ถกอาเซียนเริ่มแล้ว! ไทยย้ำไม่เคยลงนามหยุดยิง

ล่าสุดเวลา 14.43 จากเว็ปกระปุกดอทคอม

สรรเสริญเผยยังไม่มีรายงานปราสาทโดนตวน ถูกกัมพูชายึดอย่างที่มีข่าวลือ ลั่นจะหยุดตอบโต้ เมื่อกัมพูชาหยุดยิงเท่านั้น ขณะที่ล่าสุด ไทยปะทะกัมพูชารอบ 4 ที่ภูมะเขือ ด้านสื่อกัมพูชาอ้างพลทหารที่ถูกกัมพูชาจับไป เขียนจดหมายถึงฮุนเซนขอให้ปล่อยตัวกลับบ้าน

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยเมื่อคืนที่ผ่านมา ( 6 กุมภาพันธ์) ถึงสถานการณ์การปะทะกันเป็นรอบที่ 3 ระหว่างไทย-กัมพูชาว่า เมื่อ เวลาประมาณ 21.25 น. ยังมีการปะทะกันประปราย โดยทางกัมพูชาต้องการจะยึดบริเวณเนินภูมะเขือและเนินเขาสัตตะโสม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เรายึดไว้ แต่กำลังทหารไทย สามารถผลักดันไม่ให้ทหารกัมพูชายึดได้

ทั้ง นี้ จากเหตุปะทะกันเมื่อคืน มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 14 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามร่างกาย และมี 1 รายที่มีอาการสาหัส ส่วนการประเมินสถานการณ์ในลำดับต่อไปนั้น ไม่สามารถคาดเดาได้ เนื่องจากฝ่ายไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ขณะที่หากเราเป็นฝ่ายประสานขอหยุดยิงก็จะถูกนำไปอ้างว่า เราแพ้ เราถูกยึดเนินต่าง ๆ ซึ่งมองว่า การประสานงานไม่น่ามีปัญหา เพราะได้ตกลงชัดเจนกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาแล้ว แต่กัมพูชากลับละเมิดเอง

ส่วน ผลกระทบที่เกิดกับทางฝ่ายไทยนั้น มีทั้งที่ตั้งทางทหาร และพลเรือน ซึ่งยอมรับว่า การโจมตีดังกล่าวผิดกฎบัตรยูเอ็นจริง ๆ ส่วนพลเรือนนั้น เจ้าหน้าที่ทหารได้พาอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงหมดแล้ว โดยที่ ต.เสาธงไชย มี 13 หมู่บ้าน ก็ออกมาหมดแล้วเช่นกัน คงมีแต่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเท่านั้น

นอก จากนี้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในระดับกองทัพนั้น มีความเข้าใจกันมาตลอด แต่เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ เมื่อเขาเริ่มยิง เราก็ต้องยิง ซึ่งรายงานเมื่อคืนที่ผานมานั้น ที่ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ก็มีลูกระเบิดไปตกอยู่บ้าง ซึ่งอาจเป็นเพราะกัมพูชาใช้กระสุนแตกอากาศ จึงอาจจะกระจายไปได้มาก ส่วนข่าวลือที่ว่า ปราสาทหินโดนตวน จ.ศรีสะเกษ ถูกยึดนั้น พ.อ.สรรเสริญ ยืนยันว่า ยังไม่มีรายงานเรื่องดังกล่าว ส่วน กรณี ทหารไทยที่ถูกจับกุม 1 นาย และมีข่าวว่า อาจถูกนำตัวขึ้นศาลทหารนั้น ยืนยันว่า สำรวจแล้วพบว่า มี 1 นาย ที่พลัดหลงไป แต่ได้คุยกันแล้วว่าจะมีการส่งคืนโดยเร็ว ซึ่งหากว่า มีการส่งตัวขึ้นศาลทหารจริง ก็ถือว่าขัดต่ออนุสัญญาเจนีวา

อย่าง ไรก็ตาม พ.อ.สรรเสริญ ยืนยันว่า ขณะนี้ทางทหารนั้น ยืนยันว่า จะใช้เพียงกองกำลังทางบกเท่านั้น เนื่องจากไม่ต้องการขยายสถานการณ์ให้รุนแรง และจะหยุดยิง เมื่อกัมพูชาหยุดยิงเท่านั้น โดยจะไม่ติดต่อไปก่อนในทุกครั้งเสมอไป แต่ก็จะไม่ปิดช่องทาง หากกัมพูชาต้องการประสานมา

ด้าน นายบุญรวม พงษาปา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านภูมิซรอล เปิดเผยถึงสถานการณ์การยิงปะทะของทหารไทย-กัมพูชา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงมากกว่าเหตุเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ถึง 10 เท่า โดยตนเองและคณะครูอาจารย์ ได้ออกจากหลุมหลบภัยเมื่อ 04.00 น. ที่ผ่านมา เนื่องจากขณะเกิดเหตุ เวลาประมาณ 18.00 น. ตนเองและคณะครูอาจารย์บางส่วน ได้นั่งทำงานที่โรงเรียน เนื่องจากเชื่อมั่นว่า จะไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันอีก ตามคำบอกเล่าของนายกรัฐมนตรี ผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ จึงทำให้เชื่อมั่น แต่เมื่อเกิดเหตุ ก็เข้าไปหลบในหลุมหลบภัย และได้ยินเสียงปืนใหญ่เป็นระยะ รวมทั้งมีแสงลูกไฟสว่างจ้าเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา บริเวณปราสาทโดนตวล แต่ก็ยังไม่ทราบว่า ลูกไฟดังกล่าวเกิดจากสิ่งใด แต่จุดที่พบนั้น มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลอยู่

อย่าง ไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนได้สั่งปิดการเรียนการสอนจนถึงวันพุธที่ 9 ก.พ. และขอประเมินสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยก่อน และรอฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาในจังหวัดสั่งการ ซึ่งเหตุทั้งหมดนั้น ตนเองและผู้นำหมู่บ้านยังไม่ออกจากพื้นที่ ต้องคอยเฝ้าตรวจตราดูแลทรัพย์สินของชาวบ้าน รวมทั้ง ข้าวที่ชาวบ้านเพิ่งเก็บเกี่ยวมา และคอยประสานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหารอีกแรงหนึ่ง

ต่อมาในเวลา 08.15 น. ของวันนี้ ( 7 กุมภาพันธ์) มีรายงานว่า ได้เกิดเหตุทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชาอีกครั้ง ที่บริเวณภูมะเขือ ซึ่งเป็นจุดปะทะเดิมก่อนหน้านี้ โดยมีเสียงปืนเล็กและเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้เสียงปืนได้สงบแล้ว ส่งผลให้ชาวบ้านบางคนที่เข้าไปยังบ้าน ต้องพากันอพยพออกไปยังศูนย์อพยพชั่วคราว ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ขณะที่บางส่วนวิ่งเข้าหลุมหลบภัยเป็นการเร่งด่วน

สำหรับ เหตุปะทะกันเมื่อช่วงค่ำของวานนี้นั้น จากการตรวจสอบพบว่า มีถนนในตำบลเสาธงชัย รวมทั้งบ้านของชาวบ้าน และอาคารของสำนักสงฆ์ธุดงคสถาน พระวิหารเพชร มีหลุมระเบิดขนาดใหญ่ โดยในช่วงเช้า ทหารได้นำดินมากลบหลุมบนถนนแล้ว ขณะที่ผู้อพยพบางส่วน ที่ไปพักอาศัยอยู่ในตัวเมืองจังหวัดศรีสะเกษ จะเดินทางกลับมาพักอาศัยบริเวณที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์

ขณะ ที่สื่อกัมพูชารายงานว่า พลทหารสงกรานต์ คลองชมพู ที่ถูกทางการกัมพูชา จับกุมตัวไป หลังเกิดการปะทะกัน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวในประเทศกัมพูชา โดยพลทหาร สงกรานต์ ได้เขียนจดหมายถึงสมเด็จฮุนเซน เพื่อขอให้ปล่อยตัวกลับบ้านที่ จ.ยโสธร และหากได้รับการปล่อยตัวจะถือว่าเป็นบุญคุณมากที่สุดในชีวิต

ทั้ง นี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จะนำพลทหารสงกรานต์ไปขึ้นศาลทหาร แต่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งในประเทศกัมพูชาต่างมีข่าวลือสะพัด เกี่ยวกับทหารไทย รุกล้ำพื้นที่ของประเทศกัมพูชา และทำให้ประชาชนชาวกัมพูชาและทหาร เสียชีวิต รวมทั้งความเสียหายของตัวปราสาทเขาพระวิหารบางส่วน

ด้าน พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า แถลงข่าวว่า ขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนใน การนำเสนอข่าวเหตุการณ์ ทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชา บริเวณชายแดน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยจะต้องระมัดระวัง ในการเสนอเรื่องการวางกำลัง รวมทั้งที่ตั้งอาวุธ การเพิ่มกำลังทหาร เพราะเกรงว่าจะเป็นการให้ข่าวกับฝ่ายตรงข้ามได้ อีกทั้ง เพื่อความปลอดภัยของทหารแนวชายแดนและประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจ

ขณะ เดียวกัน ได้ขอแฟ้มภาพกับสื่อมวลชน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้ในเวทีสากลด้วย เนื่องจากเหตุกรณ์ปะทะที่ผ่านมานั้น กัมพูชามีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่ที่พลเรือน แต่การรบ ทหารก็ต้องรบกับทหาร
ซึ่งยืนยันว่า ทหารไทยจะไม่ตอบโต้กัมพูชาก่อน แต่จะสู้ด้วยความเท่าเทียมกัน แม้จะมีการยั่วยุ ก็จะไม่รุกราน

สำหรับ ความเคลื่อนไหวที่อำเภอกันทรลักษ์ ในช่วงเช้าของวันนี้นั้น ยังคงมีประชาชนเดินทางอพยพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็ยังมีการประกาศรับบริจาคผ้าห่ม และเสื้อกันหนาว เนื่องจากบริเวณดังกล่าว มีอากาศที่หนาวเย็นอยู่ตลอด


[7 กุมภาพันธ์] เกาะติดสถานการณ์ ไทยปะทะเขมร ชายแดน ไทย - กัมพูชา


14.43 น. ธปท.เผยเหตุไทยปะทะเขมรไม่กระทบ GDP เนื่องจากมูลค่าการค้าขาย และการส่งออกไม่ถึงร้อยละ 1

14.20 น. องอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พร้อม นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ อพยพหนีภัยสงครามชายแดน

14.18 น. บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่ง และเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิง และหาทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับการพิพาทในครั้งนี้

14.10 น. ทาง การสั่งปิดด่านช่องจอม และโรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่แล้ว พร้อมเตรียมอพยพ ชาวตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ไปยังที่ปลอดภัย

13.55 น. แพทย์ทหารบกเผยชาวบ้านที่ศูนย์อพยพกันทรลักษ์ ส่วนใหญ่เครียด ป่วยเป็นหวัด บาดเจ็บจากการวิ่งหนี

13.46 น. ส.ว.สรรหาจี้รัฐบาลปกป้องอธิปไตย ยุตอบโต้กัมพูชาให้เต็มที่ ทั้งทางทหารและการทูต เตรียมฟ้องฮุนเซนต่อศาลอาญาโลก

13.28 น. สถานการณ์ปะทะ ชายแดนไทย-เขมร เสียงปืนนัดสุดท้ายเพิ่งสงบเมื่อเวลา 11.20 น. เผยยอดทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะเพิ่มเป็น 19 นาย

13.12 น. ผอ.กอง กิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ขอสื่อระมัดระวังการนำเสนอข่าว เพื่อความปลอดภัยทหาร ประชาชน ขณะที่ศูนย์อพยพผู้ลี้ภัย ขอรับบริจาคผ้าห่มและเสื้อกันหนาว

12.55 น. กระทรวง ต่างประเทศของสิงคโปร์ ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกต่อการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา พร้อมกับเรียกร้องให้ทั้งสองฝาย แสดงความอดกลั้นและหาทางยุติความขัดแย้งผ่านทางการเจรจา

12.40 น. เผยทหารไทยที่ถูกจับกุมตัวไป เขียนจดหมายถึงฮุนเซนขอปล่อยตัว ขณะที่มีรายงานว่า ทหารไทยคนดังกล่าวจะถูกนำขึ้นศาลทหาร

12.17 น. สื่อจีนเผยฮุนเซนลั่นไม่ปลดธงชาติที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระอย่างเด็ดขาด ชี้อยู่ในดินแดนกัมพูชา

11.33 น. พันธมิตรชี้เหตุไทยปะทะเขมร ไม่ใช่ภัยคุกคามภูมิภาค อาเซียนไม่มีสิทธิเข้ามายุ่งหรือเข้ามาแทรกแซง

11.18 น. ปานเทพ แถลงประณามกัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ชาวบ้าน แถมใช้พื้นที่บริเวณปราสาทเขาพระวิหารซึ่งอยู่ในดินแดนของไทยเป็นที่ซ่องสุม

11.10 น. พันธมิตรเตรียมตั้งโรงทานหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ หลังส่งอาหารร่วม1หมื่นชุดให้ทหารตั้งแต่วันแรกที่ปะทะ

10.53 น. ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ สั่งคุมเข้ม 3 อำเภอติดชายแดนเขมร พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด หวั่นถูกลูกหลง

 

เปิดจดหมายทหารไทย เขียนวอน ฮุน เซน ปล่อยตัว


เปิดจดหมายทหารไทย เขียนวอน ฮุน เซน ปล่อยตัว

พลทหาร ที่ถูกจับกุม เขียนจดหมายถึงสมเด็จฮุนเซน ขอปล่อยตัวกลับบ้าน ด้านสื่อกัมพูชา ตีข่าวสะพัดไทย รุกล้ำเขตแดนหลายครั้ง
พลทหาร สงกรานต์ คลองชมพู ที่ถูกทางการกัมพูชา จับกุมตัวไป หลังเกิดการปะทะกัน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ ได้ควบคุมตัวในประเทศกัมพูชา โดยพลทหาร สงกรานต์ ได้เขียนจดหมายถึง สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อขอให้ปล่อยตัวกลับบ้านที่ จ.ยโสธร และหากได้รับการปล่อยตัวจะถือว่าเป็นบุญคุณมากที่สุดในชีวิต ทั้งนี้ มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ จะนำพลทหารสงกรานต์ไปขึ้นศาลทหาร แต่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งในประเทศกัมพูชา ต่างมีข่าวลือสะพัด เกี่ยวกับทหารไทยรุกล้ำพื้นที่ของประเทศกัมพูชา และทำให้ประชาชนชาวกัมพูชาและทหารเสียชีวิต รวมทั้งความเสียหายของตัวปราสาทเขาพระวิหาร บางส่วน
อย่างไรก็ตาม ทางด้านหมู่บ้านสำเริง ที่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดและกระสุนปืนใหญ่ จนถนนได้รับความเสียหาย ล่าสุดหน่วยทหารช่าง ได้นำรถไถและอุปกรณ์ซ่อมแซมเข้าซ่อมแซมจุดที่เสียหายแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการสัญจรไปมา และสะดวกในการหลบหนี ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันนั้น ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ จำนวน 19 นาย โดยเข้ารักษาตัวเพิ่มอีก 4 นาย เนื่องจากขณะเกิดเหตุ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายมารักษาตัวได้


http://news.sanook.com/1000316-เปิดจดหมายทหารไทย-เขียนวอน-ฮุน-เซน-ปล่อยตัว.html

 

ลือ! ลูกชาย ฮุนเซน ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ


ลือ! ลูกชาย ฮุนเซน ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ


หน่วย ความมั่นคงไทยอยู่ระหว่างตรวจสอบข่าว พล.ต.ฮุนมาเนตร รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา บุตรชายคนโตของสมเด็จฮุนเซน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบเมื่อช่วงดึกคืนวานนี้
เจ้าหน้าที่ข่าวจากกองทัพบกเปิดเผยกับทีวีไทยว่า ได้รับข่าวช่วงดึกที่ผ่านมาว่า พล.ต.ฮุนมาเนตร รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา วัย 33 ปีบุตรชายสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่รับผิดชอบวางแผนการสู้รบให้ทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ โดยทางกองทัพบกอยู่ระหว่างตรวจสอบข่าวดังกล่าว
โดยมีรายงานยืนยันก่อนหน้านี้ว่า พล.ต.ฮุนมาเนตร ซึ่ง รับผิดชอบกำลังทหารราบของกองทัพบกกัมพูชาได้เดินทางมายังพื้นที่ชายแดนไทย กัมพูชาด้านเขาพระวิหารเพื่อวางแผนการรบให้กับทหารกัมพูชาในการสู้รบเมื่อ วานนี้ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักตั้งแต่ปืนใหญ่ ปืนรถถัง และ จรวดสี่สิบลำกล้อง ในปฏิบัติการทหารเมื่อคืนนี้เพื่อตอบโต้ฝ่ายไทย หลังได้รับความเสียหายอย่างมากในการสู้รบก่อนหน้านี้ ซึ่งมีการตั้งข้อ สังเกตว่า การที่สมเด็จฮุนเซนให้บุตรชายเข้ารับผิดชอบปฏิบัติการด้านการทหารในครั้งนี้ ก็เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้กับ พล.ต.ฮุนมาเนตร หากสามารถสร้างความเสียหายต่อฝ่ายไทยจากการสู้รบเมื่อคืนนี้

ขณะืที่นายทหารในกองทัพบกคนหนึ่งระบุ กองทัพภาคที่สองได้ตอบโต้การกระทำของทหารกัมพูชาอย่างรุนแรงตลอดช่วงคืนวาน นี้ และ สร้างความเสียหายอย่างมากต่อฝ่ายกัมพูชา
ทั้งนี้ พล.ต.ฮุนมาเนตร จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวสปอยต์เมื่อปี 2542 และใช้เวลาเพียง 13 ปีในการขึ้นสู่ตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก นอกจากนี้ยังคุมกำลังในกองพลรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นกำลังป้องกันการทำรัฐประหารสมเด็จฮุนเซนที่อยู่ใน อำนาจมาตั้งแต่ปี 2528

http://news.sanook.com/1000341-ลือ-ลูกชาย-ฮุนเซน-ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ.html

 

โฆษก ทบ. วอน อย่าเชื่อเขมรปล่อยข่าวลือ

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด

​

โฆษก ทบ. วอน อย่าเชื่อเขมรปล่อยข่าวลือ (ไอเอ็นเอ็น)

โฆษกกองทัพบก วอนไทยอย่าเชื่อเขมรปล่อยข่าวลือด้าน ปณิธาน ชี้เช้านี้ยื่นหนังสือประท้วง แจงเขมรยิงไทยก่อนพร้อมหาสาเหตุหลังเจรจาเรียบร้อยแต่ยังปะทะ

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ตามแนวชานแดนเขาพระวิหาร เมื่อเวลา 21.25 น. เสียงปืนสงบลงแล้ว แต่ยังไม่สามารถการันตีได้ว่ายุติแล้วเพราะไม่แน่ใจว่าทางฝ่ายทหารกัมพูชาจะ ยิงอีกเมื่อไหร่

ส่วนรายงานความสูญเสียของทหารไทย มีทหารบาดเจ็บจำนวน 10 ราย ไม่มีรายงานว่า ชาวบ้านเสียชีวิตเพราะได้อพยพมาอยู่ในพื้นที่ ที่ปลอดภัยแล้วโดยในหมู่บ้ามีเพียงชายฉกรรจ์ที่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าทรัพย์สิน ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้นก็มีหลุมหลบภัยคอยกำบัง พร้อมกันนี้ยังระบุด้วยว่าขณะนี้ กัมพูชา พยายามปล่อยข่าวลือต่าง ๆ ออกมา อาทิปล่อยข้อมูลว่า ฝ่ายไทย ยิงปะทะก่อนและมีทหารเราได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากโดยยืนยันว่าไม่ เป็นความจริงแต่อย่างใด

แต่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ยิงก่อนและทางทหารของไทยก็ตอบโต้ตามความจำเป็น เท่านั้นหากกัมพูชาหยุดยิง เราก็หยุดทันทีส่วนการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านนั้น ทางฝ่ายปกครองได้มีการประสานกับผู้นำชุมชน เพื่อให้ความช่วยเหลือตลอดและตอนนี้ก็ยังไม่เดือดร้อนเรื่องอาหารและเครื่อง ดื่ม

