ปิดรับบริจาค ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายหนังสือธรรมะแก่ 274 วัดกรรมฐานทั้ง 4 ภาคและวัดไทยในต่างประเทศ

ขอสรุปรายจ่ายทั้งหมดในการจัดส่งหนังสือธรรมะ
ในชุดแรกนี้จำนวน 122 วัด​

1.ซื้อหนังสือที่มหามกุฏราชวิทยาลัยจำนวน 536 เล่ม
เป็นเงิน 12,447.50 บาท
2.ซื้อหนังสือที่ศูนย์หนังสือพระพุทธศาสนา(ธรรมสภา) จำนวน 300 เล่ม
เป็นเงิน 6,523.75 บาท
3.ซื้อหนังสือคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน บ้านสายลม 157 เล่ม
เป็นเงิน 2,875 บาท
4.ซื้อหนังสือมนต์พิธี 122 เล่ม
เป็นเงิน 3,660 บาท
5.ซื้อหนังสือสำนักพิมพ์ดวงแก้ว(มุตโตทัย หลวงปู่มั่น)
เป็นเงิน 621 บาท
6.ค่ากล่องพัสดุ 122 กล่อง
เป็นเงิน 1,256 บาท
7.ค่าจัดส่งพัสดุ
เป็นเงิน 7,830 บาท

รวมแล้วรายจ่ายทั้งหมดในชุดแรก 35,213.25 บาท
ดังนั้น
คงเหลือปัจจัยไว้ดำเนินการครั้งหน้า 4,639.88 บาท​

จึงเรียนมาเพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ทราบค่ะ

ขอโมทนาเป็นอย่างยิ่ง

 

จะมาบอกว่า

ได้นำหนังสือไปถวายที่วัดแล้วนะคะ

เมื่อวันแม่ อิอิ

ลืมบอกวัดไป วัดสังฆทาน จังหวัดนนทบุรี ค่ะ

 

อนุโมทนาด้วยค่ะณัฐณิชาขอร่วมทำบุญด้วยค่ะ จดเบอร์บัญชีไว้แล้ว ถ้าไป โอนแล้วจะโทรมาแจ้งคุณโยน่ะค่ะ

 

สวัสดีค่ะ คุณณัฐณิชา

ยินดีและโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่งค่ะ

และขอแจ้งเพื่อนๆ พี่ๆ ผู้ร่วมบุญทุกท่านทราบว่า ใบตอบรับสีเหลืองได้ถูกส่งกลับมาที่โยบ้างแล้ว รวมแล้วประมาณ 40 ฉบับแล้ว

ช่วงนี้ก็รอรับใบตอบรับเพื่อทราบว่าหนังสือธรรมะนั้นจัดส่งไปถึงที่วัดใดบ้างแล้ว ส่วนใหญ่ที่กลับมาช่วงนี้เป็นหนังสือที่จัดส่งในกรุงเทพฯและภาคกลาง ส่วนรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ

และช่วงนี้ได้เริ่มดูหนังสือธรรมะสำหรับการจัดส่งไปยังภาคเหนือและภาคใต้รวม 60 วัด(ภาคเหนือ 44 วัด ภาคใต้ 16 วัด)

เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดมีความคิดเห็นประการใด เกี่ยวกับหนังสือธรรมะที่จะจัดส่งไปทางภาคเหนือและภาคใต้ ก็แนะนำให้โยทราบด้วยนะคะ

ขอความเจริญในธรรมได้บังเกิดกับทุกท่านค่ะ

 

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน

หนังสือธรรมะที่พวกเราได้ร่วมกันในบุญกุศลนี้ ได้จัดส่งถึงพระคุณเจ้า วัดในภาคต่างๆ ทั้งพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ 2 วัด ภาคเหนือ 1 วัด และต่างประเทศ 7 วัด

หลังจากนั้น ใบตอบรับสีเหลืองก็ทยอยกันกลับมาที่โย เพื่อเช็คว่าท่านได้รับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(รายละเอียด จะโพสรูปมาลงให้ชมกันนะคะ)

