ไหว้ครู(เสาร์๕)พุทธาภิเษกแผ่นชนวนมวลสารพระครูบาเจ้าศรีวิชัย รุ่น มหาบารมีโพธิสัตว์หริภุญชัย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย โพธิมัณฑลัง, 11 กันยายน 2008.

  1. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    [​IMG]


    รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัยจะเป็นแบบครูบาเจ้านั่งภาวนาตกลูกประคำ แตกต่างจากรูปหล่อรุ่นก่อนๆ ที่เคยจัดสร้างนับว่าเป็นครั้งแรกแห่งการสถาปนารูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย รุ่น มหาบารมีโพธิสัตว์หริภุญชัย





    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class="tborder alt2" id=profilepic_cell>[​IMG]</TD><TD class=profilepic_adjacent id=username_box vAlign=top width="100%">





    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ประการสำคัญ บรรจุวัตถุมหามงคลล้ำค่าคือ พระเกศาของครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งหาได้ยากยิ่ง สืบทอด
    จากลูกศิษย์ใกล้ชิดครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้แก่ ครูบาเจ้าคำปัน ธัมเสน และ พ่ออุ้ยยวง ปัญญาวงศ์ และอีกส่วนหนึ่งได้รับมอบจากครูบาเจ้าชัยยะวงศา เมื่อพระอาจารย์ประกอบบุญ ยังเป็นสามเณรอยู่ศึกษารับใช้
    ครูบาเจ้าชัยยะวงศา


    นำรูปพระเกศามาให้ชมบารมีเพียงบางส่วนนะครับ<!-- / message --><!-- edit note -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2008
  2. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    เชิญร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีวัดพระพุทธบาทหริภุญชัยห้วยทราย

    วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤษจิกายน 2551 และร่วมทอดกฐินสามัคคี 4 วัด

    1 วัดพระพุทธบาทหริภุญชัยห้วยทรายขาว


    2 วัดทุ่งปูน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สร้างพระประธาน-ศาลา

    3 วัดไม้สลี๋ อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน สร้างพระประธาน-เจดีย์

    4 วัดจำขี้มด จ.ลำพูน สร้างวิหาร

    ร่วมสร้างมหากุศลครั้งนี้ได้ที่ พระประกอบบุญ สิริญาโณ

    กุฏิแขกแก้ว วัดมหาวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพุน 51000

    0840458365 0862308845 0813879172
    <!-- / message -->
     
  3. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเนื้อทองคำหนักประมาณไม่เกิน 2.5 บาทครับ

    ร้านจือฮะจองอีกหนึ่งองค์ เนื้อเงินอีก 2 องค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2008
  4. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    ชาวลำพูนร่วมใจสร้างฝายต้นน้ำเทิดพระเกียรติในหลวง
    [​IMG] <DD>พสกนิกรชาวลำพูนทุกหมู่เหล่า ร่วมใจสร้างฝายต้นน้ำถวายในหลวง เทิดพระเกียรติฉลองปี มหามงคล ทรงเจริญพระชนมายุ 80 พรรษา

    <DD>เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2550 ที่วัดพระบาทหริภุญชัย ห้วยทรายขาว อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายพัลลภ สุวรรณมาลิก ประธานคณะทำงานร่วมการปฏิบัติงานพัฒนาหมู่บ้านชนบท ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และประธานวุฒิอาสาธนาคารสมอง ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นประธานเปิดการรณรงค์สร้างฝายต้นน้ำ ตามรอยพระราชดำริ ฉลองปีมหามงคล ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยมีนายสุรชัย จงรักษ์ นายอำเภอเมืองลำพูน กล่าวรายงาน การจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างฝายต้นน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำพูน ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดลำพูน องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น และประชาชน จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส มหามงคล ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 60 และร่วมเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของจังหวัดลำพูน ที่จะได้น้อมนำพระราชดำริมาปฏิบัติเป็นรูปธรรม และขยายผลดำเนินการในท้องถิ่นอื่นต่อไป โครงการสร้างฝายต้นน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นวิธีแก้ปัญหา เพื่อฟื้นฟูสภาพผืนดินผืนป่าที่ถูกบุกรุกทำลาย แห้งแล้งเสื่อมโทรม ให้กลับฟื้นเป็นผืนดินผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงค้นคิดขึ้นและได้ทรงทดลอง ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อปี 2527 ได้รับผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวไทยและต่างชาติ ทั้งนี้เนื่องจากทรงห่วงใยในสภาพชีวิตความเป็นอยู่อันลำบากยากแค้นของพสกนิกร และเกษตรกรในชนบท ที่ได้รับผลกระทบจากการที่พื้นที่ดินและป่าไม้ของประเทศถูกทำลายอย่างมากจนเหลือพื้นที่ป่าลดน้อยลงทุกขณะ เกิดผลกระทบที่เป็นภัยต่อระบบนิเวศน์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ทั้งนี้ การสร้างฝายต้นน้ำลำธาร หรือฝายแม้ว ทำให้ชะลอการไหลของน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่และสามารถกักเก็บน้ำได้ สร้างระบบนิเวศที่ดีให้เกิดขึ้น
    </DD>
     
  5. ปาทะครูบา

    ปาทะครูบา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +6
    ถือว่าเป็นตำนานแห่งการสืบสานปณิธาณแห่งองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยที่แท้จริงครับ
     
