงข้อมูลกับนานาชาติ และกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามสถานการณ์และรายงานความคืบหน้าตลอดเวลา

นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะกระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ยังทำงานร่วมกันได้อยู่ และหวังว่ากัมพูชาจะเข้าใจ แม้ว่าจะมีปัญหาในบางพื้นที่ในบางขณะ แต่มั่นใจว่าไม่กระทบความสัมพันธ์ในภาพรวม และฝากถึงกัมพูชาว่ายังทำงานร่วมกันได้อยู่ และร่วมมือกันแก้ปัญหาได้ ส่วนการยกหูกันระหว่างผู้นำนั้น มีการวางรายชื่อการพูดคุยกันแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกัน ส่วนเรื่องมรดกโลก นายกฯ มอบหมายให้นายสุวิทย์ไปทำความเข้าใจกับสมาชิกมรดกโลกให้รับทราบสิ่งที่เกิด ขึ้น ที่มีผลมาจากการเข้าไปพื้นที่ที่ยังไม่ชัดเจนในเรื่องเขตแดน

บัวแก้วแถลงกัมพูชายิงก่อน

กระทรวง การต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ถึงกรณีการปะทะกันระหว่างทหาร ไทยกับกัมพูชา ว่า เหตุการณ์ปะทะเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.20 น. ทหารกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีด้วยปืนครก เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี และ ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.) เข้ามายังค่ายทหารไทย บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

ต่อมาเมื่อเวลา 16.20 น. วันเดียวกัน ทหารกัมพูชาเปิดฉากโจมตีจากฐานที่มั่นบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร เข้ามายังฐานที่มั่นของทหารไทยบริเวณผามออีแดง ซึ่งอยู่ในพื้นที่อธิปไตยของไทย โดยระหว่างที่เหตุการณ์ข้างต้นทั้งสองเหตุเกิดขึ้นนั้น ทหารกัมพูชายังได้ใช้ปืนใหญ่วิถีโค้งยิงมาตกบริเวณบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ราว 5 กิโลเมตร เป็นจำนวนหลายนัด

ส่งผลให้มีพลเรือนไทยบาดเจ็บ 1 คน เจ้าหน้าที่ทหารไทยบาดเจ็บอีก 6 นาย และมีบ้านเรือนประชาชนเสียหายยับเยิน 7 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ยังมีประชาชนในพื้นที่กว่า 3,000 คน ต้องอพยพลงหลุมหลบภัยด้วย

การโจมตีดังกล่าวของทหารกัมพูชาเข้าข่ายการกระทำที่ถือเป็นการรุกรานและการ ละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่ทหารของไทยจึงจำเป็นต้องยิงโต้ตอบอย่างไม่มีทางเลือก ตามสิทธิการป้องกันตนเอง อันเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎบัตรนานาชาติ

ทางการไทยขอยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาผ่านแนวทางสันติ และขอสงวนไว้ซึ่งสิทธิในการปกป้องอธิปไตยของชาติ

เตรียมจัดถกจีบีซีหาข้อยุติ

นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสรุปความคืบหน้าสถานการณ์ปะทะระหว่างทหาร ไทยกับกัมพูชาว่า เมื่อเวลา 15.30 น. นายกษิต เชิญเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 8 ประเทศ ไม่รวมไทยกับกัมพูชา และจากประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมถึงญี่ปุ่นและสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการมรดกโลกมารับฟังข้อมูล โดยนายกษิตกล่าวว่า เห็นพ้องกันให้การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนทั่วไป(จีบีซี)ไทย-กัมพูชา มีขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยมีไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะต่อสายหารือกับนายฮอร์ นัม ฮง รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศของกัมพูชาถึงกำหนดวันที่เหมาะสม โดยจะใช้การประชุมดังกล่าวเป็นช่องทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง นอกจากนี้ นายกษิตย้ำว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของประเด็นที่เกี่ยวข้อง กับปราสาทพระวิหาร คณะกรรมการมรดกโลกจึงควรชะลอการพิจารณาออกไปก่อนจนกว่าการประชุมเจบีซีจะแก้ ปัญหาได้แล้วเสร็จ พร้อมยืนยันแนวทางปฏิบัติของทางการไทยต่อเอกอัคร ราชทูตทุกคนว่า ทางการไทยจะไม่รุกรานก่อนเด็ดขาด

นายธานี กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้มีหนังสือชี้แจงถึงประธานคณะมนตรีความมั่น คงแห่งสหประชาชาติเพื่อรับทราบข้อเท็จจริง โดยทางกระทรวงเคยยื่นหนังสือไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้รุกรานดินแดนกัมพูชาก่อนตามที่กัมพูชากล่าวหา และเหตุปะทะไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ

บัวแก้วเขมรแถลงไทยยิงก่อน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 4 ก.พ. โดยระบุว่าเมื่อเวลา 15.00-17.00 น. วันที่ 4 ก.พ. กำลังทหาร ไทยราว 300 นาย เข้าไปในเขตแดนของกัมพูชาและต่อสู้กับทหารกัมพูชา ส่งผลให้ปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นมรดกโลกเสียหายบางส่วน และทำให้มีชาวกัมพูชาเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย ซึ่งกองทัพกัมพูชาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเองเพื่อปกป้องอธิปไตยและเขตแดนตนเอง

นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา หรือเจซี ครั้งที่ 7 ที่จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ระหว่างนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศกัมพูชา และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศของไทย ก็มีข้อเสนอว่าทั้งสองประเทศควรนำเรื่องเขตแดน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ของปราสาทพระวิหาร เข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือหน่วยงานนานา ชาติ หากทั้งสองฝ่ายหารือทวิภาคีไม่ได้ผล

ล่าสุด วันที่ 5 ก.พ. นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ถึงนางมาเรีย ลุยซา รีเบย์โร วิออตติ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชา ชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ระบุว่าเกิดเหตุปะทะกันขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. และเช้าวันที่ 5 ก.พ. ทหารไทยก็ยิงปืนใหญ่ขนาด 105 ม.ม. ข้ามมายังฝั่งกัมพูชา

พร้อมกันนี้ กัมพูชาเรียกร้องสหประชาชาติให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่ระเบิดขึ้นที่ชายแดน โดยกล่าวหาไทยว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน ซึ่งเป็นการแสดงความก้าวร้าวอย่างชัดเจน ทหารกัมพูชาไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง อย่างไรก็ตามในจดหมายของกัมพูชาไม่ได้เรียกร้องอย่างชัดเจนให้สหประชา ชาติเข้าแทรกแซง และยังขอให้ประธานยูเอ็นเอสซีเวียนหนังสือฉบับดังกล่าวในสถานะเอกสารทางการ ถึงสมาชิกยูเอ็นเอสซีทุกประเทศด้วย