พระคุณเจ้าที่ได้รับหนังสือ ได้โทรเข้ามาให้พร และกล่าวคำอนุโมทนาบุญกับพวกเราด้วย และท่านได้กล่าวว่าเป็นการดีมาก ที่ได้จัดส่งหนังสือไปให้ทางวัด เพราะนอกจากพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ได้อ่านได้ศึกษาแล้ว ญาติโยมที่มาทำบุญหรือมาปฎิบัติธรรมที่วัดก็ได้มีหนังสือธรรมะไว้อ่านเวลาว่างด้วย

พระคุณเจ้าครูบาแสงทิพย์ สังวโร วัดเขาไม้หอม แจ้งว่าวัดเพิ่งเริ่มสร้าง ขออนุโมทนาบุญกับคณะสมาชิกพลังจิต ที่ได้ร่วมกันสร้างธรรมทานในครั้งนี้และโยถามท่านว่าที่วัดต้องการหนังสือใดเพิ่มเติมอีก(เจ้าคะ) ท่านแจ้งว่าหนังสือเกี่ยวกับกฏแห่งกรรม โยจึงแจ้งว่า โยจะจัดส่งไปให้เพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง

พระคุณเจ้าหลวงพ่อสพกฤษ์ ปภัสสโร แห่งวัดบ่อทอง(ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดองค์ปฐม) อ.แกลง จ.ระยอง ได้โทรศัพท์มาอนุโมทนาบุญแก่พวกเรา และท่านได้สวดบทกรวดน้ำ ให้ศีลให้พร แก่โยซึ่งเป็นตัวแทนของทุกท่าน และได้สนทนากันพักหนึ่ง โยจึงแจ้งท่านว่าจะจัดส่งหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุงไปให้ท่านเพิ่มเติมอีก

จากการที่ได้สอบถามพระคุณเจ้าที่โทรมานั้น ที่วัดไม่มีหนังสือพระไตรปิฎกไว้อ่าน ไว้ศึกษา ก็เก็บเป็นข้อมูลไว้ก่อน

ดังนั้น จึงขอแจ้งมาให้พี่ๆ เพื่อนๆ ได้รับทราบในการอนุโมทนาบุญของพระคุณเจ้าทุกรูปที่ได้กล่าวมา

การทำธรรมทานพิเศษครั้งนี้ ยังความปิติในดวงจิตเป็นที่สุด และเป็นเสมือนน้ำทิพย์ในจิตใจให้มุ่งทำงานเผยแผ่ธรรมะ คำสอนของพระพุทธองค์และหลวงพ่อให้กว้างขวาง

ดังนั้น เนื่องจากครั้งหน้าจะดำเนินการจัดส่งไปทางภาคเหนือ และภาคใต้(ที่เหลือ) เป็นการจัดส่งครั้งที่ 2 หากท่านใดมีจิตศรัทธา ต้องการร่วมบุญในครั้งนี้อีก ก็เรียนเชิญค่ะ

วันนี้ช่วงเย็นจะแจ้งยอดปัจจัยที่มีผู้ใจบุญโอนมาเข้าบัญชีเผยแผ่ธรรมะให้ทราบกันนะคะ

ขอความเจริญในธรรมได้บังเกิดกับทุกท่าน

 

สวัสดีค่ะ

วันนี้วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2549

ขอสรุปยอดเงินบริจาคหลังจากที่เคยแจ้งไว้ โดยสรุป ณ.เวลา 15.00 น. ดังนี้ค่ะ
19/08 - 500 บาท
รวม 500 บาท
..................................................................................

สรุปยอดทั้งหมด
1.เมื่อวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2549 จำนวน 23,597 บาท
2.สัปดาห์ 25 - 31 กรกฎาคม จำนวน 9,560 บาท
3.สัปดาห์ 31 - 7 สิงหาคม จำนวนรวม 2,335 บาท
4.สัปดาห์ 7 - 14 สิงหาคม จำนวนรวม 4,361.13 บาท
5.สัปดาห์ 14 - 21 สิงหาคม จำนวนรวม 500 บาท

จึงสรุปยอดเงินทั้งหมดในขณะนี้ 40,353.13 บาท
รวมแล้วรายจ่ายทั้งหมดในชุดแรก 35,213.25 บาท

*คงเหลือปัจจัยไว้จัดส่งหนังสือในครั้งที่ 2 จำนวน 5,139.88 บาท*​

ขอกราบโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่ง​

 