  6. ปาทะครูบา

    ปาทะครูบา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +6
    ครูบาศรีวิชัย ได้ถือกำเนิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 9 (เหนือ) เดือนมิถุนายน 2421 ณ บ้านปาง ตำบลเม่ตืน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน บิดาชื่อ พ่อควาย มารดาชื่อ แม่อุสา
    ในคืนที่ท่านที่ถือกำเนิดได้เกิดเหตุอัศจรรย์ คือฝนได้ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ฟ้าแลบฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหว สาเหตุดังกล่าวบิดามารดาจึงตั้งชื่อว่า อ้ายฟ้าร้องหรืออินตาเฟือน (อินทร์ไหว) ท่านเติบโตท่ามกลางความยากจน แต่มีอุปนิสัยเมตตากรุณาต่อสัตว์ทั้งปวงละเว้นการเบียดเบียน ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตั้งแต่เด็กและมีกริยามารยาทเรียบร้อย วาจาไพเราะสำรวมในการพูด ท่านบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านปาง เมื่ออายุ 18 ปี มีครูบาขัตติยะ วัดบ้านปางเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อเป็นสามเณร ท่านตั้งใจศึกษาเล่าเรียนสิกขาบท พระวินัย อักขระ ภาษาลานนา(ภาษาคำเมือง) สามเณรฟ้าร้องตั้งใจศึกษาด้วยความเป็นผู้มีปฎิภาณเฉลียวฉลาดมีความจำดี จึงสามารถเล่าเรียนสำเร็จรอบรู้เข้าใจในวิชาการต่างๆได้เป็นอย่างดี
    อุปสมบท
    เมื่ออายุสามเณรฟ้าร้องได้ 21 ปี ครูบาขัติยะได้จัดให้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีครูบาสุมโน วัดบ้านโฮ่งหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ ฉายา สิริวิชยฺโย เมื่อเป็นพระภิกษุท่านพยายามศึกษาและให้ความสนใจในการปฏิบัติธรรม จากการศึกษาเล่าเรียนจากครูบาขัติยะ แล้วท่านได้กราบลาท่านอาจารย์ไปศึกาต่อกับท่านครูบาอุปปาละ วัดพระธาตุดอยแต อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน พระศรีวิชัยไปกราบเป็นศิษย์ครูบาอุปปาละแล้วได้ตั้งใจศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฎฐานสมถะกัมมัฎฐาน 40 กอง คัมภีร์วิสุทธิมรรค เมื่อศึกษาจนเข้าใจได้กลับมาวัดบ้านปางไม่นาน ครูบาขัติยะได้อาพาธและมรณภาพลง ท่านครูบาศรีวิชัยจึงได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดต่อ ด้วยความที่ท่านครูบาชอบความสงบวิเวกท่านจึงได้ย้ายจากวัดบ้านปางเดิม ขึ้นไปสร้างวัดขึ้นใหม่ บนดอยบ้านปาง (วัดบ้านปางในปัจจุบัน) ด้วยการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดไม่ย่อท้อ ความเป็นผู้มักน้อย สันโดษ ความมีเมตตากรุณาเต็มเปี่ยม ศรัทธาชาวบ้านจึงบังเกิดจิตศรัทธาในครูบาเจ้าศรีวิชัยตั้งแต่ บัดนั้นเป็นต้นมา
    จากการมีผู้เคารพนับถือครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นจำนวนมาก ได้นำมาลูกหลานมาขอบวชเพื่อศึกษาธรรมะกับครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาเจ้าจึงทำหนังสือแจ้งกับเจ้าคณะอำเภอขออนุญาตแต่ไม่มีการตอบกลับ ครูบาเจ้าศรีวิชัยจึงได้ตัดสินใจบวชให้กุลบุตรเหล่านั้น วัดบ้านปางจึงเป็นศูนย์รวมพระเณรฆราวาสมากมาย
    ทางเจ้าคณะอำเภอจึงตั้งข้อหา โดยกล่าวหาว่าครูบาเจ้าศรีวิชัยมีความผิดต้องอธิกรณ์สาเหตุมาจากการที่ครูบาเจ้าบวชพระภิกษุสามเณรไม่ถูกต้องเพราะครูบาไม่ใช่พระอุปัชฌาย์ และใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวท่านครูบาไปที่วัดเจ้าคณะอำเภอลี้และส่งตัวท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยให้เจ้าคณะจังหวัดลำพูนในสมัยนั้น คือ พระครูญาณมงคล (ครูบาธรรมปัญญา) ได้สอบปากคำครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ตอบว่าได้ส่วหนังสือขออนุญาตไปแล้วแต่เงียบหาย และเวลาพรรษาใกล้เข้ามาทุกที เมื่อเจ้าคณะจังหวัดพระครูญาณมงคลพิจารณาเห็นว่า ท่านครูบาศรีวิชัยมีเจตนาบริสุทธิ์จึงให้ครูบาเจ้าพ้นข้อกล่าวหา ครูบาเจ้าจึงเดินทางกลับวัดบ้านปาง ส่วนชาวบ้านชาวเมืองต่างยิ่งพากันเลื่อมใสศรัทธาตัวครูบาเจ้าศรีวิชัยมากยิ่งขึ้น
    ต้องอธิกรณ์ ครั้ง 2
    คณะสงฆ์เจ้าคณะอำเภอ มีคำสั่งด่วนให้เจ้าอาวาสทุกวัดเข้าประชุมมีเจ้าอาวาสหลายวัดไม่ไปร่วมประชุม รวมทั้งครูบาเจ้าศรีวิชัยด้วย เจ้าคณะอำเภอเลยหาความใส่โทษตั้งข้อกล่าวหาว่า ครูบาเจ้าศรีวิชัยไม่สนใจต่อการปกครองของคณะสงฆ์และได้คุมตัวครูบาศรีวิชัยนำส่งเจ้าคณะจังหวัดลำพูน เพื่อสอบสวนปากคำครูบาเจ้า ท่านได้แก้ข้ออธิกรณ์ดังนี้ว่า ในเมื่อเจ้าคณะอำเภอยังไม่ตอบรับหนังสือแต่งตั้งความเป็นเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์ของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย เพราะฉะนั้นท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย จึงไม่อยู่ในฐานะเจ้าอาวาสที่สมบูรณ์ จึงไม่ไปร่วมประชุม เมื่อแก้ข้อกล่าวหา ท่านพระครูญาณมงคล ท่านเป็นพระที่มีความเมตตารุณา เห็นว่าครูบาเจ้าศรีวิชัยไม่มีความผิด ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยจึงพ้นความผิดเป็นครั้งที่ 2 พร้อมทั้งแต่งตั้งท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์อย่างถูกต้อง
    ต้องอธิกรณ์ครั้งที่ 3
    เจ้าคณะอำเภอและเจ้าหน้าที่บางกลุ่ม คอยจะหาเรื่องครูบาเจ้าศรีวิชัยอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีคำสั่งจากคณะสงฆ์ให้พระเถระในอำเภอลี้ไปร่วมประชุมฟังนโยบายพระราชบัญญัติคณะสงฆ์เพิ่มเติม แต่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยไม่ได้ไปร่วมประชุม เนื่องด้วยสาเหตุเพราะท่านครูบาทุ่มเทเวลาให้กับการบำเพ็ญเพียรภาวนาอีกทั้งกิจการในวัดมากมายต้องคอยเทศนาอบรม บรรดาพระภิกษุสามเณรและบรรดาประชาชนจำนวนมากอีกทั้งวัดบ้านปางอยู่ห่างจากอำเภอลี้ถึง 40 กิโลเมตร การเดินทางก็ลำบากทุรกันดารจึงไม่ได้ไปร่วมประชุม เจ้าคณะอำเภอจึงได้โอกาสตั้งข้อหากล่าวโทษครูเจ้าทำผิดต่อการปกครองและราชการ ทางจังหวัดได้ส่งตำรวจาควบคุมครูบาเจ้าศรีวิชัยมาเมืองลำพูน เจ้าคณะจังหวัดลำพูนพระญาณมงคล (ฟู ขัดแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดองค์ใหม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและมีมติปลดครูบาเจ้าศรีวิชัยออกจากตำแหน่ง ทุกตำแหน่งและกักขังครูบาเจ้าศรีวิชัยไว้ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย 1 ปี ครูบาเจ้าศรีวิชัยจึงพ้นโทษกลับสู่วัดบ้านปางตามเดิม
    ต้องอธิกรณ์ครั้งที่ 4
