ลุกขึ้นมาเถอะค่ะ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 29 มีนาคม 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    โปรแกรมพฤติกรรมอัตโนมัติ ที่บรรจุอยู่ในจิตใต้สำนึกที่เราจะสามารถทำได้โดยไม่ต้องคิดอีกต่อไปว่า เวลาขับรถต้องเหยียบอะไรก่อนหลัง เวลาว่ายน้ำต้องขยับกล้ามเนื้อส่วนไหน ตีแขนตีขาอย่างไรให้เป็นจังหวะที่เข้ากัน เวลาขี่จักรยานต้องทรงตัวอย่างไร อาบน้ำ แปรงฟัน ป้อนอาหารใส่ปากทำอย่างไรทุกอย่างถูกเรียนรู้บรรจุเป็นพฤติกรรมอัตโนมัติ ทั้งสิ่งที่ดีกับเราและไม่เป็นประโยชน์กับเรา แต่สนองความต้องการบางอย่างของเรา

    เคยสังเกตไหมว่า บางคนมาสายตลอด ถ้าเมื่อไรเราคาดคั้นว่ามาสายอีกไม่ได้ เราอาจพบว่าวันนั้นเขา อาจจะเล็บหลุด หรือไม่สบายจนเข้าโรงพยาบาล มาทันเวลานัดไม่ได้อยู่ดี

    บางคนมีโปรแกรมอัตโนมัติ ที่ขับรถหลง แฟนทิ้ง ทำเงินหาย หาของไม่เจอ เจอแต่เพื่อนกิน พบแต่แฟนเจ้าชู้ เลี้ยวรถผิดทางในเวลาสำคัญเสมอ ลืมของเวลามีนัดสำคัญ

    ในขณะที่บางคน ได้เพื่อนใหม่ในทุกที่ที่ไป ได้ที่จอดรถดีดีเสมอ หาแฟนดีดีได้ง่ายๆสบายๆ สนุกกับพ่อแม่และคนรอบตัว หาข้อมูลที่ต้องการเจอพอดีเสมอ ได้เรียนห้องเดียวกับเพื่อนที่ชอบ มีเพื่อนดีดีเสมอ อยู่ถูกที่ถูกเวลา ทำอะไรก็สำเร็จ มีความสุขในทุกสถานการณ์ ทำไมคนบางคนมีโปรแกรมอัตโนมัติที่อยู่ถูกที่ถูกเวลามีกล้ามเนื้อความสุขความสำเร็จแข็งแรง

    โปรแกรมอัตโนมัติ ทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาในชีวิต ทั้งในด้านที่เป็นประโยชน์กับเราจริงๆ และ ในด้านที่หวังว่าจะปกป้องเราจากการได้รับความเจ็บปวดอันตราย

    ซึ่งอาจหมายถึงการทำให้เรา ไม่ได้ออกไปมีความรัก ไม่ได้ออกไปประสบความสำเร็จ
    ปฏิเสธสิ่งดีดีในชีวิต เพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับความเจ็บปวดในอนาคต
    ซึมเศร้าอัตโนมัติ
    มองเห็นแต่ปัญหาในทุกโอกาสเป็นอัตโนมัติ
    เครียด ล้มเหลว ทำงานไม่สำเร็จ
    เลือกแฟนผิดอัตโนมัติ มีเพื่อนไม่จริงใจ
    ทำธุรกิจแล้วขาดทุน
    คนอื่นทำได้กำไร บางคนทำยังไงก็ขาดทุน
    เหมือนร่องน้ำ ที่น้ำไหลลงร่องนี้ ทำอะไรยังไงก็เกิดขึ้นซ้ำๆอยู่ตลอดเวลา

    การเลือกที่จะรับข้อมูลและตีความตามร่องความเคยชินที่เชื่อ ทำให้ไม่สามารถเห็นตามความเป็นจริงว่ามีทางออกใหม่ๆ
    เสมอสำหรับทุกเรื่อง

    การรู้เท่าทันกรอบ รู้เท่าทันโปรแกรมอัตโนมัติในตัวเอง ช่วยให้เรามีทางเลือกเพิ่มขึ้นในชีวิต
    สามารถเลือกเปลี่ยน เลือกใช้ ฟัง คิด ตอบสนองอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆในชีวิตเรา เพราะเราคู่ควร กับชีวิตที่ดีที่สุดเสมอ

    เข็มทิศ อะไรที่ทำแล้วไม่เวิร์คซ้ำๆ เปลี่ยนความเชื่อ เลือกการตอบสนองที่ดีเป็นประโยชน์กับชีวิตตัวเอง

    CR. pic FB
    ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต
    --------------------------------------
    มาเรียนเข็มทิศชีวิต Super Happiness, Wealth, NLP
    วันที่ 23-24 เมษายน ..2559
    โทร 086 745 9777,
    086 745 1777,086 745 0777,
    086-664-8870 ,087 677 2342
    Line ID : ,compassteam, lifecompass, compasssmile, compassclass
    เวลาสำคัญเปลี่ยนชีวิต
    #ครูอ้อย #เรียนเข็มทิศชีวิต #ฐิตินาถ ณพัทลุง #เข็มทิศชีวิต #ddnard#ฤทธิ์แห่งใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    บางคนก็หูหนวกเกินไป ที่จะได้ยินสิ่งที่คุณพูด คนตาบอดมากเกินไป ที่จะชื่นชมที่พวกเขามีคุณ โง่เกินกว่าที่จะเก็บคุณไว้ในชีวิตของพวกเขา ใจแคบเกินไป ที่จะเข้าใจถึงความใจกว้างของคุณ มีความคิดแคบเกินไปที่จะเข้าใจความรักที่ยิ่งใหญ่ของคุณ ไร้เดียงสาเกินไป ที่รู้ถึงปัญหาก่อนที่มันจะเกิดขึ้นตื้นเขินเกินกว่าจะหยั่งรู้ ถึงความตั้งใจที่ดีของคุณ ผ่อนคลายสบายเกินกว่า ที่จะต่อสู้เพื่อคุณ ขี้ลืมมากเกินไป ที่จะจำสิ่งดีๆที่คุณทำให้ ดื้อด้านเกินไปที่จะคิดในเชิงบวกเกี่ยวกับคุณ การดีท๊อกคนบางคนในชีวิตจะทำให้คุณมีความสุขง่ายขึ้น จำไว้ว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะเดินจากมา --> เขียนโดย คุณกมลชนก ปานใจ นักเขียนหนังสือ จงเห็นแก่ตัว
     
  4. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ยิ่งเรากลับรัก ซาบซึ้ง กับความรักของพ่อแม่ได้ลึกซึ้งแค่ไหน ความดีงามก็จะปรากฎขึ้นในชีวิตเรามากขึ้นเท่านั้น ไปฟังประสบการณ์ คลายปม เปลี่ยนชีวิต ของคุณปู กันคะ