ขอแจ้งเรื่องการรายชื่อหนังสือธรรมะที่จะจัดส่งในครั้งที่ 2
ยังวัดกรรมฐานในภาคเหนือ 44 วัดและภาคใต้ 16 วัด
มีรายการหนังสือดังต่อไปนี้​

1.ความเข้าใจเรื่องปฎิจจสมุปบาท / สถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา (อ. นวม สงวนทรัพย์) / ปุจฉาวิสัชนาเรื่องพระพุทธศาสนา 3 เรื่อง คละกัน

​

2.ความเข้าใจเรื่องอภิธรรม พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช / สาเหตุความเสื่อมสูญของพระพุทธศาสนาในอินเดีย / เนปาลชาติภูมิของพระพุทธเจ้า 3 เรื่อง คละกัน

​

3.หลักกรรมในพระพุทธศาสนา พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

​

4.พรรณาสวรรค์ พระเทพวิสุทธิกวี
5.สู่แดนพุทธภูมิ
6.เที่ยวกรรมฐาน
รายการที่ 1 - 6 หนังสือของมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย
7.ทางสายเข้าสู่พระนิพพาน พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

​

8.พรหมวิหาร 4 พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
9.ตามรอยพระโพธิญาณ / น้ำไหลนิ่ง (คละเรื่องกัน)
มรดกธรรมหลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง

​

10.กุญแจภาวนา มรดกธรรมหลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง

ทั้งหมดจำนวน 60 วัด คำนวนปัจจัยแล้วประมาณ 17,124 บาท​

 

ใบตอบรับส่วนหนึ่งที่กลับมาที่โย
เพื่อเช็คดูว่าวัดใดได้รับหนังสือธรรมะแล้วบ้าง​

จัดส่งวันที่ 15 สิงหาคม 2549
วันที่ 17 ได้รับใบตอบรับ 17 ฉบับ
วันที่ 18 ได้รับใบตอบรับ 21 ฉบับ
วันที่ 19 ได้รับใบตอบรับ 17 ฉบับ
วันที่ 17 ได้รับใบตอบรับ 32 ฉบับ
ขณะนี้นับได้จำนวน 87 ฉบับแล้วที่กลับมาถึงโย


​

 

​

​

หลวงพ่อกนฺตสิริ ภิกขุ สำนักปฏิบัติธรรมศิริธรรม(ถ้ำชี) ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี

ท่านได้รับหนังสือธรรมะที่พวกเราได้ส่งไปให้ท่านเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2549
(ตามใบตอบรับสีเหลือง)

ต่อมาเมื่อวานนี้ โยได้รับซองเอกสาร 1 ซอง จากสำนักปฏิบัติธรรมศิริธรรม(ถ้ำชี) เปิดในซองพบหนังสือสวดมนต์ที่ทางวัดจัดทำ 4 เล่ม และแผ่นซีดีการบรรยายธรรมแก่ญาติโยม 4 แผ่น และจดหมายอีก 1 ฉบับ ยังความปิติเป็นอย่างยิ่ง และมั่นใจในสิ่งที่ได้ทำว่าเป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา

ดังนั้นจึงขออนุญาติและนำจดหมายที่พระคุณเจ้าหลวงพ่อกนฺตสิริ ภิกขุ ท่านส่งมา โพสให้ทุกท่านได้อ่านและอนุโมทนา

ขอความเจริญในธรรมได้บังเกิดกับทุกท่าน

(ขออนุญาตินำลิ้งค์ที่เพื่อนพลังจิต โพสรูปของสำนักปฏิบัติธรรมศิริธรรม เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เข้าไปชมกัน)
http://www.palungjit.org/club/tumche

 

วันนี้เวลา 11.30 น.