    เจ้าคณะอำเภอลี้ ในสมัยนั้นมีหนังสือมาถึงให้ครูบาเจ้าศรีวิชัย สำรวจอารามจดบัญชีรายชื่อพระภิกษุสามเณรหัววัดต่างๆในตำบลบ้านปาง ส่งให้เจ้าคณะอำเภอลี้ตามกำหนด เมื่อได้รับหมายแจ้งดังกล่าว ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ตอบว่าท่านถูกปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและจ้าคณะหมวด (ตำบล) แล้ว ไม่มีอำนาจที่จะทำได้อคำสั่งแรกผ่านไป คำสั่งที่สอง คราวพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี เจ้าคณะอำเภอลี้สั่งให้ทุกวัดทุกตำบลในความปกครองจัดทำซุ้มประตู จุดประทีป โคมไฟฉลองสมโภช เมื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยได้รับทราบเรื่องแล้ว พิจารณาเห็นว่าวัดบ้านปางเป็นอรัญวาสี วัดป่าวัดดอยไม่สามารถเข้าใจในการตกแต่ง จึงเปลี่ยนจากการตกแต่งจะฉลองสมโภชให้พระเถระในวัดประพฤติธรรมรักษาศีลเจิรญภาวนา สวดมนต์ทุกค่ำเช้า ถวายพระพรแด่พระประมุขของชาติแทน พอพระครูเจ้าคณะอำเภอและนายอำเภอทราบ มีความไม่พอใจจึงตั้งข้อกล่าวหาส่งไปถึงจังหวัด ทางเจ้าคณะจังหวัด (พระครูญาณมงคล) จึงมีหนังสือขับไล่ครูบาเจ้าศรีวิชัยออกจากเขตจังหวัดลำพูนภายใน 15 วัน และห้ามวัดในจังหวัดลำพูนทุกวัดรับครูบาเจ้าศรีวิชัยให้ที่อยู่อาศัยในวัดนั้นโดยเด็ดขาด
    หลังจากรับคำประกาศ ครูบาเจ้าศรีวิชัยไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว เพราะท่านไม่ได้ทำผิดพระธรรมวินัย พุทธบัญญัติข้อใด ท่านจึงไม่ปฏิบัติคำสั่งอันไม่เป็นธรรมทางจังหวัดจึงมีหนังสือเชิญตัวครูบาเจ้าเข้าเมืองลำพูน ครูบาเจ้าเดินทางเข้าเมืองลำพูนพร้อมพระภิกษุ สามเณร ศรัทธาประชาชนเป็นจำนวน 1 พันกว่าคน และถูกควบคุมตัวที่วัดพระธาตุหริภุญชัย ประชาชนพอทราบจึงพากันมากราบไหว้ครูบาเจ้ามากขึ้นทุกวัน ทางจังหวัดลำพูนจึงย้ายครูบาเจ้าไปควบคุมกักขัง ณ วัดศรีดอนชัย เป็นเวลา 3 เดือนและส่งตัวครูบาเจ้าศรีวิชัยมายังกรุงเทพฯพร้อมทั้งข้อกล่าวหาที่คณะสงฆ์จังหวัดลำพูนตั้งให้ 8 ข้อคือ
    1. พระครีวิชัย ตั้งตัวเป็นอุปัชฌาย์เถื่อนทำการบวชพระภิกษุสามเณรจำนวนมาก โดยไม่ขออนุญาตตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครอง ร.ศ.121
    2. พระศรีวิชัยไม่ยอมอยู่ใต้บังคับบัญชาของเจ้าคณะแขวงลี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายหัวเมืองลี้ ร่วมกับคณะแขวงเรียกประชุมเจ้าอธิการวัดต่างๆ เพื่อชี้แจงพระราชบัญญัติลักษณะการปกครอง ร.ศ.121 ปรากฏว่าเจ้าอธิการทุกวัดไปหมดยกเว้นแต่พระศรีวิชัย วัดบ้านปางไม่ไปร่วมประชุม
    3. เมื่อครั้งพิธีบรมราชาภิเษกพระบามสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เจ้าคณะแขวงลี้ได้ประกาศให้ทุกวัดตามประทีปโคมไฟ ทำซุ้มประตู ตีฆ้อง กลองเป็นการฉลองสมโภช วัดบ้านปางของพระศรีวิชัยไม่ปฏิบัติตาม
    4.เจ้าคณะแขวงลี้คือพระมหารัตนากร ไม่สามารถปกครองวัดในเขตอำเภอลี้ได้เพราะพระศรีวิชัยตั้งตัวเป็นผู้วิเศษชักชวนวัดต่างๆให้ขัดขืนต่อพระราชบัญญัคิ ร.ศ.121 ถึงแม้ว่าขอร้องต่อพระศรีวิชัยแล้ว แต่พระศรีวิชัยไม่ยอมปฏิบัติตาม
    5. เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองให้เจ้าคณะแขวงลี้สำรวจจำนวนพระภิกษุสามเณรในวัดเขตอำเภอลี้ทุกวัด แต่วัดบ้านปางของพระศรีวิชัยไม่ยอมปฏิบัติตาม
    6. เจ้าคณะแขวงลี้นัดประชุมเจ้าอธิการวัดในเขตอำเภอลี้ เจ้าอธิการหลายวัดไม่ยอมประชุมโดยอ้างเอาอย่างพระศรีวิชัย
    7. พระศรีวิชัยตั้งตัวเป็นผู้วิเศษ เป็นเทวดามาเกิด มีดาบฝักทองคำ(ดาบสะหรีกัญชัย) ตกลงจากฟ้าสู่แท่นบูชา
    8. เดินท่ามกลางฝนแต่ไม่เปียก เดินสูงกว่าพื้นดิน 1 ศอกและเดินบน ผิวน้ำได้อันเป็นเหตุให้คนลุ่มหลงเป็นจำนวนมาก
    เมื่อท่านครูบาเจ้าถูกนำตัวเข้ากรุงเทพฯได้พักอยู่ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาชำระคดีของท่านครูบาเจ้า มีกรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ พระญาณวราภรณ์ พระธรรมไตรโลกาจารย์ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาคดีร่วมกัน มีความเห็นว่าพระครูบาเจ้าศรีวิชัยไม่มีความผิด ได้นำเรื่องขึ้นกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชเจ้าสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงมีพระวินิจฉัย ดังนี้
    ข้อ 1. พระศรีวิชัยตั้งตัวเป็นอุปัชฌาชย์เอาเอง บวชกุลบุตรไม่มีใบอนุญาต มีความผิดต่อคณะโดยแท้ เจ้าคณะลงโทษกักตัวพระศรีวิชัยไว้ได้อยู่ ส่วนกำหนด 2 ปีนั้นแรงเกินไป คดีเช่นนี้ตามธรรมเนียมที่เป็นมาเราเป็นผู้สั่งลงโทษเอง คดีนี้ ผู้แทนเจ้าคณะใหญ่หนเหนือสั่งตามลำพังตนเองก็ไม่ผิดดอก แต่ถ้าได้ขอคำสั่งของเราการลงโทษจัดเป็นไปตามความพอดี
    ข้อ 2 พระศรีวิชัยไม่อยู่ในความบังคับบัญชาของเจ้าคณะแขวงนั้น มีความผิดเฉพาะข้อที่สมควร เจ้าคณะแขวงจะลงโทษควรยกข้อนั้นขึ้นกล่าว
    ข้อ 3 เจ้าหน้าที่ ฝ่ายอาณาจักรเรียกประชุมสงฆ์เพื่อตักเตือนให้รู้ ระเบียบการคณะสงฆ์และทางราชการ คณะสงฆ์หมู่หนึ่งไม่ไปและไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้อง พระศรีวิชัยไม่ไปจะยกเอาเป็นความผิดมิได้
    ข้อ 4 ทางราชการป่าวร้องให้วัดทั้งหลายตามประทีป ตีฆ้อง กลองเป็นกิจอันจะพึงทำด้วยความมีแก่ใจ ทางราชการป่าวร้องก็เพียงนัดให้ทำ ถ้าเป็นการบังคับแล้ว ผิดทางไม่เป็นพระเกียรติยศพระศรีวิชัยไม่ทำตามไม่ควรยกเป็นความผิด
    ข้อ 5 วัดทั้งหลายขัดขืนต่อการปกครองของเจ้าคณะแขวง เจ้าคณะยกเป็นความผิดของพระศรีวิชัยนั้นหาถูกไม่ ชอบแต่จะเอาผิดแก่เจ้าอาวาสทั้งหลายนั่นเอง
    ข้อกล่าวหาทั้ง 5 ดูเป็นไปในต่างคราวกัน เจ้าคณะจักเอาโทษควรจะยกขึ้นว่าในคราวนั้นๆมาประมวลยกขึ้นว่าและลงโทษในคราวเดียวกันอย่างนี้ไม่เป็นหลักฐาน คนทั้งกลายจึงเห็นว่าข่มเหงพระศรีวิชัย อันที่จริงดูความผิดทางนั้นไม่ถนัดอันที่จริง ดูเหมือนระแวงตามที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายอาณาจักรว่า เป็นผีบุญจักยกความผิดทางนั้นไม่ถนัดจึงหยิบยกทางอื่นมาประมวลกันเป็นสาเหตุลงดทษเพื่อจะได้เอาตัวมากักไว้ เท่านั้นเอง พระศรีวิชัยมีคนติดตามมากอย่างนี้ไม่ได้ทำการอันชัดว่าเป็นความผิดทางอาวุธแผ่นดินหรือทางพระศาสนา ยังเอาโทษไม่ได้หรือถูกลงโทษไม่บังควร นอกจากผิดยุติธรรม คนทั้งหลายผู้สงสารย้อมเป็นความดีของเธอและนับถือเธอมากขึ้น ครั้งโบราณกาลเช่นนี้อันเป็นรุนแรงถึงเป็นเหตุตั้งศาสนาขึ้นใหม่ก็ได้เคยมีมาแล้ว
    ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 คณะกรรมการวินิจฉัยว่า พระศรีวิชัยไม่มีความผิด เจ้าคณะลงโทษเกินไปแต่ปล่องให้กลับไปตามลำพัง เข้ากับคณะไม่ได้จักเตร็ดแตร่ ควรจัดส่งขึ้นไป ถ้าควรเป็นเจ้าสำนักก็ควรให้เป็นไปตามเดิม ถ้าไม่ควรก็จงให้มีสังกัด อยู่ในวัดอื่นที่พระศรีวิชัยจะพึงเลือกได้ตามใจ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์จงสั่งตามนี้