    ก่อนอื่นขอกราบสวัสดีคุณครูอ้อยและสวัสดีเพื่อนๆพี่บ้านเข็มทิศทุกคน ปูเป็นลูกศิษย์เข็มทิศ มา3ปีเศษๆ ห่างหายคลาสไปเกือบปี ปัญหารุงรังทั้งสุขภาพ ธุรกิจมีปัญหา หนี้สินพะรุงพะรัง ไม่มีเงินเลย ปูเลยตัดสินใจกลับมาเรียนคลาสครูต่อเนื่องติดกันตั้งแต่คลาสlove compass และภาวนากับครูต่อเนื่อง
    และสิ่งที่ปูจะมาแชร์ครั้งนี้คือ อภินิหารเก้าอี้ดำของคุณครู2วันติดจากคลาสฤทธิ์แห่งใจ3 ตอนแรกปูคิดว่าเรื่องพ่อแม่ตอนนี้ก็ดีมากแล้ว รักพ่อแม่ ไปทานข้าวกับแม่ หันกลับมาดูแลพ่อแม่ดีมาก คลาสนี้ปูบอกตัวเองว่าไปเอาพลังมาทำงาน เพราะตอนนี้ปูกำลังสร้างโรงงานแปรรูปอาหารในกลุ่มsnackและบรรจุอาหารโดยร่วมกับทีมวิจัยและพัฒนาอาหาร ปูได้ทุนร่วมจากรัฐบาลหลังจากจบคลาสmaster ตอนเดือนธันวาคมค่ะ เป็น1บริษัทสุดท้ายที่เค้ารับคัดเลือกค่ะดีใจมากๆ
    และเปิดบริษัทรับเทรดขนมส่งออก คิดอย่างเดียวว่างานมันใหญ่มากและโตเร็วมากรักษาพลังให้ตั้งรับให้ไหว
    คิดในใจคงไม่ร้องไห้อะไรมากหรอกน่า!!!! นั่นคือสิ่งที่คิดไว้ แต่ป่าวเลยค่ะ ร้องไห้จนผมและเสื้อเปียกปอน สภาพคือเยินมากค่ะ
    ปูกลับไปเห็นแม่พยายามทำแท้งปูหลายครั้งมาก ปูคิดว่านั่นคือจุดกำเนิดที่ทำให้ปูตัดสินตัวเองว่าไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ต้องการ ไม่มีค่าเลยตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว ทำให้ปูใช้ชีวิตมืดบอด ปิดหูปิดตาในความรักในความสำเร็จมาทั้งชีวิตเหมือนคนที่ใจพิการ และบวกกับอยู่กับครอบครัวที่ห้ำหั่นกันแก่งแย่งกันในธุรกิจเกษตรที่ใหญ่มาก ทำให้ปูกลัวที่จะทำอะไรให้ยิ่งใหญ่และสำเร็จให้สุดๆ ทั้งที่ตัวปูก็มีเลือดนักธุรกิจในตัวอย่างเหนียวแน่น เพราะปูต้องช่วยที่บ้านทำงานตั้งแต่อายุ13 และเรียนจบตรงสายในด้านการทำแบรนด์และการตลาดทุกอย่าง
    สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ปูตั้งใจจัดการกับตัวเองอย่างหนัก หลังจากคลาสครั้งนี้ สิ่งที่ปูติดในใจมาตลอดระยะเวลา9ปีกลังจากที่คุณปู่เสียไป ปูกลับบ้านหาครอบครัวปีละครั้ง-2ครั้ง ครั้งละไม่เกิน2 วันและอยู่กับครอบครัวได้ไม่นาน ต้องหาเรื่องว่างานยุ่ง พลังขอเก้าอี้ดำวิเศษของครู2วันติดกัน หลังจากออกคลาสฤทธิ์แห่งใจครั้งนั้นมา ปูออกมาทำงานแบบไม่เคยเหนื่อยเลย คึกคักมาก สนุกมาก สนุกกับงานทุกวัน สร้างระบบหลังบ้านในการขาย อะไรที่เป็นจุดอ่อนและไม่ถนัดหาคนเก่งๆมาทำ และก็พัฒนาจุดแข็งให้ดีที่สุด เรียนภาษาทุกภาษาที่ต้องใช้ ทำงานแบบมีเป้าหมาย มั่นใจว่าเราเก่ง และตอนนี้ มีออเดอร์ขนมจากต่างประเทศมามากมายทั้งๆที่อะไรก็ไม่พร้อมเลย สติ๊กเกอร์ก็ยังไม่เสร็จเค้าก็ยังอยากจะซื้อ มีแต่คนอยากจะเข้ามาทำธุรกิจด้วย ได้คนดีๆเก่งๆมาร่วมงาน
    และวันนี้วันที่ปูเคยโกรธพ่อมาตลอด ว่าเวลาปูลำบากพ่อไม่เคยช่วย โทษเค้ามาตลอดลึกๆในใจ ปูเดินออกจากบ้านและไม่คิดจะกลับไป ตั้งแต่คุณปู่เสียไป และคุณอาที่เป็นผู้จัดการมรดกอยู่อเมริกาไม่ยอมกลับมาโอนทุกอย่างที่ควรเป็นของปู เวลานั้นผ่านมา9ปี และตลอดเวลาในใจคิดว่าทำไมพ่อไม่ทำอะไรสักอย่างละ คิดลึกๆน้อยใจมาตลอด คุยกับพ่อได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องมรดก แต่สุดท้ายแล้ววันนี้ปูได้รับมรดกและที่ดินนั้นเรียบร้อยแล้ว มูลค่าบ้าน โกดังและที่ดิน รวมมูลค่า20ล้านบาท วันนี้สิ่งที่เป็นของปูมันเป็นของปูแล้ว ไม่ว่าจะบ้านและที่ดินอื่นๆที่ปู่ยกให้ แค่เรายกความโกรธ ความน้อยใจ ความเจ็บปวดออก อยู่ดีๆคุณอาก็ยอมบินกลับมาง่ายดายมากๆ เค้าแค่บอกว่า"อยากทำให้มันจบๆ จะไม่ต้องคาราคาซัง " คำสอนครูที่บอกว่าใจเป็นใหญ่ใจเป็นประธานนั้น ใหญ่จริงๆค่ะ แค่ยกความหนักออกจากอก เลิกแค้น เลิกโทษนั่นเลิกโทษนี่ จะได้ทุกอย่างอย่างที่มันควรจะเป็นดั่งใจเสกเลยค่ะ
    เป็นกำลังใจให้ปูด้วยนะคะ ปูเชื่อว่าปูต้องรีบประสบความสำเร็จ มีใครอีกหลายคนรอปูอยู่ ขอพลังและแรงเชียร์จากเพื่อนๆพี่ทุกคนส่งใจให้ปูด้วยนะคะ
    ตอนนี้ปูกำลังสร้างโรงงาน เป็นโรงงานผลิตและรับแบ่งบรรจุขนมและแปรรูปสินค้าเกษตรตามมาตรฐานการส่งออกโดยมีทุนงานวิจัยจากอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือสนับสนุนช่วยเหลือSmeมาร่วมพัฒนาสินค้าจากotop และsme และหาสินค้ามาพัฒนาต่อไป ขนมบางอย่างปูคิดสูตรเองผลิตเองค่ะ
    และมีHubเป็นศูนย์กลาง บริษัท ไอสแน็คบ็อกซ์ไทยแลนด์ จำกัด เป็นบริษัทรับเทรดและจัดจำหน่ายขนมไทยไปทั่วโลก ในชื่อ UX-Coming Soon HTML Template เป็นเว็บ4ภาษา ไทย จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น อาหรับซึ่งรวบรวมขนมของไทย มาทำการตลาดและรวบรวมนายทุนและผู้จัดจำหน่ายในต่างประเทศมาเลือกสินค้าที่เรา ใครมีสินค้าอะไรดีๆที่เป็นของกินหมวดsnackมาคุยกันได้นะคะ ปูมีตลาดเวียดนาม จีน ทัวร์จีน ทัวร์ยุโรป ตะวันออกกลาง รองรับสินค้า ซื้อขาดและซื้อเงินสดนะค่ะ แต่ขอให้สินค้านั้นดีและได้มาตรฐานค่ะ
    ฝากติดตามการเปิดตัวจำหน่ายในไทยเร็วๆนี้ที่
    www.Facebook.com/isnackbox
    ทั้งหมดที่ปูเริ่มต้นใหม่นั้นปูไม่มีเงินทุนสักบาท มีหนี้สินอีกเพียบ เชื่ออย่างเดียวที่ครูบอกว่า เงินทองนั้นหาง่ายมาก มีเงินทุกพื้นที่แม้แต่ในอากาศ เดี๋ยวก็จะมีคนมาบอกเอง มันจริงทั้งหมดค่ะ แต่เราตัดสินใจทำมันให้สุดๆ รักคุณครูสุดหัวใจค่ะ