คุณลือชา ธรรมวิชิต และญาติธรรม ทราบข่าวงานบุญนี้จากเว็ปไซต์พลังจิต
ดอทคอม ได้โทรมาแจ้งว่าได้ร่วมบุญธรรมทานเป็นเจ้าภาพจัดส่งหนังสือธรรมะทั้ง 274 วัด

ได้ร่วมบุญ 1 กองทุน 235 บาท

จึงขออนุโมทนาบุญมา ณ. ที่นี้

 

ขอร่วมบุญด้วย 9 กองนะคะ วัดในภาคกลางหรือวัดไหนก็ได้คะ
เเละจะร่วมเป็นกองทุนทุกเดือนละ 4 กองจนกว่าจะครบทั้ง247วัดนะคะ
เย็นจะไปโอนเงินให้นะคะ
ขอบคุณ คุณโยมากคะ

 

โอนเงินให้เเล้วนะคะ

 

โอนให้เเล้วนะคะ เป็นเงิน 70 CHF 2100 บาท คงหักค่าโอนอีกนะคะ วันจันทร์จะไปโอนให้อีก 1500 บาทนะคะ ขอบคุณคะ

 

ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยค่ะ

 

พี่โอนมาร่วมทำบุญรอบนี้อีก 500 บาทครับน้องโย่ โอนแล้ววันนี้ 25/08/2549 14:47
โมทนากับทุกๆท่านครับ

 

พี่ Fourthman คะ

ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่พี่ Fourthman ได้ร่วมบุญกันตั้งแต่งานถวายหนังสือพระไตรปิฎก และการจัดส่งหนังสือธรรมะครั้งที่ 1 ในครั้งนี้จะจัดส่งหนังสือครั้งที่ 2 นี้ก็ได้ร่วมบุญกันอีก

รู้สึกยินดีและอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งค่ะ ขอปัญญาบารมีเต็มไวๆๆ นะคะ
ปัจจัยที่โอนมาน้องโย่ได้รับแล้วค่ะ (verygood)

 

สวัสดีค่ะ

วันนี้วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2549
ขอสรุปยอดเงินบริจาคหลังจากที่เคยแจ้งไว้
โดยสรุป ณ.เวลา 14.00 น. ดังนี้ค่ะ​

22/08 - 499.99 บาท (เข้าใจว่าเป็นเงินโอนจากคุณณัฐณิชา)
23/08 - 235 บาท(คุณลือชา ธรรมวิชิต และญาติธรรม)
25/08 - 500 บาท(พี่ Fourthman)
28/08 - 499.99 บาท (รายการนี้เท่ากับยอดที่โอนมาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม แต่มาปรากฎในบัญชีเดิมที่เคยใช้ในงานถวายหนังสือพระไตรปิฎก จึงไม่ทราบว่าเพื่อนท่านใดโอนมาเพราะไม่ได้โพสบอกไว้ จึงขอโอนกลับมาที่บัญชีเผยแผ่ธรรมะ อันเป็นบัญชีเฉพาะกิจค่ะ)
28/08 - คุณdomioog แจ้งว่าโอนมาเป็นเงิน 70 CHF ประมาณ 2,100 บาท หักค่าโอนแล้ว มีปัจจัยเข้าบัญชีเผยแผ่ธรรมะ จำนวน 1,921.96 บาท

รวมยอดเงินบริจาคในสัปดาห์นี้ 3,656.94 บาท​

..................................................................................

สรุปยอดทั้งหมด
1.เมื่อวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2549 จำนวน 23,597 บาท
2.สัปดาห์ 25 - 31 กรกฎาคม จำนวน 9,560 บาท
3.สัปดาห์ 31 - 7 สิงหาคม จำนวนรวม 2,335 บาท
4.สัปดาห์ 7 - 14 สิงหาคม จำนวนรวม 4,361.13 บาท
5.สัปดาห์ 14 - 21 สิงหาคม จำนวนรวม 500 บาท
6.สัปดาห์ 21 - 28 สิงหาคม จำนวนรวม 3,656.94 บาท

จึงสรุปยอดเงินทั้งหมดในขณะนี้ 44,009.26 บาท
รวมแล้วรายจ่ายทั้งหมดในชุดแรก 35,213.25 บาท​

*คงเหลือปัจจัยไว้จัดส่งหนังสือในครั้งที่ 2 จำนวน 8,796.01 บาท*​

ขอความสุข ความเจริญทั้งทางโลกทางธรรม
ได้บังเกิดกับทุกท่านที่ได้ร่วมในบุญธรรมทานอันเลิศนี้
ขอกราบโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่ง​

 