ด้าน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีระบุว่า ในเช้าวันพรุ่งนี้ทางฝ่ายไทย จะดำเนินการประท้วงการกระทำของกัมพูชาในครั้งนี้ เพื่อแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงเข้ามาในพื้นที่ของไทย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมระบุว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการหาสาเหตุและตรวจสอบว่า เพราะเหตุใดทางกัมพูชาจึงยังคงใช้กำลังและยิงมาฝั่งไทย เนื่องจากได้เจราจาและตกลงกันว่าจะถอนกำลังออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ศูนย์ช่วยเหลือ อ.กันทรลักษ์ ชาวบ้านผู้อพยพ ยังต้องการ ผ้าห่ม, มุ้ง, อาหารแห้ง และ น้ำดื่ม ซึ่งสามารถ โทรติดต่อได้ที่เบอร์ 045-661422 ที่ทำการอำเภอกันทรลักษ์, สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ สภากาชาดไทย 0-2251-7853-6, 0-2251-7614-5





http://hilight.kapook.com/view/55941

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=LO9liwcTXk4]YouTube - Thailand-Cambodia border clashes escalates 7 FEBRUARY 2011 Part 1[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Ey7YV1HKp_Y]YouTube - Thailand-Cambodia border clashes escalates 7 FEBRUARY 2011 Part 2[/ame]

เขมร - เตียบัน : แจง ชนวนเหตุการปะทะ ไทย-เขมร

ปะทะชายแดนเดือดเป็นรอบที่สาม เขมรโจมตี ทหารไทยบาดเจ็บกว่าสิบราย สาหัส 1
เขาพระวิหาร
ปืนใหญ่ถล่มเดือด

Cambodia-Thai Attack

ข่าว เช้าวันใหม่ เรื่องเล่าเช้านี้ : 7 February 2011 -7/2/11 -7/2/54
: 6 Feb 11 -: 7 Feb 11 -7 กุมภาพันธ์ 2554 -7 ก.พ. 54

ไทย ทีวีสี ช่อง3 คลิป วีดีโอ ยูทูป
Youtube clip VDO video

Credit: CiNNtv1

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=b07siurBNdY]YouTube - ทหารไทย-กัมพูชายังคงปะทะกัน 7 2 54[/ame]

ข่าวจากทีวีไทย.บริเวณเขตแดน ไทย-กัมพูชาที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตอนเช้าประมาณ 7นาฬิกา ทหารไทยกับทหารกัมพูชายังคงมีการปะทะกันอยู่

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=HGapINlcnOY]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 7 กพ 54 part 2[/ame]

 

ในหลวง-พระราชินีพระราชทานสิ่งของช่วยเหยื่อชายแดน

​

ในหลวง-พระ ราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้น เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนแก่ราษฎร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
วันนี้( 7 ก.พ.) นายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือเบื้องต้น เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนและเป็นกำลังใจแก่ราษฎร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ประสพความเดือดร้อนจากการเหตุการณ์ปะทะกันของไทยกับกัมพูชา ผ่านทางมูลนิธิมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ประกอบด้วย ผ้าห่มกันหนาว 3,000 ผืน, หม้อข้าวใบใหญ่ 1,000 ใบ, กระทะ 1,000 ใบ, ทัพพี 1,000 อัน, จาน 2,000 ใบ, ช้อน 2,000 คัน, ขันน้ำ 1,000 ใบ โดยสิ่งของพระราชทานทั้งหมดนี้ จะนำขึ้นเครื่องบินของสำนักฝนหลวงและส่วนการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปลงจอดที่สนามบิน จ.อุบลราชธานี และเคลื่อนย้ายทางรถยนต์ ต่อไปยังหอประชุมที่ว่าการอำเภอ กันทรลักษ์ ในวันเดียวกันนี้



Daily News Online > ข่าวพระราชสำนัก > ในหลวง-พระราชินีพระราชทานสิ่งของช่วยเหยื่อชายแดน

 

ลือหึ่งลูกชาย“ฮุนเซน”ถูกระเบิดฝ่ายไทยสาหัส


ผู้นำเขมรอ้างเหตุปะทะรอบ 4 ทหารไทยล้ำแดนไปเก็บศพ สื่อลือหึ่งลูกชาย “ฮุนเซน” ถูกระเบิดฝ่ายไทย อาการปางตาย

วันนี้ (7 ก.พ.) สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า สำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ ระบุว่า นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ มีความวิตกกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการสู้รบข้ามเขตแดนระหว่างกัมพูชากับไทย ดังนั้น จึงขอร้องให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ดำเนินการไป เพื่อยุติความเป็นปรปักษ์ระหว่างกัน และขอให้อดกลั้นอย่างที่สุด

นอกจากนั้น เลขาธิการสหประชาชาติยังขอให้ทั้งสองประเทศหาข้อยุติผ่านกลไก และการดำเนินการที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งความมุ่งมั่นของการเจรจา และความสัมพันธ์ที่ดีฉันท์เพื่อนบ้าน

ก่อนหน้านี้ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกมาเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จัดการประชุมวาระฉุกเฉิน เพื่อหาทางหยุดยั้งการรุกรานของฝ่ายไทย ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามอย่างรุนแรงต่อเสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคนี้ แต่แถลงการณ์ของเลขาธิการสหประชาชาติไม่ได้ระบุว่า จะเปิดการประชุมตามที่กัมพูชาเรียกร้อง เพียงแต่สหประชาชาติจะช่วยเหลือบนความพยายามอย่างสันติวิธี

ส่วน ที่สิงคโปร์ แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์มีความวิตกอย่างยิ่งเกี่ยวกับการปะทะกันบริเวณชายแดนไทย กัมพูชา และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแก้ปัญหาผ่านการเจรจา เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์อันยาวนานของสองประเทศ และผลประโยชน์อย่างกว้างขวางของอาเซียน (สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในพิธีมอบปริญญาบัตรให้กับผู้สำเร็จการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ที่กรุงพนมเปญ ในวันเดียวกันนี้ โดยเตือนว่า การสู้รบบริเวณชายแดนเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในภูมิภาคนี้ และการปะทะกันครั้งล่าสุดเมื่อวันจันทร์นั้น เป็นเพราะทหารไทยได้ข้ามเขตแดนเข้ามาในฝั่งกัมพูชา เพื่อค้นหาศพของทหารไทยที่เสียชีวิตในระหว่างการสู้รบ ดังนั้น ทหารกัมพูชาก็ต้องยิงตอบโต้ เพื่อขับไล่ทหารไทยออกไป

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ในการเปิดฉากปะทะกันระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่าย มีกระแสข่าวลือสะพัด ว่า พล.ท.ฮุนมาเนต รอง ผบ.ทบ.กัมพูชา บุตรชายสมเด็จฮุนเซน ได้ถูกสะเก็ดระบิดของทหารไทย จนบาดเจ็บสาหัส ทำให้เหล่าทหารในบังคับบัญชาเกิดความเจ็บแค้น จึงหาโอกาสตอบโต้อยู่เป็นระยะ ๆ
ปะทะอีก!เขมรเปิดฉากยิงทหารไทยรอบ4

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ได้มีเสียงปืนเล็กยาวดังขึ้นเป็นช่วง ๆ จากฝั่งประเทศกัมพูชา ที่บริเวณเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา นานประมาณ 5 นาที โดยที่ไม่ได้มีการปะทะกันเกิดขึ้น

หลังจากนั้น ในช่วงเช้า ชาวบ้านบางส่วนได้เริ่มทยอยออกจากศูนย์อพยพชั่วคราวของทางราชการ กลับบ้านพัก เนื่องจากเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง และทรัพย์สิน

ต่อมา เวลา 07.00 น. พ.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 6 กองทัพภาพที่ 2 ได้นำกำลังทหารกองพันทหารช่างที่ 6 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เร่งซ่อมแซมกลบหลุมลูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชา ที่ตกใส่ถนนลาดยางสายซำเม็ง-โดนเอาว์ บริเวณหน้าวัดธุดงคสถานพระวิหารเพชร หมู่12 บ.ซำร่อง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ได้รับความเสียหายเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 2 ม. ลึก 1 ม. จำนวน 1 หลุม นอกจากนั้น ยังมีหลุมลูกกระสุนปืนใหญ่ ที่ตกภายในวัดอีก 1 หลุม และที่ลานดินหน้าบ้านเรือนราษฎร ซึ่งอยู่ข้างวัดอีก 1 หลุม

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.20 น. ได้เกิดการปะทะกันอีกครั้ง ที่บริเวณภูมะเขือ ทหารกองพลน้อยสนับสนุนที่ 8 กองทัพบกกัมพูชา ภายใต้การนำของ พล.ต.ยึม ปรึม ผบ.กองพลฯ ประมาณ 300 นาย เป็นฝ่ายเปิดฉากใช้ปืนอาก้า เอเค 47 ระดมยิงใส่ทหารไทย หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี ที่ประจำอยู่ฐานทัพพนมตรุ ซึ่งทหารไทยได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงตอบโต้ แต่ยังไม่ได้ใช้อาวุธหนักยิงใส่กัน

ขณะรายงานข่าว ยังมีการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง พล.ต.เยือง โซะคน ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 11 ได้ส่งกำลังทหารกัมพูชา 4 กองร้อย ไปสนับสนุนแล้ว ส่วนทหารกรมทหารราบที่ 6 กองทัพภาคที่ 2 ของไทย ได้เคลื่อนกำลังไปสนับสนุนเช่นกัน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ปราสาทหินโดนตวล หมู่ 12 บ.ภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทยกัมพูชา ใกล้เขาสัตตะโสม ห่างจากปราสาทพระวิหาร ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 2 กม. ถูกทหารกัมพูชาบุกยึดนั้น เป็นเพียงข่าวลือ ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยทหารกองพลทหารราบที่ 6 กองทัพภาคที่ 2 ยังคงประจำการในพื้นที่ดังกล่าว เผชิญหน้ากับทหารหน่วยป้องกันชายแดนที่ 404 ของกัมพูชา จำนวน 1 กองร้อย
ทหารไทย-เขมรปะทะกันอีกเป็นวันที่4

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างคำกล่าวของโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ ที่ระบุว่า มีการสู้รบเป็นวันที่ 4 ระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่บริเวณพรมแดนซึ่งเป็นข้อพิพาทของสองประเทศ โดยการปะทะกันเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ หลังจากหยุดยิงไปเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเอพีที่อยู่ในพื้นที่ เปิดเผยว่า ได้ยินเสียงปืนกล และปืนใหญ่ดังเป็นระยะ ๆ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลกัมพูชากล่าวหาไทยยิงปืนใหญ่ ทำให้บางส่วนของปราสาทเขาพระวิหารได้รับความเสียหาย และเรียกร้องสหประชาชาติให้หยุดการรุกรานของไทย นายกรัฐมนตรีฮุนเซ็น เร่งรัดคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ให้เปิดประชุม เพื่อหยุดการรุกรานของไทย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพ และสันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แต่ นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาลไทย แถลงตอบโต้ว่า ไทยไม่ใช่ชาติรุกราน เพราะมีนโยบายที่ชัดเจนว่าไทยจะไม่รุกรานประเทศใด ๆ อย่างไรก็ตาม จากรายงานข่าวของทางกัมพูชา ระบุว่า จากการที่ทหารไทยยิงปืนใหญ่ตกมาฝั่งกัมพูชา ทำให้ด้านหนึ่งของตัวปราสาทเขาพระวิหารเสียหาย

ขณะที่ สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อาจยื่นมือเข้ามาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งแหล่งข่าวในกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า นายมาร์ตี้ นาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประธานปัจจุบันของอาเซียน จะเดินทางเยือนกัมพูชาในวันนี้
พ่อค้าเขมรแห่ทิ้งเงินบาทหวั่นสงคราม

นายสมบัติ จึงตระกูล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ ไม่ได้ส่งผลให้มีการปิดด่านชายแดน ด้าน จ.จันทบุรี และยังคงมีการค้าขายกันตามปรกติ ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาได้แห่กันมาซื้ออาหารสำเร็จรูปจากฝั่งไทยตุนไว้ รวมทั้งยังนำเงินบาทมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุล “เรียล” ของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่มั่นใจต่อสถานการณ์การปะทะกันว่าจะจบลงอย่างง่าย ๆ และอาจลุกลามกลายเป็นสงคราม จนทำให้เงินบาทใช้อีกไม่ได้ในกัมพูชา
สธ.เผยยอดเจ็บตายเหตุปะทะไทย-เขมร

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข แถลงว่า ตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ. มีผู้บาดเจ็บสะสม 34 ราย เป็นทหาร 30 ราย พลเรือน 4 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นทหาร 1 ราย พลเรือน 1 ราย ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นทหาร โดยบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มีเพียง 1 รายที่อาการหนัก ส่งไปรักษาที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์

รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สธ.ได้ตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุขชายแดน ไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ รองปลัดกระทรวงสารณสุข ลงไปดูแลปัญหาในพื้นที่ โดยได้มีการปรับ รพ.กันทรลักษ์ เป็นหน่วยรักษาพยาบาลของทหารด้วย เพราะไม่มี รพ.ค่ายในแถบนั่น ทั้งนี้ ได้มีทีมศัลยแพทย์ 3 ทีม จาก รพ.ศรีสะเกษ รพ.ค่ายสุรนารี และ รพ.ค่าสรรพสิทธิประสงค์ ลงไปประจำที่ รพ.กันทรลักษ์ แล้ว ขณะเดียวกัน ได้มีการสำรองเลือดเอาไว้พอเพียง รวมทั้งเตรียมพร้อมห้องผ่าตัดตาม รพ.เครือข่ายต่าง ๆ

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้อพยพไปอยู่ทีว่าการอำเภอกันทรลักษ์ มีกว่า 6,000 คน ได้มีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ รวมทั้งทีมจิตแพทย์เข้าไปดูแล โดยมีผู้มาขอรับคำปรึกษา จำนวน 1,165 ราย ส่วนใหญ่กังวลนอนไม่หลับ ได้มีการจ่ายยาให้ จำนวน 22 ราย ทั้งนี้ ให้เฝ้าระวังโรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคจากแมลงคือ ยุง และแมลงวัน

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง จำนวนผู้บาดเจ็บในการปะทะ เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันที่ 7 ก.พ.ว่า มีจำนวน 17 ราย และในช่วงเช้าวันที่ 7 ก.พ. มีเข้ามาที่ รพ.กันทรลักษ์อีก 2 ราย รวมเป็น 19 ราย เป็นทหาร 17 รายพลเรือน 2 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ มีเพียงทหาร 1 ราย ที่อาการหนักที่สมอง ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์
ปูนบำเหน็จ 9 ขั้น ทหารกล้า
เมื่อ วันที่ 6 ก.พ. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ก.พ.54 เวลา 16.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ สิบเอก วุธชรินทร์ ชาติคำดี หัวหน้าชุดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับทหารกัมพูชา ที่ช่องโดนอาว ใกล้กับภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ วัดป่าโนนแสงทอง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

ในการนี้ ผบ.ทบ.ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารที่เสียชีวิต และขอบคุณทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของชาติอย่างดีที่ สุด ทั้งนี้ กองทัพบกได้ปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้น รับพระราชทานยศจาก สิบเอก เป็น ร้อยเอก และมอบเงินสินไหมทดแทนการประกันชีวิต และเงินจากทางราชการ ให้กับครอบครัวทหารที่เสียชีวิต

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ทั้งนี้ กองทัพบกยืนยันจะยังปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติด้านชายแดน ไทย-กัมพูชาอย่างเข้มแข็ง โดยจะตอบโต้อย่างเหมาะสม ตามหลักสากล ต่อที่หมายทางทหารของกัมพูชาเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ชีวิตของประชาชนต้องมีความปลอดภัย ขณะนี้กองทัพบกร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้ช่วยเหลือประชาชนที่หลบหนีจากการยิง และระเบิดของฝ่ายกัมพูชา โดยจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่เข้าให้บริการประชาชน และแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น



Daily News Online > หน้าภูมิภาค > ลือหึ่งลูกชาย“ฮุนเซน”ถูกระเบิดฝ่ายไทยสาหัส

 

อัพเดตล่าสุดจากเว็ปกระปุก

สรรเสริญ ลั่นจะหยุดตอบโต้ เมื่อกัมพูชาหยุดยิงเท่านั้น ขณะที่ล่าสุด ไทยปะทะกัมพูชารอบ 4 ที่ภูมะเขือ ด้านสื่อกัมพูชาอ้างพลทหารที่ถูกกัมพูชาจับไป เขียนจดหมายถึงฮุนเซนขอให้ปล่อยตัวกลับบ้าน ด้านกัมพูชาลือทั่วลูกชายฮุนเซนถูกระเบิดฝ่ายไทยเจ็บสาหัส

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยเมื่อคืนที่ผ่านมา ( 6 กุมภาพันธ์) ถึงสถานการณ์การปะทะกันเป็นรอบที่ 3 ระหว่างไทย-กัมพูชาว่า เมื่อ เวลาประมาณ 21.25 น. ยังมีการปะทะกันประปราย โดยทางกัมพูชาต้องการจะยึดบริเวณเนินภูมะเขือและเนินเขาสัตตะโสม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เรายึดไว้ แต่กำลังทหารไทย สามารถผลักดันไม่ให้ทหารกัมพูชายึดได้

ทั้ง นี้ จากเหตุปะทะกันเมื่อคืน มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 14 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามร่างกาย และมี 1 รายที่มีอาการสาหัส ส่วนการประเมินสถานการณ์ในลำดับต่อไปนั้น ไม่สามารถคาดเดาได้ เนื่องจากฝ่ายไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ขณะที่หากเราเป็นฝ่ายประสานขอหยุดยิงก็จะถูกนำไปอ้างว่า เราแพ้ เราถูกยึดเนินต่าง ๆ ซึ่งมองว่า การประสานงานไม่น่ามีปัญหา เพราะได้ตกลงชัดเจนกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาแล้ว แต่กัมพูชากลับละเมิดเอง

ส่วน ผลกระทบที่เกิดกับทางฝ่ายไทยนั้น มีทั้งที่ตั้งทางทหาร และพลเรือน ซึ่งยอมรับว่า การโจมตีดังกล่าวผิดกฎบัตรยูเอ็นจริง ๆ ส่วนพลเรือนนั้น เจ้าหน้าที่ทหารได้พาอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงหมดแล้ว โดยที่ ต.เสาธงไชย มี 13 หมู่บ้าน ก็ออกมาหมดแล้วเช่นกัน คงมีแต่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเท่านั้น

นอก จากนี้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในระดับกองทัพนั้น มีความเข้าใจกันมาตลอด แต่เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ เมื่อเขาเริ่มยิง เราก็ต้องยิง ซึ่งรายงานเมื่อคืนที่ผานมานั้น ที่ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ก็มีลูกระเบิดไปตกอยู่บ้าง ซึ่งอาจเป็นเพราะกัมพูชาใช้กระสุนแตกอากาศ จึงอาจจะกระจายไปได้มาก ส่วนข่าวลือที่ว่า ปราสาทหินโดนตวน จ.ศรีสะเกษ ถูกยึดนั้น พ.อ.สรรเสริญ ยืนยันว่า ยังไม่มีรายงานเรื่องดังกล่าว ส่วน กรณี ทหารไทยที่ถูกจับกุม 1 นาย และมีข่าวว่า อาจถูกนำตัวขึ้นศาลทหารนั้น ยืนยันว่า สำรวจแล้วพบว่า มี 1 นาย ที่พลัดหลงไป แต่ได้คุยกันแล้วว่าจะมีการส่งคืนโดยเร็ว ซึ่งหากว่า มีการส่งตัวขึ้นศาลทหารจริง ก็ถือว่าขัดต่ออนุสัญญาเจนีวา

อย่าง ไรก็ตาม พ.อ.สรรเสริญ ยืนยันว่า ขณะนี้ทางทหารนั้น ยืนยันว่า จะใช้เพียงกองกำลังทางบกเท่านั้น เนื่องจากไม่ต้องการขยายสถานการณ์ให้รุนแรง และจะหยุดยิง เมื่อกัมพูชาหยุดยิงเท่านั้น โดยจะไม่ติดต่อไปก่อนในทุกครั้งเสมอไป แต่ก็จะไม่ปิดช่องทาง หากกัมพูชาต้องการประสานมา

ด้าน นายบุญรวม พงษาปา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านภูมิซรอล เปิดเผยถึงสถานการณ์การยิงปะทะของทหารไทย-กัมพูชา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงมากกว่าเหตุเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ถึง 10 เท่า โดยตนเองและคณะครูอาจารย์ ได้ออกจากหลุมหลบภัยเมื่อ 04.00 น. ที่ผ่านมา เนื่องจากขณะเกิดเหตุ เวลาประมาณ 18.00 น. ตนเองและคณะครูอาจารย์บางส่วน ได้นั่งทำงานที่โรงเรียน เนื่องจากเชื่อมั่นว่า จะไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันอีก ตามคำบอกเล่าของนายกรัฐมนตรี ผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ จึงทำให้เชื่อมั่น แต่เมื่อเกิดเหตุ ก็เข้าไปหลบในหลุมหลบภัย และได้ยินเสียงปืนใหญ่เป็นระยะ รวมทั้งมีแสงลูกไฟสว่างจ้าเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา บริเวณปราสาทโดนตวล แต่ก็ยังไม่ทราบว่า ลูกไฟดังกล่าวเกิดจากสิ่งใด แต่จุดที่พบนั้น มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลอยู่