    --------------------------------------
    มาเรียนเข็มทิศชีวิต Super Happiness, Wealth, NLP
    วันที่ 23-24 เมษายน ..2559
    โทร 086 745 9777,
    086 745 1777,086 745 0777,
    086-664-8870 ,087 677 2342
    Line ID : ,compassteam, lifecompass, compasssmile, compassclass
    เวลาสำคัญเปลี่ยนชีวิต
    #ครูอ้อย #เรียนเข็มทิศชีวิต #ฐิตินาถ ณพัทลุง #เข็มทิศชีวิต #ddnard#ฤทธิ์แห่งใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ไปฟังอีกหนึ่งแรงบันดาลใจดีๆ จากคุณก้อย เจ้าของร้านเสื้อผ้าที่ รักษาใจในแดนบวก และ ลงมือทำความฝันให้สำเร็จ ตามหลักเข็มทิศประจำวัน เกิดสิ่งมหัศจรรย์อะไรในชีวิตบ้าง ลองไปอ่านดูค่ะ

    กราบสวัสดีครูอ้อย และเพื่อนๆชาวเข็มทิศทุกๆท่าน วันนี้มาขอแชร์เรื่องของก้อยบ้างเผื่อจะเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆชาวเข็มทิศ
    ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ เป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้า "ร้านGo2Shop&Shalala"ที่แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ก่อนมาเรียนกับครู เป็นช่วงขาลงอย่างหนักของก้อย มันสไลด์ลงมาหาทางยูเทรินกลับแทบไม่เจอ
    จนได้มาดูยูทูปย้อนหลัง เพชรรามา ตอนที่ครูอ้อยไปออกรายการ เลยตัดสินใจสมัครเรียน "เชื่อมั้ยคะว่าวันที่ตัดสินใจยกหูโทรศัพท์ไปสมัครเรียนกับครู วันนั้นจู่ๆมีลูกค้าต่างชาติมาสั่งออเดอร์ เป็นจำนวน 158,000 บาท OMG นานแสนนาน ที่ไม่เคยเห็นตัวเลขแบบนี้ (ป.ล.ช่วงขาขึ้นยอดแค่นี้ถือว่าจิ๊บๆ) ช่วงขาขึ้นนี่เคยทำปีละสี่สิบล้านนี่เบาๆค่ะ ช่วงขาลงนี่มันเข็นยังงัยมันก้อเข็นกันไม่ขึ้นเลยทีเดียว
    ก่อนเข้าคลาสครูนี่อาการสาหัสมากค่ะ เวลานอนเท้านี่ถึงกับเกร็งเลย นึกถึงแต่ยอดขาย ว่าถ้าพรุ่งนี้ขายไม่ดีอีกจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่า ค่าเด็ก ค่าสารพัดค่าใช้จ่าย
    คลาสแรกที่เรียนกับครูคือ Super wealth 3-4ตุลาคม 2558 และเรียนคลาสMaster 3 มีไปภาวนากับครูที่ปราจีนบุรี 1 ครั้ง และไปเข็มทิศภาวนาอินเดียด้วยค่ะ รวมถึงเข็มทิศภาวนามหาช
    หลังจากเริ่มเรียนกับครู เริ่มวางใจตัวเอง ทุกข์อยู่ตรงไหนให้วางตรงนั้น และเริ่มมองหาอาชีพเสริมที่จะทำ จนกระทั่งมาเจอธุรกิจออนไลน์ ตัดสินใจลองทำดู โดยขายเสื้อผ้าผ่านทามไลน์ของตัวเองก่อน ครูสอนเสมอว่าให้ทำอะไรที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะ หรือไม่ต้องใช้เงินเลย แต่ให้ใช้สมองเยอะ ก้อยก้อเลยทำแบบที่ครูสอน โดยไปขอรูปจากร้านเพื่อนๆที่รู้จักมาลงขาย เริ่มขายประมาณปลายเดือนมกราคม 2559 สรุปยอดขายเดือนแรกขายได้ หกแสนกว่า OMG นี่ทำเล่นๆนะ ก้อยเลยตัดสินใจลงมือทำแบบจริงจัง ในเดือนที่สอง (หลังจากวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2559 ได้มีโอกาสไปภาวนากับครูที่อินเดีย) ก้อยตั้งเป้าหมายว่า กลับมาในเดือนนี้ ก้อยต้องทำยอดขายออนไลน์ให้ถึงหนึ่งล้านบาทให้ได้ แล้วจะมาแชร์ในบ้านเข็มทิศ ให้เพื่อนๆบัส 4 ได้ภูมิใจ
    ครูขาาา ฤทธิ์แห่งใจ ทุกเรื่องที่ครูพร่ำสั่งสอนมันเวิร์คทุกครั้งจริงๆค่ะ มาวันนี้ก้อยสรุปยอดขายทั้งเดือนของเดือนมีนาคม เฉพาะยอดขายออนไลน์คือ 1,125,880 บาทค่ะครู ปลื้มปลิ่มมากค่ะ
    กราบขอบพระคุณครูที่ทำให้ก้อยมีกำลังใจที่จะทำงานที่ตัวเองรักต่อไป มีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟังทร้านครูบนรถทุกเช้า และได้มีโอกาสไปภาวนากับครู เป้าหมายต่อไปของก้อยคือจะต้องเป็นเจ้าภาพหลักเข็มทิศภาวนาตามที่ตั้งใจไว้ให้ได้ อย่างแน่นอน
    ชิตังเม ชิตังเม ชิตังเม
    สำหรับเพื่อนๆท่านใดสนใจอยากขายเสื้อผ้าออนไลน์ ก้อยช่วยแนะนำได้นะคะ ทำเป็นอาชีพเสริมได้ ก้อยบริการจัดส่งทางไปรษณีย์ถึงลูกค้าให้ ในนามของเพื่อนๆได้เลยค่ะ สนใจแอดไลน์ก้อยมาได้ค่ะ ID:Koyshalala ยินดีมากๆเลยค่ะ
    หรือแอดไลน์มาอุดหนุนเสื้อผ้าสวยๆกันได้นะคะ หรือตามIG:plusmoreclothing กันได้ค่ะ
    รักครูอ้อยที่สุดเลยค่ะ

    --------------------------------------
    มาเรียนเข็มทิศชีวิต Super Happiness, Wealth, NLP
    วันที่ 23-24 เมษายน ..2559
    โทร 086 745 9777,
    086 745 1777,086 745 0777,
    086-664-8870 ,087 677 2342
    Line ID : ,compassteam, lifecompass, compasssmile, compassclass
    เวลาสำคัญเปลี่ยนชีวิต
    #ครูอ้อย #เรียนเข็มทิศชีวิต #ฐิตินาถ ณพัทลุง #เข็มทิศชีวิต #ddnard#ฤทธิ์แห่งใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ละครใบ้เหยียบดวงจันทร์................
    .
    หากตอนนี้คุณกำลังท้อกับบททดสอบในชีวิต
    วันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆของคนกลุ่มหนึ่ง ที่เริ่มต้นจากศูนย์
    และมีความฝันอยากเป็นนักแสดงละครใบ้อันดับ 1
    ของประเทศมาฝากกันครับ
    .
    .
    หากการเป็นนักแสดงหนังหรือละครที่ไม่มีใครรู้จัก
    แล้วก้าวขึ้นมา....อยู่แถวหน้าของประเทศนั้น
    ดูจะเป็นเรื่องยากพอสมควร