    เมื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยพ้นความผิด ท่านครูบาได้นำดอกไม้เงิน ดอกไม้ทอง เครื่องสัการะเข้าไปกราบสมเด็จพระสังฆราชเจ้าแล้วทูลลากลับ หลังจากที่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยได้กลับมาวัดพระธาตุหริภุญชัย ความศรัทธาของมหาชนเพิ่มมากขึ้น ครูบาเจ้าได้บูรณะองค์พระธาตุหริภุญชัยและพระวิหารหลวงจนสำเร็จแล้วเดินทางกลับวัดบ้านปาง มีบรรดาภิกษุ สามเณร ศรัทธาประชาชนมากมายหลั่งไหลพากันมากราบครูบาเจ้าเพิ่มขึ้น ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ก่อสร้างพระธาตุวัดบ้านปางจนสำเร็จ
    ความเชื่อมั่น ความเคารพนับถือในตัวครูบาเจ้าศรีวิชัยมีมากมาย ชื่อเสียงได้ขจรขจายไปทั่วมณฑลพายัพ ตลอดจนชาวป่าชาวเขาเผ่าต่างๆให้ความนับถือครูบาเจ้าศรีวิชัย จากนั้นครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เป็นประธานในการ่อสร้างบูรณะ ศานวัตถุโบราณสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นจำนวนมาก ตามคำอาราธนานิมนต์จากผู้ที่ศรัทธาครูบาเจ้าขอท่านไปนั่งหนัก ผลงานด้านพัฒนาก่อสร้างของครูบาเจ้าศรีวิชัยมีอยู่มากมาย หลายจังหวัดทั่วภาคเหนือ
    ผลงานชิ้นสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การสร้างถนนไปยังบนดอยสุเทพ การสร้างทางขึ้นดอยสุเทพในสมัยนั้น รัฐบาลเคยคิดที่จะสร้างแต่หางบประมาณไม่ได้ เนื่องจากต้อองใช้เงินมหาศาล
    ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เป็นประธานและมีครูบาเถิ้ม วัดแสนฝาง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มานั่งหนักเป็นประธานร่วมอักท่านหนึ่ง การสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ เริ่มในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 เวลา 10.00 น. ประชาชนเมื่อทราบข่าวต่างทยอยกันมาช่วยครูบาเจ้าศรีวิชัยสร้างทางครั้งนี้
    ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในการสร้างทาง คือ ครูบาอภิชัยขาวปี ได้นำชาวบ้านชาวเมืองลำพูนและชาวเขานับพันคนมาร่วมงาน พร้อมด้วยพระภิกษุ สามเณร ประชาชนจากจังหวัดต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก ก็ด้วยบารมีธรรมของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย การตัดถนนขึ้นดอยสุเทพมีระยะทางความยาวทั้งสิ้น 11 กิโลเมตร ได้สำเร็จลงเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2478 แล้วจัดให้มีการฉลองสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ โดยที่ไม่ต้องเสียงบประมาณของรัฐบาลแม้แต่บาทเดียว
    ต้องอธิกรณ์ ครั้งที่ 5
    ตลอดระยะเวลาที่สร้างทาง มีศรัทธานำบุตรหลานไปขอบรรพชาและอุปสมบท ซึ่งครูบาเจ้าศรีวิชัยไม่ขัดศรัทธาและได้บวชให้ครูบาเข้าอภิชัยขาวปี ให้กลับมานุ่งผ้าเหลืองอีกครั้งหนึ่ง ทางคณะสงฆ์จึงกล่าวโทษต่อครูบาเจ้าว่า ครูบาเจ้าไม่อยู่ในความปกครองของคณะสงฆ์ บวชพระบวชเณรโดยไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชณาย์และ เรื่องการตัดไม้ทำลายป่าในการสร้างทาง เมื่อกิริยาของเจ้าคณะพระครูในเชียงใหม่แสดงต่อครูบาศรีวิชัย จึงทำให้เจ้าอาวาสวัด 60 วัดและพระสงฆ์ สามเณรในจังหวัดเชียงใหม่ไปเรียกร้องขอความเป็นธรรม เมื่อเจ้าคณะ พระครูไม่ยอมฟังเสียงเรียกร้องทัดทาน เจ้าอาวาสทั้งหมดและพระภิกษุ สามเณร ทั้งหลายจึงพร้อมใจกันขอลาออกจากการปกครองของคณะสงฆ์ ไม่ขอขึ้นอยู่กับครูบาศรีวิชัย เมื่อถามครูบาเจ้า ตอบว่า ไม่ทราบเรื่องไม่ได้บังคับให้ลาออก เจ้าอาวาสเหล่านั้นลาออกเอง เมื่อเรื่องราวเริ่มวุ่นวาย ครูบาเจ้าศรีวิชัยถูกนิมนต์ไปสอบสวนที่กรุงเทพฯอีกครั้งหนึ่ง
    ในระหว่สงที่ถูกสอบสวนที่เชียงใหม่ มีพระเณร ถูกจับสึกมากมาย แต่ความศรัทธาเลือมใสในครูบาเจ้าศรีวิชัยหาน้อยไปหม่ การสอบสวนเป็นไปตามขั้นตอนใช้เวลา 6 เดือน 17 วัน เมื่อพิจารณาเป็นที่พอใจแล้ว พระครูบาศรีวิชัยพ้นข้อกล่าวหาและอนุญาตให้กลับภูมิลำเนาได้ หลังจากการพิจารณาคดีเสณ็จ คุณหลางศรีประกาศไปเยี่ยมท่านที่กรุงเทพฯ ขอนิมนต์ไปช่วยบูรณะก่อสร้างสิ่งที่ยังไม่เสร็จที่เชียงใหม่ ท่านครูบาเจ้าได้ปฏิเสธและกล่าวอมตะวาจาว่า "ตราบใดที่นำแม่ปิงไม่ไหลล่องขึ้นเหนือจะไม่ขอเหยียบย่างแผ่นดินเมืองเชียงใหม่อีก" ท่านครูบาเจ้าได้กลับมาลำพูนและบูรณะก่อสร้างพระวิหารวัดบ้านปาง แต่ยังไม่ทันเสร็จได้ไปก่อสร้างวัดจามเทวี อ.เมือง จ.ลำพูนจนเสร็จ
    ครูบาเจ้าเกิดอาพาธด้วยโรคริดสีดวงทวาร ได้รักษาตัวที่วัดจามเทวีระยะหนึ่ง แล้วกลับไปรักษษตัวที่วัดบ้านปางต่อ อาการของครูบาเจ้าหนักมา พร้อมทั้งยังมีโรคปอดเข้าแทรก อาการจึงทรุดหนักลงอย่างรวดเร็ว พระครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ดับขันธ์ด้วยอาการอันสงบในเวลาเที่ยวคืน 5 นาที ตรงกับวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 สิริรวมอายุ 61 ปี
    คณะศิษย์ได้อาราธราพระศพของครูบาเจ้า ขึ้นสู่ปราสาม 5 ยอดตั้งบำเพ็ญกุศลเก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านปาง 2 ปี จึงได้อัญเชิญพระศพของครูบาเจ้าศรีวิชัยมาตึ้งบำเพ็ญกุศลที่วัดจามเทวี เป็นเวลา นานถึง 7 ปี จึงมีกำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489
    พระครูบาศรีวิชัย ได้ชื่อว่าเนนักบุญแห่งลานนาไทยที่ยิ่งใหญ่ มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพสักการะทั่วประเทศ ท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งครัดมีความมักน้อยสันโดษถือความวิเวกสงวัด ท่านได้ออกธุดงค์ไปในที่ต่างๆ เป็นพระนักพัฒนา ก่อสร้างบูรณะวัดวาอาราม โบราณสถานที่ต่างๆ ท่านครูบาเจ้าบำเพ็ญปารมี แม้จะถูกกลั่นแกล้ง กล่าวโทษอยู่หลายครั้ง ท่านก็ไม่หวั่นไหว ตั้วใจบำเพ็ญบุญกุศลโดยไม่ย่อท้อ ความตั้งใจของท่านเพื่อปรารถนาพุทธภูมิเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้วางแนวทางการปฏิบัติเอาไว้ให้บรรดาพระภิกษุ สามเณร ที่เป็นศิษย์ทั้งหลายได้ดำเนินรอยตามด้วย การที่พระครูบาศรีวิชัยได้กระทำคุณงามความดี เพื่อพุทธศาสนาและส่วนรวมมาตลอดชีวิต ท่านครูบาเจ้าจึงเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วประเทศ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ที่มา: หนังสือที่ระลึกในงานไหว้ครูบูรพาจารย์ (เสาร์ห้า) พระประกอบบุญ สิริญาโณ วัดมหาวัน จังหวัดลำพูน
     