อย่าง ไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนได้สั่งปิดการเรียนการสอนจนถึงวันพุธที่ 9 ก.พ. และขอประเมินสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยก่อน และรอฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาในจังหวัดสั่งการ ซึ่งเหตุทั้งหมดนั้น ตนเองและผู้นำหมู่บ้านยังไม่ออกจากพื้นที่ ต้องคอยเฝ้าตรวจตราดูแลทรัพย์สินของชาวบ้าน รวมทั้ง ข้าวที่ชาวบ้านเพิ่งเก็บเกี่ยวมา และคอยประสานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหารอีกแรงหนึ่ง

ต่อมาในเวลา 08.15 น. ของวันนี้ ( 7 กุมภาพันธ์) มีรายงานว่า ได้เกิดเหตุทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชาอีกครั้ง ที่บริเวณภูมะเขือ ซึ่งเป็นจุดปะทะเดิมก่อนหน้านี้ โดยมีเสียงปืนเล็กและเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้เสียงปืนได้สงบแล้ว ส่งผลให้ชาวบ้านบางคนที่เข้าไปยังบ้าน ต้องพากันอพยพออกไปยังศูนย์อพยพชั่วคราว ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ขณะที่บางส่วนวิ่งเข้าหลุมหลบภัยเป็นการเร่งด่วน

สำหรับ เหตุปะทะกันเมื่อช่วงค่ำของวานนี้นั้น จากการตรวจสอบพบว่า มีถนนในตำบลเสาธงชัย รวมทั้งบ้านของชาวบ้าน และอาคารของสำนักสงฆ์ธุดงคสถาน พระวิหารเพชร มีหลุมระเบิดขนาดใหญ่ โดยในช่วงเช้า ทหารได้นำดินมากลบหลุมบนถนนแล้ว ขณะที่ผู้อพยพบางส่วน ที่ไปพักอาศัยอยู่ในตัวเมืองจังหวัดศรีสะเกษ จะเดินทางกลับมาพักอาศัยบริเวณที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์

ขณะ ที่สื่อกัมพูชารายงานว่า พลทหารสงกรานต์ คลองชมพู ที่ถูกทางการกัมพูชา จับกุมตัวไป หลังเกิดการปะทะกัน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวในประเทศกัมพูชา โดยพลทหาร สงกรานต์ ได้เขียนจดหมายถึงสมเด็จฮุนเซน เพื่อขอให้ปล่อยตัวกลับบ้านที่ จ.ยโสธร และหากได้รับการปล่อยตัวจะถือว่าเป็นบุญคุณมากที่สุดในชีวิต

ทั้ง นี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จะนำพลทหารสงกรานต์ไปขึ้นศาลทหาร แต่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งในประเทศกัมพูชาต่างมีข่าวลือสะพัด เกี่ยวกับทหารไทย รุกล้ำพื้นที่ของประเทศกัมพูชา และทำให้ประชาชนชาวกัมพูชาและทหาร เสียชีวิต รวมทั้งความเสียหายของตัวปราสาทเขาพระวิหารบางส่วน

ด้าน พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า แถลงข่าวว่า ขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนใน การนำเสนอข่าวเหตุการณ์ ทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชา บริเวณชายแดน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยจะต้องระมัดระวัง ในการเสนอเรื่องการวางกำลัง รวมทั้งที่ตั้งอาวุธ การเพิ่มกำลังทหาร เพราะเกรงว่าจะเป็นการให้ข่าวกับฝ่ายตรงข้ามได้ อีกทั้ง เพื่อความปลอดภัยของทหารแนวชายแดนและประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจ

ขณะ เดียวกัน ได้ขอแฟ้มภาพกับสื่อมวลชน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้ในเวทีสากลด้วย เนื่องจากเหตุกรณ์ปะทะที่ผ่านมานั้น กัมพูชามีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่ที่พลเรือน แต่การรบ ทหารก็ต้องรบกับทหาร ซึ่งยืนยันว่า ทหารไทยจะไม่ตอบโต้กัมพูชาก่อน แต่จะสู้ด้วยความเท่าเทียมกัน แม้จะมีการยั่วยุ ก็จะไม่รุกราน

สำหรับ ความเคลื่อนไหวที่อำเภอกันทรลักษ์ ในช่วงเช้าของวันนี้นั้น ยังคงมีประชาชนเดินทางอพยพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็ยังมีการประกาศรับบริจาคผ้าห่ม และเสื้อกันหนาว เนื่องจากบริเวณดังกล่าว มีอากาศที่หนาวเย็นอยู่ตลอด

อีกด้านหนึ่งในประเทศกัมพูชาได้เกิดกระแสข่าวลือไปทั่วว่า พล.ท.ฮุนมาเนต รอง ผบ.ทบ.กัมพูชา บุตรชายสมเด็จฮุนเซน ได้ถูกสะเก็ดระเบิดของทหารไทย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เหล่าทหารในบังคับบัญชาเกิดความเจ็บแค้นใจ พยายามหาโอกาสยิงตอบโต้ฝ่ายไทยอยู่เป็นระยะ ๆ


[7 กุมภาพันธ์] เกาะติดสถานการณ์ ไทยปะทะเขมร ชายแดน ไทย - กัมพูชา

21.42 น. ประวิตรยันทหารไทยตอบโต้กัมพูชา โดยมีเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เชื่อไม่ลุกลามจนเป็นสงคราม

21.32 น. ทีทีเอเอเผยทัวร์ไทย-กัมพูชาเจ๊ง 100 ล้าน จากเหตุปะทะไทยเขมร แบ่งเป็นกัมพูชา 70 ล้าน ไทย 30 ล้าน

20.57 น. ลือสนั่นกัมพูชา! ลูกชายฮุนเซนถูกระเบิดฝ่ายไทยอาการสาหัส ทำให้ทหารแค้น หาทางตอบโต้เป็นระยะๆ

20.51 น. พันธมิตรเผยหลักฐานใหม่แผนที่มาตราส่วน 1ต่อ 2 แสน ของไทยชี้ชัด เขาพระวิหารอยู่ฝั่งไทย

18.30 น. ฮอร์ นัมฮง แจงทูตยูเอ็น ยกแผนที่ปี 2505 ที่ศาลโลกพิพากษาให้ปราสาทพระวิหารเป็นของเขมร อ้างถูกไทยรุกราน

18.20 น. ศรีสะเกษสั่งปิดโรงเรียนชายแดนในจังหวัด เพิ่มเป็น 48 แห่ง หลังเหตุปะทะยังคงมีต่อเนื่อง

18.15 น. รัฐบาลไฟเขียวเบิกงบฉุกเฉิน 500 ล้าน ช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากชายแดนไทย - เขมร

18.10 น. ประวิตร ย้ำกองทัพจะรักษาอธิปไตยอย่างเต็มที่ มอบแม่ทัพภาค 2 เจรจายุติความรุนแรง ขอประชาชนมั่นใจอย่าตื่นตระหนก

18.00 น. อธิบดี กรมอุทยานฯ สั่งปิดอุทยานเขาพระวิหารฝั่งไทยแล้ว หลังเหตุปะทะเดือด คาดเสียหาย 4-5 แสนบาท เจ้าหน้าที่ 9 คน อพยพลงมาอย่างปลอดภัยแล้ว

17.54 น. ทหารเคลื่อนกำลังพล 1 กองร้อยเฝ้าระวังระหว่าง อ.บ้านกรวด - อ.ละหานทราย ไม่ให้กัมพูชาเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย

17.22 น. สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาฯ อาเซียน แนะไทย-กัมพูชา ตั้งโต๊ะเจรจาทวิภาคี ชี้ความขัดแย้ง 2 ประเทศกระทบภาพประชาคมอาเซียน

17.00 น. พ.อ.สรรเสริญ ขอความร่วมมือไม่นำเสนอภาพฐานทหาร จุดตั้งปืนใหญ่ เพราะฝ่ายกัมพูชาสามารถคะเนพิกัดได้ เช่นเดียวกับภาพทหารบาดเจ็บ ชี้สะเทือนความรู้สึก

16.23 น. รัฐบาลแถลงย้ำไทยถูกเขมรละเมิดก่อน จึงตอบโต้ พร้อมร่วมมือ UN แต่ขอแก้ปัญหาระดับทวิภาคี มอบกระทรวงต่างประเทศแจงมรดกโลก

16.16 น. พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี โปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชาฯ เข้าไปช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุปะทะเขมร

15.57 น. กระทรวงต่างประเทศส่งหนังสือแจง UN โต้กัมพูชา พร้อมค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในปีนี้

 

เล่ห์ “ฮุนเซน” หวังยกปัญหาไทย-กัมพูชาสู่เวทีโลก

เล่ห์ “ฮุนเซน” หวังยกปัญหาไทย-กัมพูชาสู่เวทีโลก


บัวแก้วปูดแผน “ฮุนเซน” จ้องหาเรื่องไทย มีเจตนาแอบแฝงหวังยกระดับปัญหาไทย-กัมพูชาเข้าสู่เวทีนานาชาติ “สรรเสริญ” ปัดปราสาทโดนตวนโดนทหารเขมรยึด แต่รับมีทหารไทยถูกกัมพูชาจับตัว 1 นาย...

ที่ ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงถึงสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหารว่า ยืนยันว่า ไทยยึดหลักกฎกติกา ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน การตอบโต้ของไทยเพื่อหยุดการยิงของกัมพูชา แต่ที่ผ่านมาเราพยายามเปิดการเจรจาฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะกัมพูชาจะหยิบยกไปบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า ไทยเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บของฝ่ายไทยใน 3 วันที่ผ่านมาพบว่า ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 25 นาย และพลเรือนเสียชีวิต 1 คน

ทั้ง นี้การปะทะกันวันที่ 5 ก.พ. มีพลทหารกองประจำการ 1 นาย พลัดหลงเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา จึงได้ติดต่อพูดคุยกับ พล.อ.เตีย บัณห์ และ รมว.กลาโหม โดยกัมพูชา ยอมรับว่า มีการรับตัวไว้จริง และบอกว่า จะส่งตัวให้ไทยโดยเร็ว ส่วนที่มีข่าวว่า จะส่งตัวทหารไทยขึ้นศาลทหารกัมพูชานั้น ตามข้อกฎหมายการขัดกันด้วยอาวุธ กฎหมายที่เกี่ยวกับสงคราม และสนธิสัญญาเจนีวา ระบุว่า ถ้ามีการจับตัวกันได้ระหว่างที่มีการปะทะกันเรียกว่า เชลยศึก สิ่งที่ทำได้คือ การควบคุมตัวไว้ จนกระทั่งการขัดกันด้วยสงครามยุติลงจึงคืนตัว หรือหากสองประเทศตกลงกันได้ ก็สามารถคืนตัวได้ก่อนที่การขัดกันของสงครามจะสิ้นสุดลง โดยไม่สามารถนำตัวไปขึ้นศาลใดๆได้ ซึ่งเราจะยึดกรอบดังกล่าวไปเจรจากับกัมพูชาเพื่อขอตัวกลับมา

ส่วนที่ มีกระแสข่าวว่า ทหารกัมพูชาเข้ามายึดครองปราสาทโดนตวน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของไทยพ.อ.สรรเสริญ ตอบว่า ยืนยันว่า ไม่มีทหารกัมพูชา เข้ามาบุกยึดพื้นที่ปราสาทโดนตวน ตามข่าว ยังอยู่ในความควบคุมของทหารไทย ยืนยันว่าทุกพื้นที่ที่เป็นอาณาเขตไทย ยังไม่มีกำลังของกัมพูชาเข้ามายึดพื้นที่ตามที่เป็นข่าว

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า กรณีที่สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำหนังสือไปที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 6 ก.พ.นั้น ไทยจะมีจดหมายไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเช่นกัน เพื่อยืนยันว่า เราได้รับการรุกรานโจมตีจากกัมพูชา เพราะในวันที่ 5 ก.พ.มีการตกลงหยุดยิงของสองประเทศ แต่กลับเกิดการปะทะกันขึ้นอีกในวันที่ 6 ก.พ. ซึ่งชัดเจนว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทำให้ข้อตกลงสองประเทศไม่ถูกนำมาปฏิบัติจริง

ดังนั้นไทยจะยืนยันว่า เหตุการณ์ปะทะกันในวันที่ 6 ก.พ.อาจมีเจตนาแอบแฝงของกัมพูชาที่ต้องการขยายผลเหตุการณ์ไปสู่เวทีระหว่าง ประเทศ เพราะช่วงเวลาปะทะกันนั้น กัมพูชามีหนังสือไปถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเวลาเดียวกัน ซึ่งค่อนข้างน่าแปลกใจที่หนังสือสามารถออกได้เร็ว ขณะที่การปะทะยังไม่หยุด จึงเป็นความพยายามขยายผลของกัมพูชา ที่จะยกระดับเรื่องนี้เข้าสู่เวทีนานาชาติ ซึ่งไทยจะยืนยันว่า สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ โดยกลไกทวิภาคี และใช้ความอดทนอดกลั้นเต็มที่ แต่จะป้องกันตัวเองตามความเหมาะสม ปกป้องอธิปไตยเต็มที่

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงต่างประเทศชี้แจงกับมิตรประเทศ ซึ่งมิตรประเทศรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน ยืนยันว่า เรามีนโยบายยึดมั่นการเป็นสมาชิกที่ดีกับสหประชาชาติ และมีจุดยืนชัดเจนว่า จะร่วมมือกับนานาชาติในการให้ข้อมูลและแก้ไขปัญหา แต่ขอสงวนสิทธิการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไว้ในระดับทวิภาคี เพราะปัญหาไทยกับกัมพูชา สามารถแก้ปัญหาร่วมกันได้ เนื่องจากมีความเข้าใจพื้นฐานของปัญหาดีที่สุด

“เหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นครั้งนี้เป็นผลมาจากการมีความพยายามที่จะยกระดับเรื่องนี้สู่ระดับนานา ชาติ มีความพยายามแก้ปัญหาเรื่องพรมแดน ดินแดน อธิปไตย โดยนำบุคคลหรือประเทศอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้เกิดผลกระทบบานปลายออกไป เรายืนยันกับองค์กรเหล่านั้นว่าควรจะต้องให้ไทย-กัมพูชา แก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง ตามวิธีทางของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งภาพรวมของความสัมพันธ์นั้นดีขึ้น เรามองไปในอนาคตว่าไทย-กัมพูชาสามารถทำงานร่วมกันได้”

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า การนำเสนอข้อมูลนั้น บางอย่างอาจมีความกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง และเป็นประโยชน์กับบางกลุ่ม บางประเทศ ที่ไม่หวังดีนำไปใช้ ทำให้เกิดปัญหาในการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา จึงขอให้สื่อช่วยตรวจสอบ ทั้งนี้รัฐบาลไม่มีเจตนาแทรกแซงการทำงานแต่อย่างใด ขณะนี้รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานด้านการข่าว 2 จุด 1.สถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ซึ่งพ.อ.สรรเสริญ จะเป็นผู้ประสานงาน 2.ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รับผิดชอบโดยทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านการข่าว


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวการเมือง
• 7 กุมภาพันธ์ 2554, 19:00 น.

เล่ห์ “ฮุนเซน” หวังยกปัญหาไทย-กัมพูชาสู่เวทีโลก - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

รอยเตอร์ ชีี้มูลเหตุทหารไทยปะทะกัมพูชา

รอยเตอร์ ชีี้มูลเหตุทหารไทยปะทะกัมพูชา

รอยเตอร์ วิเคราะห์ ปมปฏิวัติล้มเลือกตั้ง ต้นเหตุไทยปะทะกัมพูชา อีกฝ่ายชี้ ป้าย "นี่คือดินแดนกัมพูชา "ตัวเชื้อปะทุ...

สำนัก ข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อ วันที่ 7 ก.พ.ว่า แม้สาเหตุที่ทำให้เกิดการยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชายังคลุมเครือ แต่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า มูลเหตุอาจมาจาก พวกนายพลสายเหยี่ยวในกองทัพไทย และกลุ่มพันธมิตรชาตินิยม อาจพยายามโค่นล้มรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือพยายามสร้างเงื่อนไขเพื่อก่อรัฐประหารอีกครั้ง และเลิกล้มการเลือกตั้ง ท่ีมีกำหนดจัดขึ้นในปีนี้

แต่นักวิเคราะห์ อีกฝ่ายมองว่า การปะทะกันอาจมีสาเหตุ แค่เกิดความเข้าใจผิดและช่องทางการติดต่อส่ือสารระหว่างทั้งสองฝ่ายล้มเหลว ในช่วงท่ีความสัมพันธ์ตึงเครียด จากกรณีกัมพูชาชักธงชาติในพื้นท่ีพิพาท และวางป้ายหินจารึกข้อความ “นี่คือดินแดนกัมพูชา”


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวต่างประเทศ
• 7 กุมภาพันธ์ 2554, 21:30 น.

รอยเตอร์ ชีี้มูลเหตุทหารไทยปะทะกัมพูชา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ระบุลูกชายฮุนเซน นําทัพลุย จะเอาคืนที่สูญเสีย

ระบุลูกชายฮุนเซน นําทัพลุย จะเอาคืนที่สูญเสีย


เขมรขอกําลังยูเอ็นประจํา อ้างถูกไทยยิงใส่พระวิหาร จับทหารไทยส่งพนมเปญ"ฮุน เซน" ประกาศกร้าวไม่ยอมถอนธงชาติกัมพูชาออกจากวัดแก้วฯอย่างเด็ดขาด ยันพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา...
หลังทหารไทยและ กัมพูชาเปิดการยิงต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งวันที่ 6 ก.พ. ก่อนจะหยุดยิงและคุมเชิงกันตลอด จนถึงช่วงเช้าวันที่ 7 ก.พ. เสียงปืนของฝ่ายกัมพูชาก็แผดดังกึกก้องขึ้นอีกครั้งเมื่อเวลา 09.05 น. วันที่ 7 ก.พ.ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กำลังทหารจากกรม ทพ.ที่ 23 เดินทางเข้าไปขนย้ายทหารที่เจ็บป่วย ซึ่งวางกำลังอยู่ในแนวปะทะบริเวณฐาน ใกล้ภูมะเขือ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ฝ่ายทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่ ปืน ค.60 และจรวดอาร์พีจีเข้าใส่อย่างละหลายลูก ตามด้วยการสาดกระสุนปืนประจำกายเข้า ใส่ไม่ยั้ง ฝ่ายทหารไทยจึงยิงตอบโต้กลับไป ทั้งอาวุธหนักและอาวุธเบานานประมาณ 20 นาที ก่อนที่สองฝ่ายจะหยุดยิงอีกครั้ง โดยเสียงปืนที่เกิดการยิงปะทะครั้งนี้ ดังไปไกลถึงที่ทำการอำเภอกันทรลักษ์ ส่งผลให้ประชาชนที่อพยพหนีภัยสงคราม มาพักอยู่ที่วิทยาลัยการอาชีพกันทรลักษ์ และที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ตื่นตกใจ สำหรับการยิงปะทะกันครั้งล่าสุดนี้ ไม่มีรายงานความสูญเสียหรือบาดเจ็บของฝ่ายไทยแต่อย่างใด

ต่อมาฝ่าย ทหารได้พาคณะสื่อมวลชนเข้าไปตรวจ สอบความเสียหายจากการยิงปืนใหญ่โจมตีฝ่ายไทยเมื่อคืนวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านภูมิซรอล พบว่าบ้านเรือนราษฎรไทยเสียหาย 1 หลัง ถนนสายบ้านภูมิซรอล-บ้านชำเม็ง ถูกกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาเสียหายเป็นหลุมกว้าง 2 เมตรลึก 1.50 เมตร ทหารช่างต้องนำหินบดและดินลูกรังมาถมกลบหลุมและบดอัดเพื่อให้ใช้งานได้ ตามปกติในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

ในขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาบริเวณชายแดนด้านจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันจันทร์ 7 ก.พ. ระบุทหารไทยกับกัมพูชายิงกระสุนปืนใหญ่และปืนกลเข้าใส่กันอีกเป็นวันที่ 4 เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ การยิงปะทะกันเกิดขึ้นนานราว 1 ชั่วโมง ก่อนทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องหยุดยิงอย่างไม่เป็นทางการ ถือเป็นการยิงปะทะรายวันครั้งที่ 4 นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายอย่างน้อย 5 ราย โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า กระสุนปืนใหญ่ของทหารไทย ตกทำลายปีกกำแพงด้านหนึ่งของปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชายังเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดในพื้นที่ไม่ได้เพราะ อันตรายเกินไป ส่วนแหล่งข่าวทางทหารของฝ่ายไทย ปฏิเสธยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่เป้าหมายบริเวณปราสาทพระวิหาร ทั้งระบุถึงเหตุยิงปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อยและมีเพียงการยิงปืนขนาดเล็กเท่านั้น