วันนี้ขอนำประวัติท่านพระโพธิญาณเถร(หลวงปู่ชา) วัดหนองป่าพง มาให้ทุกท่านได้อ่านชีวประวัติของท่าน เพื่อให้ทราบปฎิปทาของท่าน และคำสอนของท่านก็เป็นหนึ่งในจำนวนหนังสือคำสอนที่ได้คัดเลือกและจัดส่งไปให้วัดในโครงการนี้ด้วยค่ะ

​

พระโพธิญาณเถร นามเดิมว่า ชา ช่วงโชติ เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๑ ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ ๙ ตำบลธาตุ อำเภอ วารินชำราบ จังหวัด อุบลราชธานี

ตามประวัติท่านมีจิตฝักใฝ่ธรรมมาแต่เด็กบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อเดือนมีนาคม ๒๔๗๔ ได้ ๓ พรรษา แล้วก็ลาสิกขาอุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒

ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ออกศึกษาปริยัติต่างถิ่นโดยเริ่มที่วัดสวนสวรรค์ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี การที่ท่านบวชแต่เยาว์วัยยังผลให้ท่านมีโอกาสศึกษาเล่าเรียนทางโลกเพียงแค่ชั้นประถมปีที่ ๑

หลวงพ่อชาเป็นผู้สนใจธรรมมาก ท่านมีความปรารถนาอยากรู้แจ้งเห็นจริงตามคำสอนของพระพุทธองค์ จึงเริ่มศึกษาธรรมจากสำนักต่าง ๆ หลายสำนัก

ระยะแรกในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๘๕-๒๔๘๖ ศึกษาปริยัติธรรมกับพระมหาแจ้ง วัดเค็งใหญ่ อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี และพระครูอรรถธรรมวิจารณ์ วัดหนองหลัก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ปี ๒๔๘๖

เมื่อโยมบิดาถึงแก่กรรม หลวงพ่อชาสิ้นภาระห่วงใย มองเห็นความเป็นอนิจจังของชีวิต หลังจากสอบนักธรรมเอกได้เกิดเบื่อหน่ายด้านปริยัติ พิจารณาว่าไม่ใช้ทางพ้นทุกข์ ประสงค์จะศึกษาด้านวิปัสสนาธุระบ้าง จึงออกธุดงค์ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ เพื่อค้นหาอาจารย์ที่จะสอนด้านวิปัสสนาธุระ โดยระยะแรกมุ่งหน้าไปจังหวัดสระบุรี-ลพบุรี ที่ลพบุรีมุ่งตรงมาที่สำนักวัดป่าของหลวงพ่อเภา

 

แต่น่าเสียดายที่หลวงพ่อเภามรณภาพเหลือแต่อาจารย์วันลูกศิษย์ จึงได้แต่ศึกษาระเบียบข้อปฏิบัติที่หลวงพ่อเภาวางไว้ และจากอาจารย์วัน อาจารย์ที่สำคัญอีกองค์หนึ่ง คืออาจารย์ชาวเขมร (ซึ่งธุดงค์จากเขมรมาไทย และมุ่งไปพม่า) เป็นผู้วางหลักแนวทางปฏิบัติโดยใช้หนังสือ บุพพสิกขาวรรณนาวินัยกถา ซึ่งแต่งโดยพระอมรมภิรักขิต (เกิด) ในคณะธรรมยุตินิกาย

หลวงพ่อชาจึงได้ใช้หนังสือบุพพสิกขาวรรณนาวินัยกถา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ในวัดหนองป่าพงและสาขามาจนทุกวันนี้

ปี ๒๔๙๐ หลังจากจำพรรษาที่เขาวงกต อยู่ได้หนึ่งพรรษา ได้ทราบข่าวว่าท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต) เป็นผู้มีคุณธรรมสูงทั้งเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนาธุระ มีประชาชนเคารพเลื่อมใสมาก จึงเดินทางมาที่วัดหนองผือนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร

วันแรกย่างเหยียบเข้าสำนัก เห็นบริเวณร่มรื่น ปฏิปทาของพระภิกษุเคร่งครัดเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธา หลวงปู่มั่นได้เทศนาสั่งสอนเกี่ยวกับหลักธรรม อาทิศีลนิเทศ ปัญญานิเทศ พละ ๕ อิทธิบาท ๔ ให้แก่หลวงพ่อชาและศิษย์จนเป็นที่พอหายสงสัย