  7. ปาทะครูบา

    ปาทะครูบา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +6
    ครูบาศรีวิชัย
    นักบุญแห่งล้านนาไทย
    พระมหาเถระผู้ยิ่งใหญ่ด้วยทานะ สิละ สัจจะ ขันติ
    ชาตะ ๑๑ มิถนายน ๒๔๒๑
    มรณะ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๑





    <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->"ต๋นข้าพระศรีวิชัยภิกขุ เกิดมาปิ๋เปิ๋กยี
    จุลศักราช ๑๒๔๐ ตั๋วพุทธศักราช ๒๔๒๐ ปรารถนาขอหื้อข้าฯ
    ได้ตรัสรู้ปัญญาสัพพัญญูโพธิญาณเจ้าจิ่มเตอะ"<!--colorc-->
    <!--/colorc-->​


    รูปที่แนบมาด้วย [​IMG]
     
  8. ปาทะครูบา

    ปาทะครูบา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +6
    thumb_n30[1].jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0182.jpg
      IMG_0182.jpg
      ขนาดไฟล์:
      237.2 KB
      เปิดดู:
      110
  9. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    พระครูญาณมงคล (พระครูบาเจ้าธรรมะปัญญา)

    วัดศรีเมืองยู้ ตำบลเวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน
    กำเนิด<O:p
    พระครูญาณมงคล (ครูบาธรรมปัญญา) อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีเมืองยู้ เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เกิดที่ จ.เชียงใหม่ เชื้อสายของท่านเป็นคนเขิน (ชนกลุ่มน้อยเผ่าหนึ่ง) ซึ่งชาวเขินได้อพยพมาจากเมืองเชียงรุ้ง มลฑลยูนาน เขตปกครองของประเทศจีน ปัจจุบันมาตั้งถิ่นฐานในเขตจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ต้นตระกูลของครูบาธรรมปัญญาได้ตั้งครอบครัวอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ (แถบชุมชนประตูหายยา)
    <O:pบรรพชา<O:p
    ท่านครูบาธรรมปัญญา เข้าบรรพชาและอุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่จำพรรษาที่วัดนันทาราม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ได้ศึกษาพระปริยัติ พระไตรปิฎก ภาษาบาลี บทสวดมนต์ต่าง ๆ จนแตกฉาน