สื่อเทศเกาะติดสถานการณ์

ด้านเอเอฟพีรายงานว่าการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ประชาชนทั้งสองประเทศนับพันคนต้องอพยพไปให้ห่างจากแนวสู้รบ และทั้งสองประเทศต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายยิงก่อน

เอเอฟพีรายงานด้วยว่า รมว.ต่างประเทศกัมพูชาส่งสารถึงประธานยูเอ็นเอสซี ซึ่งสห ประชาชาติเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศ "อดทนอดกลั้นจนถึงที่สุด" และระบุว่าความตึงเครียดของทั้งสองประเทศปะทุขึ้นหลังจากคนไทย 7 คนเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชาเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาและถูกนำตัวไปดำเนินคดีในศาลกัมพูชา

ด้านนายไมเคิล มอนเตสซาโน จากสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาในสิงคโปร์ กล่าวว่า กลุ่มเสื้อเหลืองกลุ่มเล็กๆ ต้องการให้สถานการณ์ความตึงเครียดทั้งสองประเทศคงอยู่ต่อไปจนถึงจุดเดือด

เอพีรายงานว่า นายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ทหารกัมพูชาจับกุมตัวทหารไทย 4 นายได้ แต่ทางประเทศไทยปฏิเสธรายงานดังกล่าว พร้อมเผยว่าจะส่งเรื่องร้องเรียนไปยังยูเอ็นเอสซีว่า "ไทยรุกราน" ขณะที่นายเขียว กันหะฤทธิ์ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา กล่าวว่า ปัญหาเกิดขึ้นเพราะทหารไทยไม่สนใจคำเตือนให้หยุดเข้ามาในดินแดนกัมพูชา แต่กลับพยายามหาทางเอาธงชาติกัมพูชาลงจากเสาธงที่วัดแก้วสิกขาคีรีศวร กัมพูชาจึงต้องยิงขึ้นฟ้า แต่ทหารไทยยิงปืนโต้กลับ ส่วนนายไพ สีพัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชาอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า การสู้รบเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มก่อนโดยใช้ปืนใหญ่และปืนครก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า พลทหารจัน โสวันชาย ทหารประจำปราสาทพระวิหาร เผยว่าการสู้รบเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ทำให้ทหารกัมพูชา 1 นายและนักท่องเที่ยว 1 รายเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 22 ราย และการปะทะกันเช้าวันที่ 5 ก.พ. ส่งผลให้ทหารกัมพูชา 5 นายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเศษกระสุน แต่ไม่ทราบว่ามีทหารไทยเสียชีวิตจากการสู้รบ

ยูเนสโก-สหรัฐกังวลบานปลาย

วันเดียวกัน องค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารของ ไทยและกัมพูชา ส่งผลให้มีการสูญเสียชีวิตและเกิดเสียหายต่อตัวปราสาท สืบเนื่องจากกรณีความขัดแย้งการนำปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

นางอิริน่า โบโกวา เลขาธิการยูเนสโก กล่าวในแถลงการณ์ว่า รู้สึกกังวลใจต่อสถาน การณ์ที่เกิดขึ้น โดยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น เพื่อเห็นแก่ความปลอดภัยของตัวปราสาทพระวิหารอันเป็นโบราณสถานเก่าแก่ รวมทั้งขอให้มีการเปิดช่องทางการติดต่อแบบสายตรงระหว่างผู้มีอำนาจของทั้ง สองประเทศเพื่อลดความตึงเครียดในพื้นที่

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทั้งไทยและ กัมพูชาใช้ความอดทนสูงสุด นายฟิลิป ครอว์ลีย์ โฆษก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางการสหรัฐกำลังจับตาดูสถานการณ์ปะทะอย่างใกล้ชิด และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดกลั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความขัดแย้ง บานปลาย

เทือกอู้อี้เหตุปะทะ

เวลา 08.30 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงสถานการณ์การปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาบริเวณชายแดน บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 ก.พ. ว่า ผบ.ทบ.ได้รายงานสถานการณ์มายังตนและนายกรัฐมนตรีทุกระยะ ทราบว่าขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากการพูดคุยประสานงานในระดับแม่ทัพภาค และรมว.กลาโหม ด้านความสูญเสีย กรณีนี้ขอให้ถือว่าการสรุปตัวเลขยังไม่ชัดเจน เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิด ยังต้องสำรวจตรวจสอบต่อไป แต่เท่าที่ยืนยันได้คือรายงานของผบ.ทบ.ที่ระบุว่ามีประชาชนคนไทยเสียชีวิต 1 คน และเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บไม่สาหัส ส่วนกรณีพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกระบุมีทหารไทย 5 นายถูกจับกุม ตอนที่เกิดสถานการณ์อาจมีความชุลมุน เป็น การพูดกันไปเอง โดยข้อเท็จจริงคือ เรามีทหารทำหน้าที่ประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาอยู่บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีศวร 5 นาย เพื่อลดความตึง เครียด หลังจากที่ถอนกำลังทหารออกมา และเมื่อมีสถานการณ์สู้รบก็ยังอยู่ในพื้นที่อยู่ แต่ไม่มีรายงานเรื่องการถูกจับกุมตัว แต่ยืนยันว่ายังปลอดภัย

เมื่อถามถึงมูลเหตุของการปะทะครั้งนี้ นายสุเทพกล่าวว่า เวลาเอากำลังทหาร 2 ฝ่ายประจันหน้ากันอยู่ แล้วตอบโต้เรื่องนั้นเรื่องนี้ ตั้งแต่เรื่องธงชาติ เรื่องป้าย เราทุบป้ายบ้าง ชักธงแข่งกันบ้าง ไม่นับกรณีที่ผู้คนแต่ละประเทศท้าทายกันไปมา มันเกิดความตึงเครียด ในชั้นนี้เราอย่าไปคาดคั้นเอาว่าใครยิงใครก่อน ตอนนี้ต้องดูว่าทำอย่างไรให้ 2 ฝ่ายถือว่านี่คือแค่อุบัติเหตุ แล้วมาคุยกัน ทำให้เรื่องนี้สงบเรียบ ร้อยดีกว่า

เมื่อถามว่ากัมพูชาระบุทหารไทยเข้าไปเกลี่ยดินในพื้นที่กัมพูชา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ เราระมัดระวังที่จะไม่ทำอะไรที่ยั่วยุอยู่แล้ว แต่เมื่อมียิงกันก็ต้องโต้ตอบกันอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดาของฝ่ายทหาร ส่วนรายละเอียดของทหาร ขอให้ผบ.ทบ.และแม่ทัพภาคพูดดีกว่า ในระดับแม่ทัพภาคมีการประสานกัน พยายามพูดจาให้มีเหตุผลกัน ในระดับกระทรวงกลาโหมก็ประสานกับผู้ใหญ่ ระดับรมว.ต่างประเทศต้องคุยกัน ต้องทำทุกระดับ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่นายกฯจะต้องต่อสายคุยกัน ตอนนี้ว่ากันตามสายงานก่อน