สิ่งที่น่าสังเกตคือหลวงปู่มั่นไม่มีความคิดที่จะให้หลวงพ่อชาแปลงนิกายเป็นธรรมยุติกาย ท่านให้ข้อชี้แจ้งเป็นปรัชญาคมคายว่าในความเป็นภิกษุที่แท้จริงไม่ได้มีนิกาย ทั้งหมดคือพระสงฆ์สาวกของพระพุทธองค์ ดังคำกล่าวของหลวงปู่มั่นต่อหลวงพ่อชาว่า “ ไม่ต้องสงสัยนิกายทั้งสอง ” หลังจากฟังเทศน์จากหลวงปู่มั่น หลวงพ่อชามีจิตอิ่มเอิบ เป็นสมาธิ และได้ยึดคำสอนปฏิปทาของท่านไว้เป็นแนวปฏิบัติต่อไปองค์ที่ตรัสว่า “ ทำตนให้ตั้งอยู่ในคุณอันสมควรเสียก่อน แล้วจึงสอนคนอื่นทีหลัง จึงจักไม่เป็นบัณฑิตสกปรก ”

ดังนั้นไม่ว่าจะทำกิจวัตรอันใด เช่น กวาดวัด จัดที่ฉันล้างบาตร นั่งสมาธิ ตักน้ำ ทำวัตร สวดมนต์ เดินจงกรม ในระหว่างวันพระถือเนสัชชิไม่นอนตลอดคืน หลวงพ่อชาลงมือทำเป็นตัวอย่างของศิษย์โดยถือหลักว่า “ สอนคนด้วยการทำให้ดู ทำเหมือนพูด พูดเหมือนทำ ” ดังนั้นศิษย์และญาติโยมจึงเกิดความเลื่อมใสเคารพยำเกรงในปฏิปทาที่หลวงพ่อดำเนินอยู่

ในระยะแรกของการมาอยู่ป่าพงค่อนข้างลำบาก ชาวบ้าน ญาติโยมผู้ศรัทธาเข้ามาสร้างวัดเป็นกระท่อมเล็ก ๆ ให้ได้อาศัย ไข้ป่าชุกชุม เพราะเป็นป่าทึบ เมื่อเจ็บป่วยยารักษาก็หายาก โยมอุปัฏฐากยังน้อย อาหารการกินฝืดเคือง แต่กระนั้นหลวงพ่อก็ไม่เคยออกปากของญาติโยม แม้จะเลียบเคียงก็ยังไม่ยอมทำ ปล่อยให้ผู้พบเห็นพิจารณาด้วยตนเอง เดือนต่อมาเกิดสำนักชีขึ้นที่วัดเพื่อสนองคุณต่อโยมมารดาให้ได้ปฏิบัติธรรม โยมแม่พิมพ์จึงเป็นแม่ชีคนแรกของวัดหนองป่าพง และมีแม่ชีติดต่อกันมาถึงปัจจุบันเป็นจำนวนมากและทางวัดมีการแบ่งเขตสงฆ์เขตชีไว้เรียบร้อยไม่ก้าวกายปะปนกัน

วัดหนองป่าพงได้รับอนุญาตให้สร้างในปี ๒๕๑๓ ปี ๒๕๑๖ หลวงพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพงและได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ “ พระโพธิญาณเถร ” ปี ๒๕๑๙ สิ้นเงิน ๕ ล้านบาท ปี ๒๕๒๐ ได้เดินทางไปประกาศสัจธรรมในภาคพื้นยุโรปเป็นครั้งแรกปี ๒๕๒๒ ได้เดินทางไปอังกฤษ อเมริกา คานาดา เพื่อประกาศสัจธรรม เป็นครั้งที่ ๒

ปี ๒๕๒๕ หลวงพ่อชาอาพาธ เป็นโรคเกี่ยวกับสมอง มีอาการเวียนศีรษะ จนต้องผ่าตัดสมอง หลังจากการผ่าตัด ท่านไม่สามารถพูดได้เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องอาศัยพระภิกษุในวัดช่วยปรนนิบัติเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด การบริหารวัดทั้งหมดมอบให้อาจารย์เหลื่อมเป็นผู้รักษาการแทน

หลวงพ่อชาถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๓๖

 