    <O:pท่านครูบาธรรมปัญญา ได้ย้ายจากวัดนันทารามมาเป็นเจ้าอาวาส จำพรรษาอยู่ที่วัดศรีเมืองยู้ ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๙ (สันนิษฐานว่าท่านคงมีญาติพี่น้องอยู่ที่แห่งนี้ เพราะมีชุมชนชาวเขินอาศัยอยู่ในพื้นที่กลุ่มหนึ่ง) หลังจากที่ท่าน ครูบาธรรมปัญญา ได้รับหน้าที่เจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดศรีเมืองยู้ และสั่งสอนพระภิกษุ สามเณร จากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ท่านหนึ่งซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว ได้ ถ่ายทอดบอกไว้ว่า ท่านครูบาธรรมปัญญาทรงภูมิธรรมความรู้ในพระธรรมวินัย ท่านยังบำเพ็ญสมณะธรรม เจริญสมาธิภาวนาอยู่ทุกวันไม่เคยขาด มีสมณะจริยาวัตรอันสงบ ท่านครูบาสร้างศาลายาว (ศาลาจงกรม) ไว้สำหรับเดินจงกรม ซึ่งเป็นกิจวัตรข้อหนึ่งที่ท่านครูบาปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน จากการบำเพ็ญสมณะกิจเพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง บรรลุถึงความเป็นผู้หาอาสวะกิเลสมิได้แล้ว เป็นผู้มีความบริสุทธิ์ถึงที่สุด ครูบาธรรมปัญญาจึงได้รับความเคารพ เลื่อมใสจากชาวลำพูนและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก ได้รับแต่งตั้งจากเจ้าหลวงเมืองลำพูนให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดลำพูนองค์แรก และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูญาณมงคล ประมาณ พ.ศ.๒๔๕๐ – ๒๔๕๘ ในฐานะเป็นเจ้าคณะจังหวัดองค์แรกท่านได้ปกครองพระภิกษุสามเณรในจังหวัดลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์ ทำให้กิจการพระศาสนาเจริญก้าวหน้ามั่นคงไปตามลำดับ ท่านครูบาธรรมปัญญามีความยุติธรรม ยึดถือพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้เป็นที่ตั้ง จะเห็นได้ว่า ในสมัยที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ถูกกลั่นแกล้งจากคณะสงฆ์และคนบางกลุ่มของอำเภอลี้ ตั้งข้ออธิกรณ์กล่าวหาครูบาเจ้าศรีวิชัยในครั้งที่ ๑ และ ครั้งที่ ๒ ครูบาธรรมปัญญาในฐานะเจ้าคณะพิจารณาข้อกล่าวหาแล้วลงความเห็นว่าครูบาเจ้าศรีวิชัยไม่ได้กระทำความผิดทางด้านพระธรรมวินัยแต่อย่างใด และเล็งเห็นความตั้งใจที่แน่วแน่และการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาธรรมปัญญาจึงให้ครูบาเจ้าศรีวิชัยพ้นจากความผิดและข้อกล่าวหาถึง ๒ วาระ จะเห็นได้ว่า ท่านครูบาธรรมปัญญาและครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นพระที่มีความประพฤติ ในข้อวัตรปฏิปทาและการบำเพ็ญสมณะธรรมเหมือนกัน ท่านครูบาธรรมปัญญา จึงรู้และเข้าใจในพระครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นอย่างดี ส่วนกรณีการกล่าวหาตั้งอธิกรณ์ครั้งที่ ๓ ถึงครั้งที่ ๕ ใส่ร้ายให้แก่พระครูบาเจ้าศรีวิชัย เรื่องวุ่นวายเดือนร้อนทั้งหลายได้เกิดขึ้นหลังจาก ครูบาธรรมปัญญาท่านได้มรณภาพไปก่อนแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยของพระญาณมงคล (ฟู ขัดแก้ว) เจ้าคณะจังหวัด องค์ที่ ๒<O:p

    ท่านครูบาธรรมปัญญาอัจฉริยะภาพทางด้านความเป็นนักปราชญ์ โหราศาสตร์และวรรณศิลป์ ท่านได้แต่งหนังสือปีใหม่ อันว่าด้วยเรื่องการโคจรของดวงดาว วัน, เดือน,ปี คำนวณการเริ่มศักราชใหม่ การทำนาย ดินฟ้าอากาศ ธัญญาหาร และเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ทางด้านวรรณกรรม ท่านครูบาเจ้าได้แต่งค่าวฮ่ำ เกี่ยวกับหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาไว้หลายบท เช่น ค่าวฮ่ำสังขาร ซึ่งเกี่ยวกับการพรรณาถึงสังขารธรรมท่านครูบาแต่งได้ไพเราะและซาบซึ้งยิ่งนัก และยังมีค่าวฮ่ำอีกหลายบทที่ท่านได้แต่งไว้<O:p

    มรณภาพ <O:p

    ท่านครูบาธรรมปัญญา ได้มรณะภาพ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ ศิริรวมอายุได้ ๖๗ ปีท่านครูบาธรรมปัญญา เป็นพระมหาเถระที่ทำประโยชน์แก่พุทธศาสนาและคณะสงฆ์จังหวัดลำพูน ในครั้งอดีต ได้นำประวัติของท่านมากล่าวเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทราบถึงประวัติของท่านพอสังเขป ในฐานะพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบลอีกองค์หนึ่ง ซึงได้มรณะภาพไปนานถึง ๙๐ ปี แต่คุณความดีและผลงานของท่านได้ปรากฏให้เห็นถึงปัจจุบัน<O:p