    แต่การเป็นนักแสดงละใบ้.....ที่เริ่มต้นจากศูนย์
    แล้วมาอยู่แถวหน้าของประเทศ...กลับเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก
    เพราะประเทศไทยไม่ได้นิยมละครใบ้
    มากเท่าหนังหรือละครนั่นเอง
    .
    .
    เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เด็กหนุ่มทั้ง 3 คน
    เลือกทางเดินชีวิตหลังจาก ไปเรียนละครใบ้กับ
    ครูอั๋น (ไพฑูรย์ ไหลสกุล) ผู้ถือว่าเป็นตำนาน
    ละครใบ้ของประเทศไทยตอนนี้
    พวกเค้าเรียนระดับปริญญาตรีเหมือนเด็กอื่นๆทั่วไป
    แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือพวกเค้า ไม่เคยสมัครงานที่ไหน
    แต่เลือกที่จะเป็นนักแสดงละครใบ้

    อาชีพที่สมัยนั้นยังมองไม่เห็น
    ว่าจะสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างไร
    .
    ช่วงแรกของการเดินทางสู่ความฝัน
    พวกเค้าเริ่มต้นจากการแสดงเปิดหมวกตามถนน
    ซึ่งเป็นช่วงบททดสอบที่วัดความอดทน
    ของคนๆหนึ่งได้ดีทีเดียว
    .
    เพราะต้องสู้กับความร้อนและความอาย
    ซึ่งอย่างหลังดูจะเป็นอุปสรรคมากกว่า
    ทั้งความประหม่าและคำพูดที่ทำร้ายจิตใจของผู้ชม
    มันคงเป็นการแสดงที่คุณเองคงไม่อยากจดจำ
    พร้อมกับจำนวนเงินในหมวก
    .
    ที่บางครั้งยังไม่พอค่าเดินทาง
    .
    แม้จะเจอเรื่องราวเดิมๆ แต่พวกเค้าก็ไม่เคยท้อ
    หนึ่งในกลุ่มเคยเล่าแบบติดตลกให้ผมฟังว่า

    แม่ของเค้าเคยถามว่า
    "ทำไมไม่คิดจะไปสมัครงานและ
    หางานทำเหมือนคนอื่นล่ะลูก"
    เค้าตอบแม่อย่างอารมณ์ดีว่า
    "ตอนนี้ก็กำลังทำงานอยู่ครับแม่"

    ซึ่งช่วงเวลานั้นผมว่ามันคงเป็นช่วงที่ตัดสินใจลำบาก
    เพราะหนทางดูเหมือนไม่ได้ง่ายสำหรับชีวิต
    .
    แต่พวกเค้าก็ยังเลือกเดินต่อ
    .
    .
    สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือแม้จะเจออุปสรรค
    แต่พวกเค้าก็ยังฝึกฝนการแสดงอย่างต่อเนื่อง
    ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
    ด้วยเงินทุนจากรายได้ที่ไม่มากเป็นค่าเดินทางและที่พัก
    เพียงความฝันเดียวคือ.....นักแสดงละครใบ้
    .
    ที่ประสบความสำเร็จ
    .
    หลังจากนั้นพวกเค้าเริ่มหาแนวทางเป็นของตัวเอง
    เพื่อสร้างแนวทางที่พวกเค้าเชื่อว่า
    จะทำให้ผู้ชมเข้าถึงละครใบ้
    ที่ง่ายขึ้นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

    เริ่มเขียนบทและฝึกซ้อมโดยยอมทิ้ง
    รายได้บางส่วนที่มีอยู่เพียงน้อยนิด
    แต่ต้องยอมเพื่อเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง
    .
    บางสิ่งที่พวกเค้าเชื่อว่า
    มันคือความหมายในชีวิต
    .
    แม้จะมีละครใบ้ในแบบของตัวเอง และแนวทางที่ชัดเจน
    แต่สมัยนั้นก็ยังไม่มีเวทีสำหรับพวกเค้า
    เพราะเวทีละครใบ้เมืองไทยมีไว้สำหรับ....
    .
    ละครใบ้จากต่างประเทศ...เท่านั้น
    .
    ไม่ว่าคุณจะตั้งใจทำอะไรสักอย่าง
    ชีวิต....มักจะมีบททดสอบคุณอยู่เสมอ
    และบททดสอบส่วนใหญ่ก็มักจะ
    ชอบทำให้เราล้มเลิกและเลือกทางเดินอื่น

    ทางที่มองเห็นอนาคต....ได้ง่ายกว่า
    แต่จะไกล....จากที่คุณเคยฝัน
    .
    นอกจากความมุ่งมั่น.........
    "ความอดทน"คือ....ยาสำคัญ
    ที่ควรมีติดตัว.....เมื่ออยากทำตามฝันของตัวเอง
    .
    เมื่อไม่มีเวทีให้เล่น
    พวกเค้าตัดสินใจทำสิ่งสุดท้ายที่สามารถทำได้
    นั่นก็คือ.........
    .
    .
    สร้างเวทีให้ตัวเองครับ
    .

    พวกเค้าใช้เงินที่มีทั้งหมด
    เปิดการแสดงของตนเอง
    และขายบัตรเข้าชม
    ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
    ที่คณะละครใบ้คนไทย
    เปิดการแสดงแล้วขายบัตร
    .
    การแสดงที่พวกเค้าเชื่อว่า
    มันเป็นตัวตน......ของพวกเค้าที่สุด
    และเป็นการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิต
    .
    .
    ผลที่ได้ก็คือ...ขาดทุนย่อยยับ
    .
    .
    แต่......อิ่มเอมด้วยความสุข
    .
    ความสุข.....จากเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นในช่วงที่แสดง
    .
    ความสุข.....จากเสียงปรบมือและชื่นชมหลังการแสดงจบ
    .
    และความสุข.....จากความลำบากที่ผ่านอะไรมามากมาย
    .
    หากคุณเห็นใบหน้าของพวกเค้าในวันนั้น
    คุณจะรู้ว่าวันนั้น พวกเค้าคือ.....
    .
    คนทำธุรกิจขาดทุน......
    .
    ที่มีความสุขที่สุดในโลก
    .
    .
    ความสุขที่ทำให้พวกเค้ารู้ว่า........ที่ผ่านมาตลอดเวลา
    พวกเค้าเลือกใช้ชีวิตเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    .
    แม้จะเจออุปสรรคมากมาย
    แต่พวกเค้าก็ฝ่าฟันจนกลายมาเป็น
    คณะละครใบ้ "เบบี้ไมม์ (Baby Mime)"
    คณะละครใบ้อันดับ 1 ของประเทศนั่นเองครับ
    .
    .
    ทุกวันนี้ นอกจากเราเห็นเค้าตามจอโทรทัศน์
    งานการกุศลหรืองานเทศกาลอื่นๆแล้ว
    พวกเค้ายังบินไปสร้างชื่อเสียงของประเทศไทย
    ด้วยการไปแสดงที่ต่างประเทศ
    ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะทั่วโลก
    .
    และทุกครั้งผู้ชมก็อิ่มเอมไปด้วยความสุข......
    ที่มากขึ้นกว่าเดิม
    .
    .
    ..........................................................................
    และในวันที่ 30 เมษายนนี้ พวกเค้าและผองเพื่อน
    จะมีการแสดงการกุศลเล็กๆ ที่มีชื่องานว่า
    .
    "เพื่อนกันกับวันมหัศจรรย์ของทองเกลือ"
    .
    ที่ไม่ได้มีสื่อประชาสัมพันธ์มากมาย
    ณ สถาบันปรีดีย์ ทองหล่อ เวลา 15.00-18.00 น.
    เพื่อช่วยระดมทุนค่าผ่าตัดของคุณทองเกลือ
    หนึ่งในสมาชิกคณะละครใบ้ "เบบี้ไมม์ (Baby Mime)"
    .
    ที่ป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง ใช้ผ่าตัดและรักษาตัว
    ซึ่งใช้เงินค่ารักษามากพอสมควร
    .
    ถึงแม้จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากมาย
    แต่พวกเค้าก็ยังเป็นเพียงกลุ่มคนเล็กๆ
    ที่ต่อสู้ด้วยตัวเองเช่นเดิม
    .
    โดยสามารถร่วมทำบุญซื้อบัตรได้ที่

    call center :0814479238
    line:Ning_Piyawan
    .
    .