​

วัดหนองป่าพง เป็นวัดป่าฝ่ายอรัญวาสี ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นสำนักปฎิบัติธรรมที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันสงบเงียบ มีบรรยากาศอันร่มรื่น เหมาะแก่การปฎิบัติธรรม สร้างโดยหลวงพ่อชา สุภทโท หรือ พระโพธิญาณเถระ

ประวัติความเป็นมา
ระหว่างที่มาอยู่วัดหนองป่าพง หลวงพ่อได้ยึดหลักคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสว่า " ทำตนให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมสมควรเสียก่อน แล้วจึงสอนคนอื่นที่หลัง จึงจะไม่เป็นบัณฑิตสกปรก" ฉะนั้นไม่ว่าจะทำกิจวัตรอันใด เช่น การกวาดลานวัด จัดที่ฉัน ล้างบาตร นั่งสมาธิ ตักน้ำ ทำวัตร หลวงพ่อจะลงมือทำเป็นตัวอย่างของศิษย์โดยยึดหลักว่า "สอนคนด้วยการทำให้ดู ทำเหมือนพูดพูดเหมือนทำ" ดังนั้นศิษย์ และญาติโยมจึงเกิดความเคารพเลื่อมใสในปฏิปทาที่หลวงพ่อดำเนินอยู่

ศิลปสถาปัตยกรรม
นอกจากจะเป็นที่บำเพ็ญสมณธรรมของพระธุดงค์กรรมฐานสายพระอาจาย์มั่น ภูริทตโต แล้ววัดหนองป่าพงยังเป็นที่สำคัญด้านสถาปัตยกรรม ผสมผสานระหว่างศิลปะอีสานกับศิลปะร่วมสมัย อาทิ การก่อสร้างโบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ และเจดีย์ที่บรรจุอัฐิหลวงพ่อชา

โบสถ์วัดหนองป่าพง
เป็นอุโบสถอเนกประสงค์สมัยใหม่ที่เอื้อต่อประโยชน์ใช้สอย พื้นอุโบสถยกลอยจากพื้นดิน เบื้องล่างเป็นถังเก็บน้ำฝนตัดสิ่งประดับฟุ่งเฟื่อย อาทิ ช่อฟ้า ใบระกา ไม่มีผนังประตูหน้าต่าง สามารถจุคนได้จำนวนประมาณ 200 กว่าคน เสาอาคารและผนังประดับด้วยเครื่องปั้นดินเผา อีสานจากบ้านด่านเกวียนวิหาร เป็นลักษณะศิลปแบบอีสานเรียบง่ายแต่เน้นประโยชน์ใช้สอย สามารถจุประชาชนได้ เป็นนับพันคน

เจดีย์บรรจุอัฐิหลวงพ่อชา
มีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอีสานกับล้านช้าง

ความสำคัญต่อชุมชน
วัดหนองป่าพงเป็นต้นแบบของวัดป่ากว่า 100 แห่งในประเทศไทย และอีกหลายแห่งในยุโรป ออสเตรเลีย และแคนาดา หลวงพ่อชาเป็นตัวอย่าง ของพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แม้จะมีศาสนิกชนมากมายแต่ก็ไม่สร้าง ความแตกแยกให้เกิดนิกาย หรือเข้าไปพัวพันกับการเมืองจนเป็นเรื่อง แตกแยก วัดเน้นความเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ฟุ่งเฟือยหรือสะสม คงความเป็นพุทธ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อย่างแท้จริง หน้าที่หลักของ พระสงฆ์ คือ เป็นที่พึ่งทางจิตใจ อบรมสั่งสอนให้ศาสนิกชนปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามหลักแห่งพระพุทธ
ศาสนา

วัดหนองป่าพงมีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ ประกอบด้วย โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถระ กุฏิพยาบาลหลวงพ่อชา กุฎิพระ กุฎิแม่ชี กุฎิหลวงพ่อชา

ประวัติหลวงพ่อชา ข้อมูลอ้างอิงจาก
http://www.kanlayanatam.com/special/Bio_LP_Cha.htm
ขออนุญาตินำมาเผยแผ่และขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง
ศูนย์เผยแผ่มรดกธรรมพระโพธิญาณเถร(หลวงพ่อชา สุภัทโท)
http://www.watnongpahpong.org/