วอนพันธมิตรเจรจานายกฯ

เมื่อถามถึงกลุ่มพันธมิตรฯตั้งเงื่อนไขยกระดับการชุมนุมในวันที่ 5 ก.พ.นี้ นายสุเทพกล่าวว่า อยากกราบขอร้องว่าให้เบาๆ หน่อย มีเหตุผลกันดีกว่า มานั่งคุยกัน นายกฯพร้อมนั่งเจรจาพูดคุยกันตลอดเวลา มาหารือกันดีกว่า บ้านเมืองเป็นของเราทุกคน ดึงดันไปไม่ได้ประโยชน์ และเป็นห่วงว่าหากมีเหตุการณ์อะไรขึ้นอาจจะซ้ำเติมสถานการณ์

เมื่อถามว่ารัฐบาลเตรียมรองรับสถานการณ์ในการยกระดับการชุมนุมอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดูตามสถานการณ์ คงตอบไม่ได้เพราะหากบอกว่าเตรียมการอะไรไว้แล้วก็จะกลายเป็นการท้าทายกัน อย่างไรก็ตาม ได้หารือร่วมกับผบช.น.เพื่อกำหนดมาตรการรับมือเรียบ ร้อยแล้ว

พธม.ปักหลุกชุมนุมด่ารบ.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บริเวณถ.ราชดำเนินตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ไปจนถึงแยกมิสกวันว่า ช่วงเช้ามีผู้ชุมนุมกระจายอยู่ตามเต็นท์ ตลอดถนนราชดำเนินประมาณ 1,000 คน นอกจากนี้ ยังปิดสี่แยกมิสกวันเพื่อเตรียมรับผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมาสมทบในช่วงเย็น เนื่องจากในช่วงค่ำวันนี้ ทางแกนนำพันธมิตรฯจะขอฉันทามติจากผู้ชุมนุมในการเคลื่อนไหว พร้อมประกาศยกระดับการชุมนุม ส่วนฝั่งถ.พิษณุโลก ที่เป็นจุดปักหลักของกลุ่มประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ มีผู้ชุมนุมประมาณ 400 คน

ส่วนการปราศรัยบนเวทียังคงโจมตีข้อเสียของเอ็มโอยู 43 และความอ่อนแอของรัฐบาล ที่ไม่ใช้มาตรการตอบโต้ทหารกัมพูชาที่รุกล้ำอธิปไตย และละเมิดดินแดนยืงปืนใหญ่ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนได้รับความเดือดร้อน มาก รวมทั้งยังคงโจมตีนายอภิสิทธิ์ นายกษิต ภิรมย์ พล.อ.ประวิตร ที่ไม่มีมาตรการตอบโต้กัมพูชาอย่างเด่นชัด

'มหา'อัดมาร์คขี้ขลาด

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่หน้าประตูกระทรวงศึกษาธิการ แกนนำพธม. นำโดยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมฯ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพธม. ร่วมกันแถลงข่าว

พล.ต.จำลองกล่าวว่า นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ปะทะระหว่างกองกำลังทหารไทยและกัมพูชา ได้โทรศัพท์มาถึงตนและแจ้งว่าทหารทุกนายที่ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทยมีขวัญ กำลังใจดีมาก ตนบอกว่าประชาชนทุกคนจะรวบรวมเงินบริจาคในกองทุนทวงคืนปราสาทพระวิหารและ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โอนเงินไปยังกลุ่มพธม.ในอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อจัดซื้ออาหารแห้ง อาหารกระป๋อง ไปมอบให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ เมื่อตอนเกิดการปะทะ มีชาวบ้าน 4 ตำบลได้รับความเดือดร้อนคือ ต.ภูมิ ซรอล ต.เสาธงชัย ต.ลุง และต.ภูผาหมอก ซึ่งชาวบ้านได้อพยพมาอยู่ที่อาคารสองหลังที่อ. กันทรลักษ์และในสนามหญ้าเต็มไปหมด โดยกลุ่มพธม.ได้จัดตั้งโรงครัวทำอาหารเลี้ยง

พล.ต.จำลองกล่าวว่า หากนายอภิสิทธิ์ ทำตามข้อเรียกข้อสามข้อของพธม. ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นบานปลายกลายเป็นสงคราม จนถึงขณะนี้รัฐบาลก็ไม่คิดจะทำอะไรเป็นเพราะความไม่ฉลาดและขี้กลัว จนรู้สึกอายมากที่สุดตั้งแต่เป็นคนไทยและเป็นทหารมาจนแก่ ที่มีผู้นำรัฐบาลที่อ่อนแอ ขี้ขลาด และนายทหารบางคน ที่ห่วยๆ ยอมจำนนทุกอย่างต่อสมเด็จฮุนเซน ยอมจนให้ทหารกัมพูชายิงทหารไทยก่อนทั้งที่ เป็นพื้นที่ 4.6 ตางรางกิโลเมตร ที่นายกฯไทยออกมาบอกตลอดเวลาไทยไม่เสียดินแดน ทั้งที่ความจริงแล้วไทยได้เสียดินแดนไปนานแล้วในด้านพฤตินัย แต่มาเสียทั้งนิตินัยในตอนที่กระทรวงการต่างประเทศออกมาแถลงชัดเจนไปทั่วโลก พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของเขมร ยืนยันว่าหากไม่ทำข้อเรียกร้องทันที จะเสียดินแดนตามแนวตะเข็บชายแดนตั้งแต่ จ.อุบลราชธานีจนถึงจ.ตราดรวมแล้ว 1.8 ล้านไร่ เพราะกัมพูชาได้ระบุว่าปราสาทที่อยู่ในไทยเป็นของกัมพูชาทั้งหมดโดยผ่าน แผนที่ 1 ต่อ 200,000 รวมถึงดินแดนข้อพิพาทในทะเลอ่าวไทย ที่มีพลังงานมหาศาล

ลั่นจะรบก็ต้องรบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ทบ.ระบุให้แกนนำพธม.ไปอยู่ชายแดน จะได้รู้ว่าความเดือดร้อนของชาวบ้านเมื่อเกิดสงครามเป็นอย่างไร พล.ต. จำลองกล่าวว่า ตนไม่ใช่ไม่เคยไปรบ ไปผ่านสมรภูมิมาทั้งลาวและเวียดนาม การพูดแบบนี้เหมือนเด็กทะเลาะกันมาแดกดันกันเองเหมือนเด็กๆ แทนที่จะเอาเวลาไปปกป้องอธิปไตยของประเทศซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของทหารตาม รัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมากัมพูชาได้รุกล้ำพื้นที่ไทยมาโดยตลอด โดยไม่สนใจข้อตกลงในเอ็มโอยู 43 กรณีนี้รัฐบาลจะต้องใช้กำลังทหารในการผลักดันออกจากพื้นที่แล้วมาเจรจาที หลัง และรัฐบาลต้องใช้ความกล้าหาญสั่งให้ทหารผลักดันรื้อวัดแก้วสิกขาคีรีศวร ชุมชน ตลาดของเขมรออกไปทันที

"ทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความง่อนแง่น และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม อย่ามาเสียเวลาเจรจากับพันธมิตรฯไร้สาระเพราะล้มเหลวทุกครั้ง เอาเวลาไปทำหน้า ที่ให้สมศักดิ์ศรีของประเทศไทยที่มีแสนยานุภาพเหนือกว่าทุกด้านต่อกัมพูชา หากต้องการสงครามจริงๆ แสนยานุภาพของกองทัพไทยไปได้ถึงกรุงพนมเปญ ภายใน 5 นาที ถามสมเด็จฮุนเซน จะเอาไหม ถ้าไม่เอา ต้องเอาพื้นที่ที่รุกล้ำคืนไทยมาทั้งหมด ถ้ารัฐบาลและกองทัพไม่มีบทบาทที่แข็งกร้าวต่อเขมร จะลุกลามมาถึงปราสาททั้ง หมดในไทย จะรบก็ต้องรบเพราะเป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำเพื่อรักษาแผ่นดินไทย อย่าคิดว่าทหารต้องเสียชีวิต การตายในหน้าที่ทหารทุกคนต้องรู้อยู่แล้วหากกลัวสงครามก็อย่ามาเป็นทหาร" พล.ต. จำลองกล่าว

นายปานเทพกล่าวว่า กรณีนายกฯบอกพร้อมเปิดการเจรจานั้น ขอยืนยันว่าแกนนำไม่ได้รับการติดต่อจากนายกฯหรือใครๆ การพูดเช่นนี้เป็นเพียงพูดให้ดูดี และเป็นเพียงวาทกรรม ทั้งนี้ เวลา 20.00 น. ทางพันธมิตรฯจะประกาศยกระดับการชุมนุมโดยจะขอฉันทามติจากกลุ่มผู้ชุมนุมค่ำ วันนี้

ตร.ตรึงเข้มป้องยึดทำเนียบ

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผบช.น. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ควบคุมการฝึกกำลังพลทบทวนยุทธวิธีปฏิบัติดูแล ความสงบเรียบ ร้อยรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล พร้อมด้วยพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินสำรวจ แนวรั้วรอบทำเนียบรัฐบาล หลังจากมีรายงานข่าวว่า กลุ่มพธม.อาจบุกเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งสั่งให้เสริมแนวรั้วลวดหนาม อีก 3 ชั้น เพื่อเสริมมาตรการความปลอดภัย โดยเฉพาะกำแพงทำเนียบรัฐบาลฝั่งถ.พิษณุโลกที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากรั้ว เดิมไม่มีเครื่องกีดขวาง นอก จากนี้ยังมีการนำรถดับเพลิงจากปภ.กทม. มาเสริมภายในทำเนียบอีก 3 คัน

พล.ต.ต.กรีรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ประชุมวาง แผน และทบทวนความเข้าใจในการรักษาความปลอดภัยในระดับผู้บังคับการ รองผู้บังคับการ และผู้กำกับการต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลพื้นที่การชุมนุม ส่วนผู้ชุมนุมที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองก็น่าจะมาด้วยความสงบ ไม่น่าจะมีการบุกเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล หรือบุกรุกสถานที่ราชการ

พล.ต.ต.กรีรินทร์ กล่าวว่า ส่วนการบุกเข้ามาภายในทำเนียบนั้นยังไม่ได้วิเคราะห์ว่าผู้ชุมนุมจะบุกเข้า มาหรือไม่ แต่ตำรวจทุกหน่วยมีความพร้อมในการรับมือตาม แผนกรกฎ 52 ที่พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เน้นย้ำผู้ปฏิบัติให้ใช้แผนนี้ เพราะทำตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก กำลังตอนนี้ก็มีอยู่ 20 กองร้อย และสามารถเรียกกำลังเสริมได้ภายใน 2 ชั่วโมง ส่วนสถานทูตกัมพูชาได้มอบหมายให้ผบก.น.4 ดูแลรับผิดชอบ ส่วนสถานที่ล่อแหลมเช่นรัฐสภา หรือกระทรวงต่างประเทศ มีการเสริมกำลังดูแลตลอดเวลา เตรียมพร้อมตลอดเวลา และกำลังที่มีอยู่ภายในทำเนียบมั่นใจว่าจะป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามา ภายในทำเนียบได้ ส่วนผู้ต้องการสร้างความวุ่นวายทั้งหมด ทางตำรวจเป็นห่วงและจัดชุดสอบสวนทุกนครบาลเพื่อออกหาข่าว จัดตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าไปคลุกคลีอยู่ก็สามารถรู้ได้ทันที แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานใดๆ

เทพไทป้องมาร์ค-อัดพธม.

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุเหตุการณ์ทหารไทยและกัมพูชาปะทะกันที่จ.ศรีสะเกษ เป็นเพราะนายกฯ อ่อนแอขี้ขลาดตาขาวว่า นายอภิสิทธิ์เป็นผู้นำประเทศที่มีความเด็ดขาด เป็นคนอ่อนนอกแข็งใน และพร้อมแสดงความรับผิดชอบในการสั่งการใดๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อมีทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามา ก็ให้ทหารไทยใช้สิทธิป้อง กันอธิปไตยของชาติได้อย่างเต็มที่ ไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดตาขาวตามที่กล่าวหา นายกฯ เป็นคนที่รับผิดชอบในการกระทำและคำพูด ไม่เคยเลี่ยงบาลีเหมือนคนบางคนที่เคยประกาศจะอดข้าวจนตัวตาย แล้วกลับขอมติขอกินกล้วยน้ำว้าประทังชีวิต เพื่อหนีความตายของตัวเอง

นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนที่อ้างว่าพันธมิตรฯ เสนอให้กำลังทหารอาวุธหนักไปกดดันกัมพูชานั้น ไม่ใช่ให้ไปปะทะกันแต่ต้องการแสนยานุ ภาพเพื่อต่อรองกับกัมพูชาอยากถามว่าข้อเสนอดังกล่าว ถ้ารัฐบาลบ้าจี้ทำตามข้อเสนอกลุ่มพันธมิตรจริง ความรุนแรงก็จะเกิดมากกว่านี้ ไม่มีประเทศใดที่จะไปยอมให้ประเทศหนึ่งใช้กำลังทหารไปกกดันและยั่วยุ เพราะเขาก็มีกองทัพที่จะป้องกันประเทศของเขาเหมือนกัน จึงอยากจะให้กลุ่มพันธมิตรฯ หยุดวิธีการชุมนุมในลักษณะกดดันสร้างความตึงเครียดให้กับประเทศทั้งสอง ส่วนที่ระบุถ้ารัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 43 จะไม่เกิดการรบเกิดขึ้นนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะเอ็มโอยู 43 เป็นข้อตกลงที่เขียนระบุชัดเจน ว่าหากมีปัญหาใดเกิดขึ้น เกิดการกระทบกระทั่งต้องใช้การเจรจา ไม่ให้ใช้กองกำลังแก้ปัญหา เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ใช่เป็นผู้จุดชนวน ก็ขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ หยุดโหมไฟสงครามที่ชายแดนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ลวดหนาม 3 ชั้นล้อมทำเนียบฯ

เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพธม. ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ในช่วงเย็นว่า หลังจากแกนนำได้ประกาศจะขอฉันทานุมัติจากผู้ชุมนุม ในเวลา 20.00 น. ส่งผลให้วันนี้มีผู้ร่วมชุมนุมมีจำนวนมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา โดยมีประชาชนทยอยมาร่วมชุมนุมกันตั้งแต่ช่วงกลางวัน และเมื่อถึงช่วงเย็น ผู้ชุมนุมกระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่การชุมนุม โดยมีผู้ชุมนุมจากฝั่งถ.ราชดำเนิน และถ.พิษณุโลก รวมกันประมาณ 3,500 คน ทั้งนี้ฝ่ายจัดการชุมนุมได้มอบหมายให้การ์ด พธม. เดินตรวจสอบและดูแลรักษาความปลอด ภัยโดยตลอด อีกทั้งโฆษกบนเวที ประกาศย้ำว่า ผู้ที่จะมาร่วมชุมนุม ห้ามนำอาวุธและสิ่งของมึนเมาเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด

สำหรับการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ได้จัดกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบ และตำรวจสันติบาล แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อสังเกตการณ์ และคอยระงับเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ ยืนรักษาการณ์อยู่โดยรอบทำเนียบฯ อย่างแน่นหนา และหลังจากมีกระแสข่าวว่าอาจบุกทำเนียบฯ เจ้าหน้าที่ได้เร่งมือติดตั้งรั้วลวดหนาม 3 ชั้นรอบทำเนียบฯ ให้เสร็จสิ้นก่อนตะวันตกดิน และนำรถดับเพลิงของสปภ.กทม. และรถไฟฟ้าส่องสว่างมาประจำการ พร้อมทั้งติดตั้งลำโพงขยายเสียง ไว้สื่อสารกับผู้ชุมนุมด้วย

มหาไล่เทือกไปขอคืนพื้นที่'เขมร'

พล.ต.จำลองแถลงอีกครั้งว่า ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในวันนี้ เวลา 16.30 น. นายสุเทพได้ออกคำสั่งให้ผบ.ตร. สลายการชุมนุมของกลุ่มพธม. ขอบอกนายสุเทพว่า นายสุเทพไม่ได้ทำหน้าที่รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เพาะรองนายกฯ ต้องขอพื้นที่คืนจากกัมพูชา ไม่ใช่จากเรา เพราะพื้นที่นี้เป็นของคนไทย และเรามีสิทธิชุมนุม ตำรวจใช้กำลังสลายเราได้ทุกนาทีแต่ไม่มีวันสำเร็จ เพราะหากไล่ เรากลับมาอีกในฐานะนักชุมนุมมืออาชีพ ยืนยันว่าคุณไม่มีทางชนะเราแน่ มาไล่เราเมื่อไหร่ เราก็กลับมาอีก

นายปานเทพกล่าวถึงข้อตกลง 4 หยุดยิงของมท.ภ.2 ว่า ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ โดยเฉพาะการรุกล้ำอธิปไตย และการที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่ของราษฎร หากจะใช้การเจรจา ต้องให้ทหารกัมพูชาถอนออกนอกพื้นที่ โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่เช่นนั้นแล้ว ทางกัมพูชาจะยึดครองพื้นที่ต่อไป โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา

ประชามติพธม.ให้มาร์คออก

เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. แกนนำพธม. ได้ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกัน พร้อมอภิปรายโจมตีการทำงานของนายอภิสิทธิ์ก่อนขอฉันทามติจากผู้ชุมนุมว่า นายอภิสิทธิ์สมควรลาออกจากตำแหน่งนายกฯ รวมทั้งให้ครม.ลาออกทั้งคณะ และหาคนใหม่ที่มีคุณธรรมมาทำหน้าที่แทน หลังจากนั้น นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ขึ้นอภิปรายโจมตีการทำงานของกองทัพต่อ

ตร.ยันไม่สลายม็อบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายปานเทพ ขึ้นอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2554 เพื่อขอฉันทามติจากผู้ชุมนุม ซึ่งมีประมาณ 4,000 คน โดยข้อแรกประกาศว่าขอให้ผู้ชุมนุมให้โอกาสนายอภิสิทธิ์ อีกครั้ง หากเห็นด้วยให้ตบมือ ปรากฏว่าผู้ชุมนุมไม่มีคนปรบมือแม้แต่คนเดียว พร้อมส่งเสียงโห่ จากนั้นนายปานเทพ อ่านข้อ 2 ให้นายอภิสิทธิ์ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากนายกฯ ถ้าเห็นด้วยให้ตบมือ ปรากฏว่าผู้ชุมนุมที่อยู่ถนนราชดำเนินต่างตบมือเสียงกึกก้อง พร้อมส่งเสียงตะโกน"ลาออกไป" อย่างต่อเนื่อง และข้อ 3 ให้คณะรัฐมนตรีลาออกทั้งชุด ผู้ชุมนุมก็ตบมือและโห่ร้องเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแกนนำพันธมิตรฯอ่านแถลงการณ์เสร็จ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินมาที่ด้านหลังเวทีและได้พบกับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง โดยพูดคุยนาน 5 นาที ซึ่งพล.ต.จำลอง ฝากให้ช่วยดูแลเรื่องอาวุธสงครามที่อาจหลุดรอดเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมและ กล่าวขอบคุณที่มาดูแลประชาชน ขณะที่พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า จะดูแลเป็นอย่างดี พร้อมปฏิเสธข่าวสลายการชุมนุม โดยยืนยันว่าไม่มีเรื่องดังกล่าว

รมว.กห.ประสานปล่อยทหารไทย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดปะทะกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาสงบลงแล้วทุกอย่าง ขณะนี้ผู้นำระดับสูงของไทยและกัมพูชา ได้มีการหารือถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อยุติปัญหา โดยจะใช้ช่องทางการเจรจาในระดับ เจบีซี อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา มีทหาร 1 นาย พลัดหลงเข้าไป และทราบว่าทางกัมพูชาได้จับกุมตัวไว้ จึงมีการประสานงานให้มีการปล่อยตัว