    ลองไปดูการแสดงของคนที่เคยขาดทุน...แล้วมีความสุขกัน
    ผมเชื่อว่าการแสดงของพวกเค้า
    .
    .
    จะทำให้คุณมีความสุขแน่นอน
    .
    .
    .
    .
    "รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์"
    .
    .
    .
    .
    ปล.หากคุณไม่สามารถไปชมได้ ช่วยแชร์บทความนี้
    เพื่อทำบุญกับร่วมคุณทองเกลือ ซึ่งถือว่าได้รับผลบุญ
    ในครั้งนี้ร่วมกันครับ

    เครดิต เฟส รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์
     
  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    มีเพื่อนท่านหนึ่งเล่าให้ฟังถึงเรื่องในที่ทำงาน
    เขาบอกว่ามีเพื่อนร่วมงานรุ่นใหญ่ท่านหนึ่ง
    เป็นคนที่อารมณ์ฉุนเฉียวตลอดเวลา ใครทัก
    ก็ไม่ยอมทักตอบ ทำตัวเครียด อมทุกข์ไว้ตลอด
    .
    หลายปีต่อมาขณะที่บริษัทจัดงานเลี้ยง
    รุ่นใหญ่ท่านนี้เดินยิ้มมาทักเพื่อนของผมก่อน
    แต่เนื่องจากเขาย้ายไปทำงานที่สำนักงานอื่น
    จึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมรุ่นใหญ่ท่านนี้
    ถึงเปลี่ยนเป็นคนอารมณ์ดียิ้มง่ายทักทายคนอื่นก่อน
    .
    เพื่อนท่านอื่นจึงเล่าให้เขาฟังว่าหลายปีที่ผ่านมา
    รุ่นใหญ่ป่วยไม่สบายเข้าออกโรงพยาบาลหลายหน
    เป็นโรคที่เกี่ยวกับความเครียดและความกดดัน
    บางทีลางานไปเป็นสัปดาห์นอนโรงพยาบาล
    พอกลับมาทำงานเลยกลายเป็นคนละคน
    .
    บางทีไม่ต้องรอให้ป่วยก่อนก็ได้
    เปลี่ยนทัศนคติในการมองชีวิตเสียก่อนที่จะสายเกินไป
    เริ่มกันเลย อย่ารีรอ
    .
    #ชานชาลาความสำเร็จ
    https://www.facebook.com/SuccessfulPlatform
     
  8. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เรากำลังเบื่ออย่างที่สุด
    อาจเป็นเพราะว่า
    เราไม่ได้ให้สเปซกับตัวเอง
    เพื่อตื่นเต้น ค้นหา และผ่อนคลาย
    เราจมตัวเองกับสิ่งที่ต้องทำ
    และเราใส่ใจกับคนอื่น
    มากกว่าความโล่ง ของลมหายใจตัวเอง
    เราเลยรู้สึก ไม่รู้จะไปไหนต่อ
    เหมือนไม่มีทิศทาง
    เฉยๆ กับวันพรุ่งนี้
    ที่มีแต่เรื่องแสนเหนื่อยหน่ายเดิมๆ
    ความจริง..เราแค่
    เคลียร์พื้นที่ให้ตัวเองมากขึ้น
    ออกมาจากคนเดิมๆ ที่เจอบ่อยๆ
    และเพิ่มความตื่นเต้นให้กับคนใหม่ๆ
    ที่เจอไม่กี่ครั้ง
    ผ่อนบางสิ่งให้มีระยะมากขึ้น
    นั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไร
    หรือทำอะไรยากๆ ที่อยากทำมานาน
    ความเบื่ออยู่กับเราไม่นาน
    เรารับความเบื่อนานไม่ได้
    พื้นที่ระหว่างเรากับสิ่งต่างๆ
    จะคลายขึ้น กว้างขึ้น โล่งขึ้น
    วิ่งเล่นได้มากขึ้น
    สิ่งที่อยากระบายออก
    จะทะลักออกมา
    ชะล้างความเบื่อ
    ให้หายไปเอง

    เครดิตAey Supicha
     
  10. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    5 ข้อแนะนำสำหรับคนไม่มีเป้าหมายชีวิต

    เป้าหมายชีวิตทำให้คุณไม่อยู่กับที่
    และทำให้คุณมีชีวิตที่ดูคุ้มค่า

    แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ซักที

    วันนี้แวนมีข้อแนะนำ
    ที่เกิดจากข้อสังเกตของแวนเองค่ะ

    1. “ไม่จำเป็นต้องเห็นเป้าหมายชัด”

    ถึงแม้จะมีเป้าหมายชีวิต แต่เชื่อเถอะว่า ..
    ไม่มีใครเห็นภาพชัดเจน
    ยืนยาวไปถึงบั้นปลายชีวิตขนาดนั้น

    คุณอาจบอกว่าเป้าหมายจะไปเชียงใหม่
    ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าจะไปจุดไหนบ้าง
    แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณไม่หลงไปสุราษฯ

    ดังนั้น อย่ากลัวที่จะปักหมุดเป้าหมายชีวิต
    ถึงแม้ตอนนี้มันจะยังรางเลือน

    2. “คุณเปลี่ยนเป้าหมายได้ .. ไม่ผิด”

    ถึงแม้ตอนนี้เป้าหมายคุณคือเชียงใหม่
    แต่หากอีก 10 ปีคุณบอกว่าเปลี่ยนใจ
    จะไปขอนแก่นแทน ... คุณก็ไม่ผิดแต่อย่างใด

    ถึงไม่รู้ว่าบั้นปลายชีวิตต้องการอะไร
    แต่อย่างน้อยเป้าหมาย 2-3 ปีนี้ ก็ควรมี

    3. “เมื่อถูกถามถึงเป้าหมายชีวิต ..
    คนที่ตอบอะไรก็ได้ซักอย่าง
    จะดูฉลาดและดูมี ‘อะไร’ ให้น่าค้นหา
    มากกว่าคนที่ตอบว่า ไม่รู้”

    ดังนั้น บอกมาเถอะค่ะ .. เป้าหมายในปีนี้ก็ยังดี

    4. “คุณจะมีชีวิตมากกว่าหายใจไปวันๆ”

    คุณจะเลือกมีชีวิตแค่ เกิด .. เติบโต .. เรียนหนังสือ ..
    ทำงานหาเงิน .. แต่งงาน .. มีลูก .. แก่ .. ตาย ก็ได้
    เพียงแต่ศักยภาพของคุณดันมีมากกว่านั้น

    การมีเป้าหมายจะทำให้ชีวิตคุณไม่หยุดนิ่ง
    มีไฟ และไม่ให้คุณ “หมกมุ่น" อยู่กับ ..
    เรื่องที่ไม่เป็นสาระกับชีวิต