ขณะ เดียวกัน นายกรัฐมนตรีฮุน เซน แห่งกัมพูชา กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างร่วมพิธีมอบปริญญาบัตรแก่ นักศึกษามหาวิทยาลัยในกรุงพนมเปญเมื่อวันจันทร์ ระบุย้ำกล่าวหาไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชา เข่นฆ่าชาวกัมพูชา และทำให้บางส่วนของปราสาทพระวิหารเสียหาย โดยกล่าวย้ำว่าเรื่องนี้กัมพูชาต้องเรียกร้องถึงสหประชาชาติ โดยไม่ สนใจว่าไทยจะพอใจหรือไม่ก็ตาม กัมพูชาจะขอให้สหประชาชาติส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาช่วยยุติการต่อสู้ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งให้สหประชาชาติช่วยจัดตั้งเขตกันชนบริเวณพรมแดนป้องกันเหตุยิงปะทะกัน อีก โดยอ้างว่าสถานการณ์ในพื้นที่ ดูเหมือนเลวร้ายลงเรื่อยๆ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครฟังใคร นอกจากนั้น การต่อสู้กันของไทยกับกัมพูชา จะส่งผลถึงเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ส่งหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงสหประชา ชาติแล้ว โดยเรียกร้องให้สหประชาชาติจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อช่วยยุติความรุนแรงใน พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และรัฐบาลกัมพูชายินดีที่อาเซียนเข้ามาแทรกแซงช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างไทยกับกัมพูชา ทั้งยังกล่าวถึงนายฮุน มาเนต ลูกชายวัย 33 ปี ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งนายพลระดับ 2 ดาว หรือพลตรี ให้ ทำหน้าที่กำกับดูแลบัญชาการยุทธศาสตร์บริเวณชายแดน และมีส่วนในการเจรจาลดความขัดแย้งกับฝ่ายไทยด้วย

ในขณะที่เว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ "เดิมอัมปรึล"หรือหนังสือพิมพ์ต้นมะขามของกัมพูชารายงานคำกล่าวสุนทรพจน์ของ นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่นานร่วม 2 ชั่วโมง ว่า กัมพูชาจะไม่ถอนธงชาติกัมพูชาออกจากพื้นที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลไทย อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชาอย่างเบ็ดเสร็จ ตามคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) ลงวันที่ 15 มิ.ย. 2505

นา ยกฯฮุน เซน กล่าวว่า "เรากำลังปกป้องดินแดนของเรา เราไม่ต้องการดินแดนของไทยแม้เพียงเสี้ยวเล็กน้อย แม้ว่าไทยต้องการให้ดินแดนแก่เรา เราก็ไม่ต้องการรับ" นอกจากนั้น ผู้นำกัมพูชายังกล่าวอีกว่า กัมพูชาไม่ใช่ขนมขบเคี้ยวให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ใช้เป็นเครื่องมือเอาอกเอาใจกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งนายกฯฮุน เซน หมายความถึงกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศไทยที่กำลังต้องการทำลายความสัมพันธ์และ ความร่วมมืออันดีระหว่าง 2 ประเทศ

นายกฯฮุน เซน ยังกล่าวตั้งคำถามถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงเงินกองทุนเพื่อเรียกร้องขอคืน วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระจากกัมพูชา โดยกล่าวว่า กองทุนดังกล่าวหมายความว่าอย่างไร ทำไมรัฐบาลไทยปล่อยให้มี การเคลื่อนไหว เรียกร้องขอคืนวัดแก้วสิกสิขาคีรีสวาระจากกัมพูชา ทั้งที่รัฐบาลไทยรับรู้คำตัดสินของศาลโลกไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2505

"ประเทศ ไทยเต็มไปด้วยคนมีความรู้ คนมีความสามารถ แต่ทำไมจึงไม่ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือดำเนินการตกลงแก้ปัญหา ข้อพิพาทชายแดน หากกลับใช้วิธีการก้าวร้าวและรุกรานประเทศเล็กๆอย่างกัมพูชา" นายกฯฮุน เซน กล่าวและว่า รัฐบาลกัมพูชาต้องการ ให้เยาวชนกัมพูชารุ่นใหม่มีภาพลักษณ์อันดีต่อทั้งสอง ประเทศ หากไทยยังรบกับกัมพูชา ภาพลักษณ์ดังกล่าวก็จะ ไม่เกิดขึ้น ดังนั้น กัมพูชาจึงต้องการให้ศาลระหว่างประเทศช่วยเหลือเรื่องนี้" นายกฯฮุน เซน กล่าว

นายกฯ ฮุน เซน กล่าวด้วยว่า กัมพูชาและไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เหมือนลิ้นกับฟัน การยิงปะทะกัน 3 ระลอก ตั้งแต่บ่ายวันศุกร์ถึงเช้าวันจันทร์ ทำให้ทหารกัมพูชา 2 นาย และช่างภาพด้านการท่องเที่ยว 1 คน เสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก "เราเสียใจในการปะทะที่ทำให้ ทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิต เรามีความร่วมมือกันด้านการค้า วัฒนธรรม เศรษฐกิจ การศึกษา แต่มีความขัดแย้งทางการทูตและการเมือง เราได้ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียบร้อย แล้ว และกระตุ้นให้คณะมนตรีเรียกประชุมฉุกเฉิน อีกทั้งขอให้สหประชาชาติส่งกองกำลังเข้าสู่พื้นที่พิพาท เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการเขตแดนร่วมฯ เข้าไปวัดพื้นที่เพื่อปักปันเขตแดนที่นั่น" นายกฯ ฮุน เซน กล่าวและอ้างว่า หลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชาพบปะหารือกันที่ จ.เสียมเรียบ เมื่อ 4 ก.พ.ไม่กี่ชั่วโมง ทหารไทยก็เริ่มรุกรานพื้นที่ของกัมพูชา และขยายการสู้รบถึง 6 จุด ใกล้ปราสาทพระวิหาร

นายกฯฮุน เซน ยังระบุว่า ทหารไทยยิงทั้งปืนใหญ่ และปืนครกทำลายบางส่วนของปราสาทพระวิหารซึ่งได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก อันประกอบด้วยคุณค่าสากล และเน้นย้ำว่ากัมพูชาจะไม่ปลดธงชาติจากวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ เพราะถ้าปลดออกจะดูเหมือนกับว่าถอดวิญญาณ พวกเราออกจากร่างกาย เขายังอ้างว่า กัมพูชาจับทหารไทย ได้ 1 นาย แต่ฝ่ายไทยไม่ยอมรับว่าเป็นทหาร พวกเรากำลัง ดูแลอยู่ โดยเชลยศึกสารภาพว่าเข้ามากัมพูชาเพื่อจารกรรมข้อมูลของทหารกัมพูชาใกล้ พื้นที่สู้รบ ทหารกัมพูชายังได้ทำลายรถแทร็กเตอร์และรถตักดินของไทย ที่ใช้ ก่อสร้างถนนมายังปราสาทพระวิหาร แต่สถานการณ์ตามแนวพรมแดนขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

มีรายงานข่าวจาก หน่วยงานความมั่นคงว่า มีการประเมินสาเหตุที่สถานการณ์การปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังมีความตึงเครียด ยืดเยื้อและไม่ยุติ ว่าเป็นเพราะ พล.ท.ฮุน มาเน็ต บุตรชายของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เพิ่งได้รับการติดยศเป็น พล.ท. โดยดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.กองพลทหารราบ และรอง ผบ.หน่วยองครักษ์ฮุน เซน เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความอ่อนอาวุโส เพราะมีอายุเพียง 33 ปี ต้องการพิสูจน์ตนเองเพื่อให้ได้รับการยอมรับในฐานะว่าที่ผู้สืบทอดของสมเด็จ ฮุน เซน โดย พล.ท.ฮุน มาเน็ต ซึ่งคุมกองกำลังหน่วยองครักษ์ฮุน เซน เป็นผู้นำการเคลื่อนอาวุธหนัก เข้ามาในพื้นที่ปราสาทพระวิหารในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนพัฒนาไปอีกขั้น โดยทำให้ต่างฝ่ายต่างเสริมกำลังและเกิดการเผชิญหน้าทางทหาร แม้ก่อนหน้านี้หน่วยองครักษ์ฮุนเซน จะตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นปีแล้วก็ตาม แต่ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ฮึง บุน เฮียน ผบ.หน่วยองครักษ์ฮุน เซน อย่างไรก็ดี เนื่องจากการปะทะกันเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียค่อนข้างหนัก จึงอาจมีความพยายามที่จะเอาคืน.


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวหนังสือพิมพ์
• 8 กุมภาพันธ์ 2554, 06:00 น.

ระบุลูกชายฮุนเซน นําทัพลุย จะเอาคืนที่สูญเสีย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=P_QAmwlAzgw]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 7 กพ 54 part 3[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=f-Hfjo5AYUw]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 7 กพ 54 part 4[/ame]

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=3DfrLHttN0o]YouTube - ทหารไทย ปะทะ เขมร[/ame]

ขอฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว
ขอทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทะนง
จะแน่วแน่แก้ไข ในสิ่งผิด จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง
จะยอมตาย หมายให้ เกียรติดำรง จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
ไม่ท้อถอย คอยสร้าง สิ่งที่ควร ไม่เรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา
ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป
นี่คือ ปณิธาน ที่หาญมุ่ง หมายผดุง ยุติธรรม อันสดใส
ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด ยังมั่นใจ รักชาติ องอาจครัน
โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่ เพราะมีผู้ ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน
ยังคงหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทิดผองไทย

 

เพิ่มเติมจากกระปุก

โฆษกกองทัพบก ไม่ยืนยัน ลูกชายสมเด็จฮุนเซน บาดเจ็บจากการปะทะ ขณะที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เผยยอดผู้บาดเจ็บรวม 36 ราย เสียชีวิต 2 ราย

วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2554) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึง สถานการณ์ความเคลื่อนไหวแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในวันนี้ โดยยอมรับว่า ข่าว สารที่เกิดขึ้นช่วงเวลานี้ ยังไม่มีความชัดเจนใด ๆ ที่สามารถจะยืนยันได้ในหลาย ๆ กระแส ซึ่งรวมถึงข่าว พล.ท.ฮุนมาเน็ต บุตรชายคนโตของ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มีข่าวออกมาว่า บาดเจ็บจากเหตุปะทะกัน ที่ผ่านมา

ส่วน ภาพรวมของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ถือว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยยังไม่มีการปะทะกันเกิดขึ้นอีก พร้อมยืนยันว่า ทหารไทยที่ทางการกัมพูชาควบคุมตัวนั้น ไม่ใช่สปาย และขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา เพื่อส่งตัวกลับ ทั้งนี้ หากทางการกัมพูชานำตัวขึ้นศาล ทหารก็จะต้องมีการประท้วงอย่างแน่นอน

ขณะ ที่ พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ในฐานะ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย -กัมพูชา ที่ ภูมะเขือ ผามออีแดง ฐานตำรวจตระเวนชายแดน ทุกจุดยังเป็นปกติ ภายหลังจากที่มีการเจรจาไปแล้ว และอยากประชาสัมพันธ์ประชาชนอย่าตื่นตระหนก หากพบเห็นการเคลื่อนกำลังพล รถถัง เนื่องจากมีการฝึกซ้อม ของทหารในบางหน่วยอยู่ด้วย

ด้าน นายแพทย์วันชัย เหล่าเสถียรกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เปิดเผยความคืบหน้า การดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุทหารไทย ปะทะทหารกัมพูชา ว่า สรุปยอดผู้บาดเจ็บทั้งหมด จำนวน 38 ราย เป็นทหาร 33 นาย ประชาชน 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทหาร 1 นาย ประชาชน 1 ราย ส่วนผู้ที่อาการสาหัส 1 นาย เจ้าหน้าที่นำส่งรักษาต่อที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้ ในโรงพยาบาล ไม่มีผู้บาดเจ็บพักรักษาตัว โดยประชาชนที่บาดเจ็บ ก็สามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านพัก ส่วนทหาร เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายไปรักษาที่หน่วยแพทย์ของทหาร

นพ.วัน ชัย กล่าวต่อว่า ทางโรงพยาบาลได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลประชาชนที่ศูนย์อพยพ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ คอยดูแลสุขอนามัย และการรับประทานอาหาร ซึ่งแม้ว่าที่ศูนย์อพยพ ยังมีปัญหาเรื่องน้ำดื่มและห้องสุขา แต่ทางผู้ว่าฯ ได้จัดระดมกำลังดูแลแล้ว และยังไม่พบโรคระบาด หรือผู้ป่วยจากการอพยพ ส่วนเรื่องสภาพจิตใจนั้น มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จาก จ.อุบลราชธานี มาคอยเยียวยาจิตใจ และฟื้นฟูจิตใจประชาชนที่สูญเสีย และหวาดผวากับเหตุการณ์

อย่าง ไรก็ตาม ในส่วนของบ้านเรือนประชาชนและถนน ที่เกิดความเสียหาย จากแรงระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารช่าง และประชาชนบางส่วนได้เข้าพื้นที่ซ่อมแซมปรับปรุง เพื่อให้ใช้งานได้ และวางแผนปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน ที่ได้รับผลกระทบ ให้ทันต่อการเปิดเรียน หากสถานการณ์เป็นปกติ

ทั้ง นี้ มีรายงานด้วยว่า ชาวบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ บางส่วนไม่ยอมทิ้งบ้านเรือน เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินภายในบ้าน รวมทั้งสัตว์เลี้ยงที่ทิ้งไว้ โดยใช้วิธีหลบในหลุมหลบภัย ซึ่งเวลานี้แม้เสียงปืนจะสงบลงแล้ว แต่ชาวบ้านบอกว่า ยังไม่มั่นใจและหวาดกลัวกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน แต่ก็จะไม่ยอมถอยไปไหน เพราะที่นี่เป็นบ้านของพวกเขา จึงอยากวอนให้หน่วยงานภาครัฐ ช่วยเหลือเรื่องอาหาร และน้ำดื่ม

พลทหารไทยถูกเขมรจับ

​

ส่วน ความคืบหน้าล่าสุด การประสานงานเพื่อปล่อยตัวทหารไทยรายหนึ่ง ที่ถูกทางการกัมพูชา จับกุมตัวระหว่างการปะทะกันที่ ชายแดน จ.ศรีสะเกษ ล่าสุด มีรายงานจากทางประเทศกัมพูชาว่า ได้มีการประสานงานและทำพิธีปล่อยตัว ที่กระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ไปเรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวมาส่งคืนให้กับทางประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะใช้ช่องทางด่านปอยเปต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ขณะ ที่จากการสอบถามไปยัง พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา รับผิดชอบพื้นที่อรัญประเทศ กล่าวว่า ได้รับการประสานที่จะส่งตัวในกรณีดังกล่าวจริง แต่ไม่ทราบในรายละเอียดเรื่องของเวลาที่จะเดินทางมาถึง ซึ่งตนเองติดภารกิจไม่ได้ร่วมเดินทางไปรับด้วย

ทาง ด้านความเคลื่อนไหว ที่ด่านชายแดนอรัญประเทศ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับปอยเปตของกัมพูชา บรรยากาศยังเป็นไปตามปกติ โดยไม่มีการปิดด่านหรือเพิ่มเติมกำลังเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

ด้าน นางมาเรีย ลุยซา ริเบียโร วิออตติ (Maria Luiza Ribeiro Viotti) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) กล่าว ภายหลังการประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาในเอเชีย โดยระบุว่า สมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงฯ แสดงความกังวลอย่างมาก ที่สถานการณ์กลับเลวลง และความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้น ในบริเวณพื้นที่ชายแดน ทางสมาชิกคณะมนตรีฯ ได้เรียกร้องให้หยุดยิงและขอให้จัดตั้งคณะกรรมการ ในการแก้ไขสถานการณ์อย่างสงบ โดยสนับสนุนการให้อาเซียน ซึ่งผู้เป็นประธานในขณะนี้ คือ ประเทศอินโดนีเซีย ให้เข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย และที่ผ่านมาทางคณะมนตรีฯ ก็ได้รับจดหมายจาก รัฐบาลไทยและกัมพูชาแล้ว

นอก จากนี้ นางวิออตติ ยังกล่าวว่า ทางคณะมนตรีฯ ยินดีที่จะจัดประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตามคำขอของ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรนีกัมพูชา แต่ต้องเป็นหลังจากความพยายามไกล่เกลี่ย ในระดับภูมิภาค โดย นายมาร์ตี นาตาเลกาวา (Marty Natalegawa) รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ไม่บรรลุผล

ขณะ เดียวกัน แถลงการณ์โดยผู้แทนของ นางแคทเธอรีน แอชตัน (Baroness Catherine Ashton) ผู้แทนระดับสูงฝ่ายนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป หรือ EU ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2011 ระบุถึงความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับการปะทะกันด้วยอาวุธในพื้นที่ชายแดน ระหว่างไทยและกัมพูชา และเรียกร้องให้ ผู้แทนระดับสูงของทั้ง 2 ประเทศ ใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นหนทางที่จะนำไปสู่การลดความตึงเครียดลง และเพื่อให้เกิดการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี



[8 กุมภาพันธ์] เกาะติดสถานการณ์ ไทยปะทะเขมร ชายแดน ไทย - กัมพูชา



11.48 น. รมต.ต่างประเทศของอินโดนีเซีย เยือนกัมพูชาหารือเหตุปะทะชายแดน ฮอร์ นัมฮง บอกไทยโจมตีก่อน 4 ครั้ง

10.56 น. กัมพูชา เตรียมปล่อยพลทหารไทยที่ถูกจับ ทูตรอรับกลับประเทศวันนี้ [สำนักข่าวเนชั่น]

09.22 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ มั่นใจปัญหาไทย-กัมพูชา คุยกันเองได้

09.07 น. ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เผยสถานการณ์ชายแดนเริ่มคลี่คลายไม่น่าเป็นห่วง พร้อมประเมินสถานการณ์ รอเคลื่อนย้ายประชาชนกลับภูมิลำเนา

08.59 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยงดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีปัญหาชายแดนที่เกิดขึ้น

08.46 น. สหรัฐฯ สงวนท่าที ยังไม่ตัดสินใจควรยุ่งเกี่ยวเหตุพิพาทไทย-กัมพูชาหรือไม่ แต่เรียกร้องให้อดกลั้นแก้ปัญหาด้วยสันติ

08.39 น. ผู้ว่าฯ สุรินทร์ เปิดด่านช่องจอมแล้ว หลังชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ สงบเงียบมาตลอดทั้งคืน แต่ยอมรับการค้าชายแดนเสียหายหนัก

08.20 น. ผู้ ว่าฯ ศรีสะเกษ เยี่ยมชาวอำเภอกันทรลักษ์ กว่า 3 พันคน ที่อพยพลี้ภัยสงคราม ไทย-กัมพูชา ขณะยังพิจารณาสถานการณ์ทุกวัน หวังให้ได้กลับบ้านโดยเร็ว

08.00 น. บรรยากาศ หน้าสถานทูตกัมพูชา ยังสงบเรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และดูแลอย่างเข้มงวด

07.55 น. กลุ่ม พันธมิตรฯ ยังชุมนุมปกติ แกนนำเล่าข่าวสรุปสถานการณ์ และวิจารณ์สื่อ เสนอข่าวล่อแหลม พร้อมเฝ้าจับตา การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรจะเคลื่อนขบวนไป อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หรือไม่

07.50 น. แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุ ยังคงต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด ย้ำ "พลทหาร สงกรานต์" เดินทางกลับใน 1-2 วันนี้ ไม่ตอบสื่อว่ายูเอ็นจะเข้ามาไกล่เกลี่ยได้หรือไม่

07.48 น. ตลอดคืนที่ผ่านมา ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ยังสงบต่อเนื่อง ไร้เสียงปืนและระเบิด

[7 กุมภาพันธ์] เกาะติดสถานการณ์ ไทยปะทะเขมร ชายแดน ไทย - กัมพูชา

22.00 น. ฮุนเซนยันไม่ส่งพลทหารไทยที่จับกุมตัวไว้ขึ้นศาลทหาร หากไทยประสานขอตัว จะส่งกลับไทยให้ทันที

21.56 น. ชาย แดน จ.สุรินทร์ ยังตึงเครียด พ่อค้ารีบเก็บของกลับบ้าน ชาวบ้านฮือ กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม พร้อมตื่นข่าวสงคราม แห่อพยพไปจุดที่ปลอดภัยแล้ว

21.53 น. กองพันทหารราบที่ 4 เสริมกำลังดูแลชายแดนบุรีรัมย์ ป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย ด้านกัมพูชาก็เสริมกำลังพร้อมอาวุธเช่นกัน

 

อานุภาพจรวดเขมรสะท้อนการทูตเหลว


กลุ่มกระสุนระเบิดที่ทหารกัมพูชาระดมยิงเข้ามาในเขตไทย ชาวบ้านบอกว่าเห็นเป็นลูกไฟและควันวิ่งเป็นทางยาวตกใส่บ้านคน ผู้อยู่ในแวดวงอาวุธยุทโธปกรณ์การสงคราม ประเมินว่า...อาจจะเป็นจรวด

ผู้ เชี่ยวชาญสายพิราบ ให้ความรู้ย้อนรอยแสนยานุภาพจรวดกัมพูชา เอาไว้เมื่อครั้งกัมพูชาซ้อมยิงจรวดหลายลำกล้องแบบ BM21 ราวต้นเดือนมีนาคมปีที่แล้ว...