"ผมได้ประสานงานไปยัง พล.อ.เตีย บัน รองนายกฯ และรมว.กลาโหมของกัมพูชา เรียบร้อยแล้ว เพื่อขอให้ปล่อยตัวทหารไทยคนดังกล่าว พร้อมทำหนังสือไปยังกัมพูชาเพื่อขอให้ส่งตัวทหารคนดังกล่าวให้กับไทย ซึ่งกัมพูชายืนยันแล้วว่าจะส่งคืนให้เร็วที่สุด" พล.อ.ประวิตรกล่าว

[/FONT]

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEEyTURJMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNaTB3Tmc9PQ

 

ผลเจรจาไทย-เขมรประกาศหยุดยิงสงบศึก สลดรดน้ำศพทหารตายจากเหตุปะทะ





ผลเจรจาไทย-เขมรประกาศหยุดยิงสงบศึก สลดรดน้ำศพทหารตายจากเหตุปะทะ

<style>p { margin: 0px; }</style> ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.พ. ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย–กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยพล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผบ.กองกำลังสุรนารี และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางเข้าไปในเขตกัมพูชาที่ร้านอาหารใกล้กับจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชา โดยได้ไปเจรจากับพล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา รวมทั้งคณะนายทหารระดับสูงของฝ่ายกัมพูชา เพื่อเจรจาหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบที่บริเวณเขาพระวิหาร ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการประชุมหารือกันอย่างเคร่งเครียดนานประมาณ 2 ชม. ได้ข้อสรุปว่า จะหยุดยิงพร้อมกันตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันนี้เป็นต้นไป และจะไม่มีการเพิ่มกำลังทหารหรือเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนอีก

จากนั้นทางฝ่ายกัมพูชาได้ส่งมอบทหารไทย จำนวน 4 นาย ซึ่งเป็นทหารชุดประสานงานอยู่ที่บริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาะกลับคืนให้กับ ฝ่ายไทย ซึ่งทหารไทยทั้ง 4 นายไม่ได้ถูกจับเป็นตัวประกันแต่อย่างใด แต่ว่าเขมรได้ขอให้อยู่ในพื้นที่จำกัดระหว่างการสู้รบและอนุญาตให้โทรศัพท์ พูดคุยกันลูกเมียได้ แต่ไม่ให้รายงานสถานการณ์การสู้รบบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ เพื่อเป็นการชี้เป้าหมายพิกัดให้กับทางฝ่ายทหารไทยได้ทราบ โดยเมื่อเวลา 11.00 น. ทหารฝ่ายกัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่เข้ามาในเขตแดนไทย 2 นัด แต่กระสุนปืนใหญ่ตกไปทางด้านทิศตะวันของบ้านภูมิซรอล ห่างจากชุมชนประมาณ 4 กม.

ต่อมาเวลา 14.45 น. รถรพ.กันทรลักษ์ ได้นำศพของ ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี ทหารสังกัด ร. 16 พัน 2 จ.ยโสธร ที่เสียชีวิตและคลุมด้วยธงชาติ โดยมีเพื่อนทหารช่วยกันยกศพมาวางบนแท่นบนศาลาวัด จากนั้นคณะของพล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร ผช.ผบ.ทบ.ซึ่งประกอบด้วย พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผบ.กองกำลังสุรนารี พล.ต.ชยันต์ หวยสูงเนิน พ.อ.สมชาย เพ็งกูด ผบ.หน่วย ฉก.ที่ 1 / ผบ.ร.16 ได้เดินทางมาถึงบริเวณวัด โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ อดีตส.ส.ศรีสะเกษ เขต 3 นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ให้การต้อนรับ

เวลา 15.15 น.พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร ผช.ผบ.ทบ.ได้เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ โดยมีผู้บังคับบัญชา และเพื่อนทหารของส.อ.วุธชรินทร์ มาร่วมรดน้ำศพกันเป็นจำนวนมากท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด จากนั้นพระสงฆ์ได้ประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ส่วนการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้นยังไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นวัน เวลาใด ต้องรอให้ญาติพี่น้องของ ส.อ.วุธชรินทร์ หารือกันก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าจนถึงขณะนี้บรรยากาศตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากการเจรจาหยุดยิงระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยกับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่อพยพหนีภัยสงครามก็ยังไม่กล้าที่จะกลับเข้าไปพัก อาศัยในบ้านเรือนของตนเองที่บ้านภูมิซรอล เกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายจากการสู้รบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา



http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJNU5qa3hNRFEyTkE9PQ==&sectionid

 

ทหารตายแค่1 สื่อเขมรโต้ ทำปืนลั่นใส่เอง

ทหารตายแค่1 สื่อเขมรโต้ ทำปืนลั่นใส่เอง


สื่อเขมรเผย เหตุยิงปะทะไทย ทหารเขมรตายแค่ 1 ศพ เหตุทำปืนลั่น และ ชาวบ้านตาย 1 บาดเจ็บ 20 เท่านั้น เสนอภาพกำลังทหาร และกองทัพรถถัง โชว์ภาพกองเสบียงอาหารจำนวนมากชาวเขมรส่งมาช่วย...


เมื่อเช้าวันนี้ที่ 6 ก.พ. ที่บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติพ่อค้า แม่ค้า และกรรมกรชาวเขมรหลายพันคน เดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาทำการค้า และ รับจ้างในตลาดโรงเกลือ ทำให้บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศขาเข้าประเทศ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากตกอยู่ในสภาพเงียบเหงามาหลายวัน ตั้งแต่เกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ทางด้านปราสาทพระวิหาร ส่วนบริเวณจุดตรวจขาออกด่านพรมแดนอรัญประเทศ ยังคงไม่คึกคักทั้งนักพนัน และ นักท่องเที่ยวชาวไทย ยังไม่กล้าเดินทางออกไปฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ที่จะพานักท่องเที่ยวชาวไทยไป นครวัด-นครธม จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ยังคงยกเลิกการเดินทาง มีแต่เพียงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ยังคงเดินทางออกไปฝั่งกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง และบรรยากาศในตลาดโรงเกลือ ได้กลับมาคึกคักเหมือนเดิมอีกครั้งร้านค้าชาวเขมรเปิดทำการค้าแล้ว 100% นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามาหาซื้อสินค้าในตลาดโรงเกลือ จำนวนมาก