    5. “หากคุณตอบไม่ได้ว่า
    เป้าหมายชีวิตคืออะไร
    ทั้งโลกจะเข้ามาบงการชีวิตคุณ”

    คุณจะเป็นเหมือนใบไม้ที่ลอยไปตามกระแสน้ำ
    ที่พร้อมจะถูกซัดลอยถูกโยกไปอยู่ที่ไหนก็ได้

    คุณจะใช้ชีวิตแบบเบลอๆ งงๆ
    สุดท้ายคุณจะหาตัวเองไม่เจอ



    และอย่าได้หวังว่าใครจะมาบอกคุณได้
    เป้าหมายชีวิตเป็นของใครของมัน
    ถ้าคุณตอบตัวเองไม่ได้
    ก็ไม่มีใครนั่งทางในแล้วบอกคุณได้หรอกค่ะ

    =============

    LINE เป็นอีกช่องทางในการรับข้อความ
    แอด LINE มาได้เลยที่ ID '@pichawee'
    หรือ คลิก LINE Add Friend QR code
     
  11. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    คนคนนึงเรียนรู้ที่จะมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขแบบก้าวกระโดดด้วยการมองในมุมที่ถูกต้อง แม้สามีที่ดีในหลายๆด้านจะทำเรื่องเล็กน้อยไม่ถูกใจบ้าง วางของไม่เรียบร้อย พูดอะไรไม่เข้าหูตามประสา แต่เพราะเธอรู้ว่าเป้าหมายในชีวิตคือมีความสุข ไม่ใช่บ้านเรี่ยมเนี๊ยบ หรือคนที่พูดเอาใจเธอ เธอจึงมองแต่สิ่งดีๆที่สามีทำ พอรู้ชัดว่าเป้าหมายคืออะไร มองถูกที่ ความสุขก็อยู่ตรงหน้าเลยทันที

    คนมีความสุขเพราะรู้จักมองมุมที่มีความสุข คนมีความทุกข์เพราะมองเห็นแต่สิ่งที่ทำให้ทุกข์ ถามตัวเราให้ชัดว่าต้องการมีชีวิตยังไง แล้วนึกถึง คิด ทำพูดให้ตรงตามเป้าหมาย อยากมีความสุขก็คิด ทำ พูดนึกถึง เรื่องที่มีความสุข เป็นประโยชน์ให้พลังกับคนอื่นและตัวเอง ตั้งเป้าหมายให้แต่ละวันเราได้ทำให้คนบางคนมีรอยยิ้มมีความหวังมีความสุข จากรอยยิ้มของเรา จากสิ่งที่เราทำ โลกตอบแทนเราเท่าที่เราสร้างความปีติยินดีในชีวิตผู้คนและตนเอง

    CR. pic FB
    ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต
    --------------------------------------
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    /||\ /||\ /||\
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    คุณเป็นเหมือน ผู้คนที่คุณล้อมรอบตัวคุณ จงเลือกอยู่ท่ามกลางผู้คน หรือสถานที่ที่ทำให้คุณดีขึ้น สงบสุขขึ้น เคยให้สัมภาษณ์ไปว่าถ้ามีคนรอบตัวที่ทำให้หงุดหงิด ขี้เม้า ขี้นินทา จิกกัด ไร้เหตุผล คิดแต่เรื่องลบๆ ก็ขอให้ตัดพวกเขาออกไปแล้วย้ายตัวเองไปอยู่กลุ่มใหม่ๆ ที่ดีกว่า และถ้ายังไม่เจอการอยู่คนเดียวสักพักก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร อย่างน้อยก็ได้ทบทวนความคิดของตน แล้วคนสัมภาษณ์ก็ตอบว่าแล้วจะเหลือใครเหรอคะ. ถ้าการอยู่ท่ามกลางคนแบบไหนทำให้เราเป็นคนแบบนั้น ดังนั้นเรื่องสำคัญคงไม่ใช่จะเหลือคนคบกับเราน้อยไปไหม แต่เราจะเลือกคบคนดีๆได้อย่างไรต่างหาก เพราะคนรอบข้างเรามีผลต่อชีวิตเราเหลือเกิน
    อยากเป็นคนแบบไหนก็อยู่ใกล้คนประเภทนั้น อยากประสบความสำเร็จก็พาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้คนที่ประสบความสำเร็จ ถ้าคุณมัวแต่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่โศกเศร้า คอยโทษโชคชะตา พูดถึงเรื่องแย่ๆในอดีต หรือพวกคนที่ไม่เคยโทษตัวเองและไม่มีความพยายาม คอยบ่น ด่าทอชีวิต น้อยใจโชคชะตา ไม่นานคุณเองก็จะกลายเป็นพวกเดียวกับเขาโดยไม่รู้ตัว แล้วในที่สุดคุณจะรู้สึกติดขัดในชีวิต แต่คิดไม่ออกว่าทำไม ดังนั้นขอให้มีสติให้มากๆ คุมตัวเองให้อยู่ รู้ใจตัวเอง รู้ว่าเราต้องการชีวิตแบบไหน เราก็เลือกสร้างชีวิตของเราเอง --> เขียนโดย คุณกมลชนก ปานใจ นักเขียนหนังสือจงเห็นแก่ตัว
     
  16. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    การเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ทำได้ไม่ยาก ทุกอย่างเริ่มที่ใจ ไปฟังเรื่องราวน่ารักของ Watchara Singkaeo
    จากห้องเรียนเข็มทิศชีวิตค่ะ
    " วันนี้สองกระจกแล้วได้เจอผมคนใหม่"
    ห้องเรียนเข็มทิศชีวิต เมื่อ วันที่ 17-18 ที่ผ่านมาเป็นคลาสแรกในชีวิตที่กล้าตัดสินใจไปเข้าร่วมเองคนเดียวด้วยความคิดที่ว่า " ไม่มีใครรู้จักกู จะทำอะไรก็ได้ 55" (เวลาคุยกับตัวเองจะหยาบคายนิดหน่อยนะคร้าบ อิอิ) หลังจากจบคอร์ส เรารู้สึกกล้าหาญขึ้น มั้นใจในตัวเองขึ้น เข้าใจตัวเองขึ้น
    ผม ไม่ได้กอดพ่อกับแม่มานานมากครับ อาจจะตั้งแต่จบ ป. 3 มั้ง (เพราะคิดว่าเราโตแล้ว ทำแบบนั้นมันน่าอาย *ปัญญาอ่อนชิบเป๋งเลย คิดได้เนอะ*) ผมทำตัวห่างเหินกับท่านกันมาเรื่อยๆ ถึงจะอยู่บ้านเดียวกัน
    เจอกันทุกวันก็ไม่เคยบอกรักกันเลย ในขณะที่จำได้ว่าตอนเด็กๆพ่อกับแม่ชอบถามว่า "รักพ่อกับแม่เท่าไหน" เราก็จะตอบว่ารักพ่อกับแม่เท่านี้เลย พร้อมกับกางแขนออกกว้างแล้วก็กอดเค้าทั้งสองคน ครูอ้อยทำให้ผมจำได้ชัดเจนว่าเรากำลังลืมไปว่าเราเคยเป็นที่รัก และรักคนอื่นได้มากขนาดไหน มันชัดเจนจนผมได้กลิ่นตัวแม่
    จำได้ว่าตอนที่กอดแม่ แม่ใส่เสื้อสีอะไร ลายอะไร แม่ยิ้มแบบไหน พ่อเคยอุ่มเราไว้ด้วยแขนข้างนึง แล้วก็จูงมือพี่สาวไว้อีกข้างนึง เรารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยขนาดไหนเวลาอยู่กับเค้า คืนนั้นหลังจากจบคลาส ผมได้กลาบเท้า พ่อกับแม่ ได้กอด ได้ขอโทษ ( เขินนิดหน่อยครับ แต่รู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้เจอเนื้อคู่เลย 55 )
    เมื่อก่อนเวลาพ่อกับแม่เถียงกัน ทะเลาะกันผมจะไม่ชอบเลย อยากหนีไปไกลๆ เวลาเค้าบ่นเราเราก็ด่าเค้าในใจ แต่วันนี้มันเปลี่ยนไปสิ้นเชิงครับ ผมกลับไม่รู้สึกโกรธ ไม่ต่อต้าน กลับรู้สึกเข้าใจ และรู้ทันที่เวลาเค้าบ่น เค้าสอนว่าเค้ารักเรามากเค้าถึงพูด เค้าถึงบ่น และรู้ว่าตัวเองเป็นคนใหม่แล้ว ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนในคลาส และขอบคุณครูอ้อยครับ
    **หมายเหตุ** รูปที่โพสนี่ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องลบทิ้งแระ ยิ้มก็ไม่สวยเหงือกก็เยอะเชียว 55 เวลาถ่ายรูปเลยได้แต่ยิ้มเก๊กไม่ให้เห็นฟัน ปั้นหน้าจนเมื่อย แต่ตอนถ่ายกับครูอ้อย ไอ้นี่
    โครตหล่อเลยว่ะ 55555 (ถ้าตลกก็หัวเราะเลยนะผมยินดีที่คุณยิ้มเพราะผม)
    ขอบคุณครับ
    Watchara Singkaeo