ครั้งนั้น...กัมพูชาทำการทดสอบยิง จรวดหลายลำกล้องแบบ BM21 จำนวน 8 คัน โดยทำการยิงทั้งหมด 200 นัด ซึ่งเป็นการทดสอบอาวุธด้วยกระสุนจริงครั้งแรก นับตั้งแต่กัมพูชาเสร็จสิ้นสงครามกลางเมืองเมื่อปี 2541

ตามข้อมูล บางแหล่ง กัมพูชามีระบบจรวดหลายลำกล้องแบบนี้ประจำการราว 100 ระบบ... "BM21" เป็นระบบจรวดหลายลำกล้องขนาด 122 มม. ไม่นำวิถี ซึ่งผลิตในสหภาพโซเวียตเดิม

ทั้งระบบจะประกอบไปด้วยรถบรรทุก 6 ล้อ มีพิสัยปฏิบัติการได้ราว 400 กิโลเมตร ด้านหลังจะเป็นแท่นยิงซึ่งมีท่อยิงจำนวน 40 ท่อยิง ซึ่งทำการยิงจรวดได้ 2 นัดต่อวินาที ทำการเล็งด้วยตา...ด้วยกล้องเล็งด้านข้างตัวรถ โดยมีพลประจำรถ5 นาย

ทำการยิงได้ภายใน 3 นาทีนับจากรถจอด และเปลี่ยนที่ตั้งได้หลังจากทำการยิงเสร็จแล้วภายใน 2 นาที

สำหรับ การบรรจุจรวดทำด้วยคนโดยใช้เวลาราว 10 นาที...ตัวจรวดขนาด 122 มม. มีหลายแบบให้เลือกใช้ตามแต่ภารกิจ ตั้งแต่จรวดติดหัวรบบรรจุดินระเบิด

จรวดบรรจุกับระเบิดรถถัง ระเบิดสังหารบุคคล ลูกระเบิดขนาดเล็กสำหรับทำลายรถถัง ระเบิดควัน ไปจนถึงทุ่นระเบิดใต้น้ำ

อีกประเด็นน่าสนใจ "BM21" มีระยะยิง 30-40 กิโลเมตร

ใน มุมข้อดีที่ว่ามาก็มีข้อเสีย โดยเฉพาะความแม่นยำที่ BM21 มีไม่ มากนัก จึงทำให้ไม่สามารถทำการโจมตีที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงได้ ดังนั้นความมุ่งหมายของอาวุธประเภทนี้คือการทำลายเป็นพื้นที่ หมายถึง การใช้อำนาจการยิงในการทำลายเป็นวงกว้าง

รถหนึ่งคันมีจรวด 40 นัด จรวดทั้ง 40 นัด สามารถยิงหมดได้ภายใน 20 วินาที และ 1 กองพันจรวดหลายลำกล้องจะบรรจุทั้งหมด 18 ระบบ

นั่น ก็คือ 1 กองพันสามารถทำการยิงได้ถึง 720 นัดในการยิงหนึ่งครั้ง จรวดทั้ง 40 นัดจากรถหนึ่งคันสามารถทำการยิงได้ครอบคลุมพื้นที่ราว 20,000 ตารางเมตร

นึกภาพง่ายๆ BM21...1 กองพัน ทำลายเป้าหมายได้ภายในพื้นที่เกือบ 1 ตารางกิโลเมตร

ผู้เชี่ยวชาญอาวุธยุทโธปกรณ์สายพิราบ บอกอีกว่า ปัจจุบันอาเซียนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของจรวดหลายลำกล้อง

นอก จาก กัมพูชาที่มี BM21 ใช้งานแล้ว...ยังมีอีกหลายประเทศ เช่น เวียดนาม ประจำการด้วยสะกัต (SCUD) จากรัสเซีย-เกาหลีเหนือ...โดยไม่ทราบจำนวน

และ...ประเทศ เพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย ก็จัดหา Astros II จากบราซิลจำนวน 36 ระบบ, สิงคโปร์จัดหาระบบ M142 High Mobility Artillery Rocket Systems (HIMARS) จำนวน 18 ระบบ

ส่วนไทยจัดหา WS-1B จากประเทศจีนจำนวน 9 ระบบ และกำลังพัฒนาระบบจรวดหลายลำกล้องในประเทศเพื่อเข้าประจำการ

เปรียบเทียบจรวดที่เราทำเอง ไทยมีจรวดหลายลำกล้อง DTI-1 ช่วงที่กองทัพบกเปิดตัวใหม่ๆไม่นานมานี้...หลายคนก็ตั้งข้อสงสัย

DTI-1...ไทย กับ BM21...กัมพูชา อันไหนดีกว่ากัน?

ผู้เชี่ยวชาญสายพิราบ ให้ข้อมูลล่าสุดเอาไว้ตั้งแต่ต้นปี 2554 บอกว่า

ความ จริงมันก็ต่างกันพอสมควร...ถ้าดูจากปริมาณจรวดที่ยิงได้ต่อ 1 ครั้งแล้ว BM21 มีจรวดบรรจุทั้งหมด 40 นัดใน 1 ชุดยิง...ส่วน DTI-1 มีจรวด 4 นัดใน 1 ชุดยิง

สำหรับอำนาจการทำลายนั้น BM21 ใช้จรวดขนาด 122 มิลลิเมตร บรรจุดินระเบิดราวๆ ลูกละ 25 กิโลกรัม ยิงได้ไกล 40 กิโลเมตร ส่วน DTI-1 นั้น ใช้จรวดขนาด 302 มิลลิเมตร ใช้ดินระเบิดลูกละ 150 กิโลกรัม มีระยะยิงไกล180 กิโลเมตร...

นอกนั้นทั้งสองระบบต่างเป็นจรวดที่ไม่นำวิถีเหมือนกัน

ข้อมูล ข้างต้นจึงน่าจะเทียบกันลำบาก แค่ขนาดจรวด...ขนาดหัวรบ และระยะยิง DTI-1...ไทย ก็ใหญ่กว่าและไกลกว่า BM21...กัมพูชาหลายเท่าอยู่แล้ว

เอาง่ายๆว่า...จากระยะยิง DTI-1 ยิงได้ 4 รอบกว่าที่ BM21 จะวิ่งเข้ามายิงได้สัก 1 รอบ

"อำนาจ การทำลายมันก็ต่างกัน จรวดของ BM21 มีดินระเบิด 25 กิโลกรัม รัศมีการทำลายอาจจะเทียบได้กับบ้านสักสองหลัง แต่ลูก DTI-1 รัศมีการทำลายมันราวๆ 1 สนามฟุตบอล

ถ้าจะเอาให้ชัวร์ ก็ตั้ง DTI-1 ไกลๆ แค่นี้ก็ไม่มีใครยิงโดนแล้ว ที่สำคัญกว่านั้น DTI-1 เราผลิตเองได้ จะยิงกี่ลูก จะมีกี่ระบบก็ปั๊มออกมาได้"

ข้อมูลจาก พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สปท. บอกว่า จรวดหลายลำกล้อง DTI-1...สามารถใช้เป็นอาวุธเชิงรุกและเชิงรับ สร้างความได้เปรียบในสนามรบด้วยสมรรถนะที่สำคัญ

โดยเฉพาะคุณสมบัติ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ เปลี่ยนที่ตั้งยิงได้ในเวลาอันรวดเร็ว มีความอยู่รอดในสนามรบสูง

DTI-1 มีสมรรถนะที่ยิงไกลถึง 180 กิโลเมตร มีอำนาจการยิงในทางลึกถึงแนวหลังของพื้นที่การรบ โจมตีเป้าหมายสำคัญ เช่น ค่ายทหาร สนามบิน และฐานยิงจรวด ทั้งนี้ จรวด DTI-1 สามารถใช้รถเป็นฐานยิง ติดตั้งท่อยิงจรวดจำนวน 4 ท่อยิง

ที่สำคัญ...รถฐานยิงจรวดมีระบบ ชี้ ทิศ และพิกัดอัตโนมัติ ทำงานร่วมกับระบบอำนวยการยิงอัตโนมัติ สามารถให้พิกัดและชี้ทิศทางยิงพร้อมมุมยิงได้อย่างรวดเร็ว หัวรบบรรจุดินระเบิดแรงสูง เมื่อยิงออกไปแล้วระบบสามารถบรรจุลูกจรวดเพื่อพร้อมยิงใหม่ได้ภายในเวลา เพียง 20 นาที

ลูกจรวด DTI-1 ยาว 6.37 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 302 มิลลิเมตร จรวดเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 5.2 มัค หรือ 5.2 เท่าเหนือความเร็วเสียง

กระสุนวิถีสูงสุด 60 กิโลเมตร เมื่อต้องการทำการยิง DTI-1 จะยกแท่น

ยิงขึ้นเพื่อให้ได้องศาตามที่ได้คำนวณไว้ โดยจรวด DTI-1 สามารถยกแท่น

ยิงขึ้นได้สูงสุด 60 องศา ซึ่งตัวระบบมีไฮโดรลิก ช่วยในการปรับมุมองศาได้อย่างรวดเร็ว

ถึง ตรงนี้...ผู้เชี่ยวชาญสายพิราบ ย้ำว่า อย่าได้ดูถูกแสนยานุภาพกองทัพกัมพูชาเป็นอันขาด กองทัพบกกัมพูชาเป็นเหล่าทัพที่สำคัญที่สุดในจำนวน 3 เหล่าทัพ อาวุธส่วนมากของกัมพูชาจะเป็นอาวุธจากค่ายสังคมนิยมเดิมอย่างรัสเซีย และจีน

กอง ทัพ กัมพูชาประกอบด้วย กรมทหารราบ 9 กรม, กองพันยานเกราะ 3 กองพัน, กรมทหารช่าง 4 กรม, และกองพลน้อยต่อต้านการก่อการร้าย 3 กองพล มีกำลังทหาร 124,000 นาย งบประมาณกลาโหม 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปีโดยประมาณ

อาวุธส่วนมากเป็นอาวุธในยุคสงคราม เย็นที่เคยใช้ในสงครามกลางเมือง ในปัจจุบันอาวุธหลายรายการได้รับการช่วยเหลือจากจีน รัสเซีย และสหรัฐฯ

สำหรับ อาวุธหลักของกองทัพบกกัมพูชาประกอบไปด้วย... รถถัง T-55 จากรัสเซีย, รถถังหลัก Type-59 จากจีน, รถถังเบา PT-76 จากรัสเซีย, รถถังเบาType-62/63 จากจีน และรถถังเบา AMX-13

รถเกราะ ก็มี...รถรบทหารราบ BMP-1 จากรัสเซีย, รถเกราะสายพาน M113A1/A3 จากสหรัฐฯ, รถเกราะล้อยาง BTR-60 จากรัสเซีย, รถเกราะล้อยาง BTR-152 จากรัสเซีย และรถเกราะล้อยาง OT-64 จากโปแลนด์

และยังมีปืนใหญ่ ปืนต่อสู้อากาศยาน จรวดต่อสู้อากาศยาน

ส่วนกองทัพเรือเป็นกองทัพเรือใกล้ฝั่ง (Green Navy) โดยกัมพูชามีเรือตรวจการณ์ลำน้ำจำนวน 2 ลำ และเรือเร็วโจมตี (ปืน) อีก 2 ลำ

ส่วน...กอง ทัพ อากาศ กัมพูชามีฐานบินอยู่สองฐาน ฐานทัพอากาศพระตะบอง และฐานทัพอากาศพนมเปญ แต่มีเครื่องบินประจำการที่ฐานทัพอากาศพนมเปญเพียงที่เดียว

ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธสายพิราบผู้นี้ ยังคงยืนยันเหมือนเช่นเคยว่า ยังไม่เห็นประโยชน์อันใดที่จะทำสงครามกับกัมพูชา

เพราะ ถ้าเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ ก็หมายถึงว่า...เราไม่ยอมใช้พลังอำนาจที่เหนือกว่าทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและ แสนยานุภาพทางทหาร ซึ่งสมควรจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการทูตในการเจรจา เพื่อไม่ให้นำไปสู่สงคราม

ที่สำคัญถ้าเกิดสงครามนั่นหมาย ถึงว่า...เราล้มเหลวทางการทูตและการเจรจาอย่างสิ้นเชิง และน่าจะเป็นความล้มเหลวครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์.


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
• 8 กุมภาพันธ์ 2554, 10:00 น.

อานุภาพจรวดเขมรสะท้อนการทูตเหลว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

[FONT=Tahoma,]ห้าวจัด-นำทัพเอง ลูกฮุนเซน นานาชาติวอนยุติ

ในหลวง-ราชินีห่วงใย พระราชทานสิ่งของช่วย รัฐบาลเล็งงัดกม.มั่นคง ลุยขอคืนพื้นที่จากพธม.



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
เสริมกำลัง - เครื่อง ยิงจรวดหลายลำกล้องแบบ"บีเอ็ม-21" ที่ทหารเขมรนำมาเสริมแนวชายแดน ส่วนภาพเล็กพล.ต.ฮุน มาเนตร ลูกชายนายกฯฮุนเซน เป็นผู้นำทัพเปิดศึกกับไทย ซึ่งมีข่าวลือว่าถูกยิงบาดเจ็บ

</td></tr></tbody></table>"ในหลวง-ราชินี" พระราชทานสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ราษฎรผู้ประสบภัยสงครามชายแดน "ฮุนเซน"เดินแผนสูง ร้องขอสหประชาชาติส่งกองกำลังมาคุมสถานการณ์ระหว่าง"ไทย-กัมพูชา" กร้าวจะแก้ปัญหากับไทยด้วยสันติวิธีและทหาร ไม่ยอมปลดธงเขมรเด็ดขาด เผยลูกชายฮุนเซนที่เพิ่งติดยศพล.ท.หมาดๆ คุมกองกำลังเขมรมารบกับไทยด้วยตัวเอง แสบออกข่าวฝ่ายไทยยิงปืนใหญ่โดนปราสาทเขาพระวิหารพัง ด้านเลขาฯยูเอ็นเรียกร้อง 2 ชาติ อดกลั้นอย่างถึงที่สุด เช่นเดียวกับหลายชาติเช่น จีน ออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์วอน 2 ชาติคู่ขัดแย้งด้วย ขณะที่ยังมีการดวลปืนใหญ่ระลอก 4 ช่วงเวลาสั้นๆ เผยชาวภูมิซรอล บางคนไม่ทิ้งบ้าน ต้องอกสั่นขวัญแขวนในหลุมหลบภัยทั้งคืน ผบ.ตร.เสนอ"เทือก"ใช้พ.ร.บ. ความมั่นคงขอคืนพื้นที่จากพันธมิตรฯ

เปิดศึกดวลปืนใหญ่รอบที่ 4

เมื่อ เวลา 08.10 น. วันที่ 7 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณภูมะเขือ ด้านต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารกัมพูชาได้ใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มเข้าใส่ทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณภู มะเขือ ซึ่งทหารไทยก็ได้ใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้กันนานประมาณ 10 นาที เสียงปืนใหญ่จึงได้สงบลง ซึ่งยังไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ต่อมา เวลา 10.30 น. ที่บริเวณหอประชุมที่ว่าการอ.กันทรลักษ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และคณะ เดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญประชาชนชาวศรีสะเกษ โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์

ผวจ.ศรีสะเกษรายงานสรุป

นาย สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวสรุปสถานการณ์ว่า ได้มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 54 เวลา 15.15 น. โดยเกิดการปะทะกันที่บริเวณภูมะเขือ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ระดมอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย มาอยู่ที่ศูนย์อพยพที่ได้จัดเตรียมไว้ จำนวน 7 แห่ง ซึ่งในเบื้องต้นมีผู้อพยพทั้งสิ้น จำนวน 8,000 กว่าคน ต่อมาวันที่ 5 ก.พ. 54 เวลา 06.20 น.-07.05 น. ได้เกิดปะทะกันอีกครั้งที่บริเวณภูมะเขือ และเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 54 เวลา 18.30-21.45 น. ได้เกิดการปะทะกันอีกครั้งที่บริเวณภูมะเขือและบริเวณโดยรอบเขาพระวิหาร ซึ่งสรุปความเสียหายเบื้องต้น ตั้งแต่วันที่ 4-6 ก.พ. 54 ปรากฏว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนายจำเริญ ผาหอม อายุ 59 ปี และส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี อายุ 26 ปี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 ราย เป็นพลเรือน 2 ราย และทหาร 14 ราย บ้านเรือนเสียหายรวม 17 หลัง เสียหายทั้งหลัง 7 หลัง เสียหายบางส่วน 10 หลัง อาคารเรียน ร.ร.ภูมิซรอลวิทยา เสียหายบางส่วน 2 หลัง

ปืนใหญ่เขมรถล่มลงวัด

นาย ถาวร กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดสรรเงินให้จ.ศรีสะเกษ จำนวน 100 ล้านบาท และอาจจะเพิ่มไปถึง 500 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอต่อการดูแลช่วยเหลือชาวศรีสะเกษ

ทางด้านนายโชคชัย สายแก้ว นายกอบต. เสาธงชัย กล่าวว่า จากการปะทะกันเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 ก.พ. 54 ที่ผ่านมา มีบ้านเรือนของชาวบ้านและวัดได้รับความเสียหาย ดังนี้ 1.น.ส.อารียา สังข์สิงหา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 12 บ้านพังครึ่งหลัง เนื่องจากลูกปืนใหญ่ตกลงข้างบ้าน 2.กุฏิสงฆ์ของวัดป่าธุดงคสถานวิหารเพชร ถูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชาพังเสียหาย 2 หลัง 3.ถนนลาดยางทางไปบ้านหนองหว้า เยื้องกับทางเข้าวัดป่าธุดงคสถานวิหารเพชร ถนนลาดยางได้ถูกลูกปืนใหญ่จากฝ่ายกัมพูชาเป็นหลุมลึก ประมาณ 1.50 เมตร กว้าง ประมาณ 3 เมตร ซึ่งตนจะได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ช่วยเหลือแก้ไขปรับปรุงต่อไป

แม่ทัพ2รุดพบนายทหารเขมร

เมื่อ เวลา 11.00 น. พล.ท.ธวัชชัย สมุทร สาคร แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะเสนาธิการฯ นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปจอดที่สนามหญ้า อบต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากนั้นพ.อ.อดูล บุญธรรมเจริญ ผบก.ทหารพรานที่ 26 พ.ท.ปิยะ นงค์ชะนา รองผบก.ทหารพรานที่ 26 นำคณะไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่กองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 960 ฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยมีร.อ.สมควร ไชยนิตย์ ผบ.ร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 960 ฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธมต้อนรับ

พ.อ.อดูล กล่าวว่า ช่วงเช้าได้เชิญพ.อ.เนี้ยะ วงศ์ รองผู้บัญชาการกองพลน้อยที่ 42 ทหารราบภูมิภาคที่ 4 ประเทศกัมพูชา และคณะนายทหาร ขึ้นมาดื่มน้ำชา จิบกาแฟ ที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งนายทหารกัมพูชาต่างแสดงความคิดเห็นไม่อยากสู้รบ และไม่อยากขยายแนวรบ

ต่างไม่อยากขยายพื้นที่พิพาท

ต่อเวลา 11.15 น. พล.ท.ธวัชชัย พร้อมคณะเสนาธิการ เชิญพ.อ.อดูล เชิญพ.อ.เนี้ยะ วงศ์ ขึ้นมาพบที่ขอบกำแพงศิลาแลงปราสาทตาเมือนธม

พล.ท.ธวัช ชัย กล่าวว่า ไม่ได้พบเจอพ.อ. เนี้ยะ วงศ์ เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งเป็นที่น่ายินดี ที่ทราบว่าทหารพรานและทหารกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เร็วๆนี้คณะรัฐมนตรีไทยและรัฐมนตรีกัมพูชา จะนัดหมายประชุมกันที่จ.เสียมราฐ เพื่อเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เขาพระวิหาร ยุคนี้หันหน้าพัฒนาประเทศชาติดีกว่า เมื่อเกิดสงครามต้องปิดด่านทำให้เสียโอกาสทั้งสองฝ่าย