    ค่าวฮ่ำสังขารแต่งโดย พระครูญาณมงคลอดีตเจ้าอาวาสวัดศรีเมืองยู้ เจ้าคณะจังหวัดลำพูน องค์ที่ ๑ อัตตะอัตตา ตนเรานี้นา หนาคืบหนึ่งสั้น ลวงสูงต่ำนั้น หามีพอวา ลวงกว้างนั้นนาศอกหนึ่งเป็นหมั้น ลวงสูงต่ำนั้น ตัวไผตัวมัน ตะโจมังสัง หนังห่อชิ้นไว้ ตับปอดและ ใส้ บ่มอยู่ภายใน เอ็นคาดเคียนไป เผียบเตียมต้นไม้ เครือเขาเกี้ยวไว้ ซุมซะซุมซาน มีน้ำเป็นยางเลือดลมแล่นขึ้น บ่เลิ๊กบ่ตื้น กู่เส้นเอ็นเรา เป็นตุ่มเป็นเป๋า เน่าหนองอยู่หั้น เป็นดีจ๊ะล้ำ เหม็นเน่าเต็มที อัฏฐิก็มี ดูกหลวงใหญ่น้อย เหมือนเอาเชือกร้อย กีมฮอกงัวควาย เตาะต่อหลวงหลาย คู้งอเหยียดไว้ วาโยจ่องไว้ คู้ไปคู้มา คู้แข้งเหยียดขา ย่างยืนเตียวได้ ในท้องปูมใส้ เต็มด้วยมลทิน ปากเคี้ยวขบกิน บ่อมีหว่างยั้ง ทั้งข้าวและน้ำ หมากเหมี้ยงปูยา มีแต่ตัณหา ใคร่กินใคร่ได้ เลี้ยงท้องปูมไส้ เป็นทุกข์พอมัน เมื่อปัญจะขันธ์ ยังอยู่ เที่ยงหมั้น เฒ่าแก่มานั้น รู้แผกผวนไป จักไปที่ไหน ได้กำไม้เท้า ชราคนเฒ่า หัวสั่นงอนงอน ผมก็ขาวผอน หนังก็เหี่ยวแห้ง ต๋งคางและแก้ม สวดว้ามวูมวาม มีรูปบ่งาม วรรณะผิวแห้ง อย่างเทียวก้มแง้น ดูกข้างหลังโคก สุดแต่ใค่หัว ก็เหมือนบี่ให้ ไผบ่ใคร่ไกล้ เขาว่าเหม็นคาว ผมดำแดงขาว ตามัวบ่แจ้ง หูก็หลึ่งแน่น ตีบติดตันไป เพื่อนปากฟู่ไกล+ บ่ยินบ่รู้ ไผบ่ใคร่อู้ หูเฒ่าบ่ยิน นั่งนอนอยู่กิน ปากจ๋านี่ได้ ลูกหลานฝูงใบ้ เขาก็ยังชัง คนเฒ่าปากหนำ บ่เยียะบ่อสร้าง มีแต่จ่มส้ามตังวันตังคืน สังมาดูยืน อายุคนเฒ่า ลูกหลาน หนุ่มเหน้า เขาว่าไปยาว คนเฒ่าสะหาว ตู๋ขี้คร้านเลี้ยง นั่งนอนอมเมี่ยง ดูดเบ้ายาควัน ลางคนก็ชัง ลางคนรักแท้ บ่เหมื้อนกันแล้ บุญไผบุญมัน องค์พระพุทธัง กล่าวไว้เป็นหมั้น การเป็นเยื่องนั้นกรรมหากพามา จิตตะวิญญาณ์ ดวงนี้เป็นเหง้า เป็นนายแต่เคล้า ขันธะทังมวลเถิงกาละควร อายุเสี้ยงหั้น มาเถิงปุ๋นอั้น บ่เป็นหยังมา ลูกหลานบุตต๋า นั่งนอนอยู่เฝ้า ถามปั๋นกินข้าว หัวสั่นงันงัน บ่อยากกินสัง ทังขบทังเคี้ยว ตาเหลือกปากเบี้ยว นอนกินน้ำยา บ่ถ้องถามหา งัวควายช้างม้า ทังผืนแผ่นผ้า เข้าของเงินคำใคร่ปากสักคำ ก็ยังบ่ได้ ยอแขนยกไว้ คู้ไปคู้มา อะโหทุกขา เป็นทุกข์แท้ไซร้ คำพระกล่าวไว้ ว่าสังขารา บ่ควรลาสา ประมาทแท้แท้ หมั่นกินหมั่นแก้ ไหว้นบคบยำ พระเจ้าพระธรรม ไว้เป็นที่จั้ง สังฆะเป็นหมั้น อย่าขาดสักวัน ไว้หื้อได้หันนิมิตภายหน้า ยามขันธ์ทั้งห้า มาดม้วยเมือมรณ์ หื้อได้เมือนอน ชั้นฟ้าอินทร์เนอ หื้อฟังคำสอนพระพุทธาเต๊อะ<O:p

    เป๋เป๋ป๋าป๋า ปุญญะกรรมา คนเราลุ่มฟ้า สหายกั่นกล้า มีไว้สองคน ทั้งเพิ้นทังต๋น เหมือนกั๋นชุผู้ คนใดกึดรู้ ค่อยอดบันเทา อย่าไปมัวเมา ต๋ามใจไคร่ได้ ไปแอ่วเซาะไซ้ ยังป๋าปะธรรม เซาะหาบาปกรรม ชุวันใจ้ใจ้ เลี้ยงท้องเลี้ยงไส้ คาบข้าวแลงงาย จักพาตัววาย สิบหายพายหน้า บ่ควรเซาะฆ่า สัตว์น้ำในดง ฝูงสัตว์และคน เหมือนกันนี้แล กลัวตายแท้แท้ ชีวิตไผมัน พาหมองหม่นเส้า ฟังธรรมพระเจ้า เทศน์เทศนา ได้ยังผะหญา ดวงคารส้อยร้อย หวานยิ่งกว่าอ้อย คือรสสะธรรม สหายใจดำ มันบ่มาไกล้ เราผาบแพ้ได้ ปัญจะมารัง กถาพุทธัง ยังคุณ
    <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]พระเจ้า จักไหลเลื่อมเข้า</st1:personName> ปกห่มค้ำชู มีใจมุทู สัตว์ตัวใหญ่น้อย บุญพระยอดสร้อย เตื่อมค้ำปกงำ บ่มีใจดำ ใจขาวเพียงฝ้าย เปรียบเหมือนไหมด้าย กลายเป็นไหมดำ ได้ละบาปกรรม ย้อนธรรมพระเจ้า ไหว้ทุกค่ำเช้า วิตักในทัย พิจารณาไป มันหากจักรู้ หมั่นฟู่หมั้นอู้ ผู้รู้คนดี หมั่นขัดหมั่นสี มักจักเลี่ยนเกลี้ยง พร้ามีดขึ้เหมี่ยง หมั่นฝนดีไป หื้อแปล๋งใจใส่ นบธรรมพระเจ้า ทังหนุ่มทังเฒ่า ใหญ่น้อยชายญิง ยามเมื่อท้วงติ๋ง ย่างเทียวไปได้ หื้อหมั่นไปไหว้ พระพุทธ์ธรรมา รักษาสิกขา ศีลแปดศีลห้า หื้อได้น้อมหน้า ไปสู่มรรคา วิสุทธิยา ทิฏฐีกังขา พ่ำเพงใจ้ใจ้ ภาวนาไว้ เป็นนิรันดร์เรือง เที่ยงจักรอดเมือง พระนิพพานแล ใคร่ถึงพระนิพพาน หื้อภาวนาเทอะ ฯลฯ<O:p


    จากหนังสือวันทามิภันเต แต่งโดย พระอาจารย์ประกอบบุญ
    <O:p> </O:p>
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2008
  10. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    คุณปาทะครูบามีหนังสือของท่านอาจารย์ด้วยหรือครับ พิมพ์ 4000 เล่ม ตอนนี้หมดแล้วครับ รวบรวมประวัติวงศ์ครูบาเจ้าสายเหนือหลายองค์
     
  11. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    [​IMG]