    --------------------------------------
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ต้นเหตุของการรักไม่เป็น รักไม่สุด เหมือนมีน้ำแข็งในหัวใจมาจากอะไร และหลอมละลายมันอย่างไร ไปฟัง
    ประสบการณ์สุดซาบซึ้งของ คุณ เค นักธุรกิจหญิงคนเก่ง ของจังหวัดเชียงใหม่ กับการพลิกชีวิตครั้งสำคัญในห้องเรียนเข็มทิศชีวิตค่ะ

    "ห้องเรียนเข็มทิศชีวิต วันนี้เป็นอีกวันที่ทรงพลังที่สุด วิเศษที่สุด

    แค่เพียงวันแรก คุณครูได้ละลายหัวใจน้ำแข็ง อบอุ่นหัวใจและมีความสุขที่สุด เคยดูแต่ใน FROZEN แต่วันนี้ได้รับความรู้สึกเองราวกับเอลซ่าเลยค่ะ มันคือดีแบบที่สุด ฟินที่สุด ความรักถูกเติมเต็มในหัวใจอีกครั้ง
    ก่อนเข้าเรียนก็คิดว่าเราคงไม่มีปมอะไรอีกแล้วแหละ โอ้แค่เพียงชั่วโมงแรก ร้องไห้แบบว่าพังมาก ร้องเหมือนจะตาย แต่หลังจากพบปมที่หนาแน่นนี้แล้วครูพาออกทรานส์ ราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้งค่ะ
    เคได้กลับไปเห็น เด็กน้อยวัย 5 ขวบ แต่งชุดนักเรียน ถักเปีย 2 ข้างกำลังไปโรงเรียน นั่งมอเตอร์ไซค์กับแม่และพี่สาว โดยที่น้องเคนั่งหน้ารถ

    พี่สาวนั่งซ้อนท้ายไปที่โรงเรียนทุกวัน โดยทุกเช้า แม่จะบ่นพ่อให้ฟัง พ่อไม่ดี พ่อไม่รับผิดชอบ พ่อไม่ช่วยเลี้ยงลูกมีแต่แม่ พ่อแกมันแย่ พ่อแกไม่ใส่ใจ....จนกระทั่งจบด้วยประโยคที่พ่อแกมันเลว หนูน้อยคนนั้นฟังทุกวัน จนในใจก็เกลียดพ่อตนเอง เกลียดผู้ชาย แต่ในขณะเดียวกันก็สับสนในความรู้สึกนั้น

    เราได้เห็นเลยว่า เราก็ทำแบบเดียวกันเหมือนแม่ พอมีครอบครัว ก็พร่ำบ่นต่อว่าสามี ทั้งในใจบ้าง พูดต่อหน้าเค้าบ้างให้เค้าเสียใจ บางครั้งสามีทำให้รู้สึกไม่พอใจแค่นิดเดียวแต่โกรธราวกับว่าเค้าทำผิดแบบสมควรตาย ทั้งๆที่บางครั้งเค้าก็ไม่ได้ผิดอะไร เอาความโกรธทั้งหมดมาลงที่เค้า เราได้เห็นเลยว่าความเชื่อที่ฝังในตัวเด็กคนนั้นส่งผลมหาศาลในด้านลบต่อการดำเนินชีวิตคู่ของเรา ต่อไปนี้ไม่เอาแล้วค่ะ ทำตามที่ครูสอน รักษาใจในแดนบวก คิดถึงความดีของคนรัก ตั้งเป้าหมายชัด

    วันที่ 2 เรื่มต้นการเห็นความสำเร็จอย่างสง่างาม ฟินที่สุด สนุกสุดเหวี่ยง วันนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่หลายตลบ รับรู้ถึงอณูเซลล์ พลังงานที่ยิ่งใหญ่ วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดอีกวันหนึ่ง ที่ได้เรียนรู้ว่าเราจัดอันดับความสำคัญในชีวิตไม่ถูกต้อง เพราะปกติจะคิดถึงความสุขของลูกคนในครอบครัว จนแทบลืมความสุขของตนเอง เพราะโดนสอนมาว่า อะไรต้องให้ลูกก่อน แท้จริงแล้ว ความสุขสามารถมีได้ทุกขณะและพร้อมกันได้ ครูสอนให้เราเต็มให้เราอิ่มและคนรอบเราจะมีความสุข หนูตั้งหลักใหม่ค่ะกลับไปทำตามที่คุณครูสอน การได้เข้าห้องเรียนเข็มทิศเป็นความสุขของหนู

    หลังจากออกจากห้องเรียนเข็มทิศชีวิตเกิดสิ่งดีๆขึ้นมากมายค่ะ ยอดขายเพิ่มขึ้นมาก ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพเข็มทิศภาวนา ได้คอนโดมา 1 หลัง บ้านเข็มทิศวิลเลจ 1 หลัง พร้อมรถเบนซ์คันใหม่ 1 คัน เมื่อใจเราดีเราได้งานใหญ่ๆหลายงานเข้ามาค่ะ
    ต่อไปนี้เข้าเรียนทุกเดือนค่ะ รักครูอ้อยที่สุด ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่เติมเต็มความรัก อบอุ่นทรงพลังที่สุดค่ะ"

    2-3/4/2016 คลาสฤทธิ์แห่งใจ
    ด้วยรัก จาก เค ธัญยธรณ์ วัฒน์ชนพัฒน์
    ----------------------------------
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ไปฟังประสบการณ์ การกระเทาะเปลือกตัวเอง ผ่าตัดลึกในใจตัวเอง จนพบสิ่งที่ดีที่สุดของ คุณอาร์ต เจ้าของบริษัทออร์กาไนเซอร์คนเก่ง กันคะ