ด้าน พ.อ.เนี้ยะ วงศ์ กล่าวว่า สถานการณ์ด้านปราสาทตาเมือนธมไม่ต้องเป็นห่วง ที่นี่ไม่มีปัญหาเพราะทหารไทย-กัมพูชาต่างไม่อยากให้ขยายพื้นที่พิพาท ให้ควบคุมพื้นที่เขาพระวิหาร อย่าลามถึงปราสาทตาเมือนธม เพราะเบื่อหน่ายสงคราม ตนรบมากว่า 30 ปีแล้ว โดยเฉพาะทหารผู้ใต้บังคับบัญชาได้กำชับสั่งการไปแล้ว ใครขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม ห้ามดื่มสุราของมึนเมาไปยั่วยุทหารพราน

ช่องจอมเหงา-อพยพหนีหมด

นาย พิจิตร บุญทัน นายอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านทุกพื้นที่ที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมพร้อมอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ทันทีที่ได้รับการแจ้งเตือน เพราะสถานการณ์ที่ด่านช่องจอมเริ่มตรึงเครียดมากขึ้น เนื่องจากทหารไทยได้เสริมกำลังและตรึงพื้นที่ตลอดแนวชายแดนเต็มอัตราศึก และเมื่อคืนวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการซ้อมอพยพชาวบ้านในอ.กาบเชิงหากมีเหตุการณ์ปะทะกันขึ้น รวมทั้งได้สั่งให้ทุกหมู่บ้าน เตรียมที่หลบภัยไว้เรียบร้อยแล้ว

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาเมื่อคืนที่ผ่านมา ในวันนี้สถานการณ์ชายแดนบริเวณด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนระหว่างไทยกับกัมพูชารวมทั้งการค้าขายที่ตลาดช่องจอม-โอ ร์เสม็ด ที่เริ่มทยอยปิดร้านและพากันขนสินค้ากลับเข้าเขตประเทศกัมพูชาแล้ว เหตุไม่มั่นใจในความปลอดภัย เป็นไปอย่างเงียบเหงา ส่วนชาวไทยที่ตกค้างในบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา ก็ให้เดินทางกลับเข้าประเทศโดยเร็ว นอกจากนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้นำทหารเสริมกำลังเต็มพื้นที่

ค่ายสุรนารียันเสริมกำลัง

นาย ทหารระดับเสนาธิการ ค่ายสุรนารี กล่าวว่า พบสิ่งผิดปกติบางอย่าง บริเวณแนวชายแดนติดกับช่องผ่านแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาคที่ 2 จึงมีคำสั่งให้ปิดด่านช่องจอมเพียงแห่งเดียว ด่านนอกนั้นยังคงเปิดบริการตามปกติ แต่จะมีมาตรการตรวจเข้มในการผ่านเข้าออก ซึ่ง เป็นภารกิจปกติในการบริหารจัดการ ด้านความมั่นคง ส่วนทหารไทยขณะนี้ได้เสริมอาวุธหนัก โดยลำเลียงปืนใหญ่ ขนาด 155 ม.ม. จำนวนหนึ่ง จากศูนย์กลางทหารปืนใหญ่ ค่ายพหล โยธิน จ.ลพบุรี มาที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 23 กองพลทหารราบที่ 6 ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก อ.ศรีสมเด็จ ร้อยเอ็ด หน่วยรบหลัก ขึ้นตรงกับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อยิงตอบโต้ทหารกัมพูชา พร้อมมีคำสั่งให้ทหารสังกัด 16 หน่วยรบ สังกัดกองกำลังสุรนารี ที่มีภารกิจรับผิดชอบแนวเขตพรมแดนไทยกับลาว ระยะความยาว 387 ก.ม. และไทยกับกัมพูชา ระยะทางยาว 363 ก.ม. เตรียมพร้อมกำลังอยู่ในที่ตั้ง โดยสามารถจะเคลื่อนกำลังพล และยุทธโปกรณ์สนับสนุนการรบได้ภายใน 1 ช.ม.

สำรองเลือดแล้ว1พันยูนิต

นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 4-6 ก.พ. มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นพลเรือน 1 ราย และทหาร 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บ จากการปะทะ 3 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 34 ราย เป็นทหาร 30 นาย พลเรือน 4 คน ทั้งนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 27 คน เป็นทหาร 26 นาย พลเรือน 1 คน โดยในจำนวนดังกล่าว มีทหาร 1 รายอาการสาหัส ได้ย้ายไป รักษาร.พ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีประชาชนอพยพเข้ามาอยู่ในค่ายพักพิงจำนวนมาก ซึ่งส่วนมากมีความกังวลใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีทีมด้านสุขภาพจิต เข้าช่วยดูแลเรื่องสภาพจิตใจ การตรวจคัดกรองผู้พักพิงในค่ายรวม 1,165 คน มีผู้ต้องรับยาคลายเครียด 22 คน และ 49 คน ต้องรับคำปรึกษา ส่วนการสำรองยาและเวชภัณฑ์และเลือด ขณะนี้มีอย่างเพียงพอ

ด้านน.พ.ไพ จิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการเดินทางไป ร.พ. กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในการดูแลผู้เจ็บป่วย สำรองคลังเลือดไว้ 1,000 ยูนิต ส่วนเวชภัณฑ์อื่นมีความพร้อมเต็มที่ มีห้องผ่าตัด 10 ห้อง สำรองทีมแพทย์ศัลยกรรมอย่างน้อย 10 ทีมเตรียมพร้อมตลอดเวลา โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ทุกคนมีขวัญกำลังใจดีมาก

ฮุนเซนกร้าว-ไม่ปลดธงแน่

สำนัก ข่าวซินหัวรายงานเมื่อ 7 ก.พ. ว่า นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวที่มหาวิทยาลัยพนมเปญว่ากัมพูชาจะไม่ปลดธงชาติกัมพูชาออกจากวัดแก้ว สิกขาคีรีศวร เพราะเป็นเขตแดนของกัมพูชา พร้อมย้ำว่ากัมพูชาจะแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ โดยวิธีการทางการทูตหรือการทหาร "ความขัดแย้งขยายเป็นวงกว้างหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นสงครามชายแดนเล็กๆ น้อยๆ จุดประสงค์ของไทยชัดเจนมากว่าต้องการยึดครองพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่อยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหารตามที่ฝ่ายไทยอ้าง" นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าว

ส่วนทหารกัมพูชาที่ฐานทหารบริเวณชาย แดนรายงานว่า การสู้รบกันระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทย ส่งผลให้ปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นมรดกโลกเกิดความเสียหายอย่างหนัก

เขมรซัดไทยยิงปราสาทพัง

ทั้ง นี้ ชายแดนไทยและกัมพูชาไม่เคยปักปันเขตแดนแล้วเสร็จและประเด็นปราสาทพระวิหารก็ เป็นประเด็นพิพาทเก่าๆ หลังจากปรา สาทพระวิหารได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2551 ได้เพียงสัปดาห์เดียว ก็เกิดข้อพิพาทตามบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากไทยอ้างว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรใกล้ปราสาทพระวิหารเป็นกรรมสิทธิ์ของไทย เป็นชนวนของการปะทะกันหลายระลอกระหว่างทหารสองฝ่ายส่งผลให้มีทหารทั้งสอง ฝ่ายเสียชีวิต

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ซินหัวระบุว่าผู้บังคับบัญชาหน่วยการสื่อสารและตอบโต้อย่างรวดเร็ว สังกัดสำนักรัฐมนตรีกัมพูชา เผยว่า ปีกด้านหนึ่งของปราสาทพระวิหารพังทลายลงมา เพราะถูกทหารไทยโจมตีด้วยระเบิดปืนใหญ่

"กองทัพไทยเริ่มยิงเราก่อน เราเพียงแต่ป้องกันตัวเองและเป็นมาตการตอบโต้ พร้อมชี้ว่าฝ่ายไทยไม่เคารพข้อตกลงการหยุดยิงชั่วคราวเมื่อวันที่ 5 ก.พ." นายทหารคนดังกล่าวผู้ไม่ยอมเปิดเผยชื่อกล่าว และระบุว่า ทหารไทยยิงปืนใหญ่ขนาด 130 ม.ม. ซึ่งใช้ระเบิดที่บรรจุก๊าซพิษข้ามมาตกที่บริเวณทหารกัมพูชา ซึ่งกองกำลังของไทยระดมยิงระเบิดใส่กองกำลังกัมพูชา ราว 18.40 น. วันที่ 6 ก.พ.

แฉลูกฮุนเซนนำทัพรบกับไทย

รายงานจากหน่วยความ มั่นคงเปิดเผยการประเมินสถานการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชาว่า มีแนวโน้มจะยืดเยื้อและไม่ยุติ เนื่องจากพล.ต.ฮุน มาเนตร บุตรชายของนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพิ่งได้รับการเลื่อนยศจากพล.จ.(พลจัตวา) เป็นพล.ต. ทั้งยังดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองพลทหารราบและรองผู้บัญชาการหน่วย องครักษ์ของฮุนเซน เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความอาวุโส เพราะมีอายุเพียง 33 ปี ทำให้ต้องการพิสูจน์ตนเองเพื่อให้ได้รับการยอม รับในฐานะผู้สืบทอดของฮุนเซน

ทั้ง นี้พล.ต.ฮุน มาเนตร เป็นผู้นำกำลังพร้อมอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่ปราสาทพระวิหารในช่วงไม่กี่ สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายลง นำไปสู่การเสริมกำลังตามแนวชาย แดนของทั้งสองฝ่าย กระทั่งการเผชิญหน้าเกิดขึ้น แม้ว่าก่อนหน้าทหารที่เข้ามาตรึงกำลังในพื้นที่เป็นหน่วยองครักษ์ของฮุนเซน ภายใต้การบัญชา การของพล.ท.ฮึงบุน เฮียน ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์ฮุนเซน

อย่างไรก็ตาม การปะทะเมื่อ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ฝ่ายกัมพูชาเสียหายหนัก จึงอาจจะมีความพยายามเอาคืน<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
(1)ลำบาก - คุณ ยายชาวศรีสะเกษ นั่งกินอาหารระหว่างอยู่ในศูนย์อพยพ อ.กันทร ลักษ์ โดยในหลวงและพระราชินีโปรดเกล้าฯให้นำของพระราชทานมอบให้ผู้เดือดร้อนด้วย



(2)เหยื่อ - ชาว เขมรจำนวนมากในพื้นที่ใกล้เขาพระวิหาร เขตชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องย้ายออกจากบ้านมาอาศัยอยู่บริเวณชายป่าห่างจากจุดปะทะ ขณะที่นายกฯฮุนเซน ขอให้ยูเอ็นส่งทหารรักษาสันติภาพมาดูแล



(3)อาวุธหนัก - หลุม ระเบิดขนาดใหญ่กลางถนน จากฤทธิ์เดชของจรวดและปืนใหญ่ที่ทหารเขมรระดมยิงเข้ามาฝั่งไทยบริเวณ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยเช้าวันที่ 7 ก.พ. ทหารเขมรยังระดมยิงเข้ามาอีกระลอกใหญ่



(4)หนีภัย - สภาพเต็นท์ในศูนย์อพยพ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รองรับชาวบ้านหลายพันคนที่หนีภัยสู้รบไทย-กัมพูชา ขณะที่ในหลวงและพระราชินีโปรดเกล้าฯ ให้นำของพระราชทานช่วยเหลือ



(5)ตรวจซาก - เจ้า หน้าที่ไทยตรวจสอบความเสียหายในโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อีกจุดหนึ่งที่โดนกระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชาตกใส่ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 7 ก.พ.



(6)ทุกข์หนัก - ชาวเขมรใน จ.พระวิหาร ติดชายแดนไทย ต้องอพยพมาอยู่ในค่ายลี้ภัยห่างจากจุดปะทะ ขณะที่นายกฯฮุนเซน ของกัมพูชา ขอให้ทหารสันติภาพยูเอ็นเข้าปลดชนวนขัดแย้ง เมื่อ 7 ก.พ.



(7)ลูกฮุนเซน - นายกฯฮุนเซน สวมเครื่องแบบทหารถ่ายภาพคู่กับพล.ต.ฮุน มาเนตร บุตรชายวัย 33 ปี ซึ่งมีข่าวว่าเพิ่งได้เลื่อนยศ และเป็นคนนำทัพทหารกัมพู ชารบกับไทยครั้งนี้

</td></tr></tbody></table>

บันคีมุนรับกังวลความขัดแย้ง

เอ เอฟพีรายงานเมื่อ 7 ก.พ.ว่า ที่นิวยอร์ก สหรัฐ นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า มีความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศจัดการกับความสัมพันธ์ที่ชะงักงันและใช้ความอด ทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด

ส่วนนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) จัดประชุมด่วนว่าด้วยเรื่อง "ความก้าวร้าวของไทย" และเรียกร้องให้อาเซียนแทรก แซงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชา

เช่น เดียวกับนายสมโบ มานารา นักประวัติ ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพนมเปญที่กล่าวว่า ความขัดแย้งจะยุติลงไม่ได้ หากปราศจากการแทรกแซงจากฝ่ายที่สามและการปักปันเขตแดนระหว่างสองประเทศ

วัน เดียวกัน เว็บไซต์ขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เผยว่า นางอิรินา โบโควา ผู้อำนวยการทั่วไปของยูเนสโก แสดงความห่วงใยอย่างสุดซึ้งต่อกรณีความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชาที่ เพิ่มขึ้น จากประเด็นปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นมรดกโลก โดยมีรายงานต่างๆระบุว่าทหารทั้งสองฝ่ายต่างยิงเข้าใส่กัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสร้างความเสียหายแก่ตัวปราสาทพระวิหาร

นอก จากนี้ นางโบโควายังเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น เพื่อเห็นแก่การอนุ รักษ์ปราสาทพระวิหาร และเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารกันโดยตรงในระดับบน เพื่อแก้ปัญหาความตึงเครียด

เทือกรับไม่รู้สาเหตุยิงกันอีก

เมื่อ เวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการยิงปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ที่จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปะทะกันเป็นรอบที่ 3 ว่า ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร สภาพกดดันเกิดขึ้นทั้ง 2 ประเทศ มีข่าวอะไรเกิดขึ้นในประเทศหนึ่ง คนอีกประเทศก็ได้ยินได้ฟัง จึงมีอารมณ์และกดดันกัน วันนี้มีคนถนัดใช้อารมณ์มาก จึงทำให้เกิดปัญหา เข้าใจว่าฝ่ายกัมพูชาคงมีคนหลากหลายความคิดเหมือนกัน ยืนยันว่าการแก้ปัญหาชายแดนนั้น ฝ่ายไทยจะใช้การเจรจาระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชาจะมีความพร้อมเมื่อไร เราไม่ต้องการให้มีกรณีพิพาทระหว่าง 2 ประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านกัน และยังหวังว่าการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศยังทำได้ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ถึงขั้นต้องลดความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันคลี่คลาย ไม่ใช่ขยายผล

เมื่อถามว่า พล.อ.เตีย บัน รมว.กลาโหม กัมพูชา ระบุไม่สามารถทำตามข้อเสนอของฝ่ายไทยได้ และวิจารณ์ว่าไทยไม่จริงใจ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนฟังคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.เตีย บัน ความจริงเขาพูดมากกว่านั้น เขาพูดว่ามีบางพวกที่อยากให้รบกัน ซึ่งพวกที่ยุยงปลุกปั่นน่าเบื่อหน่าย พล.อ.เตีย บัน เขาอยากให้มีการเจรจายุติสงครามได้ทั้ง 2 ฝ่าย เขาปรารถนาดีที่จะให้มีความสงบสุข ส่วนที่พล.อ.เตีย บัน บอกว่าการปะทะเกิดจากเหตุสุดวิสัยนั้น ผบ.ทบ.ได้บอกตั้งแต่ต้นว่าอย่าเพิ่งไปบอกว่าใครเริ่มก่อน หรือหาสาเหตุ ที่ต้องทำเฉพาะหน้าคือทำอย่างไรให้หยุดยิงกันได้ และทำให้คืนสู่ความสงบได้

โต้ทหารไทยยิงโดนปราสาท

เมื่อ ถามว่าทำไมฝ่ายกัมพูชาถึงยิงมายังฝ่ายพลเรือนของไทย ขณะที่ไทยตอบโต้ไปยังที่ตั้งทหารแทน นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปกล่าวหาหรือมีเจตนาร้าย เวลายิงกันมันไม่รู้ว่าจะพลาดไปถูกตรงไหนบ้าง แต่ฝ่ายไทยยืนยันจะให้กระสุนไปตกยังที่ตั้งของฝ่ายทหารเขาเท่านั้น เมื่อถามย้ำว่าแต่เรื่องนี้ทำให้คนไทยรู้สึกไม่ดี นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเราช่วยกันเติมเชื้ออย่างนี้ สื่อก็มีอารมณ์ในการเสนอข่าว คนไทยที่ฟังก็เร่าร้อน สงครามก็จะเกิดได้ ยืนยันว่าตั้งแต่เกิดเหตุมา ประเทศไทยยังไม่ได้เสียเปรียบกัมพูชาเลย การปฏิบัติการรบของทหารไทยก็ไม่ได้เสียเปรียบ เมื่อถามว่าดูเหมือนไทยจะแก้ปัญหาช้ามาก เพราะกัมพูชาชิงร้องสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ก่อน ขณะที่ฝ่ายไทยเพิ่งเรียกประชุมเรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การวิ่งร้อยเมตร มีเวลาทำ งานได้ ยืนยันว่าไทยไม่ได้เสียเปรียบหรือขาดทุนอะไร

เมื่อถามว่ามีข่าวว่า ทหารกัมพูชายึดบางปรา สาทในพื้นที่ประเทศไทยได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จริง สิ่งที่อันตรายที่สุดคือข่าวลือที่เอามาพูดกันเป็นตุเป็นตะ มาขยายผลจนเกิดความโกรธเคืองกดดันและเกิดปัญหาขึ้น ดีที่สุดคือให้ฟังคำแถลงของพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้อย่าไปมองถึงขั้นเป็นการสู้รบหรือเป็นสงคราม มันเป็นเหมือนอุบัติเหตุ เมื่อมีการปะทะเกิดขึ้น ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องรักษาอธิปไตย ซึ่งทหารไทยทำได้ดีสมศักดิ์ศรี ส่วนกระแสข่าวยิงปะทะจนทำให้ปราสาทพระวิหารเกิดความเสียหายนั้น ยังไม่มีรายงาน ทหารไทยก็ระวังไม่ให้กระสุนไปถูกตัวปราสาทอยู่แล้ว

ให้คนกระหายสงครามดูผลงาน

"แต่ ที่ผมกังวลใจคือสื่อชอบคาดคั้นอยากรู้ว่าฝ่ายเราเจ็บตายเท่าไหร่ ฝ่ายโน้นเจ็บหรือเสียหายเท่าไหร่ เพราะการพูดถึงผลเสียหาย ทำให้เกิดความกดดันกับทหารทั้ง 2 ฝ่าย พอรู้ว่าขาดทุนก็ต้องเอาคืน ทำให้ยุติยาก ดังนั้นสื่ออย่ายุมาก และคนที่กระตือรือร้น กระหายอยากให้มีสงคราม ก็เห็นแล้วว่าเวลาเกิดการรบจริงมันไม่เป็นประโยชน์กับใครเลย มีคนเจ็บ คนตายทั้งทหารและคนไทย ฝ่ายเขมรก็เช่นกัน ขาดทุนทั้ง 2 ฝ่าย" นายสุเทพกล่าว

เมื่อ ถามถึงฝ่ายกัมพูชาวางแผนเป็นขั้นตอน มีการทำสงครามจิตวิทยาโดยเอาผู้สื่อข่าวต่างประ เทศไปถ่ายรูปตอนทหารกัมพูชายิง นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เขาต้องรักษาภาพพจน์หน้าตา อย่าไปโกรธเขาเลย ที่เราต้องกังวลมากคือต้องคิดถึงประชาชนที่อยู่ชายแดน พอรบกันเขาเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลจะดูแลฟื้นฟูผู้ที่เสียหายทั้งหมด โดยตนได้ประสานกับผู้ว่าฯศรีสะเกษ ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าบ้านเรือนที่พังทุกหลังรัฐจะสร้างให้ใหม่ทั้ง หมด ส่วนที่เสียหายบางส่วนจะซ่อมให้ใหม่ ตนจะอาสาหาเงินบริจาคช่วยเขาเอง เพื่อให้เขามีกำลังใจ

เรียกผบ.ตร.พบรับมือพธม.

