แม่รักลูกไม่เท่ากัน ทำไงดี

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย กายในกาย, 15 กรกฎาคม 2007.

  1. ยอดยาหยี

    ยอดยาหยี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +2,697
    อย่าคิดมากสิ คิดในทางบวกเข้าไว้ค่ะ แม่ต้องรักลูกทุกคนอยู่แล้วค่ะ
     
  2. phimphisut

    phimphisut สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +13

    .....พ่อแม่ ก็น่าจะเป็นห่วงคนที่ลำบากมากกว่า.....แต่ครอบครัวของเรา
    ...เราเป็นคนเล็กสุด ลำบากสุด เพราะต้องออกจากงานมาดูแลพ่อแม่ ที่เจ็บป่วย ไม่มีเงินเดือน ทรัพย์สมบัติของครอบครัวเค้าก็ยกให้พี่ๆๆ แถม...ก็ไม่ส่งให้เรียนหนังสือ..(ต้องส่งตัวเองเรียน) ....ทุกวันนี้ ดูแลพ่อแม่ไป ทุกข์ใจไป เพราะพ่อแม่ ถามหาแต่คนที่เขารัก (เป็นนายพันฯแล้ว) ..ส่วนเรา เวลาจะไปทำงาน ก็โดนขัดขวาง นี่ก็หลายปีแล้ว ยังไม่มีใครเป็นห่วงพ่อแม่ และอยากมาดูแลแทน.........ช้ำใจจริงๆ
     
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เห็นใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนะครับ ..

    การทำดีนั้นไม่ใช่ของง่าย..เพราะต้องอาศัยศรัทธาและปัญญาประกอบ ..คุณพิม มีจิตใจที่เป็นไปกับการเสียสละ มีความกตัญญูน่าสรรเสริญยิ่งนัก..

    การที่คุณพิมพ์ต้องมาพบเจอเรื่องราวเช่นนี้ก็ด้วยอำนาจจัดสรรค์ของกรรมไม่ดีที่ตนเองเคยทำมาแล้ว...

    คุณพิมพ์คงจะเกิดในตระกูลที่พ่อแม่ให้ความสำคัญกับ"ลูกชาย"มากกว่าลูกสาวพ่อแม่จึงไม่ส่งเสียสนับสนุนให้ได้เรียน ทั้งไม่ให้เงินไว้เลี้ยงตนในภายหน้า เำพราะคิดว่ากินอยู่กับบ้านแล้วไม่จำต้องได้อะไรๆเพิ่ม แม้ทรัพย์ที่มีก็ยกให้พี่ชายไปหมด อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่พ่อแม่อาจคุ้นเคย มาก่อน เรื่องนี้คุณพิมพ์พึงปลงลงเถิดว่า เพราะตนเองก็เคยประพฤติลำเอียงมาในลักษณะนี้เช่นกันในอดีตทั้งเพราะความตระหนี่ ไม่ให้ทานในคราวที่ควรให้ อกุศลวิบากนั้นจึงมาส่งผลให้ไม่ได้รับทรัพย์จากพ่อแม่ เช่นนี้..การวางใจไม่คิดอยากได้ทรัพย์ไรๆจากพ่อแม่ ย่อมทำให้ใจตนเองสงบระงับไม่กระสับกระส่าย ด้วยความโลภ ที่นำทุกข์โทษมาให้ในภายหน้า..

    ส่วนเรื่องที่ต้องดิ้นรนขวนขวายด้วยตนเองนั้น เป็นเรื่องที่คนเก่งและมีปัญญาเท่านั้นที่ทำได้คุณพิมอย่าได้นึกน้อยใจเลย ควรแต่จะภูมิใจในความสามารถของตน..ยังความมั่นใจให้เกิดขึ้นว่า แม้ปัญหาจะมี เราก็ไม่หวั่นไหวย่อท้อ จะแก้ไขให้ลุล่วงไปได้ด้วยดีแน่นอน..

    คุณพิม พึงทราบว่าบุญอันยอดเยี่ยมที่ดูแลพ่อแม่นี้นั้นย่อมมีผลที่เลิศ ที่จะช่วยปกปักรักษาสนับสนุนคุณพิมได้อย่างยิ่งในภายหน้า..

    การที่พ่อแม่ไม่ใส่ใจคุณพิมผู้อยู่ดูแลใกล้ชิดก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเห็นกันจนชิน ไม่น่าตื่นเต้นหรือพิเศษอะไร..ส่วนคนที่อยู่ห่างไกล นานๆมาเจอกันที ย่อมกลายเป็นคนพิเศษยิ่งกว่า จึงเมื่อเขาไม่มาก็พร่ำบ่นถึงด้วยความต้องการจะพบเจอ ..

    คุณพิม อย่าเพิ่งท้อในการทำดีในบัดนี้เลย แต่ก็ไม่ลืมที่จะขวนขวายในการหางานอาชีพที่เลี้ยงตนเองได้ด้วย..พึงจัดเวลาใ้ห้เหมาะสม เพราะเมื่อพ่อแม่ไม่มีทรัพย์ไว้ให้ ต่อไปเมื่อถึงยามจำเป็นหรือแก่เถ้า ใครจะเลี้ยงเราเล่าครับ...

    แม้ในยามนี้ก็เถิด หากพ่อแม่หมดทรัพย์และพี่ชายไม่จุนเจือ คุณพิมจะดูแลพ่อแม่ได้อย่างไร..ลองพิจารณาหาลู่ทางไว้ก่อนสายเกินไปเพราะอายุมากไม่มีใครรับเข้าทำงานนะครับ..

    ขอให้พ้นทุกข์ไวๆครับและเป็นกำลังใจให้นะครับ..
     
  4. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมต้องปกป้องตลอด ว่าอะไรไม่ได้ กลับมาก็ขับรถออกไป ไม่บอกสักคำว่าไปไหน แต่คนโดนด่า ต้องรับรู้ เป็นที่ระบายอารมณ์คือเรา ทำไมกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...