    กราบสวัสดีครูอ้อยที่รักยิ่ง และสวัสดีพี่ๆ น้องๆ เข็มทิศทุกท่านค่ะ
    พี่อาร์ตค่ะ เป็นเจ้าของบริษัทออร์กาไนเซอร์ ทำเกี่ยวกับ event marketing สร้าง Brand Image ให้กับลูกค้าและเป็นนักเรียนเข็มทิศในยุคแถวหกโลกมืดค่ะ
    ......
    ก่อนมาเรียนกับครู ไม่มีความสุขในชีวิต รักแม่มากแต่ทะเลาะกับแม่ทุกวัน กลับมาบ้านพูดจาไม่ดีกับแม่ แล้วก็มานอนร้องไห้ที่ตัวเองพูดจาไม่ดีกับแม่ ทำร้ายจิตใจแม่ โกรธตัวเองแล้วก็พาลโกรธแม่ วนเวียนเป็นวงจรซ้ำซาก ไม่เคยดีกับที่บ้าน แต่ออกไปยอมเป็นพรมเช็ดเท้าให้กับคนอื่นนอกบ้าน เพราะต้องการความรัก อยากให้เขายอมรับ อยากให้เขารักและยอมเป็นเพื่อนด้วย แต่สุดท้ายมิตรภาพและความรักจอมปลอมเหล่านั้น ไม่เคยมีอยู่จริง
    ........
    หลังจากมาเรียนกับครูติดต่อกันเป็นระยะเวลาเกือบสามปี ชีวิตมีความสุขมากขึ้น เพื่อนไม่ดี ผู้ชายไม่ดี หายเงียบจากชีวิตราวกับคนพวกนั้น ไม่เคยมีอยู่บนโลก ทำให้พี่ได้รู้ขึ้นมาอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตของเราต้องพยายามอย่าห่างห้องเรียนนาน อย่าห่างการภาวนานาน เพราะร่องน้ำเดิมๆ แบบที่ครูเคยชี้ให้เราเห็น มันจะกลับมาหาเราตลอดเวลาเมื่อสบโอกาส
    .........
    พี่มัวยุ่งอยู่กับโลกข้างนอกจนลืมโลกข้างในของตัวเอง ไม่ได้เข้าเรียนมากว่า 6 เดือน ไม่ได้เข้าร่วมภาวนาทั้งเข็มทิศภาวนาและเข็มทิศภาวนาอินเดีย ทั้งที่ลึกๆ ในใจคิดถึงห้องเรียนเสมอ แต่เมื่อมีสิ่งเร้าตัวอื่นเข้ามาในชีวิต เรากลับลืมคืนความสุขให้ตัวเอง มัวแต่ไปคืนความสุขให้คนอื่นจนหมดเวลา
    .........
    ร่องน้ำเดิมๆ เริ่มเชิญชวนกวักมือเรียกอยู่ข้างหน้า ทำงานเหนื่อยก็อยากจะอาละวาดกับที่บ้าน เหล้า บุหรี่ ผับบาร์ดาหน้ามาเปิด
    แพคเกจต้อนรับ ความอ่อนแอ ความคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อ โทษโน่นโทษนี่เริ่มกริ๊งกร๊างเข้ามาหา และที่น่ากลัวคือ ความกลัวที่เริ่มจะเข้ามาเกาะกินหัวใจอีกครั้ง กลัวว่าจะไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ยอมรับ กลัวล้มเหลว กลัวโดนปฏิเสธ กลัวจนไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ทั้งๆ ที่ลึกๆ รู้ว่า ตัวเองมีความสามารถมากมายอยู่ภายใน
    ......
    และก่อนที่พี่จะได้รับโปรฟรี โปรแรงแซงทุกโปรที่เคยมีมาในครั้งนี้ ด้วยบารมีของครูที่ปกปักรักษาลูกศิษย์ทุกคน เลือดของเด็กเข็มทิศมันยังมีติดอยู่ในตัว พี่ตัดสินใจเลยว่า ไม่ว่าจะอย่างไร พี่จะต้องรอด ต้องรอดจากร่องน้ำเดิมๆ ที่เราไม่เคยต้องการ ร่องน้ำเดิมที่บงการให้เราทุกข์จนไม่นึกว่าจะมีความสุขหลงเหลืออยู่อีก...
    ......
    พี่รีบพาตัวเองเข้าห้องเรียนคลาสล่าสุดที่ผ่านมา และได้ร่วมงานบุญเข็มทิศภาวนาฟรีในวันรุ่งขึ้น พี่รับรู้ได้เลยว่า เป็นโชคดีของพี่จริงๆ ที่มีห้องเรียนเข็มทิศ พี่ได้มีครู มีพี่ มีน้อง มีครอบครัวของพี่อยู่ที่นี่ ทุกอ้อมกอด ทุกรอยยิ้มของทุกคน มันดับความมืดที่เกือบมืดมิดในหัวใจ คืนความสดใสของต้นความสุขในใจกลับมาอีกครั้ง
    ห้องเรียนเข็มทิศเป็นห้องเรียนเดียวที่ทำให้เราสังเคราะห์ความสุขได้ด้วยตนเอง
    .....
    เราอาจจะมีภารกิจในโลกข้างนอกที่ต้องไปทำ แต่อย่าลืมกลับมาเยียวยา รดน้ำต้นไม้ความสุขในหัวใจของเรา เหมือนที่ครูบอกเสมอว่า เราให้ในสิ่งที่เราไม่มีไม่ได้ ถ้าเราไม่มีความสุข ไม่มีความกล้าหาญ ไม่มีความมั่นคงทางใจ เราจะออกไปมอบสิ่งเหล่านั้นให้คนที่เรารักได้อย่างไร
    ......
    กราบขอบพระคุณครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง
    ด้วยความรักทั้งหมดที่มี อาร์ตโชคดีเหลือเกินที่มีครูในชีวิต
    กราบขอบพระคุณครูที่มอบเข็มทิศไว้แนบใจอาร์ตเสมอค่ะ
    และขอบพระคุณพี่น้องเข็มทิศทุกท่าน
    ที่เรามีกันและกันตลอดมา
    รักและขอบคุณจากหัวใจค่ะ
    **** เก่ง สวย หรู ดูดี มีคอนเซปท์ สนใจ inbox ได้เลยค่ะ 555

    ------------------------------
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    คุณกล้า ศิริวัฒนธรรม และ คุณนารี นีสันเทียะ สองสามีภรรยาใจบุญ ได้รับอุปการะผู้ป่วยชราที่ไร้ญาตินานกว่า 10 ปี สิ่งที่สองสามีภรรยาคู่นี้ทำอาจสร้างความประหลาดใจกับคนที่รับรู้ หลายๆ คนก็อดที่จะประทับใจและชื่นชมในความมีจิตใจที่ดีของทั้งคู่ไม่ได้ คุณกล้าเคยมีอาชีพทำไก่สดส่งขายตามตลาด ส่วนคุณนารีเคยมีอาชีพดูแลผู้ป่วยและคนชราที่โรงพยาบาล เธอเห็นว่าผู้ป่วยและคนชราบางคนถูกญาติทอดทิ้งไม่กลับมาเยี่ยมและมารับกลับบ้าน ด้วยความสงสาร และผูกพัน ที่เคยดูแลกันมา จึงทำเรื่องขอโรงพยาบาลนำผู้ป่วยกลับมาดูแลที่บ้าน แม้จะดูแลผู้ป่วยบางท่านจนเสียชีวิต ก็ไม่มีญาติมาติดต่อ ตอนนี้สองสามีภรรยาจึงต้องมาทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มตัว เงินทองที่เคยมีเก็บก็หมดลงเพราะต้องนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในค่าดูแลผู้ป่วยชรา ถึงแม้จะมีคนบริจาคช่วยมาบ้างแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ขอชื่นชมในความดีและความเสียสละของสามีภรรยาคู่นี้มากๆ

    #รู้ดีคิดดี #สามีภรรยาใจบุญ

    ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก > http://www.thaijobsgov.com/jobs=53377
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...