นายสุ เทพ กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยกระดับการชุมนุมในวันที่ 11 ก.พ.นี้ โดยอาจจะไปชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา ที่จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 ว่า ตนพยายามบอกผู้ชุมนุมว่าอย่ากระทำการซ้ำเติมสถานการณ์ของบ้านเมืองและช่วย กันแก้ปัญหาดีกว่า และรู้สึกกังวลใจกับสิ่งที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุนายกฯจะต้องทำตามข้อเรียกร้องเท่านั้น และจะชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ รอจนเลือกตั้งเสร็จและมีนายกฯคนใหม่ หากนายกฯคนใหม่ไม่ทำตามที่พล.ต.จำลองเรียกร้องก็ไม่ยอม เหมือนปฏิเสธระบอบประชาธิปไตย เพราะการที่นายกฯจะพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ ขอให้ว่ากันตามกระบวนการประชาธิปไตยจะดีกว่า

ต่อมาเวลา 09.00 น. นายสุเทพ ได้เรียกพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. เข้าพบเพื่อติดตามสถานการณ์เตรียมการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯประกาศยก ระดับเป็นการขับไล่รัฐบาลและนายกฯ โดยวันที่ 11 ก.พ.นี้จะเคลื่อนการชุมนุมไปปิดล้อมยังสถานที่สำคัญ โดยใช้เวลาหารือนาน 1 ชั่วโมง

เล็งใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงจัดการ

จากนั้น เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.วิเชียร ให้สัมภาษณ์ว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯและ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่อยู่โดยรอบทำเนียบฯนั้น หากจะมีความชอบธรรม ทางตำรวจเห็นว่าจำเป็นต้องอาศัยพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 หมวดที่ 2 เพื่อประกาศเขตพื้นที่หวงห้ามและห้วงเวลา จึงมาพบนายสุเทพ เพื่อขอความเห็นชอบก่อนที่ตนจะนำเสนอต่อนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(ผอ.รมน.) ที่จะนำเข้าครม.เพื่อขอประกาศเขตพื้นที่ โดยพื้นที่ที่กำหนดคือพื้นที่ชุมนุม หรือโดยรอบทำเนียบฯและรัฐสภา ถือเป็นศูนย์กลางอำนาจรัฐ ส่วนรายละเอียด ต้องรอความเห็นของครม.ว่าจะประกาศขอบเขตแค่ไหน ซึ่งบังคับใช้ได้ทันทีเมื่อผ่าน ครม.

เมื่อถามว่าหากประกาศใช้พ.ร.บ. มั่นคงและกำหนดพื้นที่หวงห้ามแล้ว แสดงว่าต้องขอคืนพื้นที่การชุมนุมใช่หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า "ถูกต้อง" โดยจะดำเนินการโดยละมุนละม่อม ต้องรอดูผลจากการเสนอ ครม. รายละเอียดต้องให้ครม.เป็นคนตัดสิน

ด้านพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. กล่าวว่า รองนายกฯรับฟังและทราบตามข้อเสนอของผบ.ตร. และมอบหมายให้ตำรวจเป็นผู้จัดการดูแล เนื่องจากไม่ต้องการให้ทหารต้องออกมา อยากให้ตำรวจดูแล แต่ที่นายสุเทพ เป็นห่วงคือกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมเพิ่ม ส่วนการเตรียมรับมือกลุ่มพันธมิตรฯที่ประกาศเคลื่อนการชุมนุมในวันที่ 11 ก.พ.เพื่อปิดล้อมสถานที่สำคัญนั้น ได้คาดเดาไว้ 3-4 สถานที่คือสถานที่ที่เขาเคยเคลื่อนไป อาทิ ทำเนียบฯ รัฐสภา กระ ทรวงการต่างประเทศ แม้แกนนำพันธมิตรฯยังไม่ได้ประกาศว่าจะไปที่ใด ทางตำรวจก็พร้อมเคลื่อนที่เร็ว

พธม.กร้าว-ยูเอ็นห้ามยุ่ง

วัน เดียววัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนและประ ชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราช ดำเนินนอกว่า ในช่วงเช้ากลุ่มผู้ชุมนุมมีบางตา

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธ มิตรฯ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธ มิตรฯ ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายปานเทพ กล่าวว่า ผลจากกรณีทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชาบริเวณชายแดน ส่งผลให้ทหารไทย ชาวบ้านในพื้นที่ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิต จะเห็นว่าบริเวณ ภูมะเขือ ที่ถือเป็นดินแดนไทย กลายเป็นฐานทัพ ที่ซ่องสุมอาวุธแห่งใหม่ของกัมพูชา เพื่อยิงอาวุธมาทำร้ายราษฎรไทย ขอเรียกร้องรัฐบาลและกอง ทัพตอบโต้ให้เข้มข้น โดยเฉพาะการใช้แสนยา นุภาพทางอากาศที่เราเหนือกว่า ทำไมไม่ใช้ เพื่อให้ทหารกัมพูชาที่ตั้งฐานทัพอยู่ออกจากเขตแดนไทยทันที

นาย ปานเทพ กล่าวว่า ส่วนที่ทางการกัมพูชายื่นเรื่องเพื่อร้องเรียนต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าทหารไทยรุกราน เพื่อขยายผลข้อตกลงเอ็มโอยู 43 ตรงกันข้ามทางกัมพูชากลับละเมิดขอตกลง ทั้งการบุกรุกพื้นที่และโจมตีก่อน ดังนั้น ยูเอ็นจึงไม่มีสิทธิแทรกแซง รวมถึงอาเซียนก็ไม่มีสิทธิแทรกแซงเช่นกัน ถ้ายูเอ็นจะมาตรงนี้ ต้องมาในฐานะผู้รับฟังการเจรจาระหว่างทางการไทยและกัมพูชาเท่านั้น

จวก"วิเชียร"มัวประจบรัฐบาล

ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า กรณีข้อเสนอทั้ง 3 ข้อของพันธมิตรฯที่ผ่านมา รัฐบาลและนายกฯไม่เคยทำ ถ้านายกฯทำตามข้อเสนอแต่แรก คงไม่เกิดการปะทะเหมือนทุกวันนี้ การสะสมปัญหาเหมือนดินพอกหางหมู รัฐบาลจะโทษพันธมิตรฯเป็นตัวจุดประกายเพื่อให้เกิดสงครามไม่ได้ รัฐบาลต่างหากที่เป็นต้นเหตุ เราเตือนแล้วไม่เคยลงมือทำ ส่วนกรณีผบ.ตร.จะเสนอครม. เพื่อประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง ขอเรียนว่าเมื่อครั้งชุมนุมที่หน้ารัฐสภา และตอนนั้นอยู่ในช่วงประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรายังจะชุมนุมต่อ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลมาทำหน้าที่และให้โอกาสเมื่อครั้งนั้นแล้ว ดังนั้นหากจะมาสลายเรา จะมาจับเราก็จับไป เสียอิสรภาพดีกว่าเสียดินแดน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิต ถ้ามาจับเราก็ยอมให้จับ

"ขอ เตือนพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ. ตร. ที่เตรียมเสนอครม.เพื่อประกาศพ.ร.บ. ความมั่นคงว่า รัฐบาลจะไปอยู่แล้ว จะมามัวประจบรัฐบาลอีกหรือ ระวังให้ดีถ้ามีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเมื่อไหร่ คุณต้องถูกลงโทษแน่นอน ทำไมถึงเก่งกันจังกับคนไทยที่ไม่มีอาวุธ" พล.ต. จำลอง กล่าวและว่า ถ้าตนเป็นรัฐบาลแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ ตนยื่นลาออกนานแล้ว ไม่ใช่ทำตัวหน้าด้าน โง่ และขี้ขลาด 3 อย่างครบอย่างเช่นตอนนี้

จตุพรชี้พธม.จะทำซ้ำ7ต.ค.51

เมื่อ เวลา 14.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. แถลงถึงกรณีทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชา ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรี สะเกษ ว่า อยากให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบว่าก่อนการปะทะ 2 วัน มีนายทหารยศพันเอกที่เจื้อยแจ้วอยู่ขณะนี้ไปพูดคุยกับเพื่อนๆว่า อีก 2 วันจะยิงเขมร และก็เกิดเหตุปะทะขึ้นจริง ที่น่าสนใจคือใครเป็นคนสั่งการให้นำรถแทรก เตอร์เข้าไปบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีศวร จนเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เกิดการปะทะ ยอมรับว่าปฏิบัติการปลุกกระแสนิยมคลั่งชาติมีผลต่อการเกิดสงคราม ไม่ว่าจะโดยกลุ่มพันธมิตรประชา ชนเพื่อประชาธิปไตยที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้ และสถานการณ์ขณะนี้เดินแต้มคูเหมือนจะนำไปสู่การรัฐประหาร ขอเตือนว่าการนำประเทศไปเสี่ยงทำสงครามนั้นจะนำไปสู่การสิ้นชาติ อย่าคิดว่าประเทศไทยใหญ่กว่าเพื่อนบ้าน เพราะหากเกิดสงคราม สุดท้ายแล้วเชื่อว่าประเทศเพื่อนบ้านที่เหลือ รวมถึงอินโดนีเซียจะให้ความช่วยเหลือกัมพูชา<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
ร่วมต้าน - สมาชิกกลุ่มไม่เอาสงครามมารวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จุดเทียนไขสัญลักษณ์เสรีภาพ เพื่อให้รัฐบาลไทยและกัมพูชายุติสงคราม หันมาใช้วิธีเจรจา และเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในบ้านเมือง เมื่อวันที่ 7 ก.พ.

</td></tr></tbody></table>

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตามที่กลุ่มพันธมิตรประกาศยกระดับการชุมนุมพร้อมนำมวลชนไปยังสถานที่สำคัญใน วันที่ 11 ก.พ.นั้น คิดว่ามี 2 จุดที่จะไปคือ อาคารรัฐสภาและสถานทูตกัมพูชา แต่เชื่อว่าแนวโน้มจะเป็นรัฐสภา เนื่องจากวันดังกล่าวจะมีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 และคาดว่าจะมีเหตุ การณ์เหมือนวันที่ 7 ต.ค. 51 เกิดขึ้น เพราะแกนนำกลุ่มพันธมิตรรู้ดีว่าประกาศระดมคนแค่ไหนก็ไม่ได้มากไปกว่าที่ เป็นอยู่ จึงต้องการทำให้เหตุ การณ์สั้นลง จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนของรัฐบาลนี้แท้ๆ เพราะแกนนำพันธมิตรออกมาแฉเองว่าได้ร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ล้มรัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณ ร่วมปล้นอำนาจรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี

ส.ว.ประกาศฟ้อง"ฮุนเซน"

วันเดียวกัน มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนาย ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมประธานเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า จากกรณีวันที่ 4 ก.พ. ทหารกัมพูชายิงอาวุธหนักเข้าสู่ดินแดนไทย บริเวณภูมะเขือ ในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ขอชื่นชมทหารไทยที่มีการตอบโต้อย่างมีประสิทธิภาพ จำกัดเป้าหมายทางการทหารจนทำให้กำลังของกัมพูชาได้รับความสูญเสีย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลกัมพูชารู้สึกเสียเปรียบจึงบุกเข้ามาทำร้าย ประชา ชนบริเวณใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง การที่นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งการให้ทหารจงใจยิงจรวดถล่มภูมิซรอล ทำให้ชาวบ้านต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บ เพื่อต้องการให้คนไทยยอมศิโรราบ เพื่อให้รัฐบาลขอเจรจายอมเสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ตนและคนไทยคนอื่นจะร่วมกันยื่นฟ้องนายฮุนเซน ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศในฐานะอาชญากรรมสงคราม เพราะมีความจงใจยิงอาวุธสงครามเข้าใส่เพื่อทำร้ายประชาชนโดยตรง

70ส.ว.วอนม็อบอย่าซ้ำเติม

ที่ รัฐสภา คณะส.ว.กว่า 70 คน นำโดยนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร นายชรินทร์ หาญสืบสาย ส.ว.ตาก ร่วมกันแถลงข่าวทำจดหมายเปิดผนึกถึงประชา ชน โดยนางนฤมล กล่าวว่า เหตุการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ มีการปะทะและต่อสู้ในชายแดนด้านจ.ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และสุรินทร์ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ประกอบกับมีการชุมนุมจากหลายกลุ่ม สมาชิกวุฒิสภาจึงขอให้ประชาชนใช้สติในการแสดงออกทางการเมืองอย่างสงบ เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมแก่รัฐบาลไทย โดยให้รัฐบาลคลายกังวลต่อปัญหาภายในประเทศและมุ่งแก้ปัญหาระหว่างประเทศ อย่างมีประสิทธิ ภาพ ขอให้พิจารณาการเข้าร่วมการชุมนุมในระยะนี้ว่าจำเป็นมากน้อยเพียงไร กลุ่มชุมนุมทุกกลุ่มไม่ควรฉวยโอกาสสร้างปัญหาซ้ำเติมให้แก่ประเทศไทยให้ยาก ลำบากมากกว่านี้ การที่กลุ่มพันธมิตรฯจะเคลื่อนมาชุมนุมที่รัฐสภา สามารถทำได้ แต่ต้องมาด้วยความสงบ ที่ผ่านมาการชุมนุมก็ไม่เคยสงบสักครั้ง ดังนั้นอย่ายั่วยุ เพราะจะทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น

ด้านนายจิต ติพจน์ กล่าวว่า ขณะนี้วุฒิสภารวบรวมเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อนำไปบริจาคให้กับประชาชน เรากังวลการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองระหว่างประเทศที่สุ่มเสี่ยงทำให้เกิด การปะทะกัน จึงอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้สติ

ปู่จิ้นลงพื้นที่ศรีสะเกษ-สุรินทร์

เวลา 12.00 น. ที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชา ธิปไตย จะยกระดับการชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาลว่า มันเป็นอย่างนี้มาหลายเดือนแล้ว แต่เขาทำได้ภายใต้กฎหมายในระบอบประชาธิป ไตย ไม่ได้มีปัญหา สำหรับวันที่ 7-8 ก.พ. ตนจะลงพื้นที่จ.ศรีสะเกษและสุรินทร์ เพื่อให้กำลังใจข้าราชการที่อยู่ชายแดนและไปเยี่ยมประชาชนที่อพยพ หากมีการยิงปะทะอีก จะต้องเคลื่อนย้ายมวลชนอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประเมินของฝ่ายทหาร แต่ขณะนี้ตัวเลขประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมีประมาณ 1 หมื่นกว่าคน ซึ่งได้เบิกจ่ายเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปบ้างบางส่วน แต่ถ้าไม่พอ สามารถขอให้กระ ทรวงมหาดไทยจัดงบประมาณเพิ่มเติมขึ้นไปได้

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น. วันเดียว กัน นายชวรัตน์ประชุมร่วมกับผู้ว่าฯศรีสะเกษและอุบลราชธานี นายอำเภอที่มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนกัมพูชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะมอบถุงยังชีพแก่ราษฎร และวันที่ 8 ก.พ. นายชวรัตน์จะประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และสระแก้ว จากนั้นจะตรวจเยี่ยม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และเดินทางกลับ

ปูนบำเหน็จส.อ.ขึ้นเป็นร.อ.

พ.อ.ธนา ธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลา โหม กล่าวว่า จากเหตุการณ์การปะทะของกองกำลังทหารบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน จึงสั่งการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวก อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยทุกๆพื้นที่ เข้ามายังศูนย์ที่อ.กันทรลักษ์ เรียบร้อยแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่มีกระสุนวัตถุระเบิดตกเข้ามายังฝั่งไทย กองทัพจำเป็นต้องมีมาตรการตอบโต้การรุกล้ำอธิปไตยดังกล่าว ขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน กระ ทรวงกลาโหมและกองทัพจะใช้ศักยภาพทั้งหมดปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งประเทศไทยไม่เคยคิดจะรุกรานประเทศใดๆ แต่จะไม่ยอมให้ใครมารุกรานประเทศเราได้เป็นอันขาด

ด้านพ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า กองทัพบกเตรียมปูนบำเหน็จ 9 ขั้นให้กับทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตย โดยวันที่ 9 ก.พ. เวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะจะไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ส.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี หัวหน้าชุดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับทหารกัมพูชา ที่ช่องโดนอาว ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่วัดป่าโนนแสงทอง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

"ผบ.ทบ.ได้ แสดงความเสียใจกับครอบครัวทหารที่เสียชีวิต และขอขอบคุณทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างดีที่สุด ทั้งนี้กองทัพบกได้ปูนบำเหน็จพิเศษจาก ส.อ. เป็น ร.อ. และมอบเงินสินไหมทดแทนการประ กันชีวิตและเงินจากทางราชการให้กับครอบครัวทหารที่เสียชีวิต" พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว

เผยค้าชายแดน5หมื่นล.ต่อปี

นาย ประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมศุลกากรยังคงปิดด่านศุลกากรช่องจอม จ.สุรินทร์ จนกว่าจะมีการเจรจาเพื่อยุติการสู้รบระหว่างรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่มีความปลอดภัย ส่วนด่านการค้าชายแดนอื่นที่ติดกับกัมพูชา ยังคงเปิดทำการค้าขายตามปกติจนกว่าจะได้รับคำสั่งจากฝ่ายความมั่นคง หากมีคำสั่งให้ปิดด่านอื่นๆ อีก ทางกรมก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามในทันที

ด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ได้มีการประสานกับนักลงทุนไทยว่า หากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ก็พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายผู้บริหารและแรงงานไทยกลับมา ซึ่งแรงงานไทยในกัมพูชามีไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่ใช้แรงงานท้องถิ่น จึงไม่น่าจะมีปัญหาในการเคลื่อนย้าย ทั้งนี้ ข้อมูลปัจจุบันการค้าขายชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา อยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ขณะที่ไทยมีการนำเข้าสินค้าจากกัมพูชาอยู่ที่ 3-5 พันล้านบาทต่อปี และมีเอกชนไทยไปลงทุนในโครงการทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่รวมมูลค่าหลายหมื่น ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเกษตร สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม วัสดุก่อสร้าง โรงแรม และร้านอาหาร เป็นหลัก

เปิดใจชาวบ้านในหลุมหลบภัย

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านซำร่อง ม.13 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีชาวบ้านที่ปักหลักไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ และบางส่วนกลับออกมาจากศูนย์อพยพ เพื่อจะไปสำรวจดูแลทรัพย์สินภายในบ้าน รวมทั้งสัตว์เลี้ยงที่ทิ้งไว้ แต่สุดท้ายต้องไปซุกตัวในหลุมหลบภัย

นาย บุญมี ปัทมะ อายุ 59 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ กล่าวขณะนั่งอยู่ในหลุมหลบภัยในหมู่บ้านว่า ตนไม่ได้กินข้าว ไม่ได้หลับได้นอนมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เนื่องจากเมื่อคืนเกิดการปะทะกันอย่างหนักมาก ตนและเพื่อนบ้านที่อยู่ในหลุมหลบภัยอยู่ท่ามกลางวิถีกระสุนทั้งสองฝ่ายที่ ยิงกระสุนสาดเข้าใส่กันตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา กระทั่งตี 2 เสียงปืนจึงสงบลง แต่พวกตนก็ไม่กล้าออกมาก่อไฟหุงหาอาหารกินเพราะกลัวว่าจะเป็นเป้าให้เขายิง ได้ และจนขณะนี้ก็ยังไม่กล้าข่มตาหลับ เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

ศรีสะเกษปิดร.ร.เพิ่มเป็น48

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนทุกโรงที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอ.กาบเชิง มี ต.ด่าน คูตัน กาบเชิง ตะเคียน และต.โคกตะเคียน สั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่ 11.00 น.ที่ผ่านมาแล้ว ชาวบ้านปิดบ้านเตรียมอพยพออกจากพื้นที่แล้ว ใครที่มีญาติอยู่ในเขตอ.ปราสาท อ.เมืองสุรินทร์ และพื้นที่อื่นที่อยู่ห่างจากชายแดนอ.กาบ เชิง ได้ปิดบ้านอพยพไปก่อนหน้านี้แล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเสียงปืนดังขึ้นที่ชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง ทั้งนี้ ชาวบ้าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลายหมู่บ้านเริ่มอพยพออกจากพื้นที่แล้ว โรง เรียนหลายแห่งเร่งขุดหลุมทำเป็นบังเกอร์หลบภัยโรงละ 2 จุด แต่บางโรงไม่มีพื้นที่ ต้องแจ้งให้ไปหลบภัยที่โรงเรียนที่ใกล้ที่สุด และที่ร.พ.กาบเชิง ซึ่งมีผู้ป่วยในจำนวนหนึ่ง และที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ตลอดเวลา แพทย์ได้เร่งให้การรักษาพยา บาลเป็นการด่วนแล้ว พร้อมทั้งเร่งขุดหลุมทำเป็นบังเกอร์หลบภัย จำนวน 3 หลุม

นาย วรรณะ บุญสุข ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) ศรีสะเกษ เขต 4 กล่าวถึงการสั่งปิดโรงเรียนใน อ.กันทรลักษ์ และอ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ว่า ขณะนี้สั่งปิดโรงเรียนไปแล้ว 48 แห่ง จากเดิมที่สั่งปิดไปแล้ว 20 แห่ง