    เส้นเกศาต๋นบุญแห่งล้านนา "เส้นเกศาที่เป็นมงคลสูงสุดของล้านนา"<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เส้นเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัยถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มงคลสูงสุดของชาวล้านนาคนเฒ่า-คนโบราณ จะให้เคารพเส้นเกศาครูบาเจ้าอย่างมากเส้นเกศาครูบาเจ้าเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ได้อีกแล้ว และเป็นสิ่งมงคลสูงสุด จนมีคํานิยามว่า " เส้นเกศาครูบาเจ้ามีค่ามากกว่าทองคํา" คนเฒ่า-คนโบราณจะนําเส้นเกศาไปบรรจุที่กระบอกไม้ไผ่และปิดรักปิดทอง ใส่น้ำหอมเพื่อให้เป็นสิริมงคลต่อชีวิตและเป็นสิ่งที่เคารพสูงสุดของคนที่เก็บรักษาไว้ส้นเกศาครูบาเจ้าถือได้ว่าเป็นสิ่งที่หวงแหงของชาวล้านนาอย่างมากๆๆคนเฒ่า-คนโบราณ"จะนําเส้นเกศาไปบรรจุพระเกศาเพื่อเป็นสิริมงคลต่อผู้สวมใส่และต้องการเผยแพร่กิติศัพย์ครูบาเจ้าให้รู้จักขจัดขจรไปและเป็นตัวแทนครูบาเจ้า รวมถึงสังฆานุสติด้วย"วิธีการทําพระเส้นเกศาของคนเฒ่า-คนโบราณจะนําดอกไม้ขันธ์แก้วทั้ง3(ดอกไม้พระรัตนตรัย)ผงใบลานตําให้เป็นสมุกและก็นํารักผสมให้เหนี่ยวและก็ผสมเส้นเกศาบางคนก็จุมรักและปิดทองถือได้ว่าเป็นการเก็บเกศาวิธีหนึ่ง"ลักษณะเส้นเกศาครูบาเจ้าจะออกสีน้ำผึ้งหรือสีแดงเพราะด้วยอายุเส้นเกศาและท่านไม่ค่อยฉันท์อาหารเส้นเกศาจึงบางเส้นเกศาครูบาเจ้าจะสั้นเพราะพระล้านนาจะโกนผมสองครั้งต่อเดือน"เส้นเกศาครูบาเจ้าถือเป็นสิ่งเปรียบเสมือนตัวแทนครูบาเจ้าดังนั้นชาวล้านนาจึงให้ความเคารพสูงสุดและเป็นสิ่งที่รักและหวงแหงข้าพเจ้าเชื่อว่าชาวล้านนารักครูบาเจ้ายิ่งกว่าสิ่งใดข้าพเจ้าเคยถามวัยรุ่นคนหนึ่งที่ไม่สนใจพระ ข้าพเจ้าถามว่ารู้จักครูบาศรีวิชัยมั่ยเขาตอบว่า"รู้จักสิ""ครูบาเจ้าเนี่ยเปรียบเสมือนส่วนรวมทางจิตใจของชาวล้านนาน่ะและเป็นที่เคารพสูงสุดของชาวล้านนา "คําตอบนี่ทําให้ข้าพเจ้าเชื่อว่าครูบาเจ้าเปรียบเสมือนสายเลือดของชาวล้านนาและผู้วางรากฐานธรรมะให้แก่ชาวล้านนา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 กันยายน 2008
  12. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560
    พระที่มีการบรรจุเส้นเกศาครูบาเจ้าหาไม่ได้อีกแล้วน่ะครับ
     
  13. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,560


    รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัยเนื้อนะวะ เต็มสูตรบรรจุเกษาครูบาเจ้าศรีวิชัยอุดผงว่านมวลสารฝังตะกรุดเงิน
    สร้าง <O:p๒๙๙ องค์ บูชา ,๙๙๙ บาท

    ขอจององค์หนึ่งน่ะครับบบบบบบบบบบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 กันยายน 2008
  14. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    [​IMG]

    หลวงพ่อสิงห์กับพระอาจารย์บรวงสรวงงานไหว้ครูประจำปี

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประทานพระบรมสารีริกธาตุจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชฯ

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระอาจารย์เป็นเจ้าภาพปิดทองคำเปลว3000แผ่นร่างพระครูบาเจ้าอภิชัยขาวปีถวายเป็นอาจาริยบูชา
    <!-- / message --><!-- attachments --><!-- / message --><!-- attachments -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2008
  15. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    [​IMG]

    พ่ออุ้ยยวง ปัญญาวงศ์ ศิษย์ผู้ติดตามจัดภัตตาหารถวายครูบาเจ้าศรีวิชัยได้มอบพระเกศาของครูบาเจ้าศรีวิชัยให้พระอาจารย์ประกอบบุญและมอบสมบัติของพ่อตาคือพ่อหนานกันทะและของพ่ออุ้ยยวงเอง ที่สืบทอดรับมอบจากครูบาเจ้าศรีวิชัยให้พระอาจารย์ประกอบบุญทั้งหมด

    พ่อหนานกันทะเคยเป็นรองเจ้าอาวาสวัดบ้านปางสมัยครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นผู้สอนอักขระวิธีให้กับครูบาเจ้าอภิชัยขาวปีเมือครูบาเจ้าอภิชัยขาวปีเป็นสามเณรต่อมาได้ลาสิกขามาแต่งกับแม่ของครูบาเจ้าคำปัน ท่านทังหลายคิดดูว่าสายตรงขนาดไหน

    พ่ออุ้ยยวงมีความศรัทธามีความสนิดสนมในพระอาจารย์ประกอบบุญมาก

    พ่ออุ้ยยวงเสียชีวิตปีที่แล้ว อายุ 97 ปี
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  16. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    [​IMG]

    [​IMG]

    หล่อรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย-หลวงปู่ปานของพระอาจารย์ประกอบบุญ

    [​IMG]
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  17. chatchaiood

    chatchaiood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +26
    ไม่ทราบว่ามีภาพตัวอย่างของรูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ให้เช่าบูชาหรือปล่าวครับ
    อยากเห็นภาพตัวอย่างครับ
     
  18. โพธิมัณฑลัง

    โพธิมัณฑลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +23
    สั่งจอง
    รายการที่ ๑ รับมอบวัตถุมงคลรายการที่ ๖,๘-๑๑
    รายการที่ ๒ รับมอบวัตถุมงคลรายการที่ ๘-๑๑
    รายการที่ ๓ รับมอบวัตถุมงคลรายการที่ ๘-๑๑
    รายการที่ ๔ รับมอบวัตถุมงคลรายการที่ ๙-๑๑
    รายการที่ ๕ รับมอบวัตถุมงคลรายการที่ ๙-๑๑
    รายการที่ ๗ รับมอบวัตถุมงคลรายการที่ ๙-๑๑
     
  19. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    สาธุๆๆ เห็นตั้งแต่ยังเป็นเณร...เดี๋ยวนี่เป็นพระอาจารย์แล้วสาธุๆๆ ท่านเก่งตั้งแต่เป็นเณรแล้ว ทำบายศรีก็สวยด้วย..เมื่อก่อนอยู่กับตุ๊พ่อสิงห์ สาธุ (คงจะจำไม่ผิดนะ...เมื่อก่อนตอนเป็นเณรเรียกเณรอ๊อดๆ ถ้าจำผิดต้องกราบขอประทานโทษด้วย)
     

แชร์หน้านี้

Loading...