ส่วนบรรยากาศในตลาดปอยเปต อ.โอวจโรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ ตั้งแต่เช้าวันนี้ชาวเขมรได้ออกมาหาซื้อ น.ส.พ.กัมพูชา เพื่อติดตามดูข่าวสารสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารไทย-กัมพูชา แต่ไม่สามารถหาซื้อ น.ส.พ. ได้เนื่องจาก น.ส.พ.ในเขมร ขายดีจนไม่มีส่งมาจำหน่ายในตลาดปอยเปต ชาวเขมรจึงแห่เข้าไปตรวจสอบข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต ในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ในตลาดปอยเปต โดยเฉพาะเว็บไซต์ dap-news.com ของ น.ส.พ.เดิมอัมปรึล (น.ส.พ.ต้นมะขาม) ซึ่งชาวเขมรแห่เข้าไปเปิดดูมากที่สุด ซึ่งเว็บไซต์ dap-news.com ได้เสนอข่าวและภาพเหตุการณ์การยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหาร


โดย น.ส.พ.เดิมอัมปรึล อ้างว่า จากการที่ทหารไทยรุกรานเข้าไปยิงปะทะ กับ ทหารกัมพูชา ที่เฝ้าปราสาทพระวิหาร เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา มีชาวกัมพูชาเสียชีวิตเพียง 2 คน โดยเป็นทหารกัมพูชา 1 คน และ เสียชีวิต เพราะทำปืนลั่น ไม่ได้ถูกทหารไทยยิงตาย และ เป็นชาวบ้านกัมพูชาเสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บรวม 20 คนเท่านั้น นอกจากนี้ น.ส.พ.เดิมอัมปึล ได้ลงภาพกองทัพรถถังของกัมพูชา และ ทหารกัมพูชากำลังใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับทหารไทย โดยบรรยายภาพว่าทหารกัมพูชา ยิงต่อสู้กับผู้รุกรานด้วยความกล้าหาญ พร้อมทั้งได้นำภาพทหารกัมพูชา ที่ประจำการในปราสาทพระวิหาร และ ภาพหางกระสุนปืน ค. ที่ทหารไทยยิงไปตกใกล้กับตัวปราสาทพระวิหาร นอกจากนี้ ยังมีภาพกองเสบียงอาหาร และ น้ำดื่ม จำนวนมาก ที่ น.ส.พ.เดิมอัมปรึล อ้างว่า เป็นเสบียงอาหาร และ น้ำดื่มที่ชาวกัมพูชาทั่วประเทศ ส่งมาช่วยทหารกัมพูชาเพื่อให้ต่อสู้กับผู้รุกราน


นายเอกโซ เวิร์น อายุ 43 ปี นักธุรกิจชาวเขมรในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เผยว่า จากการที่สื่อเขมรนำเสนอข่าวและภาพของกองทัพกัมพูชาที่กำลังต่อสู้กับทหาร ไทยและอ้างว่าเป็นผู้รุกรานนั้น ยิ่งทำให้ชาวเขมรเริ่มไม่สบายใจ อีกทั้งมีชาวเขมรจำนวนมาก ซึ่งเป็นพวกคลั่งชาติพยายามพูดปากต่อปากว่าประเทศไทยเป็นผู้รุกรานกัมพูชา และหวังจะยึดปราสาทพระวิหารคืนจากเขมร ซึ่งจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ ทำให้ประชาชนชาวเขมรเริ่มคล้อยตามและเริ่มไม่ไว้วางใจคนไทย เกรงว่าหากยังไม่มีการเจรจาและจับมือกันจะทำให้สถานการณ์บานปลายจนเอาไม่ อยู่



ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวภูมิภาค
• 6 กุมภาพันธ์ 2554, 15:09 น.

ทหารตายแค่1 สื่อเขมรโต้ ทำปืนลั่นใส่เอง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ปลัด มท.ลงหลุมหลบภัย หลังเสียงดังคล้ายปืนกึกก้อง

ปลัด มท.ลงหลุมหลบภัย หลังเสียงดังคล้ายปืนกึกก้อง


เสียงดังคล้ายปืืน กึกก้องพระวิหาร อีกคำรบ คาด อาจเกิดเหตุยิงปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา คณะปลัดกระทรวงมหาดไทย วิ่งลงหลุมหลบภัยวุ่น...

เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. วันนี้ ( 6 ก.พ.) ได้เกิดเสียงดังคล้ายปืน ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณใกล้ปราสาทพระวิหาร ซึ่งในเวลาดังกล่าว นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กำลังนำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเสียหาย ของ โรงเรียนบ้านภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

โดยทันที ที่มีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งอพยพคณะปลัดกระทรวงมหาดไทย วิ่งลงหลุมภัยโดยทันที พร้อมกับได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่ เร่งเข้าที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ดีมีรายงานว่าทางวิทยุสื่อ สารว่า เหตุดังกล่าว น่าจะเป็นการยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ที่บริเวณบ้านซำแต ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างไรก็ดี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 4 ได้สั่งปิดโรงเรียนประถมศึกษาในสังกัด กว่า 20 โรง 3 วัน ระหว่างวันที่ 7 - 9 ก.พ. เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน
ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น ภายหลังสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ผ่านมา มีการพบปะเจรจาเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างนายทหารระดับสูงของไทย นำโดย พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาค 2 กับนายทหารกัมพูชา นำโดย พล.ต.ซเรย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ที่บริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหาร
ล่า สุด ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า เหตุไซเรนเตือนให้อพยพเข้าหลุมหลบภัย ระหว่างลงพื้นที่บ้านภูมิซรอล เนื่องจากเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา อีกรอบ เป็นการแจ้งเตือนผิดพลาด เหตุวิทยุสื่อสารในพื้นที่แจ้งข้อมูลผิด ยืนยันขณะนี้ยังไม่มีเหตุปะทะแต่ยอมรับสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ
ขณะ ที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ยืนยันเช่นกันว่า ไม่มีการปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาหลังไซเรนแจ้งเตือนให้ชาวบ้านภูมิซรอล อพยพเข้าหลุมหลบภัย


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
• 6 กุมภาพันธ์ 2554, 14:00 น.