คนโคราชระดมบริจาคช่วย

เมื่อ เวลา 14.00 น. ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นครราชสีมา ได้ระดมกำลัง จนท.อาสาสมัครป้องกันดินแดน นักเรียนโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และนักเรียนโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา จำนวนกว่า 150 คน ช่วยกันบรรจุถุงยังชีพ "น้ำใจจากชาวโคราช" ประกอบด้วยข้าวสารอาหารแห้ง ผ้าอนามัย ยารักษาโรค จำนวน 2 พันชุด มูลค่ากว่า 3 แสนบาท พร้อมเงินสนับสนุน 1 แสนบาท เพื่อส่งไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวไทย ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ที่อาศัยอยู่ตามเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ที่อพยพหนีภัยสงคราม การปะทะกันระหว่างทหารไทย และทหารกัมพูชา นอกจากนี้ยังได้มอบเงินให้แก่ทหารกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 2 แสนบาท เพื่อเป็นเงินสนับสนุนใช้ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

คนกันทรลักษ์หนีซุกอุบลฯ

ผู้ สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศูนย์อพยพ ชั่วคราวโรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา อ.น้ำขุ่น จ.อุบล ราชธานี ซึ่งมีประชาชนอพยพหนีภัยการปะทะกันของทหารไทยและกัมพูชา เข้าพักอาศัยในหอประชุม และบริเวณรอบโรงเรียน ตั้งแต่ดึกคืนวันที่ผ่านมากว่า 4,000 คน ว่า สำหรับวันนี้ ยังคงมีประชาชนที่อาศัยอยู่ใน ต.ภูผาหมอก อ.กันทร ลักษ์ ซึ่งเป็นจุดที่มีกระสุนปืนใหญ่ตกหนาแน่น ยังคงพักอาศัยอยู่รวมกับชาวบ้านในเขต ต.โคกสะอาด ต.ไพบูลย์ และบางส่วนของ ต.ขี้เหล็ก อ.น้ำขุ่น กว่า 1,000 คน

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย ให้ประชาชนที่อยู่ใกล้แนวปะทะในเขต อ.น้ำขุ่น นายพรชัย โควสุรัตน์ นายก อบจ.ได้เข้าสำรวจดูหลุมหลบภัยที่เคยสร้างไว้ตามโรงเรียนในจุดเสี่ยงตั้งแต่ ปี 2550 จำนวน 4 แห่ง โดยให้ช่างเข้าซ่อมบำรุงและขุดสร้างใหม่อีกประมาณ 10 จุด เพื่อใช้รองรับปริมาณประชาชนที่ต้องการมากขึ้น ส่วนโรงเรียนตามแนวชายแดนอ.น้ำขุ่น อ.น้ำยืน ได้มีคำสั่งปิดการเรียนการสอนตั้งแต่เช้าวันนี้ โดยยังไม่มีกำหนดเปิด เพราะต้องรอดูสถานการณ์เป็นรายวัน

กรมศิลป์รีบสำรวจปราสาท

นาง โสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กระแสข่าวว่าแหล่งโบราณสถานต่างๆ โดยเฉพาะที่อยู่ในฝั่งไทยได้รับความเสียหายและถูกบุกยึด ภายหลังเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชานั้น ขณะนี้ สั่งการให้สำนักศิลปากรที่ 11 อุบลราชธานี และสำนักศิลปากรที่ 12 นครราช สีมา ประสานในพื้นที่เพื่อเข้าไปติดตามและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าแหล่งโบราณสถาน ต่างๆ อาทิ ปราสาทหินโดนตวล ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านภูมิซรอล ประมาณ 8 กิโลเมตร และห่างจากตัว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 38 กิโลเมตร ถูกบุกยึดจริงหรือไม่ และสั่งให้ตรวจสอบพื้นที่ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาเมือนโต๊ด อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ ขณะเดียวกันยังให้ตรวจสอบโบราณสถานอื่นๆ ในละแวกเดียวกันที่ตั้งอยู่ในฝั่งไทย ว่าได้รับความเสียหายบ้างหรือไม่ โดยให้รายงานกลับมาเร็วที่สุดทันทีที่สามารถตรวจสอบได้

ฮุนเซนร้องยูเอ็นส่งกำลังคุม

วัน เดียวกัน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในงานมอบปริญญาบัตรให้กับนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยนอร์ตัน เรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ส่งกองกำลังสันติภาพมายังบริเวณพื้นที่พิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อป้องกันการปะทะกันอีกในอนาคต เพราะที่ผ่านมา กัมพูชาเคยส่งทหารไปร่วมปฏิบัติการกับยูเอ็นในซูดาน ในชาด และในแอฟริกากลาง ตอนนี้รัฐบาลของตนได้เรียกร้องไปยังยูเอ็นให้ส่งกองกำลังสันติ ภาพมายังพื้นที่พิพาทบริเวณชายแดนเพื่อป้องกันการต่อสู้กันอีก

จากรายงาน ของทหารกัมพูชาที่ประจำการบริเวณชายแดนระบุว่า การปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชาและไทยสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับปราสาท พระวิหาร ซึ่งเป็นมรดกโลก ทหารไทยและกัมพูชายิงต่อสู้กันมาแล้ว 5 ครั้ง นับแต่วันที่ 4 ก.พ. โดยทั้งสองฝ่ายต่างใช้อาวุธหนักที่รวมถึงจรวด ปืนกล ปืนใหญ่ ในการต่อสู้

จีน-ออสซี่วอนไทย-เขมร

ส่วน รัฐบาลจีน นายหง เล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนหวังให้ทั้งสองประเทศแก้ปัญหาความไม่ลงรอย ผ่านการเจรจาและหลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น โดยจีนยืนยันว่ายังมีสัมพันธ์อันดีกับทั้งสองประเทศ

ด้านสำนักข่าวเอ บีซีนิวส์ออสเตรเลีย รายงานว่า ระหว่างการปะทะของทหารไทยและกัมพูชา มีนักท่องเที่ยวกัมพูชา ถูกอาวุธจากการสู้รบเสียชีวิต ระหว่างเข้าไปถ่ายภาพการยิงตอบโต้ของสองฝั่ง

ส่วนทางโฆษกหญิงของนาย เควิน รัดด์ รมว.ต่างประเทศออสตรเลีย แถลงเรียกร้องให้ทั้งไทยและกัมพูชาเคารพของข้อตกลงหยุดยิงและอดกลั้นอย่าง สูงสุด รวมทั้งหาทางแก้ไขคความขัดแย้งผ่านการเจรจาและใช้ทุกวิถีทางที่จะลดความตึง เครียด

มาร์คตั้งทีมโฆษกสงคราม

เวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐ มนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุ การรมว.ต่างประเทศ และพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ได้เข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ใช้เวลา 30 นาที

จากนั้นเวลา 15.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร นายปณิธาน นาย ชวนนท์ และพ.อ.สรรเสริญ ร่วมแถลงข่าว โดยนายปณิธาน กล่าวว่า รัฐบาลจะตั้งจุดประสานงานข่าวและการปฏิบัติ 2 จุด จุดแรก อยู่ที่กองทัพบกและสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 มี พ.อ.สรรเสริญ เป็นผู้แถลงข่าวสถานการณ์ในพื้นที่ การเคลื่อนไหวและการปะทะ จุดที่สองจะอยู่ที่ศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯ มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) จัดคณะทำงานติดตามสถานการณ์ และให้นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นผู้ประสานกับสื่อมวลชนในการให้ข้อมูล ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ยังตกลงกันไม่ได้ แต่ทั้ง 2 ประเทศยังทำงานร่วมกันได้

ชวนนท์ยันเขมรก่อเหตุก่อน

นาย ชวนนท์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศจะทำหนังสือถึงคณะกรรมการมรดกโลก และผอ.ใหญ่องค์การยูเนสโก เพื่อชี้ให้เห็นว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา จึงไม่ควรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารให้สมบูรณ์ที่บาห์เรนในช่วงกลางปีนี้ แต่ควรทำให้ทั้งสองประเทศคุยกันก่อนจะเดินหน้าเรื่องแผนบริหารจัดการพื้นที่ ที่ยังเป็นข้อพิพาทอยู่ ส่วนที่นายกฯ กัมพูชามีจดหมายไปที่คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ เมื่อเย็นวันที่ 6 ก.พ. ทางไทยจะมีจดหมายตอบกลับไปในวันที่ 7 ก.พ.เพื่อยืนยันว่าไทยถูกรุกราน โจมตีจากกัมพูชา และจากการที่เกิดเหตุยิงกันเมื่อเย็นวันที่ 6 ก.พ. ทั้งที่วันที่ 5 ก.พ.มีการตกลงหยุดยิงกันแล้ว ชัดเจนว่ากัมพูชาก่อเหตุขึ้นมาก่อน ทำให้ข้อตกลงระหว่างสองประเทศไม่ถูกปฏิบัติจริง ไทยจึงยืนยันว่าการปะทะนั้น อาจมีเจตนาแอบแฝงต้องการขยายผลเรื่องนี้ไปสู่เวทีระหว่างประเทศ

ผู้นำเหล่าทัพไทยถกเครียด

เมื่อ เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. และคณะนายทหารระดับสูง ร่วมกันหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่ทหารทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากปะทะกันถึง 4 ครั้ง

จากนั้น พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุนเซน ต้องการให้สหประชาชาติ เข้ามาดูแลในเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องของกระทรวงต่างประเทศที่จะต้องดำเนินการ ในส่วนของทหารเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คือ หน้าที่ในการรักษาอธิปไตย เราก็ต้องดูแลเรื่องนี้

มาร์คร่วมประชุมลับวุฒิสภา

ผู้ สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า การประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ช่วงบ่าย มีการประชุมลับญัตติด่วนเหตุการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา เริ่มตั้งแต่เวลา 14.20 น. โดยเวลา 15.00 น. นายอภิ สิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง นาย กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และตัวแทนกองทัพ เดินทางมาร่วมฟังประชุมด้วย

ข่าวแจ้งว่า นายกษิต ชี้แจงว่า วันที่ 8 ก.พ.นี้ ทางกระทรวงต่างประเทศจะนำคณะทูต 16 ประ เทศที่มีตัวแทนในคณะกรรมการมรดกโลก และที่อยู่ในคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ และสื่อต่างประเทศ ไปดูความเสียหายที่หมู่บ้านภูมิซรอล ซึ่งถูกทหารกัมพูชาโจมตี ผิดหลักสิทธิมนุษยชนตามกฎบัตรของสหประชาชาติ โดยประธานอาเซียนจะมาประเทศในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน เพื่อหารือสถานการณ์ด้วย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงเวลาประมาณ 18.00 น. โดยระบุว่า เหตุรุนแรงครั้งนี้ เกิดวันที่ 3 ก.พ. เริ่มจากทหารกัมพูชานำรถตักและทหาร 7 คัน มาทำถนนในเขตแดนไทยในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ทางการไทยจึงประท้วงไปทำให้กัมพูชาถอยทหาร ต่อมาวันที่ 4 ก.พ. ฝ่ายไทยจึงออกไปซ่อมถนนปรับพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชาจึงยิงเข้ามา ฝ่ายไทยจึงยิงตอบโต้ มาถึงวันนี้ปะทะรวม 4 รอบ บาดเจ็บ 20 กว่าคน ทหารเสียชีวิต 1 นาย ราษฎรเสียชีวิต 1 คน อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยสั่งถอนทหารออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร

พนิชแฉปริศนากล้องรูเข็ม

ส่วน การประชุมคณะกรรมการติดตามสถาน การณ์บ้านเมือง วุฒิสภา เชิญนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าชี้แจงกรณีถูกกัมพูชาจับกุม โดยนายพนิช ชี้แจงตอนหนึ่งว่า ประเด็นเรื่องกล้องที่นำเข้าไป หลายคนยังสับสนว่าเป็นของนายวีระ สมความคิด หรือของน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ รวมถึงนายตายแน่ มุ่งมาจน กันแน่ แต่ที่ตนทราบคือนายวีระมีกล้องตัวเล็กซึ่งเป็นกล้องรูเข็มขนาดเล็กติดตัวไป ด้วย ก่อนจะควบคุมตัวในวันที่เดินเข้าไปในพื้นที่ นายวีระถือกล้องรูเข็มเข้าไปด้วย และบอกว่าเพิ่งซื้อมาใหม่ ไม่รู้ว่าใช้งานได้หรือไม่

นายพนิช กล่าวว่า ในวันที่ถูกควบคุมตัวทุกคนถูกยึดของที่ติดมากับตัวทั้งหมด ทั้งกล่องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ แต่นายวีระไม่ได้ให้กล้องรูเข็มไป ขณะที่ควบคุมตัวนายวีระได้บอกให้น.ส. ราตรีไปถ่ายเล่นดู พอถ่ายแล้วเก็บใส่กระเป๋าตัวเอง เมื่อถูกจับก็ถูกควบคุม โดยให้แยกกันเดินทางเข้ากรุงพนมเปญ ตั้งแต่ 16.00-23.00 น. ซึ่งทุกคนให้การเฉลี่ยคนละ 5 ช.ม. สำหรับตนต้องให้การถึง 06.00 น. ซึ่งปรากฏว่ากล้องที่น.ส. ราตรี เก็บไว้มาโผล่เอาตอนเช้าที่ตม. ซึ่งนายวีระไม่รู้ว่าน.ส.ราตรีถ่ายอะไรไปบ้างและไม่ทราบว่ากล้องถ่ายติดแล้ว ดังนั้นข้อกล่าวหาในชั้นอัยการจึงไม่มีกล้องตัวนี้ แต่ในชั้นการไต่สวนของศาลพบหลักฐานดังกล่าวทั้งสองคนเลยถูกต้องข้อหาเพิ่ม เติมว่าจารกรรมข้อมูลด้านความมั่นคง ทั้งสองคนต่างออกตัวและช่วยปกป้องกัน แต่กลายเป็นว่าร่วมกันจารกรรมข้อมูล ตนเชื่อว่าเขาซื้อมาเล่นมากกว่า ไม่ใช่กล้องสปาย

พธม.ขอเลื่อนพบอัยการ

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ตามที่พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายประพันธ์ คูณมี แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมพวกรวม 21 คน ให้ไปรายงานตัวเพื่อส่งฟ้องอัยการในวันที่ 10 ก.พ. เวลา 08.30 น. กรณีปิดล้อมรัฐสภา บุกทำเนียบรัฐบาล และคดีหมิ่นประมาทนายเนวิน ชิดชอบ โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวบพยานหลักฐาน ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.2551 พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ พิจารณาลงความเห็นสั่งฟ้องหลังเกษียณราชการ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา(สบ10) รับผิดชอบได้เห็นสมควรสั่งฟ้อง และส่งสำนวนกลับมาที่ บช.น.

มีรายงานว่า ทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ส่งหนังสือขอเลื่อนพนักงานสอบสวนเป็นวันที่ 10 มี.ค. โดยระบุเหตุผลว่ามีผู้ต้องหาจำนวนมากไม่สามารถนัดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ จึงขอเวลาเตรียมตัว สาเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากมีการกำหนดไว้แล้วก่อนหน้านี้ อีกทั้งเป็นการนัดพบอัยการครั้งแรก ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วอนุญาต

กอ.รมน.เล็งตั้งศูนย์ลุยม็อบ

พล.ต.ดิฏฐ พร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ. รมน.) กล่าวจากที่กลุ่มพันธมิตรประกาศยกระดับการชุมนุม ทำให้ทางตำรวจต้องประเมินสถานการณ์เสนออะไรรองรับเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในการพิจารณาของตำรวจมีระดับในการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมอยู่ 5 ระดับ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจคิดว่า ถึงระดับที่ 3 คือ ระดับสถานการณ์ที่เห็นว่า เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลได้ และต้องให้ทหารเข้าไปช่วยในการดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่า จะยกระดับการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ หากมีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงในหมวดที่ 2 อาจจะต้องมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) เหมือนที่ผ่านมา และมีการจัดทำโครงสร้าง รวมถึงจัดตั้งคณะกรรมการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่แต่ละส่วนรับผิดชอบ โดยหากมีการประกาศ ทางทหารก็อาจจะเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความเรียบร้อยในฐานะผู้ ช่วยเจ้าพนักงาน ด้วยการจัดสารวัตรทหารจาก 3 เหล่าทัพ และกองร้อยรักษาความสงบ เพื่อดูแลสถานการณ์ ต่อไป

ในหลวง-ราชินีทรงมอบของ

วัน เดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดหน่วยสงเคราะห์เคลื่อนที่ โดยมีนายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ เดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ ปะทะกัน บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ศูนย์อพยพบริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นำผ้าห่มกันหนาว จำนวน 3,000 ผืน เครื่องครัว หม้อข้าวใหญ่ 1,000 ใบ กระทะ 1,000 ใบ ขันน้ำ 1,000 ใบ ทัพพี 1,000 คัน จาน 1,000 ใบ ช้อน 1,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 511,127.20 บาท และในวันที่ 8 ก.พ. ที่ศูนย์อพยพโรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา จ.อุบลราธานี ผ้าห่มกันหนาว 1,200 ผืน เครื่องครัว หม้อใหญ่ 360 ใบ จาน 1,080 ใบ ช้อน 1,080 คัน คิดมูลค่า 168,929.09 บาท

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา รมว. กลาโหม รวมทั้งผู้นำเหล่าทัพ ได้ต่อสายคุยกับพล.อ.เตีย บัน รมว.กลาโหมของกัมพูชา ซึ่งได้ข้อสรุปว่า จะช่วยกันควบคุมไม่ให้สถานการณ์ บานปลายกลายเป็นสงครามใหญ่ ส่วนเหตุที่ยิงปะทะกัน เป็นแค่การกระทบกระทั่งกันตามแนวชายแดนตามปกติ

ข่าวแจ้งว่า มีข่าวลือในหมู่ทหารไทยว่า ลูกชายของฮุนเซนที่นำทัพเขมรมาเอง ถูกกระสุนฝ่ายไทยบาดเจ็บ

[/FONT]

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakE0TURJMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNaTB3T0E9PQ

 

ลั่นยูเอ็นไม่เกี่ยวไทย-เขมรเคลียร์กันเองได้

​

“เทือก” ชี้ยูเอ็นยังไม่มีความจำเป็นต้องส่งกองกำลังมาช่วยดูแล ตามคำร้องขอ “สมเด็จฯ ฮุนเซน” ยันไทย-เขมรเคลียร์กันเองได้
วันนี้ (8 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึง กรณีที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เร่งจัดการประชุม เพื่อพิจารณาส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็น มาประจำการบริเวณพื้นที่ที่มีการปะทะกัน ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทางยูเอ็นยังไม่จำเป็นต้องเรียกประชุมฉุกเฉิน เพื่อส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาช่วยดูแล เพราะทั้งฝ่ายไทย และเขมร จะสามารถหารือแก้ไขปัญหาได้ และการที่ยูเอ็นต้องการให้ทางอาเซียนเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยนั้น ขอยืนยันว่า เป็นเรื่องของสองประเทศ อย่างไรก็ตาม ไทยยึดหลักการไม่รุกราน และไม่เริ่มต้นก่อน แต่การรักษาอธิปไตย รวมทั้งศักดิ์ศรีของประเทศด้วยการตอบโต้ทางทหาร ต้องทำตามสมควร เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ
ด้าน บรรยากาศภายในศูนย์อพยพชั่วคราว หอประชุมอำเภอกันทรลักษ์ มีชาวบ้านหนีตายเข้ามาพักอาศัยประมาณ 16,000 คน จาก 32 หมู่บ้าน 3 ตำบล ในเขตพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ ประกอบด้วย ต.รุง ต.เสาธงชัย และต.บึงมะรุ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยกาชาดมาตรวจสุขภาพให้กับชาวบ้าน พร้อมแจกของเล่นให้กับเด็ก เพื่อคลายความเครียดด้วย ซึ่งผู้อพยพกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้การสู้รบยุติลงโดยเร็ว เพราะคิดถึงบ้าน และเป็นห่วงวัวควาย หมู สุนัข และไก่ ที่ต้องอดอาหารมาแล้วหลายวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในหมู่บ้านทั้ง 3 มีคณะกรรมการหมู่บ้าน ตำรวจหมู่บ้าน และชุด ชรบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารเข้าไปรักษาความปลอดภัย เนื่องจากตลอดคืนที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า ทหารกัมพูชาจะระดมกำลังขนอาวุธหนักเข้าประชิดตามแนวชายแดน ด้าน อ.กันทรลักษ์ ประกอบกับเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ด้านภูมะเขือ แต่ยังไม่มีรายงานการปะทะกันครั้งใหม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า ทหารกัมพูชาเตรียมที่จะปล่อยตัวเชลยศึกทหารไทย ที่ถูกจับกุมตัวไปขณะเกิดเหตุปะทะกันก่อนหน้านี้






Daily News Online > หน้าการเมือง > ลั่นยูเอ็นไม่เกี่ยวไทย-เขมรเคลียร์กันเองได้

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=jbFrNi0hg_Q]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 8 กพ 54 part 1[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=aULI7yXIC64]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 8 กพ 54 part 2[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=T9kRHtDpmLc]YouTube - ข่าว ไทยปะทะเขมร 8 กพ 54 part 3[/ame]