ปลัด มท.ลงหลุมหลบภัย หลังเสียงดังคล้ายปืนกึกก้อง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สื่อเขมรตีข่าวเขาพระวิหารเสียหายจากฝีมือทหารไทย




สื่อมวลชนกัมพูชาระบุกระสุนที่ยิง เข้ามาจากทหารไทยทำให้ทหารและประชาชนกัมพูชาเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวน มาก พร้อมทั้งรายงานว่า ปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ได้รับความเสียหายด้วย
วันนี้ (6 ก.พ. 54 ) สื่อมวลชนกัมพูชานำเสนอข่าวการปะทะกันของทหารไทยและกัมพูชาตามแนวชายแดน จังหวัดศีรษะเกษ โดยหนังสือพิมพ์รัศมี กำปูเจีย นำเสนอภาพความเสียหายของโบราณสถานของปราสาทพระวิหารฝั่งกัมพูชาและวัดแก้ว สิกขาคีรีสวาละ ที่ทหารยิงกระสุนเข้ามา หนังสือพิมพ์รัศมี กำปูเจีย นำภาพพระพุทธรูปสิกขาคีรี ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวัดแก้วสิกขาคีรีสวาละ แตกหักเสียหาย และกำแพงวัดที่โดนคมกระสุนทำลาย และพาดหัวข่าวว่า มีทหารไทยเสียชีวิต แต่ทหารกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนมากกว่า
นอกจากนี้ สื่อมวลชนกัมพูชา ระบุว่า ทางการกัมพูชาได้สั่งการให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่สู้รบ และขอบริจาคสิ่งบรรเทาทุกข์ไปให้ทหารและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ขณะเดียวกัน กัมพูชาได้ระดมกำลังทหารเข้าไปประชิดชายแดนปราสาทพระวิหาร และทุกชายแดนที่ติดกับชายแดนของไทย เพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย
สื่อมวลชนกัมพูชา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้หลังการปะทะเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์นั้น ทางการกัมพูชาได้ควบคุมตัวทหารไทยไว้ 4 คนแต่ไม่ได้เป็ยการจับเป็นเชลย แต่เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ และส่งตัวคืนทางการไทย แต่ยังมีทหารไทยอีก 1 คนที่ยังอยู่ในการควบคุมของกัมพูชา ซึ่งผู้บัญชาการทหารนั้นยืนยันว่าจะไม่มีการนำไปดำเนินคดีและจะส่งตัวคืนใน ไม่ช้า
สื่อมวลชนกัมพูชา รายงานว่า หมู่บ้านตามแนวชายแดนที่มีการสู้รบเริ่มกลายเป็นหมู่บ้านร้าง เพราะประชาชนอพยพออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว แต่ชายแดนนั้นเปิดแล้ว แต่พ่อค้าแม่ค้าบางส่วนยังวไม่มั่นใจที่จะกลับไปค้าขายตามเดิม เพราะยังมีการตรึงกำลังทหาร และไม่มั่นใจว่าจะเกิดการสู้รบอีกเมื่อไหร่ แต่ชาวบ้านกัมพูชา บางคนบอกว่า เป็นสงครามที่รุนแรงและไม่เคยพบเจอมาตั้งแต่สมัยสงครามเขมรแดงแล้ว
ทั้งนี้ กัมพูชายังคงไม่มีการเพิ่มกำลัง แต่ก็ยังไม่มีการถอนทหารออกจากพื้นที่ โดยทหารกัมพูชายังคงตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้เคียงกับปราสาทพระวิหาร บริเวณ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศีรษะเกษ รวมถึงทหารกัมพูชายังคงตรึงกำลังตามแนวชายแดนบริเวณจังหวัดสระแก้ว จังหวัดสุรินทร์ด้วย

TNN 24

 

เปิดคลิป! ไทยปะทะเขมร บริเวณเขาพระวิหาร

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=MPFyITD4nfM]YouTube - ไทย เขมร.flv[/ame]


เปิดคลิป! ไทยปะทะเขมร บริเวณเขาพระวิหาร


สำนัก ข่าวรอยเตอร์และ CTN ของกัมพูชาได้เผย ภาพเหตุการณ์สู้รบระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทยจากฝั่งกัมพูชาใกล้เขาพระ วิหาร ซึ่งเป็นภาพทหารกัมพูชาใช้ปืนประทับบ่าและปืนกลยิงเข้าใส่ทหารไทย โดยอาศัยกระสอบทรายและบังเกอร์เป็นที่กำบัง ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา

 

ปะทะหนักรอบ3 เขมรยิงจรวดใส่ไทยใช้ปืนใหญ่โต้

ปะทะหนักรอบ3 เขมรยิงจรวดใส่ไทยใช้ปืนใหญ่โต้


โฆษก ทบ. เผย ทหารไทย - กัมพูชา ปะทะหนักอีกรอบที่ 3 หลังเขมรใช้พลุส่องสว่างก่อนระดมยิงจรวดใส่ ทหารไทยจึงจำเป็นต้องใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้...

เมื่อวันที่ 6 ก.พ.พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการปะทะระหว่างกองกำลังทหารไทย กับกองกำลังทหารกัมพูชาอีกครั้งว่า เมื่อเวลา 18.40 น.ทหารกัมพูชาได้ยิงกระสุนส่องสว่างเข้ามาจำนวน 2 ลูก บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมกับระดมยิงปืนใหญ่รถถังเข้ามาตกบริเวณบ้านพรายยาว ทางด้านขวาของเขาพระวิหารประมาณ 5 กิโลเมตร กินพื้นที่บริเวณรอบเขาพระวิหารลงมาทางช่องเขาสะพายโมย ส่งผลให้ฝ่ายไทยได้รับการเสียหาย ทางผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการตอบโต้ด้วยการสั่งยิงปีนใหญ่ตอบโต้อย่างสมเหตุสมผล

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า แต่สถานการณ์ยังพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อทางกองกำลังทหารกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดติดรถแบบ"บีเอ็น 21"อีกจำนวนมาก ถล่มเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องระดมยิงปืนใหญ่ตอบโต้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ ขณะนี้จนกระทั่งเวลา 21.00 น.ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบ อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่า ทางผู้บังคับบัญชาและผู้ใหญ่ในระดับรัฐบาลได้พยายามประสานไปยังผู้ใหญ่ฝ่าย กัมพูชาขอให้หยุดยิงซึ่งก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นทางฝ่ายทหารไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบโต้เพื่อไม่ให้เกิด การเสียเปรียบในการเจรจาหยุดยิง อย่างไรก็ตามเชื่อมว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายได้ในที่สุด เพราะฝ่ายไทยไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียจาการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย.


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
• 6 กุมภาพันธ์ 2554, 18:30 น.

ปะทะหนักรอบ3 เขมรยิงจรวดใส่ไทยใช้ปืนใหญ่โต้ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=FTntl6YL1sw]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 1[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=XrtX_9NWG2A]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 2[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=xjUSkr9TV3E]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 3[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=OfS-xyfhJOU]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 4[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=QF102LHTmSI]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 5[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=CbkOeWsbFTk]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 6[/ame]

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=b-eNqk5m22s"]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 7[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=oECCCxaA6V8"]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 8[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=HJ-s-7l9CT8"]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 9[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=EIioGwgJO3U"]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 10[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Z-HCwN3g4MM"]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 11[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=SBUVmz6rUUY"]YouTube - ???? ??????????? 6 ?? 54 part 12[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=n_jX-0DmTRw]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 13[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=H57iRp76hnk]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 14[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=EDmDpNb5ndY]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 15[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Hp1QHtbHslM]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 16[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=XY9n5_ZhIlM]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 17[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=k3SrloaIR24]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 18[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=OfJlzL5_kEU]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 6 กพ 54 part 19